สโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เตรียมจัดกิจกรรมลูกช้างขึ้นดอย 2556 “สืบฮีตขึ้นดอย โตยฮอยครูบา มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา สู่ 5 ทศวรรษ มช.” รวมพลังลูกช้างเชือกใหม่เดินจากมหาวิทยาลัยขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ รวมระยะทางกว่า 12 กิโลเมตร ในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2556
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ประเพณีลูกช้างขึ้นดอยนำน้องใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ” ถือเป็นประเพณีที่ดีงามที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใน พ.ศ.2507 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันประเพณีของชาว มช.นี้ ยังคงปฏิบัติสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ถือเป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ที่น่าภาคภูมิของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นประเพณีที่สร้างความประทับใจให้กับน้องใหม่ที่ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้แก่นักศึกษาน้องใหม่ นักศึกษารุ่นพี่ นักศึกษาเก่า และคณาจารย์ ตลอดจนเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้คงอยู่สืบไป
"บิลลี่" นายศสุทธจิตต์ นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี 2556 ได้กล่าวถึงรายละเอียดของประเพณีการนำน้องใหม่ไปมนัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพในปีนี้ ว่า ลูกช้างขึ้นดอย 2556 มีชื่อการจัดงาน “สืบฮีตขึ้นดอย โตยฮอยครูบา มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา สู่ 5 ทศวรรษ มช.” โดยคำว่า “ฮีต” ในภาษาพื้นเมืองทางเหนือ หมายถึง “จารีตประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
"การสืบฮีตขึ้นดอย จึงมีที่มาโดยรวมคือ การสืบสานประเพณีรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นวัฒนธรรมของชาว มช. เป็นฮีตที่รุ่นพี่รุ่นเก่าได้สร้างไว้ให้กับมหาวิทยาลัยและลูกช้างทุกคนได้ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ส่วนคำว่า “โตยฮอย” ในภาษาเมืองทางเหนือ หมายถึง “ตามรอย” การโตยฮอยครูบา จึงเป็นการตามรอย หรือ เจริญรอยตามเส้นทางที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาได้นำเหล่าพุทธศาสนิกชนล้านนา แผ้วถางทางเพื่อนำพระธาตุไปสถิตยังปลายยอดของดอยสุเทพ ดังนั้นการตามรอยเส้นทางแห่งการอัญเชิญพระธาตุขึ้นสู่ดอยสุเทพจึงเป็นเส้นทางมหามงคลที่นักศึกษาทุกคณะได้เจริญตามรอยในทุกๆ ปี"
นายกสโมสร มช.เอ่ยว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ประมาณ 6,400 คน ทั้งนักศึกษาปัจจุบันในชั้นปีอื่นๆ นักศึกษาเก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรมกว่า 15,000 คน
กำหนดการลูกช้างขึ้นดอย 2556 จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น. นักศึกษาจะพร้อมเพรียงกัน ณ จุดนัดหมายแต่ละคณะ แล้วมาตั้งขบวนบริเวณลานพิธีด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 05.45 น. ขบวนแห่เครื่องบวงสรวงครูบาศรีวิชัย ออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะผู้อัญเชิญ เวลา 06.09 น. เริ่มพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธาน จากนั้นเวลา 06.49 น. จะเป็นช่วงพิธีเปิด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นักศึกษาผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวรายงาน และอธิการบดีกล่าวให้โอวาทและเปิดงาน โดยจะลั่นฆ้อง 3 ครั้ง เพื่อเป็นการประกาศให้ดังกึกก้องว่า “สืบฮีตขึ้นดอย โตยฮอยครูบา มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา สู่ 5 ทศวรรษ มช.” ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ขบวนลูกช้างขึ้นดอยจะเริ่มออกเดินทางเวลา 07.15 น. ซึ่งจะมีการฟ้อนเปิดงาน โดยชมรมพื้นบ้านล้านนา สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมกับการแสดงชุดกลองสะบัดชัย ขบวนในปีนี้ จะประกอบด้วย ขบวนกังสดาล ช่อช้างตุงไชย นิมิตรหมายแห่งพิธีมงคล ขบวนผู้แทนนักศึกษาถือป้ายมหาวิทยาลัย ในเครื่องแต่งกายไทเขิน ขบวนคณะผู้บริหาร และสมาคมนักศึกษาเก่า ขบวนช้างฟ้อนพร้อมวงดนตรีมองเซิง ขบวนผู้แทนนักศึกษาจาก 20 คณะ 1 วิทยาลัย ถือภาชนะเครื่องเขิน เครื่องทำบุญสักการะพระธาตุ ขบวนเครื่องสักการะพระธาตุ ขบวนช้างเทินบุษบกอัญเชิญผ้าจีวรสำหรับถวายสักการะพระธาตุ ขบวนพ่อออกแม่ออก ศรัทธาครัวตาน และเสลี่ยงช้างแก้วอัญเชิญตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และต่อด้วยขบวนนักศึกษาทั้ง 20 คณะ 1 วิทยาลัย
ทั้งนี้ ลำดับของขบวนคณะต่างๆ ในปีนี้ จะมองถึงเรื่องการจราจรด้วย โดยจะนำคณะที่เดินเร็วไว้เป็นลำดับต้นๆ และคณะที่จะมีพิธีกรรมที่ต้องใช้เวลาไว้ในลำดับท้าย ๆ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะแพทยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะการสื่อสารมวลชน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะวิจิตรศิลป์ โดยทุกขบวนจะพร้อมใจเดินจากประตูหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะมีพระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วเดินออกสู่ถนนห้วยแก้ว ประกอบพิธีสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยบริเวณเชิงดอยสุเทพ แล้วจึงมุ่งหน้าเดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งผู้ร่วมขบวนต่างพร้อมใจสวมชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีอันงดงามของวัฒนธรรมล้านนา
สำหรับเรื่องการดูแลความปลอดภัยของน้องใหม่ระหว่างทางเดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นประเด็นที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญมาก โดยในปีนี้ทางสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และในส่วนของจังหวัดด้วย โดยได้จัดจุดสวัสดิการและจุดพยาบาลทั้งสิ้นรวม 10 จุด คอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของน้องใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักศึกษาได้พักดื่มน้ำ และปฐมพยาบาล โดยทุกจุดจะมีทีมแพทย์ พยาบาล นักศึกษาอาสาสมัครปฐมพยาบาลที่ผ่านการอบรมมาช่วยกันดูแลน้องใหม่ และรถพยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวม 11 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเทศบาล โรงพยาบาลค่ายกาวิละ โรงพยาบาลประสาท โรงพยาบาลเซ็นทรัลเมโมเรียล โรงพยาบาลช้างเผือก โรงพยาบาลลานนา โรงพยาบาลราชเวช โรงพยาบาลเทพปัญญา โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยมีโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นหัวหน้าทีมหลัก
ในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่ผ่านกิจกรรม"รับน้องขึ้นดอย" มาหลายต่อหลายปี บิลลี่ นายกสโมสร เปิดใจเล่าถึงบรรยากาศระหว่างการเดินจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่ยอดดอยว่า ตลอดเส้นทางกว่า 12 กิโลเมตร จะได้เห็นน้องๆ จับมือกันเดิน ในชุดพื้นเมืองที่ได้ออกแบบกันเอง ตามเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละคณะ สองข้างทางของน้องๆ จะมีพี่ๆ คอยเคียงข้าง คอยกันรถ ดูแลการจราจร อำนวยความสะดวกและคอยดูแลน้องๆ ตลอดเส้นทาง
