พระเยซู(ที่ขณะนี้คาดว่าพำนักอยู่บนสวรรค์)พา Angelica ไปเยี่ยมชมนรก เป็นสถานที่ที่มนุษย์คิดว่าไม่มีจริงหรือเป็นเรื่องขำ
แต่แค่เธอสัมผัสก็รู้สึกถึงความน่ากลัว และไม่อยากไป พระเยซูตรัสว่าจำเป็นต้องพาไป เพื่อเธอจะเป็นพยานแก่คนอีกมากมาย
ว่านรก มีจริง

ในนั้นเป็นขุมไฟ และมีจิตวิญญาณมากมายที่ถูกทรมานโดยมาร เธอเห็นคนในคุกที่มีเลข 666 ที่หน้าผาก และเธอได้รู้ว่า
คนนั้นเคยเป็นคริสเตียนที่เชื่อในพระคำ แต่ได้เดินออกห่างจากพระคำพระเจ้า ไปกินเหล้า ทอดทิ้งพระคำแม้เขาจะอ้างว่าเป็นคริสเตียน
แต่เขาปฏิเสธที่จะทำตามพระวจนะพระเจ้า

เธอยังได้เห็นอีกว่า คนที่ไม่ให้อภัยคนอื่นๆ ก็อยู่ในขุมนรกเช่นกัน เพราะความขมขื่น โกรธแค้น ไม่ให้อภัยพี่น้องก็อยู่ที่นั่นด้วย
จำเป็นที่เราต้องให้อภัยทุกๆคน ในขณะที่เรามีลมหายใจอยู่ กลับใจได้ทุกเวลา แต่ถ้าตายแล้วก็สายเกินไปที่จะกลับใจ

ในนรก ไม่เพียงแค่เจอแค่ไฟ แต่ทุกข์ระทมอย่างมากมาย Angelica ยังได้ เจอผู้หญิงที่ร้องเพลงตอนที่ยังมีชีวิตบนโลก
และมารทิ่มแทงหอกใส่เธอและเธอร้องขอ Angelica ให้ไปบอกคนในโลกว่า อย่าฟังเพลงของเธอเพราะเมื่อเพลงเปิด
เธอก็ถูกมารแทงหอกใส่เธอ และ Angelica ยังเห็นนักร้องอีกหลายคน ที่ถูกทรมานโดยมาร และได้ยินมารพูดว่า เต้นซะ
นี่แหละอาณาจักรของแก

Angelica เคยคิดว่า เธอเป็นคนที่สองจิตสองใจ คิดว่ายังไงก็ตามคนที่รับพระเยซูคงได้ขึ้นสวรรค์ทุกคน
แต่........เธอเห็น......ที่ 2 อยู่ในนรกด้วย เธองงมากว่าทำไมอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่เป็นคนเทศนาสั่งสอน แต่พระเยซูบอกว่า
เขาไม่ได้กลับใจ ไม่มีการล่วงประเวณี คนโลภ ไม่มีการโกหก จะได้รับแผ่นดินสวรรค์เป็นมรดก เขาอาจจะพูดอะไรก็ได้
แต่ไม่สอนความจริงเขาอาจจะรู้ความจริง แต่เห็นแก่เงินมากกว่า ไม่สอนแม้แต่ว่า นรกและสวรรค์เป็นจริง คนที่อยู่ในนรกนั้น
มีความรู้สึก สายเกินไปที่จะกลับใจ พระเยซูรักคนบาป แต่เกลียดบาป พระเยซูสำแดงให้เธอเห็นว่า ขณะที่เขามีชีวิตอยู่
ท่ามกลางคนมากมาย มีคนล่วงประเวณีในนั้นมากเพียงใด และเขาเองได้เงิน
มากเพียงใด พระเยซูจึงตรัสแก่ Angelica ว่า
ให้กลับไปบอกกับคนมากมาย ให้กลับใจ มาหาพระเยซู

