ขอ Spoil สั้นๆแทนคุณ Drake สักครั้งนะครับ
( ขณะที่กำลังเขียนอยู่หากคุณ Drake ลงไปก็ไม่เป็นไรครับ )
ตอนอวสาน
เรื่องจริงเกี่ยวกับ คูเกล ถูกเปิดเผยแล้ว สไตร์คเกอร์ ผ่านไปไม่กี่วินาทีได้รีบ Reboot เครื่องอีกครั้ง เท่ากับว่า ศัตรูที่แท้จริงก็คือ สไตร์คเกอร์ ที่ควบคุมผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งติดไว้กับชุดนักบินอันว่างเปล่าของคูเกล
สาเหตุที่สไตร์คเกอร์ทำอย่างนี้ คือ ทำตามเจตนารมณ์ที่คูเกลตั้งเอาไว้ในการชี้นำมนุษย์บนโลกใบนี้ให้เป็นปึกแผ่นเพื่อสหพันธอวกาศ สรุปสั้นๆ มนุษย์ทุกเหล่าจะต้องบูชาสไตร์คเกอร์ดั่งพระเจ้าเฉกเช่นที่คูเกลต้องการ
ทั้งยังมีการเชิญชวนให้ เลโด มาเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นปึกแผ่นนี้ แต่แน่นอน เลโด ปฎิเสธ ( ตัว สึงิตะแชมเบอร์ ก็ไม่เอาด้วยเพราะตัวเองคือ โปรแกรมสนับสนุนนักบินเต็มรูปแบบ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของนักบิน โดยจะสนับสนุนเลโดในการ Shutdown สไตร์คเกอร์ อย่างเต็มที่ ) หลังคุยกันต่อไปสักพักก็เริ่มเปิดฉากสู้กัน
( เลโดบอกว่า สึงิตะแชมเบอร์ เข้าใจในสิ่งที่เรียกว่าสายสัมพันธ์ครอบครัวแล้ว )
ทางข้างล่าง ตอนนี้กองเรือการ์กันเทียร์ Vs กองเรือลัทธิสไตร์คเกอร์ ( เอาสั้นๆนะครับ ) ฟีเนี่ยนหลังเลิกไว้ผมรีเจนท์ก็กลายเป็น อานิกิ เต็มรูปแบบ
ทางข้างบนสู้กันตายไปข้างนึง ( มีก่อ Flashback เต็มไปหมด ) สไตร์คเกอร์ วิเคราะห์ ข้อมูลการต่อสู้ของคูเกลมาเป็นแบบฐานของตัวเอง ที่เหลือคือการเดินเรื่องในระบบ ออโต้ นั้นคือการสู้กันครั้งนี้มันก็เหมือนการสู้กับ หัวหน้าคูเกล ดีๆนี้เอง
เลโดถึงจะฟังมาอย่างนั้นแต่ก็สรุปสั้นๆว่า ถึงยังไงมันก็แค่เครื่องจักรเท่านั้น เลโดตัดสินใจเดินเรื่องระบบ แม็กซิมั่ม เนโรพลัส ซึ่ง สึงิตะแชมเบอร์ ตอนแรกเตือนแล้วเรื่องผลกระทบต่อร่างกายในอัตราที่สูงมากๆหากใช้ระบบนี้ แต่เลโดก็ไม่สนใจ สึงิตะแชมเบอร์ ได้เริ่มอนุมัติใช้ระบบทันที
( ต้องการจะบอกว่า สิงึตะแชมเบอร์ เข้าใจในสายสัมพันธ์ครอบครัวแล้ว )
เป้าหมายคือ ต้องกำจัด เจ้าปีศาจในคราบมนุษย์ คือ สไตร์เกอร์ ซึ่งเลโดรู้อยู่แก่ใจว่า ตัวเองกับสึงิตะแชมเบอร์คงไม่มีทางได้กลับไปบ้านได้อีกแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร
เริ่มใช้งานระบบ แม็กซิมั่ม เนโรพลัส ประสิทธิภาพของหุ่นจะเพิ่มสูงกว่า 140% โดยประมาณ แล้วเปิดฉากลุยกันทันที แต่สู้กันไม่ถึงไหน เรดาห์ตรวจจับได้ว่ามี วัตถุบางอย่างกับบินตรงมายัง สนามรบ ของ ทั้ง 2 ฝ่าย
เอมี่!!
