ห้องอาหาร China House - ห้องอาหารจีนประจำโรงแรม Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมที่น่าจะโด่งดังที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบ้านเรา นั้นเป็นห้องอาหารจีนที่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าห้องอาหารจีนในโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ ตรงที่จะมี Sunday Brunch หรือมื้อพิเศษวันอาทิตย์ไว้คอยบริการนอกเหนือจากติ่มซำบุฟเฟ่ต์แบบปกติอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดโดยรวมของห้องอาหารนี้ในมื้อต่าง ๆ ก็ตามนี้เลยครับ
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร - อาทิตย์, 11.30 - 14.30 น. และ 18.00 - 22.30 น.
อังคาร - เสาร์ : มีทั้ง A la carte Menu และแบบบุฟเฟ่ต์ Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net)
วันอาทิตย์ : Sunday Brunch Buffet มีสองราคา (1,154 บาท net + รวมน้ำชา) (1,625 บาท net + รวมน้ำชา + free flow wine)
Summer Promotion ถึงวันที่ 30 กันยายน 2013 : อังคาร - เสาร์ Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net + น้ำชา + Soft drink)
Citibank Promotion ถึงวันที่ 30 กันยายน 2013 : มา 3 จ่าย 2 Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net + น้ำชา + Soft drink) เฉพาะบัตร Citibank Altima และ Platinum Select
รายละเอียดอื่น ๆ รบกวนโทรสอบถามทางโรงแรมเพิ่มเติมได้เลยครับ
ตัวห้องอาหาร China House นี่ก็เป็นอะไรที่ตั้งชื่อได้เหมาะสมดีครับ อย่างแรกเลยคือตัวร้านนั้นเป็นบ้านที่ตั้งออกมาเป็นเอกเทศจากตัวโรงแรม และมีการดัดแปลงตกแต่งออกมาเป็นแนว Shanghai 1970 หรือเป็นแนวจีน modern ๆ หน่อยนั่นเอง ตัวร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากห้องอาหารจีนอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมาคือจะไม่มีส่วนห้องโถงรวมที่จะวางโต๊ะสำหรับแขกทั่วไปเอาไว้เยอะ ๆ และมีห้องย่อย ห้องส่วนตัว เป็นโต๊ะจีนแยกเพิ่มเติมออกไป แต่ที่นี่คือ พอเดินเข้ามาในห้องโถงของทางร้าน ถ้ามาในวันอาทิตย์ก็จะเจอกับไลน์อาหารจีนบุฟเฟ่ต์แบบอลังการต้อนรับเราไว้ก่อนเลย และสองฝั่งของห้องโถงนี้ก็จะเรียงรายไปด้วยโต๊ะที่วางไว้แบบเป็นสัดเป็นส่วน เน้นความเป็นส่วนตัว และมีให้เลือกนั่งกันถึง 2 ชั้นเลย เป็นบรรยากาศร้านในแบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนครับ เก๋ ดูดี มีสไตล์จริง ๆ (แฟนผมชอบมาก) ในวันที่ผมไปนั้น แขกมากันแทบจะเต็มทุกโต๊ะทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งทางพนักงานก็บอกเอาไว้ว่าตัว Sunday Brunch ของที่ China House แห่งนี้ขายดีมาก ๆ เต็มทุกอาทิตย์ ถ้าจะไปยังไงก็จองกันเอาไว้ก่อนเนิ่น ๆ นะครับ
(แน่นอนว่าไม่ต้องเขียนถึงการบริการของที่นี่อยู่แล้วใช่มั้ยครับ? โรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้ ได้ชื่ออยู่แล้วว่าบริการดีที่สุดในสามโลกเลย ซึ่งบริกรของที่ China House แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นครับ บริการทุกระดับประทับใจ ทั้งมารยาท การดูแลเอาใจใส่ และยิ่งแต่งตัวแบบจีน ๆ เพิ่ม feeling ความเป็นจีนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอินสุด ๆ ครับ)
อาหารในตัว Sunday Brunch นี้ผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทละกันนะครับ โดยจะแบ่ง 3 ประเภทจากตัวเมนูที่ทางร้านกำหนดเอาไว้เอง บวกเพิ่มกับที่อยู่ในไลน์ buffet ที่เราสามารถเดินไปตักเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปตัก หรือสั่งมากินได้ตลอดเวลาที่มื้อนี้ครอบคลุมคือ 11.30 - 14.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ เลย