พระเยซูสำแดงภาพในอดีต ตอนที่โป๊ปยังมีชีวิตให้ Angelica เห็นว่า คนมากมายที่มาฟังเทศน์ ก็นมัสการรูปเคารพ และเล่นชู้ และมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ยังไม่ได้แต่งงาน ซึ่งพระเยซูได้บอกไว้แล้วว่า คนประเภทนี้ไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า พระเยซูตรัสแก่เธออีกว่า สิ่งที่พระองค์สำแดงให้เห็นนั้น ก็เพื่อให้เธอกลับมาเป็นพยาน และให้คนกลับมาหาพระเยซู

พระเยซูสำแดงให้เธอเห็นอีกว่า มีคนมากมายกำลังเดินเข้าไปในนรก แล้วเธอถามว่า เป็นไปได้อย่างไร พระเยซูสำแดงให้เธอเห็นถึงอุโมงค์ที่คนเดินไป แบกภาระหนักไว้ที่หลัง คนเหล่านั้นเป็นคนที่ยังไม่รู้จักพระเยซู สิ่งที่พวกเขาแบก ก็คือความบาป พระเยซูบอกเธอให้กลับไปบอกคนเหล่านั้น ให้มาหาพระองค์ และพระองค์นำความบาปไป และต้อนรับพวกเขาเข้ากับพระองค์ เธอยังเห็นญาติของเธอด้วย ว่ากำลังเดินเข้าไปในนรก เธอต้องกลับไปบอกพวกเขา พระองค์ทรงเลือกเธอให้เป็นเหมือนคนยาม ที่ต้องเตือนสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่งั้นความผิดจะตกที่เธอ

เธอยังเห็นคนมีชื่อเสียงอีกมากมายที่เดิน เช่น ไมเคิล แจ็กสัน ได้ทำพันธสัญญากับมาร เพื่อเขาจะมีชื่อเสียงและมีแฟนเพลงมากมาย แต่ละท่าเต้นที่เขาทำ เธอเห็นมารเต้นและเป็นการดึงคนให้ถอยหลังแทนที่จะเดินไปข้างหน้า ในขณะที่คนร้องเพลงตาม เธอเห็นว่ามารได้ทรมานเขาในนรก ใครก็ตามที่ฟัง ร้องตาม หรือเป็นแฟนเพลงของไมเคิล แจ็คสัน นั่นเป็นกับดักของมาร ที่จะดึงเราลงไป เราต้องประกาศปฏิเสธเพลงเหล่านั้น พระเยซูต้องการจะปลดปล่อยให้เราเป็นไท เธอยังเห็นคนที่เชื่อพระเยซูแต่ยังตกนรก จึงถามพระองค์ว่า ทำไมล่ะ พระองค์ตอบว่า คนเหล่านั้นคือคนที่ละทิ้งทางของเรา และคือคนที่ดำเนินชีวิตแบบสองจิตสองใจ คนเหล่านั้นถูกมัดมือจนถึงเท้า แม้เขาใส่เสื้อผ้าขาว แต่เป็นรอยฉีกขาด เหม็นเน่า ยับยู่ยี่ และพระเยซูตรัสว่า ดูสิว่า คนของเราได้เดินออกห่างจากเราไป เราต้องการบอกเธอว่า เราจะไม่กลับมารับคนที่เป็นสภาพแบบนี้ แต่มารับคนที่บริสุทธิ์ พร้อม ปราศจากตำหนิ ไม่มีความสกปรกในชีวิต บอกพวกเขาให้หันกลับจากวิถีทางเก่า

เธอเห็นลุงๆของเธอ และคนอื่นๆที่เดินออกจากทางพระเจ้าไป ไปบอกพวกเขาว่า พระองค์พร้อมแล้วที่จะรับพวกเขาเหล่านั้น ให้ยอมจำนนต่อพระองค์ เพื่อที่พระองค์จะเอาภาระ (ความบาป) ที่พวกเขาแบกอยู่ออกไป และให้พวกเขาได้พัก พระเยซูทรงร้องไห้ และบอกกับเธอว่า ให้ไปบอกพวกลุงๆของเธอ ญาติๆของเธอว่า พวกเขากำลังดำเนินไปสู่นรก หลายคนจะไม่เชื่อเจ้า แต่เราเป็นพยานที่สัตย์ซื่อของเจ้า เราจะไม่ละทิ้งเจ้า แม้พวกเขาจะไม่เชื่อเจ้า แต่ก็บอกความจริงออกไป