สาเหตุที่เธอมาถึงนี้เพราะเข้าใจในสิ่งที่เลโดเจออยู่และต้องการจะต่อสู้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นกลับมาเรือการ์กันเทียร์ของพวกเราด้วยกันเถอะ
ทั้งที่เธอมาไม่ใช่แค่จุดประสงค์แค่นี้ ความจริงคือการส่งสัญญาณรหัสไฟให้กับกองเรือข้างล่าง
ทางศึกด้านล่าง ในที่สุดความลับของ กุญแจ ที่อาจจะเป็น Keywords ของศึกนี้ก็เปิดเผยออกมาแล้ว ผู้ที่ไขมันคือ ริตเก็ต ความลับมันคือ การเปิดระบบ " Gargantia "
โดยเมื่อเริ่มเปิดใช้งาน เสาเหล็กขนาดใหญ่จะเริ่มการปล่อยอาวุธที่คับคล้ายกับ ขีปนาวุธ คำนวนวิถีการตกคือ กองเรือของคูเกล ซึ่งเมื่อสไตร์คเกอร์วิเคราะห์ด้วยระบบ 3D วิเคราะห์พิกัดจุดการยิงจะสร้างความเสียหายให้กับ กองเรือของคูเกล เลยต้องรีบไปขัดขวาง
แต่ก็พลาดการคำนวนไปอีกเรื่องคือ ฟีเนี่ยน ได้เริ่มเปิดฉากเล่นงานกองเรือของคูเกลด้วยปืนใหญ่ แต่ก็ต้องรีบถอยทัพโดยด่วนตามที่ เจ๊แร็คเก็ต สั่งมา
ทางข้างบนแม้จะยิงเพื่อขัดขวางสไตร์คเกอร์ไปมากขนาดไหนก็ไม่มีความหมาย ซึ่งตอนท้ายก็สามารถหาจังหวะจับตัวไว้ได้สำเร็จตามที่ต้องการกลายเป็นการแข่งชักกะเย่อกันไปโดยปรียาย
ทางข้างล่างนั้น หลังรับตัวฟีเนียนได้สำเร็จโดยเจ๊แร็คเก็ต อาวุธปิดฉากศึกนี้ก็ถูกยิงออกมานั้นคือ จรวดหัวฉลาม เป็นอันจบศึกข้างล่างอย่างสมบูรณ์แบบ
ศึกทางข้างบนคือตัวตัดสินทุกอย่าง
ซึ่งตอนนี้ สภาพร่างกายของเลโอ ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว เลโดที่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตจากการที่เริ่มร้องไห้บอกว่า ตัวเองอยากจะได้ยินเสียงเธออีกครั้ง อยากจะใช้เวลานั้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น ที่สัญญาณเตือนจาก สึงิตะแชมเบอร์ กลับดังขึ้นมาพร้อมการปลดล็อคตัว Cockpit ออก
ทำไรเนี่ย!! แชมเบอร์!!!
" คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทหาร พลเรือนไม่สามารถบังคับแมชชีนคาลิเบอร์ได้ จึงต้องปลดล็อค Cockpit ออก "
คำพูดสุดท้ายคล้ายกับเป็นการอวยพรจากเพื่อนคนสนิทคือ
" จงมีชีวิตต่อไป ค้นหา และ ใช้ชีวิตนั้นให้สัมฤทธิ์ผลอันสูงสุด "
ร่างอันไร้ที่ควบคุมของแชมเบอร์ค่อยๆลอยจากไปอย่างช้าๆ
ในตอนนี้ สึงิตะแชมเบอร์ ไร้ซึ่งคนควบคุม เพราะงั้นถึงหายห่วงแล้วที่จะเริ่มทำการระดมถล่มใส่สไตร์คเกอร์ได้อย่างไม่ห่วงอะไร แม้สไตร์คเกอร์จะหยุดยังไงก็ไร้ค่า
หุ่น 2 ตัวยิงใส่กันเป็นบ้าเป็นหลัง จนสภาพยับเยินไปทั้งคู่ และแล้วก็มาถึงตอนท้าย
" คำเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ไปตายซะ เจ้าหุ่นกระป๋อง!!! "
สึงิตะแชมเบอร์ ล็อคหลัง สไตร์คเกอร์ ( ท่าแห่งตำนาน ) พร้อมปิดฉากการต่อสู้นี้ด้วยลำแสงอนุภาพ!!! จนทั้งคู่หายไปราวกับอากาศธาตุ
" แชมเบอร์ "
