คนบวชแล้วสึก ไม่รู้อะไร ไม่น่าจะให้บวชในพระศาสนา

กระทู้สนทนา
ข้อ ๔.๕๗  หีนายาวัตตนปัญหา
     พระยามิลินท์ตรัสถามพระนาคเสนว่า คนบวชแล้วสึก ไม่รู้อะไร ไม่น่าจะให้บวชในพระศาสนา ด้วยว่าจะทำให้คนทั้งหลายกล่าวหาได้ว่า พระศาสนาหาสาระมิได้

     พระนาคเสนทูลตอบว่า สระมีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม เมื่อผู้ที่เปื้อนเปรอะไปถึงสระนั้นแล้ว ไม่ลงอาบน้ำชำระร่างกายเองเช่นนี้ คนทั้งหลายเขาจะพึงติเตียนสระหรือจะติเตียนผู้นั้น

     พระยามิลินท์ : จะติเตียนสระนั้นได้หรือ ต้องเตียนผู้นั้นสิ

     พระนาคเสน : เหมือนกัน ผู้ที่ไปถึงสระคือพระสัทธรรมโดยอาการที่บวชในพระศาสนาแล้ว แต่มิได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ ขัดเกลานิสัยและความประพฤติที่โสมมให้สะอาดแล้วหวนสึกมาถือเพศเป็นฆราวาสประพฤติสิ่งที่ลามก เช่นนี้ คนทั้งหลายเขาก็พึงติเตียนผู้สกปรกเช่นเดียวกันนั้น จะไม่มีใครซึ่งเป็นผู้มีความคิดกล่าวหาพระศาสนาว่าหาประโยชน์มิได้ฉะนี้เลย เพราะพระศาสนาพระพุทธองค์ได้ทรงขุดสระคือพระสัทธรรมไว้แล้วด้วยมีพระพุทธประสงค์อยู่ว่า

ผู้เปื้อนมลทินคือกิเลสจะได้มีโอกาสชำระล้างกายวาจาใจให้สะอาดดีเสียอีก อันคนบวชแล้วเกียจคร้านต่อการศึกษาและการบำเพ็ญสัมมาปฏิบัติอยู่มิได้ก็ต้องสึกนั้น ย่อมแสดงให้คนทั้งหลายเห็นว่า พระศาสนาเป็นลัทธิที่สูงบริสุทธิ์ไม่แปดปนด้วยคนที่มีกายวาจาใจสกปรก อันคนที่คร้านต่อการเจริญสมณกิจ ย่อมระอาใจในการที่จะฝั่งตัวอยู่ในลัทธินี้ได้ เป็นอันว่าคนที่จะบวชอยู่ในพระศาสนาได้โดยเย็นใจ ต้องเป็นผู้มั่นคงหนักแน่น ชำระกายวาจาใจสะอาดอยู่เสมอ ต้องบำเพ็ญสัมมาปฏิปทาตามฐานานุรูปของตน เมื่อพระศาสนาเป็นลัทธิทรงคุณถึงเช่นนี้ ใครเล่าจะพึงติเตียนได้

     พระยามิลินท์ : พระคุณเจ้าว่ามานี้ชอบแล้ว

ที่มา http://www.sriprawat.net/41cw1.htm

ขออนุโมทนาสาธุครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่