หลังจากที่มีการปิดลานจอดรถระยะยาวโซนเอฟโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ผู้ที่ไปปั่นจักรยานเป็นประจำที่สุวรรณภูมิก็เดือดร้อนกันไปพอสมควร
วันนี้จากการประสานงานของชมรม LifeCycling ร่วมประชุมกับท่าน น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานบอร์ด ทอท. ที่ท่านก็ชอบปั่นจักรยานอยู่แล้ว ร่วมกับ นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงแนวทางขอใช้พื้นที่จอดรถ นอกจากนั้นยังต่อยอดไปถึงการพัฒนาพื้นที่การท่าที่มีพื้นที่ว่างอยู่มากมาย ให้สามารถนำมาใช้ปั่นออกกำลังปั่นจักรยานเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สาธารณะชน
จากที่ประชุม ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ในการจะพัฒนาพื้นที่ของการท่าอากาศยาน ให้นำมาทำเป็น "เส้นทางปั่นจักรยาน" ที่เหมาะกับการออกกำลังโดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปปั่นบนถนนร่วมกับรถยนต์ โดยการท่ามีถนนเส้นทางรอบสุวรรณภูมิ (ตามเส้นประสีแดง) ซึ่งมีระยะทางประมาณ 30กม. เป็นถนนราดยางอย่างดี เป็นถนนปิดเพื่อใช้เป็นการภายในของการท่า โดยยินดีที่จะนำมาพัฒนาให้เป็นเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน เส้นทางนี้อาจจะเหมาะใช้ปั่นในเวลากลางวัน แต่ต่อไปถ้ามีผู้มาปั่นกันมากขึ้น อาจจะใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงระบบไฟเพื่อปั่นในตอนกลางคืนก็ได้ ซึ่งก็เป็นแผนที่การท่าที่สามารถทำ CSR เพื่อตอบแทนสังคมอยู่แล้ว และการปั่นจักรยานก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์ ชาวจักรยานที่อยากออกกำลังก็ไม่ต้องไปเสี่ยงบนถนน ไม่ต้องไปสร้างไบท์เลนที่เบียดเบียนพื้นที่ของรถยนต์ด้วยครับ
โดยวันนี้ที่ได้มีกาทดลองปั่นตามเส้นสีแดงทึบ ลักษณะถนนเรียบสภาพดีครับ แต่เส้นทางถนนจริง สามารถวิ่งโดยรอบบนสีแดงเส้นประ เป็นระยะรวม 30กม.
นอกจากนี้ จะมีการสร้างถนนใหม่ ในเส้นทางสีเขียวที่ผมเขียนไว้ เป็นเส้นทางคู่ขนานกับถนนเดิมที่ตอนนี้ปั่นกันอยู่ ถนนที่จะสร้างใหม่นี้ จะทำสำหรับจักรยานเท่านั้น เป็นเส้นทางระยะทางไปกลับก็ 10กม. โดยจะมีคลับเฮาส์ ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ ครบวงจร เส้นทางนี้จะมีติดไฟถนนปั่นได้ตลอดคืน ส่วนงบประมาณต้องมาคุยกันอีกที แต่คงไม่ใช่ปัญหา เพราะมีทั้งงบของการท่าเอง และทาง LifeCycling ก็สามารถช่วยหาสปอนเซอร์จากบริษัทสิงห์ และpartner ต่างๆมาร่วมกันได้แน่นอนครับ
ตามภาพ พื้นที่ด้านซ้ายของถนนนี้ ต่อไปจะเนรมิตขึ้นมาเป็นเส้นทางปั่นจักรยานโดยเฉพาะของคนไทยครับ
ใครจะคิดว่า วันนึงเรากำลังจะได้มีเส้นทางซ้อมปั่นจักรยานจริงๆแล้ว ผมว่านับเป็นการสร้างถนนจักรยานได้มีประโยชน์ ยิ่งกว่าที่ภาครัฐเคยทำเส้นทางจักรยานในเมืองใดๆมาก่อน โดยจุดประสงค์ของเส้นทางจักรยานนี้ คือเพื่อใช้ออกกำลัง ไม่ใช่เน้นให้เป็นเส้นทางสัญจรนะครับ ต่อไปผมว่าเป็นไปได้ที่ที่ว่างต่างๆรอบข้างเหล่านี้ อาจจะถูกพัฒนาขึ้นเป็นเมืองและมีร้านค้าจักรยานมากมายบนถนนนี้ หรืออาจจะต่อยอดถมดินขึ้นมาเป็นภูเขาสำหรับการซ้อมขึ้นภูเขาหรือสำหรับจักรยานเสือภูเขาบ้างก็ได้ เอ..ผมชักจะคิดฝันไปไกลแล้วซิ ... หุหุหุ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่มีส่วนสนับสนุนโครงการนี้ ท่าน น.ต.ศิธา ทิวารี (ปุ่น) (ขอบคุณที่ทักว่าเข้าเวบ thaimtb ทุกวันครับ ) ท่านระวีวรรณ ผอ.การท่า และที่ขาดไม่ได้พี่ๆจากชมรม LifeCycling ที่อยู่เบื้องหลังการประสานงานโครงการนี้ครับ ในรูปมีคุณ ภูริต ภิรมย์ภักดี (เต้) กรรมการบริหาร บ.สิงห์ คอร์เปอเรชั่น , บดินทร์ บุญวิสุทธิ์ (บอส)โตโยต้าอยุธยา , ชัยภัฏ จาตุรงคกุล (แอะ) บ.บุญรอด , กฤษณะยศ บูรณะสัมฤทธิ (คริส เอมโพเรียม) และก็พี่ช้างจากพาราวินเซอร์/สปอร์ตไบค์ด้วยครับ
เครดิต :
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=736417
https://www.facebook.com/lifecyclingclub