หมวดติ่มซำ (Dim Sum)
รวม ๆ แล้วตัวติ่มซำในมื้อนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่อาจเพราะว่าติ่มซำที่ได้กินนั้นค่อนข้างน้อยมีแค่ 7 อย่าง เลยยังไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติได้ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่อื่น ๆ ที่กินมาแล้ว ส่วนใหญ่จะกินกันอยู่ที่ 20 - 30 อย่าง และก็ตัวเมนูหมวดถัดไปหรือ a la carte กับพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวนั้นทำได้โดดเด่นกว่าติ่มซำมาก ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวติ่มซำในมื้อนี้ก็ถือว่าทำได้ดีสมชื่อ China House ล่ะครับ
ขนมจีบเอ็กซ์โอซอส (Shrimp and pork "Siew Mai' dumplings flavored with X.O. sauce) - อร่อยครับ ขนมจีบลูกใหญ่ เนื้อกุ้งอัดแน่น ได้รสแปลกใหม่จากซอส X.O.
ฮะเก๋าหอยเชลล์และกุ้ง (Steamed scallop and minced shrimp dumplings wrapped in spinach wheat dough) - คล้าย ๆ ขนมจีบ ลูกค่อนข้างใหญ่ เนื้อกุ้งและหอยเชลล์อัดแน่น แป้งมาแบบบาง ๆ ใส ๆ กำลังดี และไม่เปื่อยลุ่ย
ฝันโก๋แต้จิ๋ว ("Toechew" style steamed crystal dumplings with peanuts) - อันนี้ค่อนข้างธรรมดาไปสักหน่อย เครื่องด้านในเคี้ยวแล้วออกแข็งกระด้างไปนิดนึงครับ
ก๋วยเตี่ยวหลอดกุ้งสด (Steamed rice rolls "Cheong Fun" with shrimps) - อันนี้อร่อยดีครับ อร่อยมากก็คงจะไม่ผิดนัก ให้เป็นอันดับ 1 ของติ่มซำในวันนี้เลย กุ้งตัวใหญ่ น้ำซีอิ๊วกลมกล่อม
ซาลาเปาเซี่ยงไฮ้ ("Shanghainese" style pork dumpling served with red vinegar) - หรือ เสี่ยวหลงเปา เป็นเสี่ยวหลงเปาที่ชิ้นใหญ่ดี ใส่มาในเข่งเล็ก ๆ น่ารักดีครับ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม แป้งเหนียวนุ่มอร่อยใช้ได้เลย
มะม่วงทอดไส้กุ้ง (Deep-fried mango fritters with shrimps) - อร่อยดีครับ ชอบอันดับ 2 ในมื้อนี้ของติ่มซำเลย
เกี๊ยวกุ้งทอด (Deep-fried shrimp wanton served with sweet and sour sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิด
Seafood & Poultry & Vegetables a la carte
ผมรู้สึกว่า Highlight ของ Sunday Brunch ณ China House - Mandarin Oriental แห่งนี้ก็คงเป็นหมวดหมู่นี้นี่แหละครับ เพราะมันคือการเอาเมนูที่ขายดีในมื้อเย็นวันปกติ มารวมกันให้เราสั่งกินได้แบบไม่อั้น ไม่ยั้งในยามเที่ยงหรือบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ เมนูแต่ละจานนี่ใช้วัตถุดิบดีมาก ดีจนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ และก็แต่ละจานก็พิถีพิถัน ไม่ได้สักแต่ว่ารีบ ๆ ทำออกมาจากครัว (จนทางพนักงานบอกว่าให้สั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสักพักเลย)
กุ้งทอดวาซาบิ (Deep-fried prawns with green mustard mayonnaise and mango) - อร่อยมากครับ รสชาติ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แฝงไปด้วยความอร่อยให้เราค่อย ๆ คลายมันออกมา อร่อยจริง ๆ
ผัดคะน้าซีฟู้ดเอ็กซ์โอซอส (Sauteed kale with scallops and octopus slices in X.O. sauce) - Scallops ตัวใหญ่มาก ๆ ผักนุ่ม ๆ สีเขียวสดอร่อยตัวปลาหมึกก็มาเนื้อสด ๆ เด้ง ๆ และทั้งหมดนี้ผสมผสานกันมาในซอสเอ็กซ์โอ โอว ฟิน
ปลาหิมะซอสซีอิ๊ว (Soy honey-glazed snow fish fillet served with salad greens) - ชอบที่สุดในเมนู a la carte เลยครับอันนี้ เป็นปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วแบบไร้ที่ติเลย งงว่าทำคุณภาพและรสชาติแบบนี้มาได้ยังไงใน all-you-can-eat menu แบบนี้!
