คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
จริงๆน่าจะแท็กห้องสมุดนะ เราว่าเป็นเรื่องของ ประวัติศาสตร์กับค่านิยมด้วย
การที่แทนสีขาวด้วยคุณงามความดี เราว่าเป็น เซนส์โดยรวมของมนุษย์ค่ะ ไม่ว่าชาติไหนพันธุ์ไหนก็ตาม
เพราะสีขาวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสะอาดตา ส่องสว่าง และด้วยความที่สีขาวเมื่อโดนอะไรเปรอะ จะเห็นได้ชัด เลอะง่าย เอาออกยาก
จึงเป็นสีที่เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ เราคิดว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าให้เลือกระหว่างอยู่ในที่สว่างตลอดไป กับ ที่มืดตลอดไป
คนส่วนมากย่อมเรื่องอยู่ในที่สว่าง เพราะมันมองเห็นอะไรชัดเจนกว่า อยู่ง่ายกว่า มนุษย์ไม่ใช่สัตว์หากินตอนกลางคืน
เราว่ามันอยู่ในสัญชาติญาณของมนุษย์ ที่อย่างอยู่ในที่สว่าง (ไม่นับแฟชั่น ดาร์ก โกธิก นั่นอีกเรื่อง)
สีโทนสว่าง ก็ต้องกลุ่ม ขาว ครีม สีอ่อนๆ ดังนั้น กลุ่มสีอ่อนจึงเป็นตัวแทนของฝั่งดีเสมอมา
เทพมักอยู่บนสวรรค์เพราะเราต้องเงยหน้าขึ้นมองที่สูง บนที่สูงมีท้องฟ้าสว่างไสว มีเมฆสว่างๆ มีพระอาทิตย์สว่างๆ
ตรงข้ามกับสีดำ = ความมืด มนุษย์อยู่ในความมืดแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัว มองเข้าไปในความดำมืดแล้วไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่
จึงเป็นตัวแทนของฝั่งร้ายมาเสมอ ตัวร้ายมักมาจากใต้ดิน นรกก็อยู่ใต้ดิน นรกหรือสวรรค์เป็นสิ่งสมมติของมนุษย์
แต่ทำไมสวรรค์ถึงอยู่ข้างบน เราคิดว่า เพราะมันสว่าง และเรารู้สึกดีเมื่อมองท้องฟ้า อย่างน้อยก็รู้สึกดีกว่ามองลงในไปหลุมลึก มืดมิด และไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้ เพราะงั้น ความมืด/ความลึก/ใต้ดิน/สีดำ เลยเป็นตัวแทนของฝั่งร้าย
และสีดำก็ยังเป็นสีที่ หากไปเลอะอะไรแล้วจะเอาออกยาก สีดำนี่ลงทับสีอะไรก็ได้ ขณะที่ถ้าเราเอาสีขาวไปทาทับสีดำ จะพบว่าต้องทาหลายรอบ
สีดำเลยมีความหมายในเชิงลบ (แต่ขณะเดียวกันก็มีความหมายทางศิลปะว่า "อมตะ" ด้วยนะคะ)
ที่บอกไปคือ สีในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่ามันก็มาจากสัญชาติญาณดั้งเดิมของมนุษย์นั่นแหละ
แต่สีในเชิงสัญลักษณ์ (ขาวแบบ neon white กับ ดำ แบบดำปิ๊ดปี๋) มันคนละอย่างกับ ขาวดำของสีผิวนะคะ
ด้านสีผิว เราคิดว่ามันแบ่งประมาณนี้นะ
1. ความเชื่อสมัยก่อนที่ว่าคนขาวเหนือกว่าคนดำ
ก็คือยุคล่าอาณานิคม ที่คนขาวขยายดินแดนตัวเอง เห็นคนชาติอื่นไม่เหมือนตัวเองก็ดูถูกว่าเป็นคนละพวก
