คนอาหรับเค้ามีความรักแบบป๊อปปี้เลิฟ หรือว่าผู้ชายชอบใครก็จีบได้ สาวๆสามารถเลือกที่จะคบไม่คบได้มั้ยครับ หรือต้องคลุมถุงชน

คนอาหรับเค้ามีความรักแบบป๊อปปี้เลิฟ หรือว่าผู้ชายชอบใครก็จีบได้ สาวๆสามารถเลือกที่จะคบไม่คบได้มั้ยครับ หรือต้องคลุมถุงชน คือมีความรักเหมือนหนุ่มสาวชาติอื่นๆที่สามารถเลือกที่จะคบ ไม่คบ มีความรัก ความสมหวัง มีอกหัก มีผิดหวัง มีหึงหวง เหมือนคนชาติอื่นๆมั้ยครับ หรือเรื่องตรงนี้เค้าไม่สามารถมีกันได้เหมือนคนศาสนาอื่น ชาติอื่นครับ ขอบคุณครับ อมยิ้ม17

ขอถามห้องต่างแดน และห้องศาสนาด้วยน่ะครับ เพราะคนอาหรับจะเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และคนที่อยู่ต่างแดนน่าจะทราบมุมมองตรงนี้ เพราะเป็นคนในพื้นที่
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เราออกตัวก่อนว่า เราแต่งงานกับชาวอาหรับมุสลิม..^__^..
เคยรู้เรื่องคลุมถุงชน เรื่องแต่งงานในหมู่ลูกพี่ลูกน้อง บ่องตงๆ เรารับไม่ได้!!
แต่เรากลับได้แฟน(สามี ณ วันนี้) เป็นอาหรับ เอ้า..อย่าเกลียดไรกันนะเออ ได้เลยนะเออ
สามีเล่าให้ฟังละเอียดยิบๆว่า พี่ชายพี่สาวแต่ละคนของเขา (มีกัน7พี่น้อง) ไม่มีใครโดนจับคลุมถุงชนเลย
เขายกตัวอย่างพี่สาวให้ฟังว่า
1. ผช คนนึงชอบความสวยน่ารักของ ผญ(พี่สาวเขา) เลยแอบตามไปห่างๆจนรู้จักบ้าน แต่ไม่แสดงตัวหรือทำให้ ผญ ลำบากใจ
2. ผช กลับไปบอกแม่ ว่าชอบ ผญ คนนึง ไปทาบทามให้หน่อย
3. แม่ ผช และตัว ผช ก็มาที่บ้าน ผญ มาขอทำความรู้จัก (ควรเป็นแม่กะแม่ เพราะส่วนมากแม่ๆอาหรับอยู่บ้านกัน)
4. พอรู้จักแล้ว ผช กะแม่ก็จะกลับไปรอฟังข่าว/ ทางบ้าน ผญ จะปรึกษากัน รวมทั้งถามลูกสาวตนถึงความสมัครใจด้วย อันนี้สำคัญ
5. ถ้า ผญ ตกลง, แม่ก็จะส่งข่าวให้แม่ ผช รู้ หลังจากนั้นปฏิบัติการ puppy love ก็เริ่มขึ้น, โดย ผช+แม่เขา จะไปเยี่ยมบ้าน ผญ ได้
6. แม่ จะนั่งคุยกะ อีกแม่ , แต่อยู่ในระยะที่มองเห็นเด็กทั้งคู่ได้ชัดเจน ผช จะจีบ จะเกี้ยวด้วยคำพูดอะไร ก็พูดได้เลยแต่ห้ามแตะตัวนะ
7. ไปๆมาๆได้สักระยะ ถ้าทุกอย่างราบรื่นก็จัดการ "หมั้น". จัดเป็นพิธีรีตองให้ชาวบ้านรู้ มีเลี้ยงนิดหน่อย ฝ่ายหญิงแต่งตัวงดงามแต่ยังไม่ใช่ชุดสีขาวของเจ้าสาว
8. หลังหมั้นก็อาจจะมีจับไม้จับมือกันได้บ้าง แต่ยังคงอยู่ในสายตาผู้ปกครอง
9. กำหนดวันแต่งถ้ารู้สึกความรักสุกงอมควรจะถึงฤดูเก็บเกี่ยว /เตรียมเรือนหอ /ทองตามที่ตกลงกัน
10. แต่งงาน จัดพิธีตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลง/จากนี้อยากทำไรก็ทำได้เต็มที่

