สวัสดีค่ะ ทุกคนน ขอแนะนำตัวอีกรอบ เผือใครยังไม่รู้ จักมักจี่ กันชื่อ กระจิดริด ค่า
บังเอิญ เป็นน้องบังอร วันนี้ จะลบข้อมูลในคอม
ดันไปเห็น โฟลเดอ ท็อปปิค ตัวสุดท้ายของปีสี่ กำลังจะ move to trash
เพราะผ่านมาก็สองปีแล้ว กลาย เป็นความทรงจำไปเรียบร้อย
แต่เห็นว่าถ้าลบไป มันก็จบแค่นั้น เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ (ที่หนักหน่วง5555)
เผื่อจะเป็นแนวทางให้ น้องๆรุ่นหลัง (ดูแก่ขึ้นมาทันที) หรือใครที่กำลังเรียนอยู่ ให้มีแนวทางในการดำเนินชีวิต 5555 ในวัยเรียน
บอกก่อนนะคะ กระจิดริดไม่ได้ เก่งอะไรมากมาย และโปรเจคไม่ได้ดี เลิศ เลอ เพอเฟ็ก อะไร เพียงแค่อยาก แชร์ประสบการณ์
กระจิดริด เรียนอยุ่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นเด็กวิทคอม ค่ะ เรียนแต่ล้ะวิชา ขอแค่ผ่านก็พอแล้ว 55555
เอาหล้ะ เข้าเรื่อง
ตอนจะจบปริญญาตรีนั้น เชื่อได้ว่าแทบทุกคณะ ทุกมหาลัย
จะต้องมี โปรเจคจบ ท็อปปิคจบ ทีสิส อะไรก็แล้วแต่จะเรียก คือต้องมีหนังสือเล่มใหญ่ๆส่งอาจารย์ก่อนจบแน่นอน
ขึ้นปีสี่ เทอมนึง เราจะต้องลง วิชาท็อปปิค1 ลงเพื่อ จะลง ท็อปปิค2 ได้ ไม่งันไม่จบสี่ปีนะ 555555 (มันเป็นตัวต่อกัน)
ท็อปปิคหนึ่ง งานหลักคือ คิดหัวช้อ ที่จะทำ และส่ง proposal พวกขอบเขต วัตถุประสงค์ บลาๆ
การท้อปปิคเราสามารถเลือกเองได้ว่า จับกลุ่ม 1 คน 2คน 3คน ตามสะดวก กลุ่มยิ่งใหญ่ เนื้องานจะต้องใหญ่ตาม
ตังนั้นส่วนมากจะจับกลุ่มอยู่ที่ 2 คน
แต่ที่ยากกว่า คือ การหาที่ปรึกษา ยากยิ่งกว่า งมเข็มในมหาสุมทร จะต้องไปหาอาจารย์ พรีเซน ตัวเอง ยิ่งกว่าขายเครื่องกองน้ำ
พออาจารย์ตกลง รับเป็นที่ปรึกษา ก็จะต้องมาคิดโปรเจค ว่าจะทำอะไร อาจารย์ โอเคไหม อาจารย์บางคนอาจ เป็นคิดหัวข้อให้นักศึกษาเอง
แต่ที่ลุ้นมาก และลุ้นยิ่งกว่า คือ คณะกรรมการที่จะตรวจสอบงานของเราจะเป็นอาจารย์คนไหน เคี่ยวแค่ไหน ให้เกรดยากแค่ไหน
กระจิดริด เป็นคนคิดหัวข้อเองแล้วไปเสนออาจารย์ กระจิดริดจับกลุ่มทำกับเพื่อนสองคน เลยคิดกันว่า จะทำ Application iphone
