เรื่องมีอยู่ว่า...
ฉันได้คุยกับผู้ชายคนนึง ซึ่งในตอนแรกเราคุยกันแบบเพื่อน แต่ผู้ชายคนนี้ในตอนนั้น อยู่ในช่วงที่ภรรยาได้ทิ้งเขาไป
(เขาและภรรยาคบกันมา 7 ปีมีลูกด้วยกัน2คนเป็นลูกแฝดหญิง) ในตอนนั้นเขาได้เกมเป็นที่ช่วยทำให้เขาหายเครียดหายเหงา หายคิดถึงภรรยาเขา (เราเจอกันในเกม)
ฉันไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของการจากไปของผู้หญิงคนนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ที่รู้คือผู้ชายคนนี้มีปัญหาทางคดีความ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสู้คดี
โดยที่แนวโน้ม ณ ตอนนั้นแทบจะไม่รอดคดีเลย ... แต่ภรรยาของเขากลับทิ้งเขาให้เขาต้องอยู่สู้คดีเพียงคนเดียว กำลังใจที่เขาต้องการก็ไม่มี
แถมภรรยายังหนี ทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับย่า (ฉันไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ผู้หญิงคนนั้นไปคืออะไร แต่เท่าที่ทราบในตอนหลัง น่าจะเกิดจาก
ผู้ชายคนนี้เป็นคนนิสัยเด็ก เอาแต่ใจ งี่เง่า งานบ้านไม่ทำ ค่อนข้างยังติดชีวิตวัยรุ่นที่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ และอีกประเด็นคือเขามักจะบอกกับลูกของเขาว่า แม่พร้อมเมื่อไหร่แม่จะกลับมา พร้อมในทีนี้คือมีเงินนั้นเอง) ซึ่ง ณ ตอนนั้น ฉันก็คอยให้กำลังใจเขาเสมอเรื่องคดีความ จนรับรู้ได้หละ ว่าผู้ชายคนนี้คิดกับเรามากกว่าเพื่อน แต่ด้วยความที่ว่าเขาก็มีภรรยาและลูกด้วยกันแล้ว และดูเขาจะลืมกันไม่ได้ อีกทั้งเขาก็ดูรักลูกมาก
เราต่างคนต่างรู้กันมาตลอดว่ารู้สึกดีต่อกัน ฉันก็คอยให้กำลังใจ เขาก็ทำตัวเปิดเผยมาก จนสุดท้ายก็ตกลงคบกัน ซึ่งในตอนนั้น ฉันทบทวนมาก
ว่าฉันควรจะเดินต่อไปดีไม๊ จนสุดท้ายเราก็คบกัน เจอกัน กินข้าว ได้ใช้ชีวิตร่วมกันบ้างในวันที่ฉันหยุดพักจากงาน เขาก็ทำให้ฉันมั่นใจเขาว่าเขาก็พยายามลืมผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน มีอยู่ครั้งนึงเหมือนกันที่ฉันจับได้ว่าเขากลับไปติดต่อและคุยกับภรรยาเขา ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะฉันก็พอมองออกว่าเขาทั้งคู่ยังรักกันอยู่ แต่ทำประชดใส่กัน แต่ใจฉันก็สู้นะ จนได้คุยกันแบบเด็ดขาดให้โทรไปหาผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าฉัน ซึ่งเขาก็ทำให้
จนวันนึง คดีตัดสินเสร็จสิ้นกระบวนการ ระยะเวลาที่ฉันได้อยู่เคียงข้างเขาไม่ต่ำกว่า 4 เืดือน สรุปคือ ... เขารอด ซึ่งเขาได้เอ่ยไว้แล้วว่า ถ้าเขารอด เขาจะบวช และฉันเคยพูดกับเขาว่า ถ้าเมื่อไหร่เขารอดผู้หญิงคนนั้นจะกลับมา กลับมาวันที่เธอบวชนั่นละ และความคิดฉันก็เป็นจริงผู้หญิงคนนั้นไปงาน ส่วนฉันติดงานเลยไม่ได้ไป แต่เพราะคิดแล้วว่าไปก็เป็นส่วนเกินของครอบครัวเขาอยู่ดี ฉันเลยเลือกที่จะไม่ไป ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไปถือหมอนให้เขาตามระเบียบคนรัก ฉันก็ไม่ได้อะไร ก็เข้าใจ
