คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
*** การใช้ DLNA อุปกรณ์ทั้งตัวเก็บข้อมูลและตัวแสดงผล ต้องอยู่วงเน็ตเดียวกันนะครับ ใช้เร้าเตอร์เน็ตคนละตัวไม่ได้ (ถ้าทีวีไม่มี WiFi ให้ต่อ LAN เข้ากับเร้าเตอร์ Wifi ที่ตัวมือถือเชื่อมอยู่) ***
ในเครื่องมีแอพแชร์ไฟล์ DLNA หรือเปล่าครับ เพราะบางยี่ห้อไม่มีให้
ถ้าหาไม่เจอ หรือไม่มีให้ ก็โหลดแอพ Skifta ครับ โปรแกรมฟรี
มันจะมีให้3กรอบ
กรอบ1-เลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นั่นก็คือมือถือเรานั่นเองครับ (คอมพิวเตอร์ก็ได้นะครับ)
กรอบ2-เลือกอุปกรณ์แสดงผล นั่นก็คือพวกเครื่องเสียงหรือทีวี
กรอบ3-เลือกไฟล์ ที่นี้ก็ไปเลือกไฟล์ที่จะเปิดครับ
พอเลือกไฟล์แล้ว ไฟล์ที่เราเปิดมันก็จะขึ้นที่ทีวีเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เพลง หรือวิดีโอ จะควบคุมบนมือถือหรือตัวทีวีก็ได้ เพราะโหมด DLNA ในทีวีจะเสมือนกับโหมด USB ตัวเลือกเหมือนโหมดดูผ่าน USB เป๊ะเลย
** เตือนนิดนึง ทีวีแต่ละรุ่นโหมด DLNA รองรับไฟล์ไม่เหมือนกัน ตัวมือถือไม่ได้ประมวลผลภาพให้แต่ส่งข้อมูลของไฟล์ให้ทีวีประมวลผลแทน ซึ่งถ้าทีวีไม่รองรับไม่ก็จะเปิดไม่ได้ **
ในเครื่องมีแอพแชร์ไฟล์ DLNA หรือเปล่าครับ เพราะบางยี่ห้อไม่มีให้
ถ้าหาไม่เจอ หรือไม่มีให้ ก็โหลดแอพ Skifta ครับ โปรแกรมฟรี
มันจะมีให้3กรอบ
กรอบ1-เลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นั่นก็คือมือถือเรานั่นเองครับ (คอมพิวเตอร์ก็ได้นะครับ)
กรอบ2-เลือกอุปกรณ์แสดงผล นั่นก็คือพวกเครื่องเสียงหรือทีวี
กรอบ3-เลือกไฟล์ ที่นี้ก็ไปเลือกไฟล์ที่จะเปิดครับ
พอเลือกไฟล์แล้ว ไฟล์ที่เราเปิดมันก็จะขึ้นที่ทีวีเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เพลง หรือวิดีโอ จะควบคุมบนมือถือหรือตัวทีวีก็ได้ เพราะโหมด DLNA ในทีวีจะเสมือนกับโหมด USB ตัวเลือกเหมือนโหมดดูผ่าน USB เป๊ะเลย
** เตือนนิดนึง ทีวีแต่ละรุ่นโหมด DLNA รองรับไฟล์ไม่เหมือนกัน ตัวมือถือไม่ได้ประมวลผลภาพให้แต่ส่งข้อมูลของไฟล์ให้ทีวีประมวลผลแทน ซึ่งถ้าทีวีไม่รองรับไม่ก็จะเปิดไม่ได้ **
แสดงความคิดเห็น
DLNA ใน oppo find 5