สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
แนะนำว่า ให้กล่อม สามีคุณ ให้โอนกิจการ และทำพินัยกรรม ยกสมบัติ ให้ลูกคุณ ให้หมด
ผู้หญิงคนใหม่หวังเงินค่ะ คนแถวบ้านเรา เค้าทำแบบนี้นะคะ เมียหลวงใจเย็นค่ะ เอาน้ำเย็นเข้าลูบนะคะ
บอกว่า อยากจะไปก็ไป แต่ว่า ยังไงสมบัติ ต้องเป็นของลูก ยังไงลูกก็เลือดเนื้อเชื้อไข บ้านที่ดิน กิจการ โอนเป็นชื่อลูกให้หมด พินัยกรรม เขียนยกให้ลูก
บ้านใหญ่อดทนหลายสิบปีนะคะ ทนจนคุณสามีตาย เมียน้อยมาฟ้องแบ่งทรัพย์สินค่ะ หลังจากที่ทนกินน้ำใต้ศอกเค้ามาชั่วชีวิต
สรุปนางไม่ได้อะไรไปแม้แต่บาทเดียวค่ะ ที่เสียเวลามาหลายสิบปีตั้งแต่สาวยันแก่ ทุกสิ่งอย่าง ถ่ายโดนให้ลูกฝ่ายภรรยาหลวงหมดแล้ว
คือเค้าโอนเสร็จก็ไปจดทะเบียนกับเมียน้อยสมใจค่ะ เมียน้อยก็นึกว่าสบายแล้ว ที่ไหนได้ ไม่ได้อะไรไปเลย สมบัติยักย้ายก่อนที่จะไปจดกับผู้หญิงคนใหม่แล้ว
สะใจไม๊คะ ..หัวเราะทีหลังดังกว่านะคะ
ผู้หญิงคนใหม่หวังเงินค่ะ คนแถวบ้านเรา เค้าทำแบบนี้นะคะ เมียหลวงใจเย็นค่ะ เอาน้ำเย็นเข้าลูบนะคะ
บอกว่า อยากจะไปก็ไป แต่ว่า ยังไงสมบัติ ต้องเป็นของลูก ยังไงลูกก็เลือดเนื้อเชื้อไข บ้านที่ดิน กิจการ โอนเป็นชื่อลูกให้หมด พินัยกรรม เขียนยกให้ลูก
บ้านใหญ่อดทนหลายสิบปีนะคะ ทนจนคุณสามีตาย เมียน้อยมาฟ้องแบ่งทรัพย์สินค่ะ หลังจากที่ทนกินน้ำใต้ศอกเค้ามาชั่วชีวิต
สรุปนางไม่ได้อะไรไปแม้แต่บาทเดียวค่ะ ที่เสียเวลามาหลายสิบปีตั้งแต่สาวยันแก่ ทุกสิ่งอย่าง ถ่ายโดนให้ลูกฝ่ายภรรยาหลวงหมดแล้ว
คือเค้าโอนเสร็จก็ไปจดทะเบียนกับเมียน้อยสมใจค่ะ เมียน้อยก็นึกว่าสบายแล้ว ที่ไหนได้ ไม่ได้อะไรไปเลย สมบัติยักย้ายก่อนที่จะไปจดกับผู้หญิงคนใหม่แล้ว
สะใจไม๊คะ ..หัวเราะทีหลังดังกว่านะคะ
ความคิดเห็นที่ 31
ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ เราเองเรื่องการเสียใจมันไม่ค่อยมีแล้วคะ เพราะว่าเจ็บมาเยอะ สติเลยยังดีอยู่ ตอนนี้ก็ค่อยๆแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ไปก่อน และต้องป้องกันในเรื่องของอนาคต เรื่องทำหมันเคยคุยกันคะ เค้ากลัว แบบยังไม่กล้า ก็เลยคุยกันเล่นๆว่า เดี๋ยวเราลดน้ำหนักแลกกัน
เค้าก็ยอมนะคะ ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังลดน้ำหนักอยู่( แต่เหตุผลที่ลดน้ำหนัก ไม่ได้เพื่อเค้านะคะ คือว่าปล่อยตัวเองมานานแล้วอึดอัด และสิ้นปี
จะเปิดฟิตเนสคะ รอตึกเสร็จ เลยต้องลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายให้เป็นตัวอย่างคะ ) เราบอกว่าถ้าลดน้ำหนักได้ ทำหมันให้ละกัน