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ณ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จะมีพิธีถวายทำบุญถวายผ้าป่าและเทียนพรรษา เวลาประมาณ 09.30 น. ซึ่งน้องๆ จะได้ทำบุญร่วมกัน โดยเงินบริจาคทั้งหมดจะมอบถวายแก่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ลูกช้างในกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่
นายกสโมสรนักศึกษา มช. ได้กล่าวเสริมถึงการรณรงค์รับน้องปลอดเหล้าว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ตระหนักถึงการปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นพิเศษ เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีงาม และเป็นเขตอุทยาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมืองดดื่ม และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ซึ่งจะมีการตรวจจับ และปรับตามกฎหมาย พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ สาธารณสุข และคณะกรรมการกำกับดูแลการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และความประพฤตินักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมดูแลอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือไปยังรุ่นพี่ศิษย์เก่าไม่นำเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาในกิจกรรมสำคัญของมหาวิทยาลัยครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวจะมีนักศึกษาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก อาจเกิดการจราจรติดขัด จึงขอความกรุณาผู้สัญจรโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปยังวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ด้วย
นายกสโมสรนักศึกษา มช. กล่าวทิ้งท้ายถึงลูกช้างขึ้นดอยว่า น้องๆ นักศึกษาใหม่ มช. จะได้โชว์สปิริตของแต่ละคณะ ได้แสดงพลังสามัคคีของเหล่าลูกช้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทุกๆ ปี จะเกิดภาพประทับใจในช่วงโค้งขุนกัณฑ์ ที่ทุกคนรู้จักกันดีใน “โค้งสปิริต” โดยทุกคณะจะมีการบูม ที่โค้งสุดท้ายนี้ลูกช้างทุกคนจะดึงเอาพลังฮึดสุดท้าย จับมือกัน โดยมีพี่ๆ คอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง พาน้องๆ วิ่งขึ้นไปให้ถึงจุดหมาย เพื่อสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ
ที่มา -
http://manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081431
---------
พอใกล้ถึงกิจกรรมนี้ทีไร คิดถึงสมัยตัวเองทุกที 12 ปีมาแล้ว แอร๊ยยยยยยย
เข้าใจว่าคณะแรกที่ขึ้นน่าจะเป็นคณะวิศวกรรมฯ เวลาขึ้นน่าจะประมาณ เกือบๆ 6 โมงเช้าค่ะ ส่วนคณะอื่นๆ จะทยอยขึ้นตามหลัง ออกจากมหาวิทยาลัยหมดน่าจะเกือบๆ 8โมง หลังจากนั้นๆ จะแวะพักทานข้าว และเดินกันต่อ จากนั้นเมื่อเดินถึงโค้งสปิริต หรือ โค้งขุนกัณฑ์ ก็จะพักต่อคิววิ่งขึ้นทีละคณะ จากนั้นก็จะเข้าสักการะพระธาตุดอยสุเทพ และมีกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป เวลาลงน่าจะประมาณ 4-5 โมงเย็นเป็นต้นไป น้องบางกลุ่มก็จะเดินลง บางกลุ่มนั่งรถลง
การจราจรรับรองว่าติดแน่นอนค่ะ ใครที่มีโปรแกรมจะขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพในวันพรุ่งนี้ ถ้ามีจิตแน่วแน่ที่จะไป ก็ขอให้ทำใจเรื่องการจราจรนิดไว้เลยค่ะ ส่วนใครคิดว่าคงจะไม่ไหว แนะนำให้ไปวันอื่นดีกว่าค่ะ เพราะมีผู้ไปร่วมงานเยอะจริงๆ ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่
ส่วนพี่ๆ น้องๆ ศิษย์เก่า และ ศิษย์ใหม่ ขอให้ทำตัวเป็นลูกช้างที่ดีด้วยนะคะ ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยค่ะ
