กำลังสงสัยครับ ตามใน wiki
ถีนมิทธะ เป็น 1 ใน นิวรณ์5 คือความหดหู่และเคลิบเคลิ้ม (ถีนะ ความหดหู่ มิทธะ ความเคลิบเคลิ้ม)
หมายถึง อาการที่จิตเกิดความห่อเหี่ยว ท้อแท้ หมดหวัง และเศร้าซึม ง่วงเหงา หาวนอน
เป็นเหตุให้เกิดความหมดอาลัย ความเกียจคร้าน ไม่กระตือรือร้น ปล่อยปละละเลยไปตามยถากรรม
ส่วนถ้าอ่านจากในพระสูตรโมคคัลลานสูตร ก็หมายถึงความง่วง
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1873&Z=1938
ทีนี้ที่งงก็คือ พระอรหันต์ย่อมสลัดซึ่งอาสวะกิเลสทิ้งได้ทั้งหมด ดังนั้น ย่อมไม่เกิดนิวรณ์อีก
ย่อมไม่เกิด ถีนเจตสิก และมิทธะเจตสิกอีกต่อไป
งั้นก็แสดงว่าพระอรหันต์ไม่ง่วงอีกต่อไปเหรอครับ?
ขอความรู้หน่อยครับ ถีนมิทธะ ต่างกับความง่วงเหงาหาวนอนปรกติ อย่างไรครับ
ถีนมิทธะ เป็น 1 ใน นิวรณ์5 คือความหดหู่และเคลิบเคลิ้ม (ถีนะ ความหดหู่ มิทธะ ความเคลิบเคลิ้ม)
หมายถึง อาการที่จิตเกิดความห่อเหี่ยว ท้อแท้ หมดหวัง และเศร้าซึม ง่วงเหงา หาวนอน
เป็นเหตุให้เกิดความหมดอาลัย ความเกียจคร้าน ไม่กระตือรือร้น ปล่อยปละละเลยไปตามยถากรรม
ส่วนถ้าอ่านจากในพระสูตรโมคคัลลานสูตร ก็หมายถึงความง่วง
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1873&Z=1938
ทีนี้ที่งงก็คือ พระอรหันต์ย่อมสลัดซึ่งอาสวะกิเลสทิ้งได้ทั้งหมด ดังนั้น ย่อมไม่เกิดนิวรณ์อีก
ย่อมไม่เกิด ถีนเจตสิก และมิทธะเจตสิกอีกต่อไป
งั้นก็แสดงว่าพระอรหันต์ไม่ง่วงอีกต่อไปเหรอครับ?