แฟนคอลัมน์เขียนให้คิดจำนวนมากส่งอีเมลและจดหมายไปถึงผู้เขียน ขอร้องว่าขอให้สื่อฯ
ทุกแขนงรวมถึงแนวหน้าช่วยกันคิดตาม ขุดคุ้ย
และเปิดโปงเบื้องหน้าเบื้องหลังการสังหารเอกยุทธอย่างใกล้ชิด
อย่าปล่อยให้เรื่องใหญ่นี้เงียบหายไป เพราะหากเรื่องนี้ถูกทำให้เงียบ
ก็หมายความว่าสังคมไทยกำลังตกอยู่ภายใต้อิทธิเถื่อนและอำนาจมืด
เขียนให้คิดวันนี้ขออนุญาตนำคำสัมภาษณ์บางส่วนที่สุวัตร อภัยภักดิ์
ทนายความของเอกยุทธให้สัมภาษณ์กับ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เมื่อเร็ว ๆ
นี้มาเผยแพร่อีกครั้ง
เชื่อว่าเมื่อคุณอ่านแล้วจะพบเงื่อนปมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐ
โดยเฉพาะประเด็นที่สุวัตรพูดว่า
“เอกยุทธคือคนที่นายใหญ่อยากให้ตายมากที่สุดคนหนึ่ง”
เหตุใดจึงตั้งข้อสงสัย และขอให้ตำรวจสืบสวน13 ปมตามที่ส่งหนังสือไปถึง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ข้อที่ 1 เรื่องมูลเหตุจูงใจ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์ เหตุใดจึงนำสร้อยคอทองคำ
พระสมเด็จเกศไชโยเลี่ยมทองราคาองค์ละเกือบสิบล้าน นาฬิกาโรเล็กซ์
ของมีค่าของผู้ตายทั้งหมดไปทิ้งน้ำ
เราจึงเชื่อว่าคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตมากกว่าจะประสงค์ต่อทรัพย์
แต่ถูกจัดฉากเบี่ยงประเด็นให้เห็นว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ทั้ง ๆ
ที่การเสียชีวิตของคุณเอกยุทธมีความเป็นไปได้ในหลายแนวทาง
ซึ่งผมในฐานะทนายได้ตั้งประเด็นเอาไว้ 4 ประเด็นหลักๆ ด้วยกันคือ 1.ชู้สาวหรือไม่
2.เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ 3.ขัดแย้งทางธุรกิจ 4.มีการวางแผนฆ่าทางการเมือง
ชั้นแรก เราเลือกที่ตัดประเด็นเรื่องธุรกิจไปเพราะไม่มีข้อน่าสงสัยในส่วนนี้
นอกจากนั้นเราก็ยังตั้งประเด็นที่ว่ามีการเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องตำรวจด้วยหรือไม่
เราก็โยงไปเกือบทุกประเด็นถ้าอันไหนไม่มีน้ำหนักเพียงพอเราก็ตัดออก
ส่วนที่น่าสงสัยมากที่สุดไม่พ้นเรื่องการเมือง
เพราะคุณเอกยุทธเป็นไม้เบื่อไม่เมากับระบอบทักษิณมายาวนาน
วิพากษ์วิจารณ์ออกมาปูดเรื่อง ว.5โฟร์ซีซั่น
หรือเรื่องมัลดีฟส์ที่พาดพิงไปถึงน้องสาว ซึ่งได้ทำการวิจารณ์มาตลอดในช่วงวันที่
2-5 มิถุนายน จนมาถูกอุ้มในวันที่ 6 มิถุนายน
คุณเอกยุทธเป็นคนที่นายใหญ่อยากให้ตายมากที่สุดคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายในประเด็น ว.5โฟร์ซีซั่น
ประกอบกับที่ทางตำรวจได้จับนายสันติภาพ เพ็งด้วงหรือบอล คนขับรถ
ทางตำรวจได้ให้โอกาสผมไปคุยกับนายบอล เขาก็ยอมรับว่านายเปี๊ยกเป็นคนว่าจ้างมา
เนื่องจากนายบอลมีประวัติเสียพนันบอลไว้เยอะมากเป็นหลักล้านบาท
และคือนายเปี๊ยกติดต่อจ้างเอากุญแจมือมาให้
เอาโทรศัพท์ที่นายบอลใช้ที่ร้านครัวกระแตมาให้ ประกอบกับขณะนั้นผมมีหลักฐานว่า
นายบอลเคยเป็นลูกน้องผู้กองมนัส ซึ่งเป็นขาใหญ่ในวงการมาเฟียมาก่อน
พอเรารู้ข้อมูลตรงนี้เราก็ตั้งคำถามว่ามีการให้นายบอลแฝงตัวมาหรือเปล่า 7
