คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ผมไม่เคยไปอเมริกานะครับ แต่มีเพื่อนกับแฟนไปเรียนอเมริกา หรือโตอเมริกาหลายคน ช่วงเค้าอยู่อเมริกาก็จะเขียนจม.มาเล่าชีวิตให้ฟัง
คือเมืองบ้านนอกอเมริกานี่สาธารณูปโภคดีจริงแต่ "ไม่มีอะไรให้ทำ" ครับ
อยากไปเที่ยวแบบศิวิไลซ์หน่อย เช่นกินข้าวดูหนังก็ต้องขับรถข้ามเมืองไปเน้อ
ในเมืองจะหงอยๆ แสงสีไม่มี
ที่สำคัญคือ "งานดีๆมันหายาก" เนื่องจากหลายๆเมืองจะพึ่งพาอุตสาหกรรมท้องถิ่นมาก
ถ้าอุตสาหกรรมนั้นปิด คนก็จะว่างงานแบบสุดๆเลย
แล้วที่เพื่อนๆผมเล่า ตกเย็นเขาจะไม่มีแผงลอยขายก๋วยเตี๋ยวข้างถนนแบบบ้านเรานะครับ
ตกเย็นคือกินข้าวบ้าน ประมาณ 6 โมงเย็น(เขาจะกินข้าวกันไม่ดึกมาก) จากนั้นก็ไม่มีไรทำแล้ว ดูทีวี นอน
เพื่อนผมบอก.....เหงาโพดๆๆๆ
แล้วอเมริกาหน้าหนาวนี่...ยิ่งร้าย หนาวแบบตายไปเลย
มาบวกกับเมืองหงอยๆ คนเหงาๆ หนาวจับกระดูก.... แย่ไปใหญ่เลย
ปล. ผมว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่สนุกสนาน มีอะไรทำได้แทบจะ 24 ชม.สุดแล้ว
ขนาดผมเคยไปอยู่และไปสัมมนาที่ลอนดอนซึ่งเป็นเมืองหลวงระดับโลก ผมยังคิดถึงบ้านแทบน้ำตาร่วง
คือขนาดคนลอนดอนเองเขาก็ใช่ว่าจะออกมากินข้าวนอกบ้านกันแทบทุกวันแบบบ้านเราเน้อ
เขากินข้าวบ้านทั้งนั้นครับ ทุ่มนึงก็อยู่บ้านดูทีวีกันทั้งนั้น ทั้งที่แดดยังสว่างอยู่เลย
ถนนหนทางถ้าไม่ใช่แหล่งช๊อปปิ้ง ต่อให้มันอยู่ในเขตเมือง ทุ่มสองทุ่มจะเงียบแอนด์หงอย.... ว้าเหว่ฝุดๆ
ผมเคยเดินเตะกระป๋อง...เหงา..เหงา..บนถนนเคนซิงตันมาแล้ว
อา...ลมหนาวมันช่างกรีดเข้าไปถึงหัวใจ
พอเครื่องลงแตะถึงสนามบินกทม..... ผมแทบถลาจูบพื้นตรงกะไดเลย
ไม่เคยคิดถึงบ้านอะไรจะขนาดนี้
ย้ำ นี่ขนาดลอนดอนเน้อ แล้วถ้ามันเป็นเมืองบ้านนอกละจะขนาดไหน
คือเมืองบ้านนอกอเมริกานี่สาธารณูปโภคดีจริงแต่ "ไม่มีอะไรให้ทำ" ครับ
อยากไปเที่ยวแบบศิวิไลซ์หน่อย เช่นกินข้าวดูหนังก็ต้องขับรถข้ามเมืองไปเน้อ
ในเมืองจะหงอยๆ แสงสีไม่มี
ที่สำคัญคือ "งานดีๆมันหายาก" เนื่องจากหลายๆเมืองจะพึ่งพาอุตสาหกรรมท้องถิ่นมาก
ถ้าอุตสาหกรรมนั้นปิด คนก็จะว่างงานแบบสุดๆเลย
แล้วที่เพื่อนๆผมเล่า ตกเย็นเขาจะไม่มีแผงลอยขายก๋วยเตี๋ยวข้างถนนแบบบ้านเรานะครับ
ตกเย็นคือกินข้าวบ้าน ประมาณ 6 โมงเย็น(เขาจะกินข้าวกันไม่ดึกมาก) จากนั้นก็ไม่มีไรทำแล้ว ดูทีวี นอน
เพื่อนผมบอก.....เหงาโพดๆๆๆ
แล้วอเมริกาหน้าหนาวนี่...ยิ่งร้าย หนาวแบบตายไปเลย
มาบวกกับเมืองหงอยๆ คนเหงาๆ หนาวจับกระดูก.... แย่ไปใหญ่เลย
ปล. ผมว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่สนุกสนาน มีอะไรทำได้แทบจะ 24 ชม.สุดแล้ว
ขนาดผมเคยไปอยู่และไปสัมมนาที่ลอนดอนซึ่งเป็นเมืองหลวงระดับโลก ผมยังคิดถึงบ้านแทบน้ำตาร่วง
คือขนาดคนลอนดอนเองเขาก็ใช่ว่าจะออกมากินข้าวนอกบ้านกันแทบทุกวันแบบบ้านเราเน้อ
เขากินข้าวบ้านทั้งนั้นครับ ทุ่มนึงก็อยู่บ้านดูทีวีกันทั้งนั้น ทั้งที่แดดยังสว่างอยู่เลย
ถนนหนทางถ้าไม่ใช่แหล่งช๊อปปิ้ง ต่อให้มันอยู่ในเขตเมือง ทุ่มสองทุ่มจะเงียบแอนด์หงอย.... ว้าเหว่ฝุดๆ
ผมเคยเดินเตะกระป๋อง...เหงา..เหงา..บนถนนเคนซิงตันมาแล้ว
อา...ลมหนาวมันช่างกรีดเข้าไปถึงหัวใจ
พอเครื่องลงแตะถึงสนามบินกทม..... ผมแทบถลาจูบพื้นตรงกะไดเลย
ไม่เคยคิดถึงบ้านอะไรจะขนาดนี้
ย้ำ นี่ขนาดลอนดอนเน้อ แล้วถ้ามันเป็นเมืองบ้านนอกละจะขนาดไหน
แสดงความคิดเห็น
ในภูธรของอเมริกาเป็นบ้านนอก กันดารเหรอครับในหนังหลายๆเรื่องหนุ่มสาวอยากออกมาไปสู่เมืองใหญ่
คำถามคือที่ภูธรของอเริกานี่เป็นชนบท ไม่ค่อยน่าอยู่ ไม่ค่อยมีอะไรหรอครับ หนุ่มสาวถึงอยากออกจากเมืองกันหมด
จะถามมานานแล้ว ดูซีรี่ under the dome ก็เจออีกจึงนึกขึ้นได้