เค้าก็ยอมคะ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าแอบไปมีลูกแล้ว แต่มาณ.ตอนนี้ ทำไม่ทำค่าเท่ากันละคะ เพราะมีไปแล้ว ที่เราตั้งใจทำงานและเลี้ยงลูกให้ดี
ด้วยตัวเองเป็นเพราะแรงพลักดันจากเรื่องร้ายๆที่สามีทำคะ อย่างที่บอกมีเมียน้อยตั้งแต่ลูกคนแรก เราทุกข์มามากพอแล้วจึงเป็นจากความทุกข์
มามุ่งมั่นทำงานจนประสบผลสำเร็จคะ แต่พอเราไม่เอาใจไปใส่กับสามีเท่าไหร่ ใส่ใจแต่เรื่องงาน เลยทำให้ปล่อยปะละเลยสามีไป ให้เค้าเคลียรเอง
เราไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่พอเราไม่ยุ่งมันเลยเลยเถิดคะ ตอนต้นปีที่จับได้ว่าซื้อบ้านซื้อรถก็ปรี๊ดแตกคะ เครียดอยู่สักพัก
ก็ปลงและคิดว่าเป็นเวรเป็นกรรม เราอาจจะไปเอาของเค้ามาชาติที่แล้วก็คืนเค้าไป คิดได้แบบนี้เลยไม่เครียด ก็ไม่ตามต่อ ปล่อยให้จัดการกันเอง
ซึ่งตอนนั้นบ้านยังไม่ได้โอนนะคะ แค่ไปดาวน์ จนปล่อยไว้อีก 3-4 เดือน มารู้อีกทียื่นกู้ และโอนไปแล้ว บ้านเป็นชื่อพี่สาวผู้หญิงคะ
เพราะผู้หญิงกู้ไม่ได้ ไม่มีงานทำคะ ส่วนรถเป็นชื่อลูกพี่ลูกน้องสามี สามีไม่ให้มีชื่อตัวเองเลยคะ เราเองทำใจได้มาพอสมควรคะ ไม่ทุกข์
ตอนนี้ผอมลง(จากการออกกำลังกายนะคะไม่ใช่ตรอมใจ 555) สวยขึ้น มีมิตรในการออกกำลังกายดีๆ มีลูก 2คนที่น่ารัก มีเพื่อนที่น่ารัก
แค่นี้เราก็มีความสุขแล้วคะ เราเริ่มมีสังคมกับเพื่อนบ้าง สามีเริ่มหึงคะ คอยตามตลอด รู้สันดานเค้าดีคะ วันนี้วันที่ 4 แล้วนับจากที่คุยกัน 3 คน
สามีกลับ 4 ทุ่มกว่าทุกวันคะ เลิกเล่นบอลก็กลับเลย ถ้ามีแวะไปก็คงไม่ถึงชั่วโมง ใจลึกๆก็สงสารคนท้องแก่ คิดว่าจะฟ้องผู้หญิง ให้พ่อแม่เค้ารับรู้
แต่ก็ไม่อยากทำบาปกับคนท้องคะ แค่นี้เด็กที่เกิดมาก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆแล้ว ตอนนี้คิดแค่ว่าใครทำอย่างไร ได้อย่างนั้น เวรกรรมมีจริงคะ
ขอบคุณเพื่อนที่เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ชีวิตเราต้องเดินต่อไป เดี๋ยวผอมแล้วจะมาทำรีวิว ลดความอ้วนนะคะ แล้วเรื่องนี้ถ้าจบยังไง
เดี๋ยวเรามารายงานผลคะ ทุกวันนี้ตื่นมาเจอ 2 หนุ่มน้อยๆของเรา ได้รับส่งเค้าไปโรงเรียนทุกเช้า ได้มีกิจกรรมดีๆทำด้วยกัน
แค่นี้คนเป็นแม่ก็สุขใจคะ
ไปก่อน และต้องป้องกันในเรื่องของอนาคต เรื่องทำหมันเคยคุยกันคะ เค้ากลัว แบบยังไม่กล้า ก็เลยคุยกันเล่นๆว่า เดี๋ยวเราลดน้ำหนักแลกกัน