พระเยซูทรงสำแดงให้เธอเห็นภาพคนมากมายเหมือนเม็ดทรายในทะเลต้องตกนรก และพระเยซูทรงร้องไห้ และตรัสว่า นี่แหละที่มนุษย์พินาศ และมีมากมายเพียงใด และพระองค์ทรงเสียพระทัย พระองค์ยังตรัสอีกว่า นี่คือที่ที่วิญญาณชั่วประชุมกันวางแผนที่จะทำกับมนุษยชาติ พระเยซูพาเธอไปเห็นโต๊ะไม้ และมีเก้าอี้ล้อมรอบที่มีวิญญาณชั่วหลากหลายชนิดอยู่ วางแผนจะทำลายศิษยาภิบาล ครอบครัว มิชชันนารี ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และคริสเตียนอื่นๆ วิญญาณชั่วหัวเราะและบอกว่า ให้เราทำลายมนุษย์และพามาที่นี่ พระเยซูตรัสว่า ไปบอกพวกเขาว่าพระเยซูอยู่กับพวกเขา ไม่ให้เปิดช่องให้กับมาร เพราะมันเป็นเหมือนสิงห์ที่คำรามรอบๆ จ้องจะกัดกินผู้ที่มันกัดกินได้ แต่พระวจนะบอกว่าพระเยซูผู้เดียวที่ทรงเป็นสิงห์แห่งยูดาห์ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ พระองค์ยังตรัสอีกว่า มารจ้องจะทำลายครอบครัวของศิษยาภิบาล เพราะศิษยาภิบาลเป็นผู้ดูแลฝูงแกะนับพันๆคน ให้เธอไปบอกศิษยาภิบาลให้เทศน์สอนความจริง อย่าเก็บงำไว้กับตัว

พระเยซูยังสำแดงให้เธอเห็นอีกว่า มีเด็กๆในที่นี้ด้วย (นรก) พระเยซูตรัสว่า เด็กๆต้องมาหาพระองค์ และบรรดาผู้ที่มาหาพระองค์ พระองค์จะไม่ทอดทิ้งเขาเลย พระองค์ให้เธอเห็นเด็กชายอายุ 8 ขวบหนึ่งคนทุกข์ทรมานในไฟ เด็กร้องขอความเมตตาให้พาเขาออกไปจากที่นี่ เธอเห็นมารอยู่รอบๆเด็กคนนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการ์ตูนต่างๆ เช่น มังกร เบนเท็น โปเกมอน และอื่นๆ เธอถามพระเยซูว่าทำไม และพระองค์แสดงให้เธอเห็นว่า ตอนที่เด็กคนนี้มีชีวิต ใช้ชีวิตดูแต่การ์ตูน สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่มารทำลายมนุษย์ เธอเห็นเด็กคนนี้ดื้อต่อพ่อแม่ ไม่เชื่อฟัง ขว้างของทิ้งและวิ่งหนีพ่อแม่ จนเจอรถชนทำให้เด็กเสียชีวิต นับจากนั้นเด็กก็มาอยู่ที่นี่ ทนทุกข์ทรมาน พระเยซูตรัสให้เธอไปบอกพ่อแม่ ว่าต้องสอนเด็กๆตามถ้อยคำของพระเจ้า พระวจนะเป็นจริง ให้ตีสอนเด็ก ไม่ใช่ทุกเวลา แต่เวลาที่เด็กไม่เชื่อฟัง พระองค์ยังตรัสอีกว่า มีเด็กมากมายที่อยู่ที่นี่ เพราะการ์ตูน เพราะมีการกบฏ แล้วทำไมต้องเป็นการ์ตูน เพราะมันเป็นวิญญาณชั่วที่แฝงอยู่ นำการกบฏ ดื้อดึง ไม่เชื่อฟัง ความขมขื่น มายังเด็กๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นำสิ่งดีมาให้เด็กเลย เมื่อเด็กดู ก็อยากจะทำตามในชีวิตจริง