ประมาณนี้แล...ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่วัฒนธรรมส่วนตัวของทั้งสองฝ่ายด้วยนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อาหรับมีหลายกลุ่ม ถ้าพวกเคร่ง ๆ ก็ GCC ซึ่งวัฒนธรรม intercourse จะ intersect ไปกับพวกกลุ่มประเทศพวก อินเดีย ปากี บังคลา ศรีลังกา ด้วย (แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ใช่อาหรับ)  แต่มีการจัดหาคู่ให้ลูกชายเหมือน ๆ กัน โดยพ่อแม่จะเป็นคนหาให้  และก็มีอาหรับพวกสมัยใหม่หน่อย หรือเรียกว่าแขกขาว เป็นอาหรับเหมือนกันแต่ไม่สุดโต่งเหมือนซาอุ แต่งตัวปกติทั้งหญิงชาย ไม่ต้องใส่โต๊ปหรือ อาบาญ่า (ชุดคลุมสีขาว ผู้ชาย สีดำ ผู้หญิง)

พึงระลึกไว้ก่อนว่ากลุ่มประเทศอ่าว และ อัฟริกาเหนือ จะเคร่ง แน่นอน ๆๆๆๆ (GCC - Gulf countries) มีอะไรบ้างก็ไปกุเกิ้ลดู คือพวกที่แขกใส่ชุดขาว ส่วนใหญ่ไว้เครา รวย (ซาอุ การ์ต้า โอมาน ยูเออี) ยกเว้นอัฟริกาเหนือที่จะจนกว่า จนไปถึงจนมากกกก (ลิเบียและประเทศกลุ่มอัฟริกาทั้งหลาย)

ส่วนการปฏิบัติก็แล้วแต่ความเคร่ง แล้วแต่ครอบครัวค่ะ พวกที่เคร่งมาก ๆ (เช่นซาอุ) นี่ไม่ได้เลย เคยมีข่าว ผู้หญิงเล่นเฟซบุค แชทกับผู้ชาย โดนครอบครัวฆ่าเลย เพราะถือว่าทำตัวเสื่อมเสีย (แต่ก็ไม่ได้เป็นทั้งประเทศ อันนี้แล้วแต่ครอบครัวจริงๆ อย่าไปเหมารวม เพราะประเทศพวกนี้กำลังพัฒนาตัวเอง รับอิทธิพล และพยายามทำความเข้าใจกับการเปลียนแปลงของโลกได้มากขึ้น ชายหญิงคุยด้วยกันได้มากขึ้น (ประเทศรอบ ๆ ซาอุ) ไม่เห็นด้วยกับที่ผู้หญิงต้องคลุมทั้งหน้าเหลือแต่ลูกกะตา (แต่คนรุ่นใหม่พูดอะไรไม่ได้ แต่จริง ๆ เขาก็ไม่เห็นด้วยหรอก) ยิ่งเขาเห็นการเปลียนแปลงของ "ความเสรี" จากคนต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศ ครั้นจะทำตัวอยู่หลังเขาไปอีก 1000 ปี มันก็กระไรอยู่  

การเกี้ยวกันระหว่างชายหญิง ก็จะมีหลายเลเวล โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้ใช้ social media ค่ะ บางทีพ่อแม่ก็ไม่รู้ แต่ถ้าถึงเวลาเขาก็จะบอกพ่อแม่ (แต่อาจจะไม่บอกว่า เคยแชทกันแล้ว)  เพราะพ่อแม่ ต้องไปทาบทามค่ะ ส่วนใหญ่ก็แม่ไปหาแม่น่ะแหละ ส่วนถ้าถามว่ามีกุ๊กกิ๊ก puppy love มั้ย ก็อาจจะมีแต่ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะ perception ของ แฟน และความรักต่างกะคนที่มาจากสังคมเปิด  หรือถ้าหนุ่มๆ พวกนี้จะมีแฟน ก็มักจะเป็นกับสาว ต่างชาติเท่านั้น เพราะข้ามขั้นตอนได้ แต่สาวชาติตัวเอง (เช่น อาหรับมุสลิมเหมือนกัน เช่นหนุ่มคูเวตกะสาวคูเวต) ทำไม่ได้ ย้ำว่าทำไม่ได้แน่นอนๆๆๆ เพราะต้องทำตามขั้นตอน ที่ด้านบน บรรยาย คือ ให้แม่ทาบทาม  หนุ่มอาจจะไปเจอเธอในห้าง หรือเจอเธอที่แบงค์ แล้วก็จะสืบ ๆ ว่าหล่อนเป็นลูกใคร อะไรยังไง แล้วให้แม่ไปทาบทาม  

