Avenue of Stars
ผมเพิ่งไปฮ่องกงมาเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว ตามคำชวนของเพื่อนนักเขียนชาวไต้หวันคนหนึ่ง เขามีภารกิจที่นั่น ส่วนผมก็ไปแชร์ค่าห้อง นอกจากอาจได้ทำความรู้จักกับผู้คนในแวดวงเดียวกันแล้ว ก็คือทำความรู้จักกับเมืองท่าที่เคยมาครั้งแรกตอน 10 ขวบและอีกครั้งเมื่อสามปีก่อนเรื่องงานแบบที่แม้มาก็เหมือนไม่มา
กางแผนที่ดูคร่าวๆ ความรู้ที่ได้มาคือ "จตุรเทพแห่งฮ่องกง" ได้แก่ มงก๊ก (旺角) จิมซาจุ่ย (尖沙嘴) จงหวนหรือ Central (中環) และถงหลัววานหรือ Causeway Bay (銅鑼灣) และถ้าไม่ไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ไม่ขึ้นรถกระเช้า Ngong Ping ก็เหลือวัดหวงต้าเซียน (黃大仙祠) จุดชมวิวยอดเขา The Peak (太平山頂) ห้างสรรพสินค้า Harbour City (海港城) อันใหญ่โตมโหฬาร และสถานที่ยอดนิยมอย่าง Avenue of Stars (星光大道)
วันแรกของการฉายเดี่ยว ผมโฉบไปที่นี่ก่อนเลย ถนนแห่งดวงดาว นอกจากรูปปั้นบรู๊ซลียอดฮิตและรอยฝ่ามือของเหล่าดาวเด่นแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกงที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปดูมันทำไม หมายใจเพียงว่าจะเช็คอินซะหน่อย ว่าเคยมาแล้วนะ ก็คงพอ
ผมลงรถที่ MTR (ที่นั่นเรียกรถไฟฟ้าใต้ดินแบบนี้) สถานีจิมซาจุ่ยแล้วเดินตามป้ายมาจนถึงสถานที่ในตำนานแห่งนี้ อ๋อ มันมีหน้าตาอย่างนี้นี่เอง อยู่ฝั่งเกาลูน สร้างขึ้นเลียบอ่าว มองจากฝั่งนี้ไปเห็นตึกสูงอร่ามของเกาะฮ่องกง บนพื้นตลอดทางคือพื้นปูกระเบื้องสลับกับกรอบปูนรูปดาว ที่มีชื่อของดารายอดนิยมทั้งชาวจีนและชาวฮ่องกงคละยุคคละสมัยปูไว้เป็นหย่อมๆ บ้างมีรอยมือประทับบ้างไม่มี กับรูปปั้นที่เกี่ยวข้องกับแวดวงภาพยนตร์และร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ สุดทางจึงเป็นรูปปั้นบรู๊ซลี พร้อมกับทัวร์จีนอีกหนึ่งโขยง
อืมๆๆ เดินตากแดด ตากลม ถ่ายรูปๆๆ
แต่มุมมองของผมพลันเปลี่ยนไป เพราะหญิงสาวคนหนึ่ง
ขณะเดินตากแดดตากลมถ่ายรูปชิลล์ๆ ตามประสาคนนอกวงการที่รู้จักดาราฮ่องกงไม่มากไปกว่าเฉินหลง หงจินเป่าและโจวซิงฉือ ผมก็เหลือบเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังก้มตัว ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดกรอบโลหะกรอบหนึ่งบนพื้น ก็รู้สึกเอะใจ จึงเดินเข้าไปดู อ้อ กรอบของเลสลี่ จาง (Leslie 張國榮)
ผมรู้โดยสัญชาตญาณว่า เธอเป็นแฟนคลับแน่นอน ทำให้ผมอยากดูว่า เธอจะทำอะไรต่อไป