เหตุการณ์แบบนี้ถ้ามองกลับกันว่า คนดำเป็นฝ่ายคิดเริ่มล่าอาณานิคมก่อน ก็จะรังเกียจคนขาวเหมือนกันแหละ เราว่า
อย่างในญี่ปุ่นตอนยังปิดประเทศ ถ้าเห็นฝรั่งนี่เขาก็รังเกียจ+คิดว่าแปลกไปกว่าตัวเองเหมือนกัน
หรือชนเผ่าในอัฟริกา ถ้าเจอคนขาวเข้าไปสำรวจก็แทบฆ่าทิ้งเหมือนกัน เพราะแปลกกว่าตัวเอง
2. ค่านิยมปัจจุบันที่คนที่ผิวขาวๆดอยู่แล้วพยายามอาบแดด หรือ ไปทำผิวแทน
เขาอยากแทนค่ะ ไม่ได้อยากดำ แบบนิโกร เพราะงั้นมันเทียบกันไม่ได้
ส่วนทำไมเขาถึงอยากแทน เราว่าเพราะฝรั่งอยู่ในภูมิประเทศที่ไม่ค่อยมีแดด นานๆทีจะแดดออก ตัวเขาเลยจะออกซีดๆ
ใครที่ได้รับแดดก็จะดูมีน้ำมีนวล ดุสุขภาพดีขึ้น อยู่อังกฤษวันไหนแดดออกแทบจะอยากวิ่งแก้ผ้าออกไปผึ่งแดด
เพราะงั้นการที่มีผิวแทนนิดๆ ไม่ซีดแบบแวมไพร์ เลยทำให้เขารู้สึกว่า ดูสุขภาพดี มีกิจกรรม
และค่านิยมนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะสังคมฝรั่ง (อเมริกัน ยุโรป)
ค่านิยมนี้มันก็มีทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งไอ้ความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มันก็เป็นธรรมดาสากลโลกมาก
เพียงแต่คนฝรั่งมันมีจำนวนเยอะกว่า จขกท.เลยคิดว่า มีแต่ฝรั่งที่อาบแดด จริงๆ คนเอเชียในเขตที่หนาวๆ แล้วเขาขาวมากๆ เขาก็อยากอาบแดดนะ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เนี่ยะ จริงๆก็มีคน อยากผิวแทนนะ เขาว่ามันดูสุขภาพดีมากกว่า
ไม่ได้เกี่ยวกับว่า "สีดำเป็นสีที่แสดงถึงควมชั่ว + คนขาวเคยดูถูกคนดำ >> แล้วทำไมอยากอาบแดดให้ดำๆล่ะ" เลยค่ะ
แต่ที่ จขกท. ถามว่า มีมั้ย ฝรั่งที่ไม่อยากแทน มีค่ะ มีเยอะแยะไป
- ฝรั่งที่ผิวขาวอยู่แล้ว ไม่ได้อยากผิวแทนก็มี
- ฝรั่งที่ผิวขาวแล้วอยากแทนก็มี
- นิโกรอยากขาวก็มี
- นิโกรที่ชอบผิวตัวเองก็คงมี
- คนเอเชียอยากขาว ก็มี
- คนเอเชียอยากจะแทน ก็มีอีกเหมือนกันค่ะ
ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้น มันเกี่ยวกับค่านิยม (ฝรั่งผิวขาวอยากแทนเพราะดูสุขภาพดี และได้ทำกิจกรรม แสดงให้เห็นว่ามีกะตังไปอาบแดดด้วย ส่วน คนเอเชียโดยเฉพาะประเทศร้อนๆอย่างไทยเรา หลายคนอยากจะขาวเพราะมันดูเป็นคุณหนู หลบแดด อยู่ในที่ร่ม ไม่ต้องออกแดดไปทำงาน)
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ สีดำเป็นสีความชั่ว สีขาวเป็นสีความดี คนเลยอยากจะขาว เลยค่ะ
การที่แทนสีขาวด้วยคุณงามความดี เราว่าเป็น เซนส์โดยรวมของมนุษย์ค่ะ ไม่ว่าชาติไหนพันธุ์ไหนก็ตาม
เพราะสีขาวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสะอาดตา ส่องสว่าง และด้วยความที่สีขาวเมื่อโดนอะไรเปรอะ จะเห็นได้ชัด เลอะง่าย เอาออกยาก
จึงเป็นสีที่เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ เราคิดว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าให้เลือกระหว่างอยู่ในที่สว่างตลอดไป กับ ที่มืดตลอดไป
คนส่วนมากย่อมเรื่องอยู่ในที่สว่าง เพราะมันมองเห็นอะไรชัดเจนกว่า อยู่ง่ายกว่า มนุษย์ไม่ใช่สัตว์หากินตอนกลางคืน
เราว่ามันอยู่ในสัญชาติญาณของมนุษย์ ที่อย่างอยู่ในที่สว่าง (ไม่นับแฟชั่น ดาร์ก โกธิก นั่นอีกเรื่อง)
สีโทนสว่าง ก็ต้องกลุ่ม ขาว ครีม สีอ่อนๆ ดังนั้น กลุ่มสีอ่อนจึงเป็นตัวแทนของฝั่งดีเสมอมา
เทพมักอยู่บนสวรรค์เพราะเราต้องเงยหน้าขึ้นมองที่สูง บนที่สูงมีท้องฟ้าสว่างไสว มีเมฆสว่างๆ มีพระอาทิตย์สว่างๆ
ตรงข้ามกับสีดำ = ความมืด มนุษย์อยู่ในความมืดแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัว มองเข้าไปในความดำมืดแล้วไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่
จึงเป็นตัวแทนของฝั่งร้ายมาเสมอ ตัวร้ายมักมาจากใต้ดิน นรกก็อยู่ใต้ดิน นรกหรือสวรรค์เป็นสิ่งสมมติของมนุษย์
แต่ทำไมสวรรค์ถึงอยู่ข้างบน เราคิดว่า เพราะมันสว่าง และเรารู้สึกดีเมื่อมองท้องฟ้า อย่างน้อยก็รู้สึกดีกว่ามองลงในไปหลุมลึก มืดมิด และไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้ เพราะงั้น ความมืด/ความลึก/ใต้ดิน/สีดำ เลยเป็นตัวแทนของฝั่งร้าย
และสีดำก็ยังเป็นสีที่ หากไปเลอะอะไรแล้วจะเอาออกยาก สีดำนี่ลงทับสีอะไรก็ได้ ขณะที่ถ้าเราเอาสีขาวไปทาทับสีดำ จะพบว่าต้องทาหลายรอบ
สีดำเลยมีความหมายในเชิงลบ (แต่ขณะเดียวกันก็มีความหมายทางศิลปะว่า "อมตะ" ด้วยนะคะ)
ที่บอกไปคือ สีในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่ามันก็มาจากสัญชาติญาณดั้งเดิมของมนุษย์นั่นแหละ
แต่สีในเชิงสัญลักษณ์ (ขาวแบบ neon white กับ ดำ แบบดำปิ๊ดปี๋) มันคนละอย่างกับ ขาวดำของสีผิวนะคะ
ด้านสีผิว เราคิดว่ามันแบ่งประมาณนี้นะ
1. ความเชื่อสมัยก่อนที่ว่าคนขาวเหนือกว่าคนดำ
ก็คือยุคล่าอาณานิคม ที่คนขาวขยายดินแดนตัวเอง เห็นคนชาติอื่นไม่เหมือนตัวเองก็ดูถูกว่าเป็นคนละพวก
เหตุการณ์แบบนี้ถ้ามองกลับกันว่า คนดำเป็นฝ่ายคิดเริ่มล่าอาณานิคมก่อน ก็จะรังเกียจคนขาวเหมือนกันแหละ เราว่า
อย่างในญี่ปุ่นตอนยังปิดประเทศ ถ้าเห็นฝรั่งนี่เขาก็รังเกียจ+คิดว่าแปลกไปกว่าตัวเองเหมือนกัน
