โดยส่วนตัว เป็นคนชอบเเต่งกลอนมากเลย
เเละเมื่อครั้งนึง ได้ไป อบรมที่ "เเก่งกระจาน" ดันไปปิ้งชายคนนึง แต่เสียดายเขามีเเฟนเเล้ว
เลยเเอบเเต่งกลอนโทษตัวเองเหงาๆ ติชมได้นะ ขอบคุณค่ะ
แรกเริ่มรัก ชักจะกลัว มัวรู้สึก
ได้แค่นึก อยู่ห่างห่าง อย่างเฉยเฉย
รู้ตัวว่า ไม่มีค่าในสาย- ตาเธอเลย
เป็นเหมือนเคย ที่วันแรก ร่วมรั้วกัน
“แก่งกระจาน” สานหัวใจ ให้สู้ต่อ
ใจฉันขอ เธอหันหน้า มาหาฉัน
หากเป็นจริง คงจะสุข ในทุกวัน
อัศจรรย์ “วันอบรม” สมสุขใจ
อันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เพราะฉันปลื้ม
จนฉันลืม ตนไปว่า “ค่าอยู่ไหน”
จนฉันหลง ที่ที่มา “ว่าเป็นใคร”
จนฉันลอย “จิตใจ” ไปใกล้เธอ
เสียงปรบมือ เห่ร้อง ของเพื่อนพรรค
สมานรัก ความจำ นำเสนอ
ต่างโรงเรียน ต่างสถาบัน ฉันพบเจอ
แต่ทำไม? ต้องเป็น “เธอ” เมื่อผ่านมา
ฝากบันทึก ลึกลงไป ให้จำฝัง
ว่าวันหนึ่ง ฉันนั้นยัง ได้ตามหา
มาพบเธอ “ผู้เป็นยอด ดวงชีวา”
คิดไปไกล เกินคำว่า “ข้าเพื่อนกัน”
ถ่ายรูปกัน ดูเหมือน มิเลือนลบ
มิหยุดจบ ความสัมพันธ์ อันสุขสันต์
กลับจากค่าย ยังได้พบ ประสบกัน
คุยทุกวัน ผ่านเฟส สมเพชตน
ความรู้สึก เวลา และความเหงา
ทำใจเรา ตอบรับ ช่างสับสน
แต่ต้องหมอง นองน้ำตา นิจจาตน
เขามีคน คู่ครองเคียง เพียงได้มอง
อนึ่งแรก ถึงอย่างไร ใครก็ชั่ง
ใจฉันฝัง รักลงไป “ให้เป็นสอง”
ถึงจะเสี่ยง “เล่นของสูง” คงต้องลอง
แม้ฉันต้อง เสียใจ อย่างไรก็ตาม
แต่แล้วเมื่อ เวลา มาผ่านพ้น
ฝืนใจตน ทนอดกลั้น วันที่สาม
เธอก็เปลี่ยน เป็นอีกคน เหมือนบนบาน
หักสะพาน ความสัมพันธ์ ฉันรักเธอ
รู้ตัวว่า “ข้าต้องไป ไกลจากเอ็ง”
ฉันรีบเร่ง ลบเธอไป ไม่พร่ำเพ้อ
ต่อแต่นี้ เราทั้งสอง ไม่ต้องเจอ
หลีกทาง”เธอ กับเขา” “เราออกมา”
ขอทิ้งท้าย ความทรงจำ ที่ทำพลาด
“น่าอนาถ” หนอใจตน คนนี้หนา
“น่าหัวเราะ” “น่าสมเพช” “น่าเวทนา”
ขอจบคำ ร่ำลา “ขี้ข้าใจเธอ”
กลอนรักสดๆ จากความรู้สึกผู้เเต่ง
เเละเมื่อครั้งนึง ได้ไป อบรมที่ "เเก่งกระจาน" ดันไปปิ้งชายคนนึง แต่เสียดายเขามีเเฟนเเล้ว
เลยเเอบเเต่งกลอนโทษตัวเองเหงาๆ ติชมได้นะ ขอบคุณค่ะ
แรกเริ่มรัก ชักจะกลัว มัวรู้สึก
ได้แค่นึก อยู่ห่างห่าง อย่างเฉยเฉย
รู้ตัวว่า ไม่มีค่าในสาย- ตาเธอเลย
เป็นเหมือนเคย ที่วันแรก ร่วมรั้วกัน
“แก่งกระจาน” สานหัวใจ ให้สู้ต่อ
ใจฉันขอ เธอหันหน้า มาหาฉัน
หากเป็นจริง คงจะสุข ในทุกวัน
อัศจรรย์ “วันอบรม” สมสุขใจ
อันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เพราะฉันปลื้ม
จนฉันลืม ตนไปว่า “ค่าอยู่ไหน”
จนฉันหลง ที่ที่มา “ว่าเป็นใคร”
จนฉันลอย “จิตใจ” ไปใกล้เธอ
เสียงปรบมือ เห่ร้อง ของเพื่อนพรรค
สมานรัก ความจำ นำเสนอ
ต่างโรงเรียน ต่างสถาบัน ฉันพบเจอ
แต่ทำไม? ต้องเป็น “เธอ” เมื่อผ่านมา
ฝากบันทึก ลึกลงไป ให้จำฝัง
ว่าวันหนึ่ง ฉันนั้นยัง ได้ตามหา
มาพบเธอ “ผู้เป็นยอด ดวงชีวา”
คิดไปไกล เกินคำว่า “ข้าเพื่อนกัน”
ถ่ายรูปกัน ดูเหมือน มิเลือนลบ
มิหยุดจบ ความสัมพันธ์ อันสุขสันต์
กลับจากค่าย ยังได้พบ ประสบกัน
คุยทุกวัน ผ่านเฟส สมเพชตน
ความรู้สึก เวลา และความเหงา
ทำใจเรา ตอบรับ ช่างสับสน
แต่ต้องหมอง นองน้ำตา นิจจาตน
เขามีคน คู่ครองเคียง เพียงได้มอง
อนึ่งแรก ถึงอย่างไร ใครก็ชั่ง
ใจฉันฝัง รักลงไป “ให้เป็นสอง”
ถึงจะเสี่ยง “เล่นของสูง” คงต้องลอง
แม้ฉันต้อง เสียใจ อย่างไรก็ตาม
แต่แล้วเมื่อ เวลา มาผ่านพ้น
ฝืนใจตน ทนอดกลั้น วันที่สาม
เธอก็เปลี่ยน เป็นอีกคน เหมือนบนบาน
หักสะพาน ความสัมพันธ์ ฉันรักเธอ
รู้ตัวว่า “ข้าต้องไป ไกลจากเอ็ง”
ฉันรีบเร่ง ลบเธอไป ไม่พร่ำเพ้อ
ต่อแต่นี้ เราทั้งสอง ไม่ต้องเจอ
หลีกทาง”เธอ กับเขา” “เราออกมา”
ขอทิ้งท้าย ความทรงจำ ที่ทำพลาด
“น่าอนาถ” หนอใจตน คนนี้หนา
“น่าหัวเราะ” “น่าสมเพช” “น่าเวทนา”
ขอจบคำ ร่ำลา “ขี้ข้าใจเธอ”