จากลูกช้างเชือกเก่าที่ยังคิดถึงมหาวิทยาลัยของเราอยู่เสมอ
บอกตามตรงว่า ดูวีดีโอเหล่านี้ทีไร น้ำตาจะไหลทุกที
"เราเคยเป็นหนึ่งในนั้น" ^^
แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางดอยสุเทพ วัันพรุ่งนี้ มช. มีกิจกรรมลูกช้างขึ้นดอยค่ะ
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ประเพณีลูกช้างขึ้นดอยนำน้องใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ” ถือเป็นประเพณีที่ดีงามที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใน พ.ศ.2507 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันประเพณีของชาว มช.นี้ ยังคงปฏิบัติสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ถือเป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ที่น่าภาคภูมิของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นประเพณีที่สร้างความประทับใจให้กับน้องใหม่ที่ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้แก่นักศึกษาน้องใหม่ นักศึกษารุ่นพี่ นักศึกษาเก่า และคณาจารย์ ตลอดจนเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้คงอยู่สืบไป
"บิลลี่" นายศสุทธจิตต์ นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี 2556 ได้กล่าวถึงรายละเอียดของประเพณีการนำน้องใหม่ไปมนัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพในปีนี้ ว่า ลูกช้างขึ้นดอย 2556 มีชื่อการจัดงาน “สืบฮีตขึ้นดอย โตยฮอยครูบา มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา สู่ 5 ทศวรรษ มช.” โดยคำว่า “ฮีต” ในภาษาพื้นเมืองทางเหนือ หมายถึง “จารีตประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
"การสืบฮีตขึ้นดอย จึงมีที่มาโดยรวมคือ การสืบสานประเพณีรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นวัฒนธรรมของชาว มช. เป็นฮีตที่รุ่นพี่รุ่นเก่าได้สร้างไว้ให้กับมหาวิทยาลัยและลูกช้างทุกคนได้ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ส่วนคำว่า “โตยฮอย” ในภาษาเมืองทางเหนือ หมายถึง “ตามรอย” การโตยฮอยครูบา จึงเป็นการตามรอย หรือ เจริญรอยตามเส้นทางที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาได้นำเหล่าพุทธศาสนิกชนล้านนา แผ้วถางทางเพื่อนำพระธาตุไปสถิตยังปลายยอดของดอยสุเทพ ดังนั้นการตามรอยเส้นทางแห่งการอัญเชิญพระธาตุขึ้นสู่ดอยสุเทพจึงเป็นเส้นทางมหามงคลที่นักศึกษาทุกคณะได้เจริญตามรอยในทุกๆ ปี"
นายกสโมสร มช.เอ่ยว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ประมาณ 6,400 คน ทั้งนักศึกษาปัจจุบันในชั้นปีอื่นๆ นักศึกษาเก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรมกว่า 15,000 คน
กำหนดการลูกช้างขึ้นดอย 2556 จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น. นักศึกษาจะพร้อมเพรียงกัน ณ จุดนัดหมายแต่ละคณะ แล้วมาตั้งขบวนบริเวณลานพิธีด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 05.45 น. ขบวนแห่เครื่องบวงสรวงครูบาศรีวิชัย ออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะผู้อัญเชิญ เวลา 06.09 น. เริ่มพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธาน จากนั้นเวลา 06.49 น. จะเป็นช่วงพิธีเปิด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นักศึกษาผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวรายงาน และอธิการบดีกล่าวให้โอวาทและเปิดงาน โดยจะลั่นฆ้อง 3 ครั้ง เพื่อเป็นการประกาศให้ดังกึกก้องว่า “สืบฮีตขึ้นดอย โตยฮอยครูบา มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา สู่ 5 ทศวรรษ มช.” ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ขบวนลูกช้างขึ้นดอยจะเริ่มออกเดินทางเวลา 07.15 น. ซึ่งจะมีการฟ้อนเปิดงาน โดยชมรมพื้นบ้านล้านนา สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมกับการแสดงชุดกลองสะบัดชัย ขบวนในปีนี้ จะประกอบด้วย ขบวนกังสดาล ช่อช้างตุงไชย นิมิตรหมายแห่งพิธีมงคล ขบวนผู้แทนนักศึกษาถือป้ายมหาวิทยาลัย ในเครื่องแต่งกายไทเขิน ขบวนคณะผู้บริหาร และสมาคมนักศึกษาเก่า ขบวนช้างฟ้อนพร้อมวงดนตรีมองเซิง ขบวนผู้แทนนักศึกษาจาก 20 คณะ 1 วิทยาลัย ถือภาชนะเครื่องเขิน เครื่องทำบุญสักการะพระธาตุ ขบวนเครื่องสักการะพระธาตุ ขบวนช้างเทินบุษบกอัญเชิญผ้าจีวรสำหรับถวายสักการะพระธาตุ ขบวนพ่อออกแม่ออก ศรัทธาครัวตาน และเสลี่ยงช้างแก้วอัญเชิญตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และต่อด้วยขบวนนักศึกษาทั้ง 20 คณะ 1 วิทยาลัย
ทั้งนี้ ลำดับของขบวนคณะต่างๆ ในปีนี้ จะมองถึงเรื่องการจราจรด้วย โดยจะนำคณะที่เดินเร็วไว้เป็นลำดับต้นๆ และคณะที่จะมีพิธีกรรมที่ต้องใช้เวลาไว้ในลำดับท้าย ๆ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะแพทยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะการสื่อสารมวลชน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะวิจิตรศิลป์ โดยทุกขบวนจะพร้อมใจเดินจากประตูหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะมีพระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วเดินออกสู่ถนนห้วยแก้ว ประกอบพิธีสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยบริเวณเชิงดอยสุเทพ แล้วจึงมุ่งหน้าเดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งผู้ร่วมขบวนต่างพร้อมใจสวมชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีอันงดงามของวัฒนธรรมล้านนา
สำหรับเรื่องการดูแลความปลอดภัยของน้องใหม่ระหว่างทางเดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นประเด็นที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญมาก โดยในปีนี้ทางสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และในส่วนของจังหวัดด้วย โดยได้จัดจุดสวัสดิการและจุดพยาบาลทั้งสิ้นรวม 10 จุด คอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของน้องใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักศึกษาได้พักดื่มน้ำ และปฐมพยาบาล โดยทุกจุดจะมีทีมแพทย์ พยาบาล นักศึกษาอาสาสมัครปฐมพยาบาลที่ผ่านการอบรมมาช่วยกันดูแลน้องใหม่ และรถพยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวม 11 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเทศบาล โรงพยาบาลค่ายกาวิละ โรงพยาบาลประสาท โรงพยาบาลเซ็นทรัลเมโมเรียล โรงพยาบาลช้างเผือก โรงพยาบาลลานนา โรงพยาบาลราชเวช โรงพยาบาลเทพปัญญา โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยมีโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นหัวหน้าทีมหลัก
ในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่ผ่านกิจกรรม"รับน้องขึ้นดอย" มาหลายต่อหลายปี บิลลี่ นายกสโมสร เปิดใจเล่าถึงบรรยากาศระหว่างการเดินจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่ยอดดอยว่า ตลอดเส้นทางกว่า 12 กิโลเมตร จะได้เห็นน้องๆ จับมือกันเดิน ในชุดพื้นเมืองที่ได้ออกแบบกันเอง ตามเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละคณะ สองข้างทางของน้องๆ จะมีพี่ๆ คอยเคียงข้าง คอยกันรถ ดูแลการจราจร อำนวยความสะดวกและคอยดูแลน้องๆ ตลอดเส้นทาง