หรือชนเผ่าในอัฟริกา ถ้าเจอคนขาวเข้าไปสำรวจก็แทบฆ่าทิ้งเหมือนกัน เพราะแปลกกว่าตัวเอง
2. ค่านิยมปัจจุบันที่คนที่ผิวขาวๆดอยู่แล้วพยายามอาบแดด หรือ ไปทำผิวแทน
เขาอยากแทนค่ะ ไม่ได้อยากดำ แบบนิโกร เพราะงั้นมันเทียบกันไม่ได้
ส่วนทำไมเขาถึงอยากแทน เราว่าเพราะฝรั่งอยู่ในภูมิประเทศที่ไม่ค่อยมีแดด นานๆทีจะแดดออก ตัวเขาเลยจะออกซีดๆ
ใครที่ได้รับแดดก็จะดูมีน้ำมีนวล ดุสุขภาพดีขึ้น อยู่อังกฤษวันไหนแดดออกแทบจะอยากวิ่งแก้ผ้าออกไปผึ่งแดด
เพราะงั้นการที่มีผิวแทนนิดๆ ไม่ซีดแบบแวมไพร์ เลยทำให้เขารู้สึกว่า ดูสุขภาพดี มีกิจกรรม
และค่านิยมนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะสังคมฝรั่ง (อเมริกัน ยุโรป)
ค่านิยมนี้มันก็มีทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งไอ้ความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มันก็เป็นธรรมดาสากลโลกมาก
เพียงแต่คนฝรั่งมันมีจำนวนเยอะกว่า จขกท.เลยคิดว่า มีแต่ฝรั่งที่อาบแดด จริงๆ คนเอเชียในเขตที่หนาวๆ แล้วเขาขาวมากๆ เขาก็อยากอาบแดดนะ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เนี่ยะ จริงๆก็มีคน อยากผิวแทนนะ เขาว่ามันดูสุขภาพดีมากกว่า
ไม่ได้เกี่ยวกับว่า "สีดำเป็นสีที่แสดงถึงควมชั่ว + คนขาวเคยดูถูกคนดำ >> แล้วทำไมอยากอาบแดดให้ดำๆล่ะ" เลยค่ะ
แต่ที่ จขกท. ถามว่า มีมั้ย ฝรั่งที่ไม่อยากแทน มีค่ะ มีเยอะแยะไป
- ฝรั่งที่ผิวขาวอยู่แล้ว ไม่ได้อยากผิวแทนก็มี
- ฝรั่งที่ผิวขาวแล้วอยากแทนก็มี
- นิโกรอยากขาวก็มี
- นิโกรที่ชอบผิวตัวเองก็คงมี
- คนเอเชียอยากขาว ก็มี
- คนเอเชียอยากจะแทน ก็มีอีกเหมือนกันค่ะ
ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้น มันเกี่ยวกับค่านิยม (ฝรั่งผิวขาวอยากแทนเพราะดูสุขภาพดี และได้ทำกิจกรรม แสดงให้เห็นว่ามีกะตังไปอาบแดดด้วย ส่วน คนเอเชียโดยเฉพาะประเทศร้อนๆอย่างไทยเรา หลายคนอยากจะขาวเพราะมันดูเป็นคุณหนู หลบแดด อยู่ในที่ร่ม ไม่ต้องออกแดดไปทำงาน)
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ สีดำเป็นสีความชั่ว สีขาวเป็นสีความดี คนเลยอยากจะขาว เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ในหนังฝรั่งยังมองว่า สีขาว เป็นสีของคนดี ความดี ความสวยงามและสีดำเป็นสีของความชั่ว ความอุบาทว์ ทำไมฝรั่งถึงไม่ชอบผิวขาว!
ขอถามห้องไกลบ้านด้วยน่ะครับ อยากได้มุมมองคนที่อยู่ต่างแดน ขอบคุณครับ
มาแลกเปลี่ยนความคิดกันน่ะครับ ไม่ขอกิน พึ่งทานข้าวเที่ยงมาอิ่มแล้ว
Galadriel credit www.fanpop.com
Hades credit scifi.about.com