ต่อหน้าต่อตา เลโด ที่กำลังหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจที่เพื่อนรักต้องมาตายจากไปเพื่อให้ตัวเองรอด
การต่อสู้จบลงอย่างสมบูรณ์ด้วยการเสียสละของสึงิตะแชมเบอร์
{{Suisai no Gargantia}} Ep.13 ตอนอวสาน Spoil จัดเต็ม
( ขณะที่กำลังเขียนอยู่หากคุณ Drake ลงไปก็ไม่เป็นไรครับ )
ตอนอวสาน
เรื่องจริงเกี่ยวกับ คูเกล ถูกเปิดเผยแล้ว สไตร์คเกอร์ ผ่านไปไม่กี่วินาทีได้รีบ Reboot เครื่องอีกครั้ง เท่ากับว่า ศัตรูที่แท้จริงก็คือ สไตร์คเกอร์ ที่ควบคุมผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งติดไว้กับชุดนักบินอันว่างเปล่าของคูเกล
สาเหตุที่สไตร์คเกอร์ทำอย่างนี้ คือ ทำตามเจตนารมณ์ที่คูเกลตั้งเอาไว้ในการชี้นำมนุษย์บนโลกใบนี้ให้เป็นปึกแผ่นเพื่อสหพันธอวกาศ สรุปสั้นๆ มนุษย์ทุกเหล่าจะต้องบูชาสไตร์คเกอร์ดั่งพระเจ้าเฉกเช่นที่คูเกลต้องการ
ทั้งยังมีการเชิญชวนให้ เลโด มาเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นปึกแผ่นนี้ แต่แน่นอน เลโด ปฎิเสธ ( ตัว สึงิตะแชมเบอร์ ก็ไม่เอาด้วยเพราะตัวเองคือ โปรแกรมสนับสนุนนักบินเต็มรูปแบบ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของนักบิน โดยจะสนับสนุนเลโดในการ Shutdown สไตร์คเกอร์ อย่างเต็มที่ ) หลังคุยกันต่อไปสักพักก็เริ่มเปิดฉากสู้กัน
( เลโดบอกว่า สึงิตะแชมเบอร์ เข้าใจในสิ่งที่เรียกว่าสายสัมพันธ์ครอบครัวแล้ว )
ทางข้างล่าง ตอนนี้กองเรือการ์กันเทียร์ Vs กองเรือลัทธิสไตร์คเกอร์ ( เอาสั้นๆนะครับ ) ฟีเนี่ยนหลังเลิกไว้ผมรีเจนท์ก็กลายเป็น อานิกิ เต็มรูปแบบ
ทางข้างบนสู้กันตายไปข้างนึง ( มีก่อ Flashback เต็มไปหมด ) สไตร์คเกอร์ วิเคราะห์ ข้อมูลการต่อสู้ของคูเกลมาเป็นแบบฐานของตัวเอง ที่เหลือคือการเดินเรื่องในระบบ ออโต้ นั้นคือการสู้กันครั้งนี้มันก็เหมือนการสู้กับ หัวหน้าคูเกล ดีๆนี้เอง
เลโดถึงจะฟังมาอย่างนั้นแต่ก็สรุปสั้นๆว่า ถึงยังไงมันก็แค่เครื่องจักรเท่านั้น เลโดตัดสินใจเดินเรื่องระบบ แม็กซิมั่ม เนโรพลัส ซึ่ง สึงิตะแชมเบอร์ ตอนแรกเตือนแล้วเรื่องผลกระทบต่อร่างกายในอัตราที่สูงมากๆหากใช้ระบบนี้ แต่เลโดก็ไม่สนใจ สึงิตะแชมเบอร์ ได้เริ่มอนุมัติใช้ระบบทันที
( ต้องการจะบอกว่า สิงึตะแชมเบอร์ เข้าใจในสายสัมพันธ์ครอบครัวแล้ว )
เป้าหมายคือ ต้องกำจัด เจ้าปีศาจในคราบมนุษย์ คือ สไตร์เกอร์ ซึ่งเลโดรู้อยู่แก่ใจว่า ตัวเองกับสึงิตะแชมเบอร์คงไม่มีทางได้กลับไปบ้านได้อีกแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร
เริ่มใช้งานระบบ แม็กซิมั่ม เนโรพลัส ประสิทธิภาพของหุ่นจะเพิ่มสูงกว่า 140% โดยประมาณ แล้วเปิดฉากลุยกันทันที แต่สู้กันไม่ถึงไหน เรดาห์ตรวจจับได้ว่ามี วัตถุบางอย่างกับบินตรงมายัง สนามรบ ของ ทั้ง 2 ฝ่าย
เอมี่!!