เนื้อปลาเก๋าผัดเต้าซี่รากบัว (Wok-fried garoupa fillet with lotus root and black bean sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิดครับ
ซี่โครงหมูอบซอสบ๊วย (Wok-baked pork belly ribs with spicy plum sauce) - อร่อยเช่นกัน ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ดี
เนื้อผัดพริกไทยดำ (Wok-seared beef tenderloin with black peppercorn and seasonal soy sauce) - จานนี้ก็ highlight ครับเนื้อนุ่ม รสชาติแบบจีน ๆ เสฉวนหน่อย เพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันหมด
Rice and Noodles
ข้าวผัดฮกเกี้ยนทะเล ("Hokkien" style fried rice with shredded dried conpoy and assorted seafood) - จานนี้สมกับเป็นข้าวผัดทะเลจริง ๆ ครับ เพราะมาเป็นอารมณ์ข้าวต้มเลย จานนี้ผู้ร่วมโต๊ะทุกคนชอบมาก ๆ ส่วนตัวผมก็ค่อนข้างชอบนะ ตัวน้ำนั้นจะอารมณ์ประมาณน้ำราดหน้า จะเหนียว ๆ หนืด ๆ นิดหน่อย ส่วนตัวเครื่องก็ผสมผสานมาดี ทั้ง seafood ทั้งผัก รสชาติจะออกแนวฮ่องกง ๆ หน่อยจานนี้
บะหมี่กรอบราดหน้าซีฟู้ด (Crispy noodles topped with seafood and egg sauce) - อร่อยครับ โดดเด่นที่ตัวเครื่องที่ให้ seafood มาเยอะอีกแล้ว (เหมือนร้านนี้จะไม่งกอาหารทะเลเลยนะครับเนี่ย) เส้นราดหน้าก็พิเศษหน่อยตรงที่จะกรอบ ๆ อร่อยไปอีกแบบ
บะหมี่ผัดซีฟู้ด (Stir-fried egg noodles with seafood and soya sauce) - จานนี้ออกจะธรรมดาที่สุดในเมนูข้าวและก๋วยเตี๋ยวครับ ไม่โดดเด่นเท่าจานอื่น
อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ - ผมไม่ค่อยได้กินเท่าไร เพราะเมนูแบบที่สั่งในเมนูนั้นน่าสนใจกว่า แต่ก็พอจะกินเกือบ ๆ ครบ line อาหารอยู่เหมือนกัน ที่ชอบ ๆ และไม่คิดว่าจะมีก็คงเป็นตัวหมูหันล่ะครับ ส่วนอย่างอื่น ไม่ว่าจะไก่แช่เหล้า, เป็ดย่าง, เป็ดปักกิ่ง, หมูแดง, แมงกะพรุนน้ำมันงา, เกี๊ยวไข่เค็ม และอื่น ๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐานเลย
ด้านล่างนี่คือเป็ดปักกิ่งครับ ห่อมาให้เรียบร้อย
ซุปต่าง ๆ ซุปเสฉวน, เกี๊ยวน้ำ, ซุปเป๋าฮื้อ
[SR] อลังการไปกับอาหารจีน Sunday Brunch ที่ The China House - Mandarin Oreintal Bangkok
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร - อาทิตย์, 11.30 - 14.30 น. และ 18.00 - 22.30 น.