หลังจากเขาบวชได้วันนึง เขาได้เล่าให้ชั้นฟังว่าผู้หญิงคนนั้นโทรมาเพื่อมาขอคืนดี แต่เขาปฎิเสธไป เพราะเขาเลือกฉัน แต่ฉันก็เฝ้าบอกเขาเสมอว่า ถ้าอยากคบกัน ก็ช่วยไปหย่ากับเขาก่อนได้ไม๊ (ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาจดทะเบียนกันหลังจากคบกันได้ประมานเดือนนึง)
ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ที่ว่า...ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมหย่า ทำเพื่อแก้แค้นผู้ชายที่เคยไปทำให้เค้าเจ็บ แล้วฉันก็พยายามเด็ดขาด ว่าถ้าไม่หย่า ฉันก็คงจะคบกับเขาต่อไม่ได้ สงสารก็สงสารนะ แต่ฉันคิดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน เลยอยากรู้ว่า อยากฉันมันเรียกว่าชู้ หรือมือที่สามหรือเปล่า และฉันเลวมากไปไม๊ที่ไปยุให้เขาหย่ากัน แล้วฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี ??????? (เพราะเขาเคยพูดกับฉันมาคำนึงว่า...อย่างฉันไม่ได้เรียกว่าชู้หรือมือที่สามหรอก เพราะตอนที่เขามีฉัน ก็ไม่ได้มีผู้หญิงอีกคน มีคนนึงไปและมีคนนึงอยู่ มันไม่ใช่มือที่สาม ... เลยยังข้องใจว่าตกลงอย่างฉันมันเรียกว่าอะไรอะแน่ !!!!)
แบบนี้จะเรียกว่ามือที่สามหรือไม่ ???
ฉันได้คุยกับผู้ชายคนนึง ซึ่งในตอนแรกเราคุยกันแบบเพื่อน แต่ผู้ชายคนนี้ในตอนนั้น อยู่ในช่วงที่ภรรยาได้ทิ้งเขาไป
(เขาและภรรยาคบกันมา 7 ปีมีลูกด้วยกัน2คนเป็นลูกแฝดหญิง) ในตอนนั้นเขาได้เกมเป็นที่ช่วยทำให้เขาหายเครียดหายเหงา หายคิดถึงภรรยาเขา (เราเจอกันในเกม)
ฉันไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของการจากไปของผู้หญิงคนนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ที่รู้คือผู้ชายคนนี้มีปัญหาทางคดีความ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสู้คดี
โดยที่แนวโน้ม ณ ตอนนั้นแทบจะไม่รอดคดีเลย ... แต่ภรรยาของเขากลับทิ้งเขาให้เขาต้องอยู่สู้คดีเพียงคนเดียว กำลังใจที่เขาต้องการก็ไม่มี
แถมภรรยายังหนี ทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับย่า (ฉันไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ผู้หญิงคนนั้นไปคืออะไร แต่เท่าที่ทราบในตอนหลัง น่าจะเกิดจาก
ผู้ชายคนนี้เป็นคนนิสัยเด็ก เอาแต่ใจ งี่เง่า งานบ้านไม่ทำ ค่อนข้างยังติดชีวิตวัยรุ่นที่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ และอีกประเด็นคือเขามักจะบอกกับลูกของเขาว่า แม่พร้อมเมื่อไหร่แม่จะกลับมา พร้อมในทีนี้คือมีเงินนั้นเอง) ซึ่ง ณ ตอนนั้น ฉันก็คอยให้กำลังใจเขาเสมอเรื่องคดีความ จนรับรู้ได้หละ ว่าผู้ชายคนนี้คิดกับเรามากกว่าเพื่อน แต่ด้วยความที่ว่าเขาก็มีภรรยาและลูกด้วยกันแล้ว และดูเขาจะลืมกันไม่ได้ อีกทั้งเขาก็ดูรักลูกมาก