เมื่อเช็ดเสร็จพอประมาณ เธอกลับไปนั่งม้านั่งใกล้ๆ ผมเห็นเธอนั่งลงแทรกกลางระหว่างคนสองคน ก็เดาได้ว่าพวกเขามาด้วยกัน สักพักคนที่ดูเหมือนเป็นแม่ลุกออกไป คนที่ดูสูงวัยที่ม้านั่งอีกตัวก็ย้ายมานั่งแทน ผมจึงร้องอ้อ มากันทั้งบ้านเลยแฮะ ขณะที่เธอกำลังหยิบโปสการ์ดขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ ผมก็เดินต่อไปจนสุดถนน ชักภาพบรู๊ซลีกับทัวร์จีนตลกๆ พอจะโพสต์ลงอินสตาแกรมเรียกไลค์ได้ แล้วย้อนกลับมา
เมื่อเดินย้อนกลับมา พบว่าเธอยังเขียนโปสการ์ดไม่เสร็จ จึงตัดสินใจนั่งพักตรงม้านั่งข้างๆ ใจหนึ่งก็เพื่อสังเกตการณ์ว่าเธอกำลังทำอะไร พลางแอบชักภาพอยู่ไกลๆ
จนกระทั่งเขียนเสร็จ เธอก็ลุกเอาไปวางคว่ำไว้บนกรอบปูน แล้วยืนสงบนิ่งครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินไปพิงราวอยู่ข้างๆ เหมือนกำลังรอให้ไอดอลของเธออ่านข้อความจนจบ จึงเดินจากไปเพื่อสมทบกับครอบครัว ที่ไปคอยอยู่ตรงหัวถนนก่อนแล้ว
ผมลุกไปถ่ายรูป ใจหนึ่งก็อยากจะหยิบมาพลิกดูหน่อยว่าเธอเขียนอะไร แต่พลันนึกได้ว่า "แอบอ่าน" จดหมายของ "คนอื่น" ดูจะไม่เหมาะ นี่เป็นเรื่องระหว่างเธอกับเขา อย่ากระนั้นเลย จงเก็บไว้เป็นความลับของเขาทั้งสองเช่นนี้จะดีกว่า หลังจากชักภาพพอใจแล้ว ผมจึงจากมา
จากการฟังสำเนียงของครอบครัวนี้ ผมทราบว่าพวกเขาไม่ใช่คนฮ่องกง น่าจะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่ต้นจนจบ หญิงสาวไม่พูดอะไรเลย (ยกเว้นมีบอกกับคนที่เดินมาเหยียบกรอบไอดอลของเธอขณะที่เธอกำลังเช็ดอย่างเบามือ ว่าอย่าเหยียบได้ไหม) พ่อแม่พี่น้องของเธอ ก็เพียงนั่งคอยอยู่ห่างๆ เสมือนไม่ต้องการรบกวนเวลาส่วนตัวระหว่างลูกสาวกับไอดอลของเธอ ผมคิดเองด้วยซ้ำว่า ทริปฮ่องกงของครอบครัวนี้ อาจเกิดจากลูกสาวคนนี้ รบเร้าขอมาคารวะ "ชื่อ" บนกรอบปูนนี้ล้วนๆ ด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้จักเลสลี่ จาง จนกระทั่งทราบข่าวว่าเขาฆ่าตัวตาย ผมรู้เพียงเพื่อนๆ รอบตัวหลายคนนัก ที่รักและเชิดชูนักแสดงชายผู้นี้มาก แต่เพิ่งเห็นความ "ยิ่งใหญ่" ของเขาก็คราวนี้
ไม่รู้ว่าเลสลี่ จาง จะรับรู้ไหม แม้เขาจะจากไปแล้ว ก็ยังมีคนที่รักเขามากมายขนาดนี้ ขณะเดียวกัน ถนนดารา "Avenue of Stars" ก็มีคุณค่ามากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยวในกระแส ที่ให้ใครๆ เห่อแห่กันมาทาบมือกับรอยปูนดารา โพสต์ท่ากังฟูคู่บรู๊ซลี หรือเช็คอินประดับบารมีว่าข้ามาแล้ว แต่ที่นี่ยังมีคุณค่าทางใจสำหรับใครอีกหลายคน
เมื่อคุณรักใครอย่างจริงใจ มันยังทำให้คนรอบข้างคุณ รู้สึกดีไปกับคนที่คุณรักด้วย
ขอมอบบทความนี้ ให้กับความรักบริสุทธิ์ของน้องเสื้อขาว และเป็นเกียรติให้กับเขา ดาราผู้เป็นมากกว่าดารา เลสลี่ จาง