เค้าก็ยอมนะคะ ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังลดน้ำหนักอยู่( แต่เหตุผลที่ลดน้ำหนัก ไม่ได้เพื่อเค้านะคะ คือว่าปล่อยตัวเองมานานแล้วอึดอัด และสิ้นปี
จะเปิดฟิตเนสคะ รอตึกเสร็จ เลยต้องลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายให้เป็นตัวอย่างคะ ) เราบอกว่าถ้าลดน้ำหนักได้ ทำหมันให้ละกัน
เค้าก็ยอมคะ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าแอบไปมีลูกแล้ว แต่มาณ.ตอนนี้ ทำไม่ทำค่าเท่ากันละคะ เพราะมีไปแล้ว ที่เราตั้งใจทำงานและเลี้ยงลูกให้ดี
ด้วยตัวเองเป็นเพราะแรงพลักดันจากเรื่องร้ายๆที่สามีทำคะ อย่างที่บอกมีเมียน้อยตั้งแต่ลูกคนแรก เราทุกข์มามากพอแล้วจึงเป็นจากความทุกข์
มามุ่งมั่นทำงานจนประสบผลสำเร็จคะ แต่พอเราไม่เอาใจไปใส่กับสามีเท่าไหร่ ใส่ใจแต่เรื่องงาน เลยทำให้ปล่อยปะละเลยสามีไป ให้เค้าเคลียรเอง
เราไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่พอเราไม่ยุ่งมันเลยเลยเถิดคะ ตอนต้นปีที่จับได้ว่าซื้อบ้านซื้อรถก็ปรี๊ดแตกคะ เครียดอยู่สักพัก
ก็ปลงและคิดว่าเป็นเวรเป็นกรรม เราอาจจะไปเอาของเค้ามาชาติที่แล้วก็คืนเค้าไป คิดได้แบบนี้เลยไม่เครียด ก็ไม่ตามต่อ ปล่อยให้จัดการกันเอง
ซึ่งตอนนั้นบ้านยังไม่ได้โอนนะคะ แค่ไปดาวน์ จนปล่อยไว้อีก 3-4 เดือน มารู้อีกทียื่นกู้ และโอนไปแล้ว บ้านเป็นชื่อพี่สาวผู้หญิงคะ
เพราะผู้หญิงกู้ไม่ได้ ไม่มีงานทำคะ ส่วนรถเป็นชื่อลูกพี่ลูกน้องสามี สามีไม่ให้มีชื่อตัวเองเลยคะ เราเองทำใจได้มาพอสมควรคะ ไม่ทุกข์
ตอนนี้ผอมลง(จากการออกกำลังกายนะคะไม่ใช่ตรอมใจ 555) สวยขึ้น มีมิตรในการออกกำลังกายดีๆ มีลูก 2คนที่น่ารัก มีเพื่อนที่น่ารัก
แค่นี้เราก็มีความสุขแล้วคะ เราเริ่มมีสังคมกับเพื่อนบ้าง สามีเริ่มหึงคะ คอยตามตลอด รู้สันดานเค้าดีคะ วันนี้วันที่ 4 แล้วนับจากที่คุยกัน 3 คน
สามีกลับ 4 ทุ่มกว่าทุกวันคะ เลิกเล่นบอลก็กลับเลย ถ้ามีแวะไปก็คงไม่ถึงชั่วโมง ใจลึกๆก็สงสารคนท้องแก่ คิดว่าจะฟ้องผู้หญิง ให้พ่อแม่เค้ารับรู้
แต่ก็ไม่อยากทำบาปกับคนท้องคะ แค่นี้เด็กที่เกิดมาก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆแล้ว ตอนนี้คิดแค่ว่าใครทำอย่างไร ได้อย่างนั้น เวรกรรมมีจริงคะ
ขอบคุณเพื่อนที่เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ชีวิตเราต้องเดินต่อไป เดี๋ยวผอมแล้วจะมาทำรีวิว ลดความอ้วนนะคะ แล้วเรื่องนี้ถ้าจบยังไง
เดี๋ยวเรามารายงานผลคะ ทุกวันนี้ตื่นมาเจอ 2 หนุ่มน้อยๆของเรา ได้รับส่งเค้าไปโรงเรียนทุกเช้า ได้มีกิจกรรมดีๆทำด้วยกัน
แค่นี้คนเป็นแม่ก็สุขใจคะ