เดือนแล้วมาลงมือ เพราะผู้กองมนัสแต่ก่อนก็เคยเป็นลูกน้องเสธ.คนดัง
แต่เสร็จแล้วก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาเคลียร์ว่า ผู้กองมนัสไม่ได้ทำ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสธ.คนดัง
คำถามที่ตามมาคือเกี่ยวข้องกับใคร เพราะการวางแผนครั้งนี้มันหมดจดเหลือเกิน
เป็นในลักษณะวางแผนไป ทำลายหลักฐานไปด้วย
แล้วคุณเอกยุทธก็ฉลาดพยายามส่งสัญญาณมาให้ที่บ้านอยู่เรื่อย ๆ
ในวันที่เกิดเหตุถูกอุ้ม อาทิ โทรศัพท์มาถามพี่สาวว่ากุญแจบ้านอยู่ที่ไหน
ทั้งที่คุณเอกยุทธก็รู้อยู่แล้ว หรือจะแกล้งเขียนเช็คผิด
เวลาทางบ้านโทรฯไปก็บอกว่าไม่สะดวก คุยกับผู้ใหญ่อยู่
แม้กระทั่งถอดแหวนเพชรที่รักมากบนรถ และส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เพราะจะมีลูกน้องคนหนึ่งชอบขับรถตาม
เอกยุทธก็เจาะจงเลยว่าต้องให้คนนี้เอาไปส่งเพราะรู้ว่าคนนี้มันชอบตาม
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
ญาติพี่น้องหรือทุกคนที่เอกยุทธได้ส่งสัญญาณดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงสัญญาณดังกล่าว
(โปรดติดตามอ่านต่อสัปดาห์หน้า)
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
http://www.naewna.com/politic/columnist/7414
ตำรวจบอก จบแล้ว แต่ แนวหน้า บอกยังไม่จบ ...... ทำไงดี ....
เรื่องนี้ ต้องให้คุณหญิงหมอ ...คนดัง มาร่วมพิสูจน์ไหม ทำไมยังไม่มีใคร
ไปเรียกร้อง คุณหญิง ให้มาพิสูจน์ .. ลืม คุณหญิงได้ไง ...
อ้อ โปรดติดตาม ต่อไปด้วยค่ะ ....
การตายของเอกยุทธ อัญชันบุตร ต้องไม่เงียบหาย เพราะเขาคือผู้ประกาศล้มระบอบทักษิณ (ตอนที่1) .... แนวหน้าออนไลน์
ทุกแขนงรวมถึงแนวหน้าช่วยกันคิดตาม ขุดคุ้ย
และเปิดโปงเบื้องหน้าเบื้องหลังการสังหารเอกยุทธอย่างใกล้ชิด
อย่าปล่อยให้เรื่องใหญ่นี้เงียบหายไป เพราะหากเรื่องนี้ถูกทำให้เงียบ
ก็หมายความว่าสังคมไทยกำลังตกอยู่ภายใต้อิทธิเถื่อนและอำนาจมืด
เขียนให้คิดวันนี้ขออนุญาตนำคำสัมภาษณ์บางส่วนที่สุวัตร อภัยภักดิ์
ทนายความของเอกยุทธให้สัมภาษณ์กับ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เมื่อเร็ว ๆ
นี้มาเผยแพร่อีกครั้ง
เชื่อว่าเมื่อคุณอ่านแล้วจะพบเงื่อนปมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐ
โดยเฉพาะประเด็นที่สุวัตรพูดว่า
“เอกยุทธคือคนที่นายใหญ่อยากให้ตายมากที่สุดคนหนึ่ง”
เหตุใดจึงตั้งข้อสงสัย และขอให้ตำรวจสืบสวน13 ปมตามที่ส่งหนังสือไปถึง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ข้อที่ 1 เรื่องมูลเหตุจูงใจ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์ เหตุใดจึงนำสร้อยคอทองคำ
พระสมเด็จเกศไชโยเลี่ยมทองราคาองค์ละเกือบสิบล้าน นาฬิกาโรเล็กซ์
ของมีค่าของผู้ตายทั้งหมดไปทิ้งน้ำ
เราจึงเชื่อว่าคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตมากกว่าจะประสงค์ต่อทรัพย์
แต่ถูกจัดฉากเบี่ยงประเด็นให้เห็นว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ทั้ง ๆ
ที่การเสียชีวิตของคุณเอกยุทธมีความเป็นไปได้ในหลายแนวทาง