อังคาร - เสาร์ : มีทั้ง A la carte Menu และแบบบุฟเฟ่ต์ Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net)
วันอาทิตย์ : Sunday Brunch Buffet มีสองราคา (1,154 บาท net + รวมน้ำชา) (1,625 บาท net + รวมน้ำชา + free flow wine)
Summer Promotion ถึงวันที่ 30 กันยายน 2013 : อังคาร - เสาร์ Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net + น้ำชา + Soft drink)
Citibank Promotion ถึงวันที่ 30 กันยายน 2013 : มา 3 จ่าย 2 Dim Sum All You Can Eat (888 บาท net + น้ำชา + Soft drink) เฉพาะบัตร Citibank Altima และ Platinum Select
รายละเอียดอื่น ๆ รบกวนโทรสอบถามทางโรงแรมเพิ่มเติมได้เลยครับ
ตัวห้องอาหาร China House นี่ก็เป็นอะไรที่ตั้งชื่อได้เหมาะสมดีครับ อย่างแรกเลยคือตัวร้านนั้นเป็นบ้านที่ตั้งออกมาเป็นเอกเทศจากตัวโรงแรม และมีการดัดแปลงตกแต่งออกมาเป็นแนว Shanghai 1970 หรือเป็นแนวจีน modern ๆ หน่อยนั่นเอง ตัวร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากห้องอาหารจีนอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมาคือจะไม่มีส่วนห้องโถงรวมที่จะวางโต๊ะสำหรับแขกทั่วไปเอาไว้เยอะ ๆ และมีห้องย่อย ห้องส่วนตัว เป็นโต๊ะจีนแยกเพิ่มเติมออกไป แต่ที่นี่คือ พอเดินเข้ามาในห้องโถงของทางร้าน ถ้ามาในวันอาทิตย์ก็จะเจอกับไลน์อาหารจีนบุฟเฟ่ต์แบบอลังการต้อนรับเราไว้ก่อนเลย และสองฝั่งของห้องโถงนี้ก็จะเรียงรายไปด้วยโต๊ะที่วางไว้แบบเป็นสัดเป็นส่วน เน้นความเป็นส่วนตัว และมีให้เลือกนั่งกันถึง 2 ชั้นเลย เป็นบรรยากาศร้านในแบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนครับ เก๋ ดูดี มีสไตล์จริง ๆ (แฟนผมชอบมาก) ในวันที่ผมไปนั้น แขกมากันแทบจะเต็มทุกโต๊ะทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งทางพนักงานก็บอกเอาไว้ว่าตัว Sunday Brunch ของที่ China House แห่งนี้ขายดีมาก ๆ เต็มทุกอาทิตย์ ถ้าจะไปยังไงก็จองกันเอาไว้ก่อนเนิ่น ๆ นะครับ
(แน่นอนว่าไม่ต้องเขียนถึงการบริการของที่นี่อยู่แล้วใช่มั้ยครับ? โรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้ ได้ชื่ออยู่แล้วว่าบริการดีที่สุดในสามโลกเลย ซึ่งบริกรของที่ China House แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นครับ บริการทุกระดับประทับใจ ทั้งมารยาท การดูแลเอาใจใส่ และยิ่งแต่งตัวแบบจีน ๆ เพิ่ม feeling ความเป็นจีนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอินสุด ๆ ครับ)
อาหารในตัว Sunday Brunch นี้ผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทละกันนะครับ โดยจะแบ่ง 3 ประเภทจากตัวเมนูที่ทางร้านกำหนดเอาไว้เอง บวกเพิ่มกับที่อยู่ในไลน์ buffet ที่เราสามารถเดินไปตักเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปตัก หรือสั่งมากินได้ตลอดเวลาที่มื้อนี้ครอบคลุมคือ 11.30 - 14.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ เลย
หมวดติ่มซำ (Dim Sum)
