(เพิ่งได้ดู) Headhunters (2011) : โปรดหัดไว้ใจ และให้อภัย "มอ.สระเอีย"


(ข้อเขียนนี้ เผยเนื้อเรื่องบางส่วน แต่ไม่เปิดเผยจุดสำคัญของหนัง)

ผลงานชิ้นเยี่ยมอีกเรื่องจากประเทศนอร์เวย์ที่ จขกท. อยากดูมานานมาก แต่หาดูไม่ได้เสียที ล่าสุดค่ายดีวีดีบ้านเราจับมาออกแผ่นเป็นที่เรียบร้อย จขกท. เลยได้ดูสมใจ นี่โฆษณาให้ไม่ได้รู้จักกับค่ายแต่อย่างใด แต่เพราะหนังมันดีและน่าดูจริงๆ

เขียนแบบไม่หาข้อมูลก็คือ ไม่แน่ใจว่า ณ ปัจจุบัน หนังเรื่องนี้ถูกฮอลลีวู้ดซื้อสิทธ์ไปหรือยัง เพราะระยะหลังเห็นฮอลลีวู้ดชอบมาเคลมหนังยุโรปไปทำใหม่อยู่เรื่อยๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็อยู่ในฐานะที่คู่ควรทุกประการ ที่ฮอลลีวู้ดจะหยิบไปเคลมใหม่เป็นฉบับของตัวเอง

เพราะโดดเด่นทั้งเรื่องราวในพล็อตหลักที่เป็นหนังแนวแอ็คชั่นทริลเลอร์ โดยมีพล็อตรองเป็นเรื่องของชีวิตคู่ขมวดแทรกเข้ามาอีกชั้น และก็โดดเด่นทั้งการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นจริงจัง ขณะเดียวกันก็มีความฮา ความกวน แบบขำก็ได้ไม่ขำก็ได้ ผสมอยู่ด้วยอย่างแนบเนียน รวมกันออกมาแล้ว Headhunters จึงเป็นหนังตื่นเต้น ที่มีอารมณ์ขัน และความซึ้ง เป็นเครื่องเคียงเล็กๆ คอยเพิ่มรสชาติได้อย่างกลอมกล่อม

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ต่อให้ฮอลลีวู้ดซื้อไปรีเมคก็น่าจะได้ไปแค่พล็อตเรื่องของหนังเท่านั้นแหละ เพราะนอกจากทั้งหมดที่ได้เขียนถึงไปในย่อหน้าที่แล้ว หนังมันยังมี "อารมณ์เฉพาะตัว" ที่เลียนแบบได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการปั้นแคเร็คเตอร์พระเอกในเรื่องที่ต้องถือว่าโดดเด่นสุดๆ และก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าถูกทำออกมาเป็นหนังฮอลลีวู้ดแล้วจะมีดาราหน้าไหนเล่นแล้วได้อารมณ์เหมือนที่พี่พระเอกในหนังต้นฉบับเรื่องนี้เล่นไว้ (ซึ่งอันที่จริงแล้วทั้งหมดของหนังก็สร้างมาจากนิยายอีกที)

พระเอกใน Headhunters ชื่อว่าโรเจอร์ บราวน์ เป็นคนหน้าตาไม่ดี ออกแนวเจ้าเล่ห์นิดๆ และมีปมด้อยเรื่องความเตี้ย แต่ดันมีเมียร่างสูงโปร่งเหมือนนางแบบ แถมยังเป็นเจ้าของแกเลอรี่แสดงงานศิลปะชื่อดัง เมื่อเป็นแบบนี้ จึงไม่แปลกที่พี่บราวน์แกจะหวงเมียสุดๆ หวาดระแวงอยู่เรื่อยว่าเมียตัวเองจะมีชู้ หรือ นอกใจไปหาหนุ่มคนอื่น แกก็เลยพยายามปรนเปรอเมียด้วยข้าวของราคาแพงต่างๆ นาๆ อย่างเต็มที่ เพื่อซื้อใจเมีย ขณะเดียวกัน ความกลัวว่าตัวเองเป็นคนโง่ถูกสวมเขา ก็ขับดันให้พี่บราวน์แกเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือ ชิงนอกใจเมีย ด้วยการหากิ๊กมาบะอึ้มเสียก่อนที่เมียจะนอกใจเขาซะเอง

ในเวลาปกติ บราวน์ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ผ่ายบุคคล แต่ที่ไม่มีใครรู้ (เมียก็ไม่รู้) ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังแล้วพี่แกเป็นนักโจรกรรมภาพวาด ซึ่งเงินที่เอามาปรนเปรอเมียก็มาจากงานลับๆ ที่ว่านี่แหละ วีธีการโจรกรรมของบราวน์ เป็นไปแบบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนหรือเหนือชั้นแบบจารชนอะไร หลักๆ แล้วก็คือให้ทีมงานอีกคนไปจัดหาภาพปลอมมา แล้วพี่แกจะลงมือตรวจสอบเหยื่อ ดูทางหนีทีไล่ ก่อนลักลอบเอาของปลอมเข้าไปเปลี่ยน แล้วเอาของจริงออกมา ซึ่งกว่าที่เจ้าของจะจับได้ว่าภาพถูกแอบเปลี่ยนไป ภาพต้นฉบับของจริงก็ถูกขายทอดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว และเป้าหมายส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานที่ไม่ยากจนเกินกำลัง