เนื่องจาก มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม พร้อมกับการอยากลอง อยากรู้ และก็ไปเสนอ หัวข้อต่างๆมากมายกับอาจารย์ที่ปรึกษา เสนอไปหลายหัวข้อมาก ยังไม่ถูกใจอาจารย์ กระจิดริดคิดว่าอาจารย์ คงจะอยากได้แบบ ดาต้าเบสจ๋าหน่อย เพราะแกถนัด ผลสุดท้ายก็ ได้แอพพลิเคชั่น แบบดาต้าเบส จ๋า มาเลยยย
ขึ้นปีสี่ เทอมสอง เราต้องเริ่ม ต้นทำตาม งานที่ส่งไป ตามวิชาท็อปปิคหนึ่ง ตอนเทอมหนึ่ง อันนี้ ปฏิบัติจริง เขียนโค้ดจริง เอาจริงๆคือ อาจารย์ที่ปรึกษาของกระจิดริดรู้เรื่องดาต้าดีมากๆ ก็จริง แต่ที่ไม่ง่ายเลย ก็คือ อาจารย์ไม่ได้มีความถนัดเรื่อง ios การเขียนโค้ด การ พัฒนา แอพพลิคชั่น บน ios จึงตกเป็นงานของกระจิดริดและ เพื่อนที่ต้อง ช่วยกัน ศึกษาเรื่องนี้ ทั้งไปเรียนเพิ่ม ทั้งหาหนังสือ ทั้งหาคนรู้จักที่รู้เรื่องให้เค้ามาช่วย คือช่วงที่ทำ ท้อปปิคนี่เรียกว่า แทบจะไม่ได้นอน
นอนตีสี ตื่นเก้าโมง เป็นแบบนี้ประจำ กิจวัตรประจำวัน มีอยู่แค่ กินข้าว นอน ทำท็อปปิค กินข้าว นอน ทำท็อปปิค
และแล้วอาทิตสุดท้ายก็มาถึง ก่อนพรีเซนงานก็มาถึง
ชีวิตประจำวันเริ่มกลายเป็น กินข้าว ทำท็อปปิค กินข้าว ทำท็อปปิค กินข้าว ทำท็อปปิค ทำงานยิ่งกว่ามีเงินเดือนแปดแสน รันโปรแกรมทีนึง บัคก็แย่งกันขึ้นบานตะไท เรียกว่าวุ่นวายชายทะเลกันมากก เรื่องนอนลืมไปได้เลย อาจจะได้นอนบ้างตอนทำงานแล้วหลับไป
ถึงวันพรีเซน อาจารย์นัดเวลาไว้ 11 โมง
7โมงเช้ายังนั่ง ทำพรีเซนอยู่เลย ไม่ได้นอนตั้งแต่วันอาทิตย์ อึดป้ะล้ะ กระทิงแดงช่วยคุณได้ ไกลถึงเวลา ต้องปริ้นรูปเล่ม
แต่เครื่องปริ้นของกระจิดริดช้ามาก กลัวจะเลยเวลาอาจารย์นัด เลยต้องยกเครื่องปริ้นไปด้วยซะเลย เกิดเป็นหญิงแท้จริงนั้นแสนถึกกกก
ไปปริ้น มันในห้องสอบนั่นแหละ เรียกว่าอาจารย์แทบจับรูปเล่มไม่ได้ มันร้อนนนน 55555 (งานเผาาาา)
ไปถึงห้องสอบ อาจารย์บอกว่าเลื่อนเลาไปอีกชั่วโมงนึง อาจารย์ติดธุระ มีหรอเราจะปล่อยเวลาทิ้งไป ช่วงนี้ต้องกอบโกย
ขอนอนเราแรงก่อน 55555 หลับมันในห้องนั่นแหละ เป็นการหลับที่มีความสุขมาก คือแบบ แค่หลับตาก็รู้สึกดี ขอบตานี่ หลินปิงเรียกแม่เลยย
มาพูดถึง ตัวแอพพลิเคชั่นที่กระจิดริดทำบ้างนะคะ