ความคิดเห็นที่ 44
เท่าที่อ่านดู เราว่าคนอย่างสามีจขกท.ไม่มีทางยอมโอนทุกอย่างเป็นชื่อลูกหรอกค่ะ
คนแบบนี้เห็นแก่ตัวเอง ให้ไปทำหมันยังไม่ไปทำเลย อ้างนู่นนี่ปล่อยจนเลยเถิด หัวคิดไม่มี
ถ้ามีความคิดซะหน่อยคงไม่ปล่อยให้เมียน้อยท้องโต จนเป็นปัญหาให้คุณมานั่งปวดใจหรอกค่ะ
ส่วนธุรกิจถ้าเริ่มสร้างมาด้วยกัน ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะโอนมาให้คุณกับลูกง่ายๆ ยังไงเค้าก็ต้องเก็บไว้ ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อกิน
ไอ้ที่ว่าจะให้เซ็นว่าต่อไปมีหญิงใหม่ จะไปแต่ตัว ใครมันจะไปเซ็นต์อะไรที่มัดตัวเองขนาดนั้น ขนาดขอเลิกยังบอกจะตามมายิง หุหุ
เวลานี้อีกฝ่ายได้เปรียบจริงๆ ที่จู่ๆก็มีลูกโผล่มาอีกคน สามีก็ไม่ทุกข์ร้อน เลือกไม่ได้(หรือไม่เลือก)
คุณเองก็ไม่เข้มแข็งพอจะเลิกกับสามี ถึงได้ต้องทนอยู่อย่างนี้
เมียน้อยคนแรก ไม่มีลูก ยังยื้อมาเป็นสิบปี
ส่วนคนใหม่หลังคลอดก็กลับมาฟิตได้เหมือนเดิม เด๋วก็กลับไปหลงใหม่อีกรอบ
คราวนี้มีลูกเล็กด้วย เด็กเล็กๆ น่ารักจะตายไป คุณเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ สามีคุณไม่เลิกกับเมียน้อยคนนี้แน่ๆ
และถ้าเมียน้อยฟ้องขึ้นมาให้รับรองบุตร สามีคุณก็ดิ้นไม่หลุด ต้องรับเป็นลูกอยู่ดี
ทางออกที่ดีที่สุดที่จะตัดจบจากวงจรนี้คือฟ้องหย่า แบ่งทรัพย์สินที่คุณรักมากเอามาให้ได้มากที่สุด แล้วเอาลูกมาเลี้ยง
นอกเสียจากว่าจริงๆแล้วงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันต้องทำร่วมกัน ขาดใครไปไม่ได้ ธุรกิจจะพัง!!
เสียบางส่วนวันนี้ ยังดีกว่ามานั่งเห็นอะไรที่มันตำตาตำใจไปตลอดชีวิต
แต่เราว่าคุณเองก็ไม่คิดเรื่องหย่าเลย เพราะถ้าคิดจะหย่าคงไม่ทนมาจนป่านนี้
ที่บอกว่าเลิกกัน แยกกันอยู่ ก็แค่แยกห้องนอน ก็เท่ากับปล่อยให้สามีมีเมียน้อยได้อย่างเดิมนั่นแหล่ะ
ก็ต้องเลือกทางออกให้กับตัวเองแล้วล่ะค่ะ ส่วนตัวเราว่าคุณมีคำตอบในใจแล้วล่ะ
ที่เอ่ยมาไม่ใช่จะซ้ำเติมแต่เป็นมุมมองจากภายนอก ที่อยากจะบอกให้ฟัง
เรื่องแบบนี้บางทีคนในมองไม่เห็น หรือพยายามมองข้ามไป
เข้าใจคุณนะที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ใครๆก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวตัวเองทั้งนั้น เป็นกำลังใจให้นะคะ
เมียน้อยสมัยนี้หน้าด้านน่าทนจริงๆ เอาแต่สบาย ผัวใครพ่อใคร ไม่สน มีเงินให้ก็จับมาทำสามีละ
อีกหน่อยจะจดทะเบียนสมรส ต้องห้อยท้ายไว้เลยว่ามีเมียน้อยเมื่อไหร่ให้หย่าเลย ผู้ชายแต่ไปแต่ตัว.