แต่ความวุ่นวายเริ่มตั้งเค้าขึ้น เมื่อมีนักธุรกิจคนหนึ่งมาติดต่อเมียของบราวน์ (ซึ่งเป็นเจ้าของแกเลอรี่) ให้ช่วยตีราคาภาพวาดเก่าแก่ของศิลปินชื่อก้องอย่าง รูเบนส์ เพื่อขายให้กับนักสะสม ซึ่งภาพวาดดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาล และเมื่อเรื่องนี้ไปเข้าหูของ บราวน์ แน่นอนว่าด้วยสัญชาติญาณของนักโจรกรรม เขาจึงแอบวางแผนฉกภาพวาดดังกล่าวก่อนที่มันจะถูกขาย

ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทุกประการ ถ้าในวันที่บราวน์แอบเข้าไปในบ้านของนักธุรกิจคนนั้นเพื่อลงมือสลับภาพ เขาไม่เกิดคิดถึงเมียขึ้นมากระทันหัน แล้วโทรศัพท์ไปหาเธอ จนทำให้พบว่าเมียเขาเล่นชู้กับเจ้าของภาพวาด เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ปลายสายดังขึ้นในห้องนอนของบ้านหลังที่เขากำลังเข้ามาขโมยภาพอยู่พอดี

แต่ความที่ บราวน์ เป็นมืออาชีพ จึงทำได้เพียงกลับไปพร้อมกับภาพ และหัวใจที่เจ็บปวด ถัดจากนั้นเรื่องไม่ชอบมาพากลต่างๆ เริ่มเผยโฉมมากขึ้นอีก เมื่อคู่หูที่เป็นเหมือนหุ้นส่วนในการโจรกรรมของบราวน์ ได้มาเสียชีวิตอยู่ในรถของเขา (ซึ่งรถจอดอยู่ในโรงรถที่บ้าน) และตามมาเรื่องราวอื่นๆ ที่ทำให้ชีวิตของบราวน์เตลิดเปิดเปิงไปเรื่อยๆ ในชั่วข้ามคืน ชนิดที่ไม่อาจไว้ใจใครได้อีกต่อไป แม้กระทั่งเมียคนสวยของเขาเอง

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า นักแสดงนำอย่าง แอ็คเซล เฮนนี่ ในบท โรเจอร์ บราวน์ เล่นเรื่องนี้ได้สุดยอด คาร์แร็คเตอร์เฉพาะตัวของพี่แกโดนสุดๆ ทั้งความเตี้ย ความไม่หล่อ และความอะไรต่อมิอะไร ที่ดูแล้วเป็นคนธรรมดา เป็นคนไม่เก่ง ไม่มีความเป็นพระเอกอยู่ในตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งความที่ไม่มีมาดอะไรเลยนี่แหละ พอมาอยู่ในสถานการณ์คับขันต่างๆ แล้วมันทำให้เราเชื่อ จนต้องตามลุ้นตามเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกันบุคลิคแหยๆ เห่ยๆ ยังไปได้ดีกับพฤติกรรมแบบไม่มีอะไรจะเสีย ทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดแบบในเรื่องอีกต่างหาก และหนังก็สามารถใช้จุดนี้เพื่อใส่มุกฮาๆ เข้าไปในหนังได้เป็นระยะๆ โดยเฉพาะฉากที่ดูแล้วลืมไม่ลงก็คือ ฉากที่ บราวน์ โดนไล่ล่าจนจวนตัว จนต้องกลั้นใจดำลงไปในบ่อเก็บอุนจิ โดยที่มีเพียงท่อไม้โผล่ขึ้นมาเพื่อใช้หายใจ หรือฉากที่ บราวน์ ทำปืนหล่นลงไปในเป้ากางเกงในระหว่างที่ต่อสู้กันชุลมุน จนต้องล้วงมือเข้าไปจับปืนเพื่อยิงทะลุออกมาจากเป้ากางเกงใส่ตัวร้ายที่เป็นผู้หญิง อะไรเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์แผลงๆ แปร่งๆ ที่ควบตะบึงคู่ไปกับเรื่องที่เดินหน้าไปอย่างชวนติดตาม

เนื่องจากตัวละครถูกเหตุการณ์ชักนำไปเรื่อยๆ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาตัวรอดแบบไม่มีแผนอะไรอยู่ในหัวมาก่อน และก็ไม่อาจจะคาดเดาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะนำตัวละคร (และคนดู) ไปสู่จุดไหน แต่ท้ายที่สุดนั้นหนังก็จบลงได้ค่อนข้างรัดกุม เคลียร์ทุกเรื่องที่ค้างคาได้น่าพอใจ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง บราวน์ กับ เมีย ตลอดจนเรื่องราวชุลมุนชุลเกที่พัวพันมาตั้งแต่ต้น และพลิกผันไป-มา หลอกล่อให้ได้ลุ้นจนแทบจะถึงซีนสุดท้ายของหนัง

แน่นอนว่าถ้าจะจับผิดบทหนังมันมีรูรั่วอยู่บ้างที่อุดไม่หมด (โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของกล้องวงจรปิด) แต่ความที่ Headhunters มันไม่ได้นำเสนอตัวเองในแนวทางของแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่ซีเรียสเสียทีเดียว เราจึงทำใจมองข้ามไปได้ โดยเฉพาะอารมณ์ขันนิ่งๆ ขรึมๆ แบบไม่ตั้งใจขำ จากบุคลิคพระเอกที่เป็นตัวละครกึ่งแอนตี้ฮีโร่ ช่างเป็นอะไรที่เพริดแพร้ว และมีเสน่ห์ในสายตาของคนดูหนังแบบ จขกท. จริงๆ

คะแนน : ★★★1/2 จ้า

PS. ใครยังไม่ดูห้ามพลาด หรือใครดูแล้วคิดเห็นว่าไงมาคุยกันจ้า
PS 2. ฝากแฟนเพจด้วย  https://www.facebook.com/pages/Filmgaze/377893542331264?ref=hl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่