ซึ่งผมในฐานะทนายได้ตั้งประเด็นเอาไว้ 4 ประเด็นหลักๆ ด้วยกันคือ 1.ชู้สาวหรือไม่
2.เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ 3.ขัดแย้งทางธุรกิจ 4.มีการวางแผนฆ่าทางการเมือง
ชั้นแรก เราเลือกที่ตัดประเด็นเรื่องธุรกิจไปเพราะไม่มีข้อน่าสงสัยในส่วนนี้
นอกจากนั้นเราก็ยังตั้งประเด็นที่ว่ามีการเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องตำรวจด้วยหรือไม่
เราก็โยงไปเกือบทุกประเด็นถ้าอันไหนไม่มีน้ำหนักเพียงพอเราก็ตัดออก
ส่วนที่น่าสงสัยมากที่สุดไม่พ้นเรื่องการเมือง
เพราะคุณเอกยุทธเป็นไม้เบื่อไม่เมากับระบอบทักษิณมายาวนาน
วิพากษ์วิจารณ์ออกมาปูดเรื่อง ว.5โฟร์ซีซั่น
หรือเรื่องมัลดีฟส์ที่พาดพิงไปถึงน้องสาว ซึ่งได้ทำการวิจารณ์มาตลอดในช่วงวันที่
2-5 มิถุนายน จนมาถูกอุ้มในวันที่ 6 มิถุนายน
คุณเอกยุทธเป็นคนที่นายใหญ่อยากให้ตายมากที่สุดคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายในประเด็น ว.5โฟร์ซีซั่น
ประกอบกับที่ทางตำรวจได้จับนายสันติภาพ เพ็งด้วงหรือบอล คนขับรถ
ทางตำรวจได้ให้โอกาสผมไปคุยกับนายบอล เขาก็ยอมรับว่านายเปี๊ยกเป็นคนว่าจ้างมา
เนื่องจากนายบอลมีประวัติเสียพนันบอลไว้เยอะมากเป็นหลักล้านบาท
และคือนายเปี๊ยกติดต่อจ้างเอากุญแจมือมาให้
เอาโทรศัพท์ที่นายบอลใช้ที่ร้านครัวกระแตมาให้ ประกอบกับขณะนั้นผมมีหลักฐานว่า
นายบอลเคยเป็นลูกน้องผู้กองมนัส ซึ่งเป็นขาใหญ่ในวงการมาเฟียมาก่อน
พอเรารู้ข้อมูลตรงนี้เราก็ตั้งคำถามว่ามีการให้นายบอลแฝงตัวมาหรือเปล่า 7
เดือนแล้วมาลงมือ เพราะผู้กองมนัสแต่ก่อนก็เคยเป็นลูกน้องเสธ.คนดัง
แต่เสร็จแล้วก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาเคลียร์ว่า ผู้กองมนัสไม่ได้ทำ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสธ.คนดัง
คำถามที่ตามมาคือเกี่ยวข้องกับใคร เพราะการวางแผนครั้งนี้มันหมดจดเหลือเกิน
เป็นในลักษณะวางแผนไป ทำลายหลักฐานไปด้วย
แล้วคุณเอกยุทธก็ฉลาดพยายามส่งสัญญาณมาให้ที่บ้านอยู่เรื่อย ๆ
ในวันที่เกิดเหตุถูกอุ้ม อาทิ โทรศัพท์มาถามพี่สาวว่ากุญแจบ้านอยู่ที่ไหน
ทั้งที่คุณเอกยุทธก็รู้อยู่แล้ว หรือจะแกล้งเขียนเช็คผิด
เวลาทางบ้านโทรฯไปก็บอกว่าไม่สะดวก คุยกับผู้ใหญ่อยู่
แม้กระทั่งถอดแหวนเพชรที่รักมากบนรถ และส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เพราะจะมีลูกน้องคนหนึ่งชอบขับรถตาม
เอกยุทธก็เจาะจงเลยว่าต้องให้คนนี้เอาไปส่งเพราะรู้ว่าคนนี้มันชอบตาม
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
ญาติพี่น้องหรือทุกคนที่เอกยุทธได้ส่งสัญญาณดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงสัญญาณดังกล่าว
(โปรดติดตามอ่านต่อสัปดาห์หน้า)
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
http://www.naewna.com/politic/columnist/7414
ตำรวจบอก จบแล้ว แต่ แนวหน้า บอกยังไม่จบ ...... ทำไงดี ....
เรื่องนี้ ต้องให้คุณหญิงหมอ ...คนดัง มาร่วมพิสูจน์ไหม ทำไมยังไม่มีใคร
ไปเรียกร้อง คุณหญิง ให้มาพิสูจน์ .. ลืม คุณหญิงได้ไง ...
อ้อ โปรดติดตาม ต่อไปด้วยค่ะ ....