แอพพลิเคชั่นที่กระจิดริดทำ เป็นแอพพลิเคชั่น คล้าย ดิกชันนารี แต่จะเป็นการค้นหา บทสนทนาภาษาไทย (พร้อมเสียงและคำแปล)สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตอนแรกจะทำ 77 จังหวัด อาจารย์บอกเยอะไป เลยตัดให้เหลือ แค่ 2 จังหวัด (ตัดเยอะมากกก )อาจารย์บอก เด๋วจะไม่จบเอา 55555 เหลือแค่ กรุงเทพ กับเชียงใหม่ ลองไปดูรูปอาจจะเข้าใจมากขึ้นนะคะ
รูปส่วนนึงของ โปรเจคนะคะ
ไอคอน อันนี้ภูมิใจ งามแงะ มากก (ภูมิใจอยู่อันเดียว)
หน้าตาแอพพลิเคชั่น เฉิ่มๆ 55555
สุดท้าย
ฝากสำหรับหลายๆคนนะค่ะ สำหรับกระจิดริดแล้ว เมื่อก่อนคิดว่าการเข้ามหาวิทยาลัยที่เราชอบได้เป็นที่สุดของชีวิตแล้ว
แต่พอเข้ามา รู้เลยว่ามันไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิด ไหนจะเพื่อนที่ไม่เหมือนมัธยมเลยซักนิด ไหนจะงานที่เยอะและยาก ไหนจะการเข้าเรียน
ตอนทำท้อปปิคชิ้นนี้ บางวันรันโค้ดไป ร้องไห้ไป พอเราทำได้เราก็คิดว่า ไม่มีอะไรยากกว่านี้แล้วแหละ แต่พอจบมา เหมือน เราต้องเผชิญกับโลกภายนอกมากขึ้นมองโลกกว้างขึ้น พอมองน้อยกลับไป จะเห็นว่าสิ่งที่เรา เคยทำมา มันเป็นแค่ รอยต่อ เล็กในชีวิตเท่านั้นเอง
ชีวิตมหาลัยเป็นช่วงเวลาที่สนุก และผ่านไปเร็วมากค่ะ ใช้มันซะให้คุ้มค่า ไฟติ้งงงงง
>>แม่หญิง<< เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย "โปรเจคจบ" เสนอ App กากๆ
บังเอิญ เป็นน้องบังอร วันนี้ จะลบข้อมูลในคอม
ดันไปเห็น โฟลเดอ ท็อปปิค ตัวสุดท้ายของปีสี่ กำลังจะ move to trash
เพราะผ่านมาก็สองปีแล้ว กลาย เป็นความทรงจำไปเรียบร้อย
แต่เห็นว่าถ้าลบไป มันก็จบแค่นั้น เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ (ที่หนักหน่วง5555)
เผื่อจะเป็นแนวทางให้ น้องๆรุ่นหลัง (ดูแก่ขึ้นมาทันที) หรือใครที่กำลังเรียนอยู่ ให้มีแนวทางในการดำเนินชีวิต 5555 ในวัยเรียน
บอกก่อนนะคะ กระจิดริดไม่ได้ เก่งอะไรมากมาย และโปรเจคไม่ได้ดี เลิศ เลอ เพอเฟ็ก อะไร เพียงแค่อยาก แชร์ประสบการณ์
กระจิดริด เรียนอยุ่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นเด็กวิทคอม ค่ะ เรียนแต่ล้ะวิชา ขอแค่ผ่านก็พอแล้ว 55555
เอาหล้ะ เข้าเรื่อง
ตอนจะจบปริญญาตรีนั้น เชื่อได้ว่าแทบทุกคณะ ทุกมหาลัย
จะต้องมี โปรเจคจบ ท็อปปิคจบ ทีสิส อะไรก็แล้วแต่จะเรียก คือต้องมีหนังสือเล่มใหญ่ๆส่งอาจารย์ก่อนจบแน่นอน
