เรียบเรียงจาก บทความภาษาอังกฤษจาก เวบ thegrandline และบทความแปลไทย ของเพจแฟนคลับ ทาคุยะ
เซพรวมกันไว้นานแล้ว เพิ่งมีเวลาเรียบเรียง เนื่องจากต้องการแปลให้เข้าใจง่ายและเหมาะกับแฟนๆวันพีชมากกว่า
จึงขออนุญาตินำเสนอในแบบมีอธิบายประกอบไปด้วย
ผิดถูกประการใดขออภัยครับ พยายามเรียบเรียงให้เข้าใจง่าย ลองอ่านดูครับ
Takuya Kimura
หนุ่มสุดหล่อแห่งวง SMAP ที่ใครก็รู้จัก เขาคือผู้ชายที่ถูกโหวตว่า 1 ใน 6 "บุคคลที่เซ็กซี่ที่สุดในญี่ปุ่น" หลายต่อหลายครั้ง
ทาคุยะ ไม่เคยอาย หรือปิดบังเกี่ยวกับความชอบของเขาที่มีต่อ One Piece .
http://25.media.tumblr.com/tumblr_m42bc1BngI1r6kceto5_250.gif
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวลาในแต่ละสัปดาห์ของเขา มักยุ่งอยู่กับการจัดรายการวิทยุ และรายการโทรทัศน์ (เป็นส่วนมาก)
เขาได้พบกับ เออิจิโระ โอดะ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2010
เป็นครั้งแรก
โดยตอนนั้นโอดะกำลังรอสัมภาษณ์ ร่วมกันในนิตยสาร Men’s NON-NO
และ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการสัมภาษ์ณพิเศษ ในครั้งนี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สัมภาษณ์พิเศษ
Takuya Kimura x Eiichiro Oda
หัวข้อ : One Heart คนใจเดียวกัน
Kimura: มีอยู่วันนึง ผมไปยังพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น
ซึ่งจัดรายการโทรทัศน์ประจำปีขององค์กรการกุศลทางโทรทัศน์’27-Hour Television’(เป็นรายการของ โทรทัศน์ Fukui television)
และพวกเราก็ได้ทำอาหารให้เค้าทานกันด้วย
มีเด็กผู้ชายมัธยมปลาย หลายคนเข้ามาหาผม และพูดคุยในสิ่งที่ตัวเองชอบ
"คุณรู้มั้ย ผมชอบ One Piece มากกว่าคุณซะอีก" เด็กเหล่านั้นบอก
ที่เขาพูดเรื่องวันพีชกับผม อาจเพราะ คนจำนวนมาก รู้ว่าผมคือ "One Piece King"
ในวงของเรา (SMAP)
ดังนั้น พวกเขาเหมือนจะมาเกทับ และบอกว่า เรื่องวันพีชน่ะ ชั้นชนะคุณแน่ !
อืม... ผมชอบนะที่พวกเขาพูดอย่างนั้น
และมันก็สนุก การที่ตัวผมได้เริ่มทบทวนทุกอย่างเกี่ยวกับ "ความคลั่งไคล้" ของการ์ตูน One Piece ที่ครอบงำจิตใจผมมาตลอด
ผมชอบ One Piece มันเป็นการ์ตูนที่ให้ "พลังใจที่แข็งแกร่งกับคนจำนวนมาก"
Oda: ว๊าววววว ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้ยิน มันเป็นความปารถนาของผมเลย ที่จะใช้การ์ตูนเชื่อมเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน
ผมมีความสุขจริงๆ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนแปลกหน้ากันสามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยวิธีนี้
Kimura: หากคุณคิดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงบางสิ่งกับผู้คนนั้น หมายถึง One Piece มันเป็นไปไม่ได้
เหมือนกับการที่ผมเล่นละครให้กับสถานี เมื่อผมเดินทางระหว่าง Nemuro ใน Hokkaido ถึง Tokyo แบบไปๆมาๆ เป็นเวลามาแล้ว2-3 เดือน
และ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงทานในสนามบินเอาของมาให้อยู่เสมอๆ :im12: และ"อ่ะนี่ให้ค่ะ( Hokkaido Choppers)" (ยิ้ม)
และพวกเขาก็มีที่ห้อยโทรศัพท์ One Piece กัน และเธอก็ชอบมันมาก
"มันคือ เจ้าช๊อปเปอร์ ชุดลิมิเต็ด ( Hokkaido Choppers)
"
เป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวของผม ผมคิดว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของ One Piece ที่ทำให้คนตาลุกวาวเมื่อได้เห็น
Oda: จริงๆแล้วคุณรู้ไหม คิมูระ ผมขอบคุณคุณมาก เพราะตั้งแต่คุณบอกว่าคุณชอบ One Piece มันทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีอันดับที่สูงขึ้นเลยนะ
Kimura: โอ๊ะ ผมคิดว่าไม่น่าจะจริงนะ (หัวเราะ)
Oda: ไม่ๆ มันเป็นเรื่องจริง ตอนที่คุณพูดว่าคุณชอบมัน ทุกคนต่างก็พูดถึงมัน กลายเป็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะพูดว่า "เราชอบ One Piece" โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆผู้หญิง
Kimura: คุณคิดอย่างนั้นเหรอ ??? แน่ใจหรือว่าพวกผู้หญิงไม่ได้ชื่นชอบ วันพีช ด้วยตัวเอง?