Avenue of Stars เลสลี่ จาง
ผมเพิ่งไปฮ่องกงมาเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว ตามคำชวนของเพื่อนนักเขียนชาวไต้หวันคนหนึ่ง เขามีภารกิจที่นั่น ส่วนผมก็ไปแชร์ค่าห้อง นอกจากอาจได้ทำความรู้จักกับผู้คนในแวดวงเดียวกันแล้ว ก็คือทำความรู้จักกับเมืองท่าที่เคยมาครั้งแรกตอน 10 ขวบและอีกครั้งเมื่อสามปีก่อนเรื่องงานแบบที่แม้มาก็เหมือนไม่มา
กางแผนที่ดูคร่าวๆ ความรู้ที่ได้มาคือ "จตุรเทพแห่งฮ่องกง" ได้แก่ มงก๊ก (旺角) จิมซาจุ่ย (尖沙嘴) จงหวนหรือ Central (中環) และถงหลัววานหรือ Causeway Bay (銅鑼灣) และถ้าไม่ไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ไม่ขึ้นรถกระเช้า Ngong Ping ก็เหลือวัดหวงต้าเซียน (黃大仙祠) จุดชมวิวยอดเขา The Peak (太平山頂) ห้างสรรพสินค้า Harbour City (海港城) อันใหญ่โตมโหฬาร และสถานที่ยอดนิยมอย่าง Avenue of Stars (星光大道)
วันแรกของการฉายเดี่ยว ผมโฉบไปที่นี่ก่อนเลย ถนนแห่งดวงดาว นอกจากรูปปั้นบรู๊ซลียอดฮิตและรอยฝ่ามือของเหล่าดาวเด่นแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกงที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปดูมันทำไม หมายใจเพียงว่าจะเช็คอินซะหน่อย ว่าเคยมาแล้วนะ ก็คงพอ
ผมลงรถที่ MTR (ที่นั่นเรียกรถไฟฟ้าใต้ดินแบบนี้) สถานีจิมซาจุ่ยแล้วเดินตามป้ายมาจนถึงสถานที่ในตำนานแห่งนี้ อ๋อ มันมีหน้าตาอย่างนี้นี่เอง อยู่ฝั่งเกาลูน สร้างขึ้นเลียบอ่าว มองจากฝั่งนี้ไปเห็นตึกสูงอร่ามของเกาะฮ่องกง บนพื้นตลอดทางคือพื้นปูกระเบื้องสลับกับกรอบปูนรูปดาว ที่มีชื่อของดารายอดนิยมทั้งชาวจีนและชาวฮ่องกงคละยุคคละสมัยปูไว้เป็นหย่อมๆ บ้างมีรอยมือประทับบ้างไม่มี กับรูปปั้นที่เกี่ยวข้องกับแวดวงภาพยนตร์และร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ สุดทางจึงเป็นรูปปั้นบรู๊ซลี พร้อมกับทัวร์จีนอีกหนึ่งโขยง
อืมๆๆ เดินตากแดด ตากลม ถ่ายรูปๆๆ
แต่มุมมองของผมพลันเปลี่ยนไป เพราะหญิงสาวคนหนึ่ง
ขณะเดินตากแดดตากลมถ่ายรูปชิลล์ๆ ตามประสาคนนอกวงการที่รู้จักดาราฮ่องกงไม่มากไปกว่าเฉินหลง หงจินเป่าและโจวซิงฉือ ผมก็เหลือบเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังก้มตัว ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดกรอบโลหะกรอบหนึ่งบนพื้น ก็รู้สึกเอะใจ จึงเดินเข้าไปดู อ้อ กรอบของเลสลี่ จาง (Leslie 張國榮)
ผมรู้โดยสัญชาตญาณว่า เธอเป็นแฟนคลับแน่นอน ทำให้ผมอยากดูว่า เธอจะทำอะไรต่อไป