รวม ๆ แล้วตัวติ่มซำในมื้อนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่อาจเพราะว่าติ่มซำที่ได้กินนั้นค่อนข้างน้อยมีแค่ 7 อย่าง เลยยังไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติได้ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่อื่น ๆ ที่กินมาแล้ว ส่วนใหญ่จะกินกันอยู่ที่ 20 - 30 อย่าง และก็ตัวเมนูหมวดถัดไปหรือ a la carte กับพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวนั้นทำได้โดดเด่นกว่าติ่มซำมาก ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวติ่มซำในมื้อนี้ก็ถือว่าทำได้ดีสมชื่อ China House ล่ะครับ
ขนมจีบเอ็กซ์โอซอส (Shrimp and pork "Siew Mai' dumplings flavored with X.O. sauce) - อร่อยครับ ขนมจีบลูกใหญ่ เนื้อกุ้งอัดแน่น ได้รสแปลกใหม่จากซอส X.O.
ฮะเก๋าหอยเชลล์และกุ้ง (Steamed scallop and minced shrimp dumplings wrapped in spinach wheat dough) - คล้าย ๆ ขนมจีบ ลูกค่อนข้างใหญ่ เนื้อกุ้งและหอยเชลล์อัดแน่น แป้งมาแบบบาง ๆ ใส ๆ กำลังดี และไม่เปื่อยลุ่ย
ฝันโก๋แต้จิ๋ว ("Toechew" style steamed crystal dumplings with peanuts) - อันนี้ค่อนข้างธรรมดาไปสักหน่อย เครื่องด้านในเคี้ยวแล้วออกแข็งกระด้างไปนิดนึงครับ
ก๋วยเตี่ยวหลอดกุ้งสด (Steamed rice rolls "Cheong Fun" with shrimps) - อันนี้อร่อยดีครับ อร่อยมากก็คงจะไม่ผิดนัก ให้เป็นอันดับ 1 ของติ่มซำในวันนี้เลย กุ้งตัวใหญ่ น้ำซีอิ๊วกลมกล่อม
ซาลาเปาเซี่ยงไฮ้ ("Shanghainese" style pork dumpling served with red vinegar) - หรือ เสี่ยวหลงเปา เป็นเสี่ยวหลงเปาที่ชิ้นใหญ่ดี ใส่มาในเข่งเล็ก ๆ น่ารักดีครับ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม แป้งเหนียวนุ่มอร่อยใช้ได้เลย
มะม่วงทอดไส้กุ้ง (Deep-fried mango fritters with shrimps) - อร่อยดีครับ ชอบอันดับ 2 ในมื้อนี้ของติ่มซำเลย
เกี๊ยวกุ้งทอด (Deep-fried shrimp wanton served with sweet and sour sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิด
Seafood & Poultry & Vegetables a la carte
ผมรู้สึกว่า Highlight ของ Sunday Brunch ณ China House - Mandarin Oriental แห่งนี้ก็คงเป็นหมวดหมู่นี้นี่แหละครับ เพราะมันคือการเอาเมนูที่ขายดีในมื้อเย็นวันปกติ มารวมกันให้เราสั่งกินได้แบบไม่อั้น ไม่ยั้งในยามเที่ยงหรือบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ เมนูแต่ละจานนี่ใช้วัตถุดิบดีมาก ดีจนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ และก็แต่ละจานก็พิถีพิถัน ไม่ได้สักแต่ว่ารีบ ๆ ทำออกมาจากครัว (จนทางพนักงานบอกว่าให้สั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสักพักเลย)
กุ้งทอดวาซาบิ (Deep-fried prawns with green mustard mayonnaise and mango) - อร่อยมากครับ รสชาติ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แฝงไปด้วยความอร่อยให้เราค่อย ๆ คลายมันออกมา อร่อยจริง ๆ
ผัดคะน้าซีฟู้ดเอ็กซ์โอซอส (Sauteed kale with scallops and octopus slices in X.O. sauce) - Scallops ตัวใหญ่มาก ๆ ผักนุ่ม ๆ สีเขียวสดอร่อยตัวปลาหมึกก็มาเนื้อสด ๆ เด้ง ๆ และทั้งหมดนี้ผสมผสานกันมาในซอสเอ็กซ์โอ โอว ฟิน
ปลาหิมะซอสซีอิ๊ว (Soy honey-glazed snow fish fillet served with salad greens) - ชอบที่สุดในเมนู a la carte เลยครับอันนี้ เป็นปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วแบบไร้ที่ติเลย งงว่าทำคุณภาพและรสชาติแบบนี้มาได้ยังไงใน all-you-can-eat menu แบบนี้!