คนแบบนี้เห็นแก่ตัวเอง ให้ไปทำหมันยังไม่ไปทำเลย อ้างนู่นนี่ปล่อยจนเลยเถิด หัวคิดไม่มี
ถ้ามีความคิดซะหน่อยคงไม่ปล่อยให้เมียน้อยท้องโต จนเป็นปัญหาให้คุณมานั่งปวดใจหรอกค่ะ
ส่วนธุรกิจถ้าเริ่มสร้างมาด้วยกัน ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะโอนมาให้คุณกับลูกง่ายๆ ยังไงเค้าก็ต้องเก็บไว้ ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อกิน
ไอ้ที่ว่าจะให้เซ็นว่าต่อไปมีหญิงใหม่ จะไปแต่ตัว ใครมันจะไปเซ็นต์อะไรที่มัดตัวเองขนาดนั้น ขนาดขอเลิกยังบอกจะตามมายิง หุหุ
เวลานี้อีกฝ่ายได้เปรียบจริงๆ ที่จู่ๆก็มีลูกโผล่มาอีกคน สามีก็ไม่ทุกข์ร้อน เลือกไม่ได้(หรือไม่เลือก)
คุณเองก็ไม่เข้มแข็งพอจะเลิกกับสามี ถึงได้ต้องทนอยู่อย่างนี้
เมียน้อยคนแรก ไม่มีลูก ยังยื้อมาเป็นสิบปี
ส่วนคนใหม่หลังคลอดก็กลับมาฟิตได้เหมือนเดิม เด๋วก็กลับไปหลงใหม่อีกรอบ
คราวนี้มีลูกเล็กด้วย เด็กเล็กๆ น่ารักจะตายไป คุณเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ สามีคุณไม่เลิกกับเมียน้อยคนนี้แน่ๆ
และถ้าเมียน้อยฟ้องขึ้นมาให้รับรองบุตร สามีคุณก็ดิ้นไม่หลุด ต้องรับเป็นลูกอยู่ดี
ทางออกที่ดีที่สุดที่จะตัดจบจากวงจรนี้คือฟ้องหย่า แบ่งทรัพย์สินที่คุณรักมากเอามาให้ได้มากที่สุด แล้วเอาลูกมาเลี้ยง
นอกเสียจากว่าจริงๆแล้วงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันต้องทำร่วมกัน ขาดใครไปไม่ได้ ธุรกิจจะพัง!!
เสียบางส่วนวันนี้ ยังดีกว่ามานั่งเห็นอะไรที่มันตำตาตำใจไปตลอดชีวิต
แต่เราว่าคุณเองก็ไม่คิดเรื่องหย่าเลย เพราะถ้าคิดจะหย่าคงไม่ทนมาจนป่านนี้
ที่บอกว่าเลิกกัน แยกกันอยู่ ก็แค่แยกห้องนอน ก็เท่ากับปล่อยให้สามีมีเมียน้อยได้อย่างเดิมนั่นแหล่ะ
ก็ต้องเลือกทางออกให้กับตัวเองแล้วล่ะค่ะ ส่วนตัวเราว่าคุณมีคำตอบในใจแล้วล่ะ
ที่เอ่ยมาไม่ใช่จะซ้ำเติมแต่เป็นมุมมองจากภายนอก ที่อยากจะบอกให้ฟัง
เรื่องแบบนี้บางทีคนในมองไม่เห็น หรือพยายามมองข้ามไป
เข้าใจคุณนะที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ใครๆก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวตัวเองทั้งนั้น เป็นกำลังใจให้นะคะ
เมียน้อยสมัยนี้หน้าด้านน่าทนจริงๆ เอาแต่สบาย ผัวใครพ่อใคร ไม่สน มีเงินให้ก็จับมาทำสามีละ
อีกหน่อยจะจดทะเบียนสมรส ต้องห้อยท้ายไว้เลยว่ามีเมียน้อยเมื่อไหร่ให้หย่าเลย ผู้ชายแต่ไปแต่ตัว.