เมื่อเช็ดเสร็จพอประมาณ เธอกลับไปนั่งม้านั่งใกล้ๆ ผมเห็นเธอนั่งลงแทรกกลางระหว่างคนสองคน ก็เดาได้ว่าพวกเขามาด้วยกัน สักพักคนที่ดูเหมือนเป็นแม่ลุกออกไป คนที่ดูสูงวัยที่ม้านั่งอีกตัวก็ย้ายมานั่งแทน ผมจึงร้องอ้อ มากันทั้งบ้านเลยแฮะ ขณะที่เธอกำลังหยิบโปสการ์ดขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ ผมก็เดินต่อไปจนสุดถนน ชักภาพบรู๊ซลีกับทัวร์จีนตลกๆ พอจะโพสต์ลงอินสตาแกรมเรียกไลค์ได้ แล้วย้อนกลับมา
เมื่อเดินย้อนกลับมา พบว่าเธอยังเขียนโปสการ์ดไม่เสร็จ จึงตัดสินใจนั่งพักตรงม้านั่งข้างๆ ใจหนึ่งก็เพื่อสังเกตการณ์ว่าเธอกำลังทำอะไร พลางแอบชักภาพอยู่ไกลๆ
จนกระทั่งเขียนเสร็จ เธอก็ลุกเอาไปวางคว่ำไว้บนกรอบปูน แล้วยืนสงบนิ่งครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินไปพิงราวอยู่ข้างๆ เหมือนกำลังรอให้ไอดอลของเธออ่านข้อความจนจบ จึงเดินจากไปเพื่อสมทบกับครอบครัว ที่ไปคอยอยู่ตรงหัวถนนก่อนแล้ว
ผมลุกไปถ่ายรูป ใจหนึ่งก็อยากจะหยิบมาพลิกดูหน่อยว่าเธอเขียนอะไร แต่พลันนึกได้ว่า "แอบอ่าน" จดหมายของ "คนอื่น" ดูจะไม่เหมาะ นี่เป็นเรื่องระหว่างเธอกับเขา อย่ากระนั้นเลย จงเก็บไว้เป็นความลับของเขาทั้งสองเช่นนี้จะดีกว่า หลังจากชักภาพพอใจแล้ว ผมจึงจากมา
จากการฟังสำเนียงของครอบครัวนี้ ผมทราบว่าพวกเขาไม่ใช่คนฮ่องกง น่าจะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่ต้นจนจบ หญิงสาวไม่พูดอะไรเลย (ยกเว้นมีบอกกับคนที่เดินมาเหยียบกรอบไอดอลของเธอขณะที่เธอกำลังเช็ดอย่างเบามือ ว่าอย่าเหยียบได้ไหม) พ่อแม่พี่น้องของเธอ ก็เพียงนั่งคอยอยู่ห่างๆ เสมือนไม่ต้องการรบกวนเวลาส่วนตัวระหว่างลูกสาวกับไอดอลของเธอ ผมคิดเองด้วยซ้ำว่า ทริปฮ่องกงของครอบครัวนี้ อาจเกิดจากลูกสาวคนนี้ รบเร้าขอมาคารวะ "ชื่อ" บนกรอบปูนนี้ล้วนๆ ด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้จักเลสลี่ จาง จนกระทั่งทราบข่าวว่าเขาฆ่าตัวตาย ผมรู้เพียงเพื่อนๆ รอบตัวหลายคนนัก ที่รักและเชิดชูนักแสดงชายผู้นี้มาก แต่เพิ่งเห็นความ "ยิ่งใหญ่" ของเขาก็คราวนี้
ไม่รู้ว่าเลสลี่ จาง จะรับรู้ไหม แม้เขาจะจากไปแล้ว ก็ยังมีคนที่รักเขามากมายขนาดนี้ ขณะเดียวกัน ถนนดารา "Avenue of Stars" ก็มีคุณค่ามากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยวในกระแส ที่ให้ใครๆ เห่อแห่กันมาทาบมือกับรอยปูนดารา โพสต์ท่ากังฟูคู่บรู๊ซลี หรือเช็คอินประดับบารมีว่าข้ามาแล้ว แต่ที่นี่ยังมีคุณค่าทางใจสำหรับใครอีกหลายคน
เมื่อคุณรักใครอย่างจริงใจ มันยังทำให้คนรอบข้างคุณ รู้สึกดีไปกับคนที่คุณรักด้วย
ขอมอบบทความนี้ ให้กับความรักบริสุทธิ์ของน้องเสื้อขาว และเป็นเกียรติให้กับเขา ดาราผู้เป็นมากกว่าดารา เลสลี่ จาง