แล้วทำไมเด็กๆอยู่ที่นี่เยอะจัง พระองค์ตรัสว่า เมื่อเด็กๆรู้ว่ามีนรก และสวรรค์ พวกเขามีสิทธิ์เลือก อาณาจักรสวรรค์มีเรื่องมากมายให้เล่ามากกว่าในนรกซะอีก และนี่เราจะสำแดงให้ดูว่า พระองค์เตรียมอะไรไว้ให้สำหรับคนของพระเยซู

พระองค์พาเธอไปยังอีกที่หนึ่ง เต็มไปแสงสว่าง ไม่มีความมืด การทุกข์ทรมานด้วยไฟ พระเยซูตรัสว่า พระองค์จะสำแดงพระสิริของพระองค์ และเรามาอยู่ที่อาณาจักรสวรรค์ ที่ประตู มีคนกล่าวว่ายินดีต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ พระเยซูตรัสว่า เข้าไปสิ เราเป็นประตู คนที่มาทางเรา เข้าไป จะพบทุ่งหญ้าเขียวสด และเธอเข้าไป เห็นทูตสวรรค์ถวายเกียรติพระสิริแด่พระเจ้า เธอเห็นโต๊ะใหญ่โตมาก มองไม่เห็นสุดปลาย และเห็นบัลลังก์ใหญ่ และย่อยมากมาย มีมงกุฏวางอยู่มากมาย พระเยซูตรัสว่านี่คือมงกุฏแห่งชีวิต นี่คือสิ่งที่พระเยซูเตรียมให้คนของพระองค์ มีอาหารมากมายบนโต๊ะ ทุกสิ่งพร้อมแล้วสำหรับการมาของคริสตจักรของพระองค์

พระองค์พาเธอไปอีกที่ เห็นคนที่มีชื่อเสียงมากมายที่มีชื่อในพระคัมภีร์ อยู่ในสวน พวกเขาไม่แก่ แต่หนุ่ม เธอเห็นคนหนุ่มคนหนึ่งเต้นรำและถวายพระสิริแด่พระเจ้า พระเยซูตรัสให้รู้ว่านั่นคือดาวิด เธอเห็นโยชูวา โมเสส และคนอื่นๆ รวมถึงนางมารี ผู้ให้กำเนิดพระเยซู พระองค์ต้องการให้เธอบอกกับผู้คนมากมายว่า นางมารีผู้นี้ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆกับการนมัสการเธอบนโลก ให้บอกคนที่กราบไหว้รูปเคารพว่า นรก สวรรค์มีจริง คนที่ปฏิบัติเช่นนั้นไม่มีส่วนในแผ่นดินสวรรค์ คนที่กลับใจจะได้เข้าสู่สวรรค์ มีเพียงนามเดียวที่สมควรรับคำบูชา คือพระเยซูคริสต์ ผู้เดียวที่ช่วยมนุษย์ ไม่ใช่นามอื่นใด พระองค์ย้ำถึง 3 ครั้ง

พระเจ้าต้องการให้มนุษย์เข้าแผ่นดินสวรรค์ รูปเคารพไม่ช่วยใดๆมนุษย์ พระองค์ประสงค์ให้เธอกลับไปบอกมนุษย์มากมายว่าให้กลับมาหาพระเจ้า พระองค์มีอีกสิ่งที่จะแสดงให้เธอเห็น คือเมืองที่เต็มไปด้วยทองคำ สิ่งที่เธอเห็นคือสถานที่ที่พระเยซูทรงเตรียมให้คนของพระองค์ เดินผ่านสะพานที่สร้างจากทองคำ ทุกอย่างสวยงามมาก เห็นทูตสวรรค์มากมายกำลังสร้างที่พัก บ้างก็สร้างรวดเร็ว บ้างก็ช้า บ้างก็หยุดสร้าง พระเยซูตอบว่า นี่คือสิ่งที่คนของเราบนโลกทำ ทูตสวรรค์ก็ทำตาม เมื่อลูกของเราหยุดประกาศข่าวประเสริฐ หยุดอดอาหาร หยุดประกาศ ละอายต่อข่าวประเสริฐ ให้เธอกลับไปบอกคนของพระองค์ ให้หันกลับจากทางเดิม