แสดงความคิดเห็น
สามีไปมีลูกกับคนอื่น แต่ไม่อยากให้สามีรับเป็นบุตร ทำไงดีคะ
ไม่อยากให้เด็กใช้นามสกุลสามี และไม่อยากให้สามีรับเป็นบุตรคะ ทางกฏหมาย หรือจะพอมีวิธีแก้ไขปัญหายังไงได้บ้างคะ?
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องของเราก่อนนะคะ เรากับสามีคบกันมา 15 ปี แต่งงานกันมาแล้ว 12 ปี มีลูก 2 คน เราทำธุรกิจด้วยกันมา
จากเล็กๆ จนตอนนี้เริ่มโตขึ้น เริ่มมีสมบัติ(บางส่วนยังผ่อนธนาคารอยู่) เดิมทีสามีไม่ได้เจ้าชู้ แต่ตอนที่เรามีลูกคนแรก (ตอนนี้ 10 ขวบคะ)
สามีไปติดหญิงอื่น หลงมาก ถึงขั้นขอเลิกกับเรา เราทนมาตลอด จนลูกคลอดก็กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่เลิกกับผู้หญิงอีกคน ยืดเยื้อกันมานาน
แต่คงหมดช่วงหลงกันไปแล้ว ทำให้สามีไม่เอาใจใส่ผู้หญิงคนนี้เท่าที่ควร สามีบอกกับเราว่าเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังเห็นมีแอบไปหากันบ้าง ยืดเยื้อ
มานาน เกือบ 10 ปี สามีก็ไปมีอีกคนคะ คนที่สองเขามาตอนที่กิจการกำลังรุ่งเรือง เงินสะพัด สามีทุ่มไม่อั้น เราเองเป็นคนที่ไม่ตามคะ
คิดว่าปล่อยไป บอกเค้าว่าถ้าจะมีอย่าเลี้ยงให้ซื้อกินเอา เพราะในวงธุรกิจและเพื่อนๆสามี เรื่องควงเด็กเป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่มีใครไม่มี
เค้าก็รับปาก แต่อย่างที่บอกสามีไม่ใช่ผู้ชายที่เอาไปทั่วชอบเป็นคนๆจึงมีไว้และเลี้ยงดูอย่างดี ทุ่มไม่อั้น เรามาจับได้ตอนต้นปีว่าไปดาวน์บ้าน
ดาวน์รถให้กัน เราโกรธมาก เค้าบอกว่าเราไม่ดูแล เรื่องงานเรื่องลูกเราดีหมดทุกอย่าง แต่เค้าตัณหาเยอะ เราไม่ยอมให้
(เราเองก็เหนื่อยจากงานและเลี้ยงลูก สามีชอบเตะบอลกลับมา 4-5 ทุ่ม เราก็นอนแล้ว เช้าก็ต้องตื่นส่งลูกอีก
เลยไม่ได้ดูแลเรื่องบนเตียงให้เค้า) เขารับผิดและบอกจะเลิก ให้เราใจเย็นๆ ทำตัวดีๆแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
จะเอาของคืนหรือจะเอาเค้ากลับ เราบอกเอาทั้งสอง เค้าก็บอกเดี๋ยวจัดการให้ อันไหนเสียแล้วเสียไป เดี๋ยวเค้าปรับปรุงตัวเอง เราก็ปล่อย
คือไม่อยากคิดมาก ไม่อยากเครียด เลยปล่อยให้เค้าจัดการเอง เราเป็นคนไม่เซ้าซี้ คือเจ็บมาเยอะแล้ว ก็เลยทำใจได้ เค้าก็ทำตัวดีขึ้น
กลับบ้านเร็วขึ้น อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ถ้ามีเวลาไปหาผู้หญิงคนนั้นจริงก็ไม่เกิน 1-2 ชม. เราก็คิดว่าเดี๋ยวมันก็ทนไม่ไหวเอง
จนเมื่อวันก่อนเราสังหรใจ มีคนมาบอกหลายคนให้ตามไปดูผู้หญิงท้อง เราเลยขับรถตามไปดูที่บ้านผู้หญิง(ที่ซื้อให้กัน) ก็เจอ
สรุปผู้หญิงท้องได้ 8 เดือน คลอดเดือนหน้าแล้ว คบกันไม่ถึงปี ปล่อยให้ท้อง เราก็บอกมานั่งคุยกัน 3 คน เดี๋ยวมาต่อนะคะ