Oda: จริงๆนะ พวกเธอเริ่มมาสนใจ จริงๆพวกเธอก็ชอบ One Piece แต่ไม่เปิดเผยหรอก แต่พอคุณบอกในรายการว่า "ผมทาคุยะชอบวันพีช" เด็กก็ยังให้ความสนใจเลย
"มันเป็นเรื่องดีที่เขายอมรับว่าชอบมัน" ดังนั้นต้องขอบคุณนะ เพราะว่าคุณที่ยอมรับอย่างจริงจังว่าชอบและสนุกกับมัน ทำให้ One Piece รู้จักแพร่หลายไปด้วย ผมขอบคุณคุณจริงๆ
Kimura: ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น แต่วันพีชเอง มันก็มีพลังมหาศาลในตัวมันนะ ถึงแม้ว่าบางตอนที่ผมอ่านจะไม่ได้ทำให้ผมร้องไห้ เหมือนคนอื่น แต่ One Piece ก็ทำให้ผมชอบนะ
"โอ้วววว เกิดอะไรขึ้นกับตัวผมเนี่ย " หลังจากที่ผมอ่าน One Piece จบและกลับมาสู่โลกความจริง
ผมก็คิดว่าผมนำความกล้าหาญ มิตรภาพ ความจริงใจ และอะไรต่างๆมาไว้กับผม และมันยอดเยี่ยมมาก
อย่างไรก็ตามบทพูดของตัวละครมันน่าอัศจรรย์มาก ผมแบ่งดังนี้นะ 60%ของตัวหนังสือให้ความสนุก อีก 40% คือภาพ ถ้าจะให้ผมขอคุณตรงๆได้ ผมขอเรียกคุณว่า Odacchiนะครับ
Oda: ได้เลยๆ และจะมีความสุขมากด้วย(ขำ )
Kimura: ถ้าให้คุณเขียนเหมือนลำดับเหตุการณ์ในละครหรือหนัง แน่นอนมันก็เหมือนกับเรื่องของคุณที่เป็นตอนๆไปให้ติดตาม ผมมั่นใจว่าคุณไม่ว่างพอที่จะทำแน่
(ประมาณว่ามันคงสนุกเกินไป จนคนเรียกร้อง แล้วคนเขียนจินตนาการไม่ทัน)
Oda: ไม่มีทาง ผมเป็นพวกเขียนเกินจริง แต่ผมไม่ได้มีความสามารถพิเศษนะ(ผมไม่ใช่พอมดนะ) คุณก็พูดเกินไป (ขำ )
สองปีที่ผ่านมา ผมได้เขียนบทภาพยนต์ One Piece ผมได้รู้ถึงความน่ากลัวของงานเขียนบทโดยแท้
ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีของผมคำพูดกับภาพมันอาจไม่สอดคล้องกัน ผมจะได้เห็นภาพรวมมันก็ต่อเมื่อ ผมต้องวาดรูปภาพก่อน ผมพยายามที่จะเขียนภาพกับบทไปพร้อมกันแต่มันก็ออกมาได้ไม่ดี นั่นเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้กับความเจ็บปวดโดยแท้
Kimura: โหหหหห ตั้งแต่คุณได้ตั้งลักษณะตัวละครและคุณสามารถคิดบทเพื่อให้เข้ากันได้มันก็เยี่ยมมากแล้ว
Oda: คิมูระซัง คุณอ่านวันพีชผ่านทางรูปแบบไดรฟ์ใช่มั้ย??? (น่าจะอ่านผ่านเวบ หรือช่องทางสักอย่าง)
Kimura: ใช่แล้ว ผมต้้องการที่จะอ่านแบบส่วนตัว แต่ผมก็ชอบอ่านคอมเมนท์นะ ไม่รู้สิถ้าจะพูดกันตรงๆก็พวกตัวละครมันก็เกินจริงอยู่(ขำ )
Oda: หมายความว่าคุณอ่านจริงจังมากเลยใช่มะ???