แจ้งข่าวดี!! LifeCyCling ร่วมกับ การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะพัฒนาเส้นทางปั่นจักรยานแบบครบวงจร
วันนี้จากการประสานงานของชมรม LifeCycling ร่วมประชุมกับท่าน น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานบอร์ด ทอท. ที่ท่านก็ชอบปั่นจักรยานอยู่แล้ว ร่วมกับ นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงแนวทางขอใช้พื้นที่จอดรถ นอกจากนั้นยังต่อยอดไปถึงการพัฒนาพื้นที่การท่าที่มีพื้นที่ว่างอยู่มากมาย ให้สามารถนำมาใช้ปั่นออกกำลังปั่นจักรยานเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สาธารณะชน
จากที่ประชุม ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ในการจะพัฒนาพื้นที่ของการท่าอากาศยาน ให้นำมาทำเป็น "เส้นทางปั่นจักรยาน" ที่เหมาะกับการออกกำลังโดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปปั่นบนถนนร่วมกับรถยนต์ โดยการท่ามีถนนเส้นทางรอบสุวรรณภูมิ (ตามเส้นประสีแดง) ซึ่งมีระยะทางประมาณ 30กม. เป็นถนนราดยางอย่างดี เป็นถนนปิดเพื่อใช้เป็นการภายในของการท่า โดยยินดีที่จะนำมาพัฒนาให้เป็นเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน เส้นทางนี้อาจจะเหมาะใช้ปั่นในเวลากลางวัน แต่ต่อไปถ้ามีผู้มาปั่นกันมากขึ้น อาจจะใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงระบบไฟเพื่อปั่นในตอนกลางคืนก็ได้ ซึ่งก็เป็นแผนที่การท่าที่สามารถทำ CSR เพื่อตอบแทนสังคมอยู่แล้ว และการปั่นจักรยานก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์ ชาวจักรยานที่อยากออกกำลังก็ไม่ต้องไปเสี่ยงบนถนน ไม่ต้องไปสร้างไบท์เลนที่เบียดเบียนพื้นที่ของรถยนต์ด้วยครับ
โดยวันนี้ที่ได้มีกาทดลองปั่นตามเส้นสีแดงทึบ ลักษณะถนนเรียบสภาพดีครับ แต่เส้นทางถนนจริง สามารถวิ่งโดยรอบบนสีแดงเส้นประ เป็นระยะรวม 30กม.
นอกจากนี้ จะมีการสร้างถนนใหม่ ในเส้นทางสีเขียวที่ผมเขียนไว้ เป็นเส้นทางคู่ขนานกับถนนเดิมที่ตอนนี้ปั่นกันอยู่ ถนนที่จะสร้างใหม่นี้ จะทำสำหรับจักรยานเท่านั้น เป็นเส้นทางระยะทางไปกลับก็ 10กม. โดยจะมีคลับเฮาส์ ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ ครบวงจร เส้นทางนี้จะมีติดไฟถนนปั่นได้ตลอดคืน ส่วนงบประมาณต้องมาคุยกันอีกที แต่คงไม่ใช่ปัญหา เพราะมีทั้งงบของการท่าเอง และทาง LifeCycling ก็สามารถช่วยหาสปอนเซอร์จากบริษัทสิงห์ และpartner ต่างๆมาร่วมกันได้แน่นอนครับ
ตามภาพ พื้นที่ด้านซ้ายของถนนนี้ ต่อไปจะเนรมิตขึ้นมาเป็นเส้นทางปั่นจักรยานโดยเฉพาะของคนไทยครับ
ใครจะคิดว่า วันนึงเรากำลังจะได้มีเส้นทางซ้อมปั่นจักรยานจริงๆแล้ว ผมว่านับเป็นการสร้างถนนจักรยานได้มีประโยชน์ ยิ่งกว่าที่ภาครัฐเคยทำเส้นทางจักรยานในเมืองใดๆมาก่อน โดยจุดประสงค์ของเส้นทางจักรยานนี้ คือเพื่อใช้ออกกำลัง ไม่ใช่เน้นให้เป็นเส้นทางสัญจรนะครับ ต่อไปผมว่าเป็นไปได้ที่ที่ว่างต่างๆรอบข้างเหล่านี้ อาจจะถูกพัฒนาขึ้นเป็นเมืองและมีร้านค้าจักรยานมากมายบนถนนนี้ หรืออาจจะต่อยอดถมดินขึ้นมาเป็นภูเขาสำหรับการซ้อมขึ้นภูเขาหรือสำหรับจักรยานเสือภูเขาบ้างก็ได้ เอ..ผมชักจะคิดฝันไปไกลแล้วซิ ... หุหุหุ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่มีส่วนสนับสนุนโครงการนี้ ท่าน น.ต.ศิธา ทิวารี (ปุ่น) (ขอบคุณที่ทักว่าเข้าเวบ thaimtb ทุกวันครับ ) ท่านระวีวรรณ ผอ.การท่า และที่ขาดไม่ได้พี่ๆจากชมรม LifeCycling ที่อยู่เบื้องหลังการประสานงานโครงการนี้ครับ ในรูปมีคุณ ภูริต ภิรมย์ภักดี (เต้) กรรมการบริหาร บ.สิงห์ คอร์เปอเรชั่น , บดินทร์ บุญวิสุทธิ์ (บอส)โตโยต้าอยุธยา , ชัยภัฏ จาตุรงคกุล (แอะ) บ.บุญรอด , กฤษณะยศ บูรณะสัมฤทธิ (คริส เอมโพเรียม) และก็พี่ช้างจากพาราวินเซอร์/สปอร์ตไบค์ด้วยครับ
เครดิต : http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=736417
https://www.facebook.com/lifecyclingclub