ขึ้นปีสี่ เทอมนึง เราจะต้องลง วิชาท็อปปิค1 ลงเพื่อ จะลง ท็อปปิค2 ได้ ไม่งันไม่จบสี่ปีนะ 555555 (มันเป็นตัวต่อกัน)
ท็อปปิคหนึ่ง งานหลักคือ คิดหัวช้อ ที่จะทำ และส่ง proposal พวกขอบเขต วัตถุประสงค์ บลาๆ
การท้อปปิคเราสามารถเลือกเองได้ว่า จับกลุ่ม 1 คน 2คน 3คน ตามสะดวก กลุ่มยิ่งใหญ่ เนื้องานจะต้องใหญ่ตาม
ตังนั้นส่วนมากจะจับกลุ่มอยู่ที่ 2 คน
แต่ที่ยากกว่า คือ การหาที่ปรึกษา ยากยิ่งกว่า งมเข็มในมหาสุมทร จะต้องไปหาอาจารย์ พรีเซน ตัวเอง ยิ่งกว่าขายเครื่องกองน้ำ
พออาจารย์ตกลง รับเป็นที่ปรึกษา ก็จะต้องมาคิดโปรเจค ว่าจะทำอะไร อาจารย์ โอเคไหม อาจารย์บางคนอาจ เป็นคิดหัวข้อให้นักศึกษาเอง
แต่ที่ลุ้นมาก และลุ้นยิ่งกว่า คือ คณะกรรมการที่จะตรวจสอบงานของเราจะเป็นอาจารย์คนไหน เคี่ยวแค่ไหน ให้เกรดยากแค่ไหน
กระจิดริด เป็นคนคิดหัวข้อเองแล้วไปเสนออาจารย์ กระจิดริดจับกลุ่มทำกับเพื่อนสองคน เลยคิดกันว่า จะทำ Application iphone
เนื่องจาก มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม พร้อมกับการอยากลอง อยากรู้ และก็ไปเสนอ หัวข้อต่างๆมากมายกับอาจารย์ที่ปรึกษา เสนอไปหลายหัวข้อมาก ยังไม่ถูกใจอาจารย์ กระจิดริดคิดว่าอาจารย์ คงจะอยากได้แบบ ดาต้าเบสจ๋าหน่อย เพราะแกถนัด ผลสุดท้ายก็ ได้แอพพลิเคชั่น แบบดาต้าเบส จ๋า มาเลยยย
ขึ้นปีสี่ เทอมสอง เราต้องเริ่ม ต้นทำตาม งานที่ส่งไป ตามวิชาท็อปปิคหนึ่ง ตอนเทอมหนึ่ง อันนี้ ปฏิบัติจริง เขียนโค้ดจริง เอาจริงๆคือ อาจารย์ที่ปรึกษาของกระจิดริดรู้เรื่องดาต้าดีมากๆ ก็จริง แต่ที่ไม่ง่ายเลย ก็คือ อาจารย์ไม่ได้มีความถนัดเรื่อง ios การเขียนโค้ด การ พัฒนา แอพพลิคชั่น บน ios จึงตกเป็นงานของกระจิดริดและ เพื่อนที่ต้อง ช่วยกัน ศึกษาเรื่องนี้ ทั้งไปเรียนเพิ่ม ทั้งหาหนังสือ ทั้งหาคนรู้จักที่รู้เรื่องให้เค้ามาช่วย คือช่วงที่ทำ ท้อปปิคนี่เรียกว่า แทบจะไม่ได้นอน
นอนตีสี ตื่นเก้าโมง เป็นแบบนี้ประจำ กิจวัตรประจำวัน มีอยู่แค่ กินข้าว นอน ทำท็อปปิค กินข้าว นอน ทำท็อปปิค
และแล้วอาทิตสุดท้ายก็มาถึง ก่อนพรีเซนงานก็มาถึง
ชีวิตประจำวันเริ่มกลายเป็น กินข้าว ทำท็อปปิค กินข้าว ทำท็อปปิค กินข้าว ทำท็อปปิค ทำงานยิ่งกว่ามีเงินเดือนแปดแสน รันโปรแกรมทีนึง บัคก็แย่งกันขึ้นบานตะไท เรียกว่าวุ่นวายชายทะเลกันมากก เรื่องนอนลืมไปได้เลย อาจจะได้นอนบ้างตอนทำงานแล้วหลับไป
