วันนี้ จขกท. เข้าไปที่ศูนย์ วิริยะประกันภัย สาขาดอนเมือง เพื่อ “ เรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม” ต้องขอขอบคุณข้อมูลที่ได้จากคลังกระทู้ทำให้ได้ใช้สิทธิ์นี้
รถของจขกท. โดนรถเมลล์สาย 39 ชนท้าย ในวันที่ 24 พฤษภา ที่ผ่านมา
รถของ จขกท.เป็นฝ่ายถูก(ทำประกัน 2+กับเจ้าพระยาประกันภัย) คู่กรณีเป็นฝ่ายผิดทำประกันกับวิริยะ จขกท.ส่งรถซ่อมกับอู่ประกันเจ้าพระยาที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ใช้เวลาจอดซ่อม 36 วัน ( 24 พฤษภา – 29 มิถุนา )
ก่อนจะเข้าไปติดต่อ เมื่อวานจขกท.ได้โทรเข้าไปสอบถามข้อมูลที่วิริยะประกันภัย แจ้งความประสงค์ว่า อยากเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
เจ้าหน้าที่วิริยะ ถามกลับมาว่าทราบหมายเลขเคลมของรถฝ่ายผิดที่ทำประกันวิริยะหรือไม่
จขกท.ไม่ทราบ ได้แต่แจ้งเลขทะเบียนรถของตัวเอง
จนท.วิริยะเลยค้นหาเลขที่เคลมของรถฝ่ายผิดให้ และให้ จขกท.เข้าไปติดต่อด้วยตัวเองที่ศูนย์ฯ ดอนเมือง พร้อมให้เบอร์โทรติดต่อ มาด้วย ^^
วันนี้เข้าไปติดต่อที่แผนกสินไหม สาขาดอนเมือง แจ้งความประสงค์ มีการต่อรอง แล้วได้ข้อสรุปว่า
วิริยะจ่ายสินไหมให้จขกท. วันละ 300 บาท เป็นจำนวน 20 วัน
ข้อสรุปในการต่อรองตรงนี้ จขกท. ไม่ทราบว่าน้อยไปมั๊ยแต่เพราะไม่ได้คาดหวังมาก่อนเลยคิดว่าเท่าไหร่ก็คงยอมรับ ( สองปีที่แล้วรถโดนเฉี่ยวจอดซ่อม 2 อาทิตย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามารถเรียกร้องจากประกันของฝ่ายผิดได้ - -“ )
จนท.ของวิริยะที่ไปติดต่อเรื่องสินไหมอัธยาศัยดีค่ะ ใช้เวลาคุย ต่อรอง และทำเรื่องไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พอดีจขกท. ลืมนำสำเนาทะเบียนรถไป เลยต้องรอให้ส่ง fax. มาให้ก่อนวิริยะถึงจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ คือถ้าเอกสารครบ และตกลงกันได้ จะสามารถรับเงินสดได้เลย พอดีเอกสารไม่ครบจึงต้องรอให้ จขกท.ส่ง fax มาให้ก่อน จนท.แจ้งว่าถ้าเอกสารเรียบร้อยจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีในวันพรุ่งนี้ได้เลยค่ะ
สรุปนะคะ ถ้ามีอุบัติเหตุรถชน แล้วเราเป็นฝ่ายถูก เรามีสิทธิที่จะเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ( ย๊าวยาว) แต่จะได้มากน้อยเท่าไหร่นั้น จขกท.ไม่ทราบค่ะ ( ยอมรับสภาพอยากให้จบๆ ไป)
ต้องเตรียมเอกสารประมาณนี้นะคะ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนรถ ( ประกันจะจ่ายให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองกรณีที่ยังผ่อนอยู่ เท่านั้น )
- สำเนาใบเคลม ( ที่ได้จาก จนท.ที่มาตอนเกิดเหตุ ถ้าจะได้ดีขอเลขที่เคลมของ คู่กรณีไว้ด้วยนะคะ )
- สำเนาใบแจ้งซ่อม / รับรถ ใบนี้สำคัญ เพราะระบุว่า เราเอารถเข้าซ่อมวันไหน ได้รับรถวันไหน
เท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่า จำนวนที่จ่ายให้เป็นจำนวนมาตรฐานของบริษัทฯ ยกเว้นว่าเรามีหลักฐานเช่น ใบเสร็จค่าเช่ารถ เพื่อมาเรียกร้องให้ได้มากกว่านี้ ( ซึ่งในความเป็นจริง จขกท.ก็ไม่ทราบว่าจะได้มากกว่านี้เท่าไหร่ )
หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างสำหรับท่านที่ต้องฟาดเคราะห์แบบจขกท.นะคะ