เนื้อปลาเก๋าผัดเต้าซี่รากบัว (Wok-fried garoupa fillet with lotus root and black bean sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิดครับ
ซี่โครงหมูอบซอสบ๊วย (Wok-baked pork belly ribs with spicy plum sauce) - อร่อยเช่นกัน ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ดี
เนื้อผัดพริกไทยดำ (Wok-seared beef tenderloin with black peppercorn and seasonal soy sauce) - จานนี้ก็ highlight ครับเนื้อนุ่ม รสชาติแบบจีน ๆ เสฉวนหน่อย เพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันหมด
Rice and Noodles
ข้าวผัดฮกเกี้ยนทะเล ("Hokkien" style fried rice with shredded dried conpoy and assorted seafood) - จานนี้สมกับเป็นข้าวผัดทะเลจริง ๆ ครับ เพราะมาเป็นอารมณ์ข้าวต้มเลย จานนี้ผู้ร่วมโต๊ะทุกคนชอบมาก ๆ ส่วนตัวผมก็ค่อนข้างชอบนะ ตัวน้ำนั้นจะอารมณ์ประมาณน้ำราดหน้า จะเหนียว ๆ หนืด ๆ นิดหน่อย ส่วนตัวเครื่องก็ผสมผสานมาดี ทั้ง seafood ทั้งผัก รสชาติจะออกแนวฮ่องกง ๆ หน่อยจานนี้
บะหมี่กรอบราดหน้าซีฟู้ด (Crispy noodles topped with seafood and egg sauce) - อร่อยครับ โดดเด่นที่ตัวเครื่องที่ให้ seafood มาเยอะอีกแล้ว (เหมือนร้านนี้จะไม่งกอาหารทะเลเลยนะครับเนี่ย) เส้นราดหน้าก็พิเศษหน่อยตรงที่จะกรอบ ๆ อร่อยไปอีกแบบ
บะหมี่ผัดซีฟู้ด (Stir-fried egg noodles with seafood and soya sauce) - จานนี้ออกจะธรรมดาที่สุดในเมนูข้าวและก๋วยเตี๋ยวครับ ไม่โดดเด่นเท่าจานอื่น
อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ - ผมไม่ค่อยได้กินเท่าไร เพราะเมนูแบบที่สั่งในเมนูนั้นน่าสนใจกว่า แต่ก็พอจะกินเกือบ ๆ ครบ line อาหารอยู่เหมือนกัน ที่ชอบ ๆ และไม่คิดว่าจะมีก็คงเป็นตัวหมูหันล่ะครับ ส่วนอย่างอื่น ไม่ว่าจะไก่แช่เหล้า, เป็ดย่าง, เป็ดปักกิ่ง, หมูแดง, แมงกะพรุนน้ำมันงา, เกี๊ยวไข่เค็ม และอื่น ๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐานเลย
ด้านล่างนี่คือเป็ดปักกิ่งครับ ห่อมาให้เรียบร้อย
ซุปต่าง ๆ ซุปเสฉวน, เกี๊ยวน้ำ, ซุปเป๋าฮื้อ