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ณ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จะมีพิธีถวายทำบุญถวายผ้าป่าและเทียนพรรษา เวลาประมาณ 09.30 น. ซึ่งน้องๆ จะได้ทำบุญร่วมกัน โดยเงินบริจาคทั้งหมดจะมอบถวายแก่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ลูกช้างในกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่
นายกสโมสรนักศึกษา มช. ได้กล่าวเสริมถึงการรณรงค์รับน้องปลอดเหล้าว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ตระหนักถึงการปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นพิเศษ เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีงาม และเป็นเขตอุทยาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมืองดดื่ม และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ซึ่งจะมีการตรวจจับ และปรับตามกฎหมาย พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ สาธารณสุข และคณะกรรมการกำกับดูแลการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และความประพฤตินักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมดูแลอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือไปยังรุ่นพี่ศิษย์เก่าไม่นำเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาในกิจกรรมสำคัญของมหาวิทยาลัยครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวจะมีนักศึกษาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก อาจเกิดการจราจรติดขัด จึงขอความกรุณาผู้สัญจรโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปยังวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ด้วย
นายกสโมสรนักศึกษา มช. กล่าวทิ้งท้ายถึงลูกช้างขึ้นดอยว่า น้องๆ นักศึกษาใหม่ มช. จะได้โชว์สปิริตของแต่ละคณะ ได้แสดงพลังสามัคคีของเหล่าลูกช้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทุกๆ ปี จะเกิดภาพประทับใจในช่วงโค้งขุนกัณฑ์ ที่ทุกคนรู้จักกันดีใน “โค้งสปิริต” โดยทุกคณะจะมีการบูม ที่โค้งสุดท้ายนี้ลูกช้างทุกคนจะดึงเอาพลังฮึดสุดท้าย จับมือกัน โดยมีพี่ๆ คอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง พาน้องๆ วิ่งขึ้นไปให้ถึงจุดหมาย เพื่อสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ
ที่มา - http://manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081431
---------
พอใกล้ถึงกิจกรรมนี้ทีไร คิดถึงสมัยตัวเองทุกที 12 ปีมาแล้ว แอร๊ยยยยยยย
เข้าใจว่าคณะแรกที่ขึ้นน่าจะเป็นคณะวิศวกรรมฯ เวลาขึ้นน่าจะประมาณ เกือบๆ 6 โมงเช้าค่ะ ส่วนคณะอื่นๆ จะทยอยขึ้นตามหลัง ออกจากมหาวิทยาลัยหมดน่าจะเกือบๆ 8โมง หลังจากนั้นๆ จะแวะพักทานข้าว และเดินกันต่อ จากนั้นเมื่อเดินถึงโค้งสปิริต หรือ โค้งขุนกัณฑ์ ก็จะพักต่อคิววิ่งขึ้นทีละคณะ จากนั้นก็จะเข้าสักการะพระธาตุดอยสุเทพ และมีกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป เวลาลงน่าจะประมาณ 4-5 โมงเย็นเป็นต้นไป น้องบางกลุ่มก็จะเดินลง บางกลุ่มนั่งรถลง
การจราจรรับรองว่าติดแน่นอนค่ะ ใครที่มีโปรแกรมจะขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพในวันพรุ่งนี้ ถ้ามีจิตแน่วแน่ที่จะไป ก็ขอให้ทำใจเรื่องการจราจรนิดไว้เลยค่ะ ส่วนใครคิดว่าคงจะไม่ไหว แนะนำให้ไปวันอื่นดีกว่าค่ะ เพราะมีผู้ไปร่วมงานเยอะจริงๆ ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่
ส่วนพี่ๆ น้องๆ ศิษย์เก่า และ ศิษย์ใหม่ ขอให้ทำตัวเป็นลูกช้างที่ดีด้วยนะคะ ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยค่ะ
จากลูกช้างเชือกเก่าที่ยังคิดถึงมหาวิทยาลัยของเราอยู่เสมอ
บอกตามตรงว่า ดูวีดีโอเหล่านี้ทีไร น้ำตาจะไหลทุกที
"เราเคยเป็นหนึ่งในนั้น" ^^