ถึงวันพรีเซน อาจารย์นัดเวลาไว้ 11 โมง
7โมงเช้ายังนั่ง ทำพรีเซนอยู่เลย ไม่ได้นอนตั้งแต่วันอาทิตย์ อึดป้ะล้ะ กระทิงแดงช่วยคุณได้ ไกลถึงเวลา ต้องปริ้นรูปเล่ม
แต่เครื่องปริ้นของกระจิดริดช้ามาก กลัวจะเลยเวลาอาจารย์นัด เลยต้องยกเครื่องปริ้นไปด้วยซะเลย เกิดเป็นหญิงแท้จริงนั้นแสนถึกกกก
ไปปริ้น มันในห้องสอบนั่นแหละ เรียกว่าอาจารย์แทบจับรูปเล่มไม่ได้ มันร้อนนนน 55555 (งานเผาาาา)
ไปถึงห้องสอบ อาจารย์บอกว่าเลื่อนเลาไปอีกชั่วโมงนึง อาจารย์ติดธุระ มีหรอเราจะปล่อยเวลาทิ้งไป ช่วงนี้ต้องกอบโกย
ขอนอนเราแรงก่อน 55555 หลับมันในห้องนั่นแหละ เป็นการหลับที่มีความสุขมาก คือแบบ แค่หลับตาก็รู้สึกดี ขอบตานี่ หลินปิงเรียกแม่เลยย
มาพูดถึง ตัวแอพพลิเคชั่นที่กระจิดริดทำบ้างนะคะ
แอพพลิเคชั่นที่กระจิดริดทำ เป็นแอพพลิเคชั่น คล้าย ดิกชันนารี แต่จะเป็นการค้นหา บทสนทนาภาษาไทย (พร้อมเสียงและคำแปล)สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตอนแรกจะทำ 77 จังหวัด อาจารย์บอกเยอะไป เลยตัดให้เหลือ แค่ 2 จังหวัด (ตัดเยอะมากกก )อาจารย์บอก เด๋วจะไม่จบเอา 55555 เหลือแค่ กรุงเทพ กับเชียงใหม่ ลองไปดูรูปอาจจะเข้าใจมากขึ้นนะคะ
รูปส่วนนึงของ โปรเจคนะคะ
ไอคอน อันนี้ภูมิใจ งามแงะ มากก (ภูมิใจอยู่อันเดียว)
หน้าตาแอพพลิเคชั่น เฉิ่มๆ 55555
สุดท้าย
ฝากสำหรับหลายๆคนนะค่ะ สำหรับกระจิดริดแล้ว เมื่อก่อนคิดว่าการเข้ามหาวิทยาลัยที่เราชอบได้เป็นที่สุดของชีวิตแล้ว
แต่พอเข้ามา รู้เลยว่ามันไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิด ไหนจะเพื่อนที่ไม่เหมือนมัธยมเลยซักนิด ไหนจะงานที่เยอะและยาก ไหนจะการเข้าเรียน
ตอนทำท้อปปิคชิ้นนี้ บางวันรันโค้ดไป ร้องไห้ไป พอเราทำได้เราก็คิดว่า ไม่มีอะไรยากกว่านี้แล้วแหละ แต่พอจบมา เหมือน เราต้องเผชิญกับโลกภายนอกมากขึ้นมองโลกกว้างขึ้น พอมองน้อยกลับไป จะเห็นว่าสิ่งที่เรา เคยทำมา มันเป็นแค่ รอยต่อ เล็กในชีวิตเท่านั้นเอง
ชีวิตมหาลัยเป็นช่วงเวลาที่สนุก และผ่านไปเร็วมากค่ะ ใช้มันซะให้คุ้มค่า ไฟติ้งงงงง