ส่วนประเทศที่เสรี หน่อย ๆ เช่น ตุรกี / เลบานอน หาก ผช มาเกี้ยวผู้หญิงต่างชาติ ผช ก็จะฟอร์มไม่พูดถึง ก็ทำตัวกลมกลืนเป็นวัฒนธรรมยุโรปไปซะงั้น  (เพราะจริง ๆ พวกนี้มันไม่ได้กะเอาระยะยาว อันนี้บอกตรงๆ) ถ้า ผช จริงจัง กะสาวต่างชาติ เขาจะต้องบอกแต่เนิ่น ๆ ว่าเขาเป็น มุสลิม และเขาตั้งใจว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ ดังนั้นฝ่ายหญิงจะต้องเปลียนศาสนา  ในระยะนี้ก็อาจจะแอบคบ ๆๆๆๆ กันไป ไม่บอกพ่อแม่ได้ แต่พอถึงเวลาอันสมควรก็ต้องบอกอะค่ะ  และฝ่ายหญิงก็พร้อมยินยอม ที่จะเปลียนศาสนา  แต่ การปฏิบัติ ก็อยู่ที่ความ flexible ของแต่ละครอบครัว บ้างก็คาดหวังว่า ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  บ้างก็ไม่ว่าอะไร (ตุรกี ซีเรีย โมรอคโค เลบานอน) ครอบครัวสมัยใหม่จะเข้าใจลูกมากขึ้น ก็แค่อยากให้ลูกได้ผู้หญิงที่ดี ไม่มีข้อ ครหา เพราะตามสังคมพวกเขาเขาก็อาจจะมองว่า ผญ ที่ได้มาง่าย มันก็ง่ายไป ง่ายๆ อยู่ก่อนแต่งเหรอ เสนอตัวมาให้ลูกชายชั้นเอง จะมาเอาอะไรกันนักหนา และอื่นๆ  แม่ ๆ ของ ผช เหล่านี้จะปกป้องลูกชายตัวเองมาก และจะมองว่า ผญ (ที่ไม่ใช่มุสลิม เพราะเขามักจะคิดว่า ผญ มุสลิม ไม่มีทางทำแบบนี้) อยากเสนอตัวมาให้ลูกเขาก่อนทำไม แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่า ผญ นะ เพราะเห็นว่าลูกชายเอาเล่น ๆ เป็นประสบการณ์ แต่ไม่รับว่าเป็นแฟนลูกชาย  แม่ ๆ ของพวกนี้มักจะหาผู้หญิงมาให้ลูกชายเลือก  โดยทั่วไป ก็มาจากญาติห่าง ๆ เสร็จก็จะนัดดูตัวกัน เหมือนอย่าง คห บนเล่า ต้องมีบุคคลที่สามอยู่ในสถานที่ด้วย  ทั้งสองฝ่าย มีสิทธิ์ ปฏิเสธกันและกันได้ ถ้าไม่ชอบ เขาก็ไม่ได้บังคับ แต่ไม่สามารถพูดคุยกันสองต่อสอง (ทางโทรศัพท์ หรือแชท อะไรก็ไม่ได้) ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้จนกว่าจะแต่งงาน แตะต้องตัวไม่ได้เลย หากฝ่ายชายดันไปชอบสาวต่างชาติ (ที่ไม่ใช่มุสลิม) จริง ๆ และต้องการพัฒนาความสัมพันธ์จริงจัง ฝ่ายชายก็ต้องแนะนำฝ่ายหญิงให้ครอบครัว บรรยายถึงคุณลักษณะคุณงามความดี เพราะแม่ไม่ได้รับรู้มาก่อนว่าผู้หญิงเป็นใคร  จริง ๆอาจจะคบกันแล้วแหละ แต่ต้องเล่าให้แม่ฟังแต่ในทางที่ดีงาม เช่นฝ่ายชายไปเรียนเมืองนอก ดันไปเจอสาวต่างชาติที่เมืองนอก  แต่บางสังคมก็ต้องแต่งกับคนที่พ่อแม่เลือกมาแล้วเท่านั้น (แต่มีหลายตัวเลือก แม่แนะนำมา 10 คน เอาคนไหนก็ได้ แต่ยังไงแม่ก็ไม่รับสาวต่างชาติ)   แต่ประเทศที่เปิด เช่นเลบานอน บางทีพ่อแม่ก็หลับหูหลับตาซะเพราะไม่ได้ติดตามลูกตลอดเวลา  คือ ชายและหญิงจริง ๆ มันก็ (แอบ) คบกันไปไหนถึงไหนแล้ว แต่หลังจากนั้นก็มาทำพิธีแต่งงานให้ถูกต้องแค่นั้นแหละ  แต่แบบนี้ไม่ใช่พวกอาหรับอ่าวนะ เพราะกลุุ่มประเทศอ่าวทำไม่ได้แน่นอน