เราต่างคนต่างรู้กันมาตลอดว่ารู้สึกดีต่อกัน ฉันก็คอยให้กำลังใจ เขาก็ทำตัวเปิดเผยมาก จนสุดท้ายก็ตกลงคบกัน ซึ่งในตอนนั้น ฉันทบทวนมาก
ว่าฉันควรจะเดินต่อไปดีไม๊ จนสุดท้ายเราก็คบกัน เจอกัน กินข้าว ได้ใช้ชีวิตร่วมกันบ้างในวันที่ฉันหยุดพักจากงาน เขาก็ทำให้ฉันมั่นใจเขาว่าเขาก็พยายามลืมผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน มีอยู่ครั้งนึงเหมือนกันที่ฉันจับได้ว่าเขากลับไปติดต่อและคุยกับภรรยาเขา ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะฉันก็พอมองออกว่าเขาทั้งคู่ยังรักกันอยู่ แต่ทำประชดใส่กัน แต่ใจฉันก็สู้นะ จนได้คุยกันแบบเด็ดขาดให้โทรไปหาผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าฉัน ซึ่งเขาก็ทำให้
จนวันนึง คดีตัดสินเสร็จสิ้นกระบวนการ ระยะเวลาที่ฉันได้อยู่เคียงข้างเขาไม่ต่ำกว่า 4 เืดือน สรุปคือ ... เขารอด ซึ่งเขาได้เอ่ยไว้แล้วว่า ถ้าเขารอด เขาจะบวช และฉันเคยพูดกับเขาว่า ถ้าเมื่อไหร่เขารอดผู้หญิงคนนั้นจะกลับมา กลับมาวันที่เธอบวชนั่นละ และความคิดฉันก็เป็นจริงผู้หญิงคนนั้นไปงาน ส่วนฉันติดงานเลยไม่ได้ไป แต่เพราะคิดแล้วว่าไปก็เป็นส่วนเกินของครอบครัวเขาอยู่ดี ฉันเลยเลือกที่จะไม่ไป ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไปถือหมอนให้เขาตามระเบียบคนรัก ฉันก็ไม่ได้อะไร ก็เข้าใจ
หลังจากเขาบวชได้วันนึง เขาได้เล่าให้ชั้นฟังว่าผู้หญิงคนนั้นโทรมาเพื่อมาขอคืนดี แต่เขาปฎิเสธไป เพราะเขาเลือกฉัน แต่ฉันก็เฝ้าบอกเขาเสมอว่า ถ้าอยากคบกัน ก็ช่วยไปหย่ากับเขาก่อนได้ไม๊ (ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาจดทะเบียนกันหลังจากคบกันได้ประมานเดือนนึง)
ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ที่ว่า...ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมหย่า ทำเพื่อแก้แค้นผู้ชายที่เคยไปทำให้เค้าเจ็บ แล้วฉันก็พยายามเด็ดขาด ว่าถ้าไม่หย่า ฉันก็คงจะคบกับเขาต่อไม่ได้ สงสารก็สงสารนะ แต่ฉันคิดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน เลยอยากรู้ว่า อยากฉันมันเรียกว่าชู้ หรือมือที่สามหรือเปล่า และฉันเลวมากไปไม๊ที่ไปยุให้เขาหย่ากัน แล้วฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี ??????? (เพราะเขาเคยพูดกับฉันมาคำนึงว่า...อย่างฉันไม่ได้เรียกว่าชู้หรือมือที่สามหรอก เพราะตอนที่เขามีฉัน ก็ไม่ได้มีผู้หญิงอีกคน มีคนนึงไปและมีคนนึงอยู่ มันไม่ใช่มือที่สาม ... เลยยังข้องใจว่าตกลงอย่างฉันมันเรียกว่าอะไรอะแน่ !!!!)