ประสบการณ์ “การเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม” กับวิริยะประกันภัย
รถของจขกท. โดนรถเมลล์สาย 39 ชนท้าย ในวันที่ 24 พฤษภา ที่ผ่านมา
รถของ จขกท.เป็นฝ่ายถูก(ทำประกัน 2+กับเจ้าพระยาประกันภัย) คู่กรณีเป็นฝ่ายผิดทำประกันกับวิริยะ จขกท.ส่งรถซ่อมกับอู่ประกันเจ้าพระยาที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ใช้เวลาจอดซ่อม 36 วัน ( 24 พฤษภา – 29 มิถุนา )
ก่อนจะเข้าไปติดต่อ เมื่อวานจขกท.ได้โทรเข้าไปสอบถามข้อมูลที่วิริยะประกันภัย แจ้งความประสงค์ว่า อยากเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
เจ้าหน้าที่วิริยะ ถามกลับมาว่าทราบหมายเลขเคลมของรถฝ่ายผิดที่ทำประกันวิริยะหรือไม่
จขกท.ไม่ทราบ ได้แต่แจ้งเลขทะเบียนรถของตัวเอง
จนท.วิริยะเลยค้นหาเลขที่เคลมของรถฝ่ายผิดให้ และให้ จขกท.เข้าไปติดต่อด้วยตัวเองที่ศูนย์ฯ ดอนเมือง พร้อมให้เบอร์โทรติดต่อ มาด้วย ^^
วันนี้เข้าไปติดต่อที่แผนกสินไหม สาขาดอนเมือง แจ้งความประสงค์ มีการต่อรอง แล้วได้ข้อสรุปว่า
วิริยะจ่ายสินไหมให้จขกท. วันละ 300 บาท เป็นจำนวน 20 วัน
ข้อสรุปในการต่อรองตรงนี้ จขกท. ไม่ทราบว่าน้อยไปมั๊ยแต่เพราะไม่ได้คาดหวังมาก่อนเลยคิดว่าเท่าไหร่ก็คงยอมรับ ( สองปีที่แล้วรถโดนเฉี่ยวจอดซ่อม 2 อาทิตย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามารถเรียกร้องจากประกันของฝ่ายผิดได้ - -“ )
จนท.ของวิริยะที่ไปติดต่อเรื่องสินไหมอัธยาศัยดีค่ะ ใช้เวลาคุย ต่อรอง และทำเรื่องไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พอดีจขกท. ลืมนำสำเนาทะเบียนรถไป เลยต้องรอให้ส่ง fax. มาให้ก่อนวิริยะถึงจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ คือถ้าเอกสารครบ และตกลงกันได้ จะสามารถรับเงินสดได้เลย พอดีเอกสารไม่ครบจึงต้องรอให้ จขกท.ส่ง fax มาให้ก่อน จนท.แจ้งว่าถ้าเอกสารเรียบร้อยจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีในวันพรุ่งนี้ได้เลยค่ะ
สรุปนะคะ ถ้ามีอุบัติเหตุรถชน แล้วเราเป็นฝ่ายถูก เรามีสิทธิที่จะเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ( ย๊าวยาว) แต่จะได้มากน้อยเท่าไหร่นั้น จขกท.ไม่ทราบค่ะ ( ยอมรับสภาพอยากให้จบๆ ไป)
ต้องเตรียมเอกสารประมาณนี้นะคะ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนรถ ( ประกันจะจ่ายให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองกรณีที่ยังผ่อนอยู่ เท่านั้น )
- สำเนาใบเคลม ( ที่ได้จาก จนท.ที่มาตอนเกิดเหตุ ถ้าจะได้ดีขอเลขที่เคลมของ คู่กรณีไว้ด้วยนะคะ )
- สำเนาใบแจ้งซ่อม / รับรถ ใบนี้สำคัญ เพราะระบุว่า เราเอารถเข้าซ่อมวันไหน ได้รับรถวันไหน
เท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่า จำนวนที่จ่ายให้เป็นจำนวนมาตรฐานของบริษัทฯ ยกเว้นว่าเรามีหลักฐานเช่น ใบเสร็จค่าเช่ารถ เพื่อมาเรียกร้องให้ได้มากกว่านี้ ( ซึ่งในความเป็นจริง จขกท.ก็ไม่ทราบว่าจะได้มากกว่านี้เท่าไหร่ )
หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างสำหรับท่านที่ต้องฟาดเคราะห์แบบจขกท.นะคะ