งานแต่งงาน  คนอาหรับจริง ๆ (ประเทศอ่าว) เขายังแยกฉลองเลย ฝ่ายชายฉลองเฉพาะกลุ่มผู้ขาย ฝ่ายหญิงก็แยกกัน  เพื่อน ๆ ของผู้ชายจะเห็นหน้าแฟน (ภรรยา) ของฝ่ายชายหลังจากที่ เสร็จพิธีแต่งงานแล้วเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 6
อาหรับมุสลิม/มุสลิมในสายตาคนภายนอก.  (ข้อมูลจากสามีค่ะ อาจจะไม่เป๊ะ ขออนุญาตลงไว้ เพราะเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญแรกๆที่คนนึกถึงกันค่ะ)
มีได้ 4 เมีย !!!!
บอกตรงนี้เลยจ้า... อยากมี4เมีย มีได้ค่ะ แต่จะต้อง
- เมีย No.1 ไปสวรรค์
- เมีย No.1 อนุญาติ/แนะนำให้มี***
- หรือเมีย No.1 เป็นหมันถาวรโดยไม่สามารถมีทายาทได้ด้วยประการทั้งปวง , อันนี้สามี"มีสิทธิ์" หาเมียใหม่ หรือหาเมียเพิ่ม แต่... ขึ้นอยู่กับตัวสามีว่าจะ ใช้สิทธิ์ ตรงนี้หรือไม่ (เคยเห็นสามีของ ผญ คนนึง เขา"เลือก" สละสิทธิ์เพราะรักเมีย)
- ภาวะสงครามที่มีหญิงหม้าย(ลูกติด) ,อาจมีภรรยาใจกว้างบางคนเสนอให้สามีตนเองแต่งงานเพิ่มได้ เพื่อช่วยเหลือหญิงหม้ายและเด็กกำพร้าเหล่านั้น (ทั้งนี้แล้วแต่ภรรยานะ)
&&&&&&&&&&&&
ถ้าแต่งงานเพิ่ม จะต้องระลึกไว้เสมอว่า "ความยุติธรรม" จะต้องเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย
ตรงนี้เป็นประเด็นหลักอีกเหมือนกัน ผช ส่วนมากที่ไม่แต่งเมียเพิ่มเพราะเหตุนี้
ไม่ยุติธรรมได้มั๊ย...ได้ค่ะ ใครจะไปตามเช็คได้ตลอดทุกเรื่อง ทุกเวลา
แต่สามีต้องไปตอบคำถามพระเจ้าในวันพิพากษาเองนะคะ
แต่งงานเพิ่ม...ทำได้...แต่ไม่ practical ค่ะ...^___^...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่