สาเหตุที่เธอมาถึงนี้เพราะเข้าใจในสิ่งที่เลโดเจออยู่และต้องการจะต่อสู้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นกลับมาเรือการ์กันเทียร์ของพวกเราด้วยกันเถอะ
ทั้งที่เธอมาไม่ใช่แค่จุดประสงค์แค่นี้ ความจริงคือการส่งสัญญาณรหัสไฟให้กับกองเรือข้างล่าง
ทางศึกด้านล่าง ในที่สุดความลับของ กุญแจ ที่อาจจะเป็น Keywords ของศึกนี้ก็เปิดเผยออกมาแล้ว ผู้ที่ไขมันคือ ริตเก็ต ความลับมันคือ การเปิดระบบ " Gargantia "
โดยเมื่อเริ่มเปิดใช้งาน เสาเหล็กขนาดใหญ่จะเริ่มการปล่อยอาวุธที่คับคล้ายกับ ขีปนาวุธ คำนวนวิถีการตกคือ กองเรือของคูเกล ซึ่งเมื่อสไตร์คเกอร์วิเคราะห์ด้วยระบบ 3D วิเคราะห์พิกัดจุดการยิงจะสร้างความเสียหายให้กับ กองเรือของคูเกล เลยต้องรีบไปขัดขวาง
แต่ก็พลาดการคำนวนไปอีกเรื่องคือ ฟีเนี่ยน ได้เริ่มเปิดฉากเล่นงานกองเรือของคูเกลด้วยปืนใหญ่ แต่ก็ต้องรีบถอยทัพโดยด่วนตามที่ เจ๊แร็คเก็ต สั่งมา
ทางข้างบนแม้จะยิงเพื่อขัดขวางสไตร์คเกอร์ไปมากขนาดไหนก็ไม่มีความหมาย ซึ่งตอนท้ายก็สามารถหาจังหวะจับตัวไว้ได้สำเร็จตามที่ต้องการกลายเป็นการแข่งชักกะเย่อกันไปโดยปรียาย
ทางข้างล่างนั้น หลังรับตัวฟีเนียนได้สำเร็จโดยเจ๊แร็คเก็ต อาวุธปิดฉากศึกนี้ก็ถูกยิงออกมานั้นคือ จรวดหัวฉลาม เป็นอันจบศึกข้างล่างอย่างสมบูรณ์แบบ
ศึกทางข้างบนคือตัวตัดสินทุกอย่าง
ซึ่งตอนนี้ สภาพร่างกายของเลโอ ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว เลโดที่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตจากการที่เริ่มร้องไห้บอกว่า ตัวเองอยากจะได้ยินเสียงเธออีกครั้ง อยากจะใช้เวลานั้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น ที่สัญญาณเตือนจาก สึงิตะแชมเบอร์ กลับดังขึ้นมาพร้อมการปลดล็อคตัว Cockpit ออก
ทำไรเนี่ย!! แชมเบอร์!!!
" คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทหาร พลเรือนไม่สามารถบังคับแมชชีนคาลิเบอร์ได้ จึงต้องปลดล็อค Cockpit ออก "
คำพูดสุดท้ายคล้ายกับเป็นการอวยพรจากเพื่อนคนสนิทคือ
" จงมีชีวิตต่อไป ค้นหา และ ใช้ชีวิตนั้นให้สัมฤทธิ์ผลอันสูงสุด "
ร่างอันไร้ที่ควบคุมของแชมเบอร์ค่อยๆลอยจากไปอย่างช้าๆ
ในตอนนี้ สึงิตะแชมเบอร์ ไร้ซึ่งคนควบคุม เพราะงั้นถึงหายห่วงแล้วที่จะเริ่มทำการระดมถล่มใส่สไตร์คเกอร์ได้อย่างไม่ห่วงอะไร แม้สไตร์คเกอร์จะหยุดยังไงก็ไร้ค่า
หุ่น 2 ตัวยิงใส่กันเป็นบ้าเป็นหลัง จนสภาพยับเยินไปทั้งคู่ และแล้วก็มาถึงตอนท้าย
" คำเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ไปตายซะ เจ้าหุ่นกระป๋อง!!! "
สึงิตะแชมเบอร์ ล็อคหลัง สไตร์คเกอร์ ( ท่าแห่งตำนาน ) พร้อมปิดฉากการต่อสู้นี้ด้วยลำแสงอนุภาพ!!! จนทั้งคู่หายไปราวกับอากาศธาตุ
" แชมเบอร์ "
ต่อหน้าต่อตา เลโด ที่กำลังหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจที่เพื่อนรักต้องมาตายจากไปเพื่อให้ตัวเองรอด
การต่อสู้จบลงอย่างสมบูรณ์ด้วยการเสียสละของสึงิตะแชมเบอร์