เธอได้ยินเสียงกลุ่มหนึ่งกำลังร้องเพลง เธอขอให้พระเยซูพาไป พระเยซูทรงร้องไห้แต่ไม่บอกเหตุผล และเราไปถึงที่นั่น พระเยซูชี้ให้เห็นว่า คนเหล่านั้นสรรเสริญ ร้องเพลงนมัสการเรา แต่เดี๋ยวนี้คนไม่ร้องต่อเราแล้ว เราจึงให้เจ้าไปบอกคนของเรา ร้องเพลงนมัสการ เพื่อพระองค์จะเสด็จมาหา พระองค์กำลังจะเสด็จมาแล้ว กับคนที่เสาะแสวงหาพระองค์ ด้วยจิตวิญญาณและความจริง พระองค์ประสงค์ให้เธอกลับมาบนโลก แต่เธอไม่อยากกลับ แต่พระองค์ให้เหตุผลว่า ให้เธอเป็นพยานว่านรก และสวรรค์มีจริง

เธอเห็นบาดแผลที่เท้าของพระองค์ นั่นคือรอยแผลเป็นที่พระองค์ทรงยอมสละพระชนม์เพื่อเรา แล้วจะหายมั้ย พระองค์ตอบว่า หายแน่เมื่อคนทั้งหมดกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันที่นี่ ถึงเวลาที่เธอต้องกลับมาโลกแล้ว เพราะญาติๆ ครอบครัว และประเทศของเธอรออยู่

พระองค์สำแดงให้เธอเห็นอีกว่า พระองค์จะกลับมารับคนของพระองค์อย่างไร ในการรับคน (rupture) เธอเห็นคนนับพันๆหายตัวไป คนท้องก็พบว่าเด็กในท้องหายไป มีคนมากมายวิ่งร้องว่าเกิดได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น เธอเห็นคริสเตียนที่รู้จักพระเจ้าถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง (ไม่ถูกรับไป) และพูดกันว่าพระเยซูกำลังจะเสด็จมา rupture เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาอยากฆ่าตัวตายแต่ทำไม่ได้ พระเยซูตรัสว่า ณ เวลานั้น ความตายจะหนีไป พระวิญญาณไม่ได้สถิตอยู่ด้วยแล้ว เธอไม่เห็นใครสักคนเสียชีวิต และเธอเห็นรถติดมากมายพร้อมคนนับพันๆ วิ่งหนีไปมา ร้องว่า พระคริสต์มาแล้ว พระคริสต์มาแล้ว และคนจะร้องว่า พระองค์เจ้าข้า ขอทรงยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วย รับข้าพเจ้าไปด้วย และพระองค์ตรัสว่า สายไปแล้ว

พระองค์ตรัสว่า ตามพระคำที่เขียนไว้ใน 1 ธส 4:16-17

4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
4:17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่และเหลืออยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น เพื่อจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละเราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปกับพระเจ้า เฉพาะคนที่ทำตามพระทัยและบริสุทธิ์ ที่จะได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ ไม่มีผู้ใดรู้ แม้แต่สวรรค์ก็ไม่รู้วันเวลาที่พระองค์เสด็จมา พระองค์จะกลับมารับคนที่บริสุทธิ์ และนั่นคือทั้งหมดที่เธอเห็น และพระองค์ส่งเธอกลับมาบนโลก เธอไม่อยากกลับ แต่พระองค์ยืนยันว่า ครอบครัว ญาติๆ และประเทศรอเธออยู่ ให้เธอกลับมาเป็นพยาน พระองค์จะอยู่กับเธอ ไม่ทอดทิ้งเธอ

จาก http://board.palungjit.com/f8/%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A