Kimura: มันเป็นส่วนที่สำคัญนะ ถ้าคุณจะอ่านการ์ตูนคนพวกนั้นต้องเริ่มเรียกคุณว่า‘Oda-sensei’(อาจาร์ยโอดะ) แต่เมื่อคุณเขียนอะไรที่มันเกินไปหรืองี่เง่า จะเหมือนกับว่าพวกนั้นอยู่ข้างๆคุณ
เข้าใจคุณมากกว่าความเป็น Odacchi และมันก็เจ๋งมากที่สามารถแสดงความเป็นเด็กของคุณและอะไรที่คุณคิด พวกเราสามารถที่จะสนุกสุดๆกับถ้อยคำเพียงสองสามบรรทัดได้
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมชอบ SBS ท้ายตอน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้สื่อสารทางเดียว
Oda: นั่นสิ มันเป็นการล้อเล่นของผมเอง(ขำ ) เมื่อกี้เป็นไงบ้างความไฮเปอร์ของผม???? คุณรู้ใช่มะ???
Kimura: ครับ เยี่ยมเลย(ขำ )
Oda: แต่ว่าผมก็ไม่เคยคิดนะว่าใครจะมาสนใจในส่วนเหล่านี้ แม้ว่ามันจะเป็นผลดีกับผมที่จะทำมัน (หมายถึง ทำ SBS ตอบคำถามข้อสงสัยแฟนๆ ท้ายตอน)
Kimura: แต่ยังไง ความไฮเปอร์ปนเซ่อซ่า มันก็เจ๋งดีนะ
Oda: แต่ที่คุณพูดก็จริงนะ อย่างน้อยคนที่ทำงานใกล้ๆผม ไม่มีใครที่จะเรียกผมว่า‘Oda-sensei’เลย (ไม่ให้เรียกว่า อาจาร์ย) เพราะว่าการที่จะคิดงานจะเกิดกำแพงกั้นผมจึงหยุดมันซะ มันก็คงเป็นความรู้สึกด้านใน ต้องการเข้าใกล้กับผู้อ่านด้วยวิธีเซ่อๆของผมนี่หล่ะ นั่นคือทำไมผู้อ่านจึงสนุกไปกับผม(ขำ )
อ้อ.......เมื่อผมแต่งงานทุกคนต่างก็พูดหลากหลายเช่น
"เอ๋ อาจาร์ยแต่งงานแล้วเหรอออออ" เอ๋ ออออออออออออออออออออออออ
Kimura: อ๊ะ..... ในตอนที่คุณเขียนเกี่ยวกับภรรยา(ฉบับที่ 52 ประจำสัปดาห์ JUMP 2004) ที่เธอหน้าคล้ายๆกับ Namiแต่ไม่ใช่ (ขำ ) คิดในแง่ของคนอ่าน คือ "โชคดีนะที่ได้แต่งงานกับคนที่คล้ายๆ Nami!?”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Oda: ดีเลย ผมไม่ต้องการใครที่แค่เขียนส่งมา แต่ผมต้องการคำถามหลากหลายแบบ บางคำถามผมไม่สามารถที่จะตอบได้และหลายคำถามที่เป็นคำถามที่ดีแต่ผมก็ตอบไม่ได้(ขำ )
Kimura: ก็จริงนะ ผมหมายถึง การที่ผมมาพบ Odacchi ผู้อ่านอาจจะต้องการให้ผมตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่อง One Piece มากๆ แต่ผมก็จะไม่ทำตามกติกาหรอก
มันเป็นเส้นทางของ One Piece โอดัจจิ ถ้าผมพูดคุยกับเพื่อนมันก็โอเคนะ แต่การถามแนวที่มันเครียดไปมันจะเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่มองดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ นั่นก็จะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ มันจะไม่ใช่จินตนาการอีกต่อไป
Oda: โอ้ววววววว ขอบคุณจริงๆ ที่คุณบอกกับผมในวันนี้ มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากเมื่อได้ฟัง (ขำ ) เออนี่...แล้ว Kimura-san คุณมักจะถูกถามเรื่องตัวละครที่คุณชอบใช่มั้ย???
Kimura: ตลอดเวลาเลยหล่ะ เคยมีคำถามถึงบรรทัดที่ชอบด้วยนะ
Oda: บรรทัดไหนล่ะ?????
Kimura: ผมชอบรวมๆนะ แต่ว่า ที่กระตุ้นความรู้สึกผมเป็นพิเศษคือ “See, it’s unbreakable.” (Vol. 17 Ch. 148) เหมือนว่าเขาทำให้ผมตื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หมายถึงตอนนี้ครับ "วาโปลูต้องการ ยิงธงโจรสลัดสัญลักษณ์ของด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ลงจากยอดปราสาทของตน แต่ลูฟี่ยืนยันว่า ต่อให้ยิงมา เจตต์จำนงค์ของสิ่งนั้นก็ไม่มีวันสลายไป"
Oda: คำพวกนั้นพูดถึง ลูฟี่ ในลักษณะที่ตรงไปตรงมาน่ะ
-ต่อด้านล่าง-
บทสัมภาษณ์ KIMURA TAKUYA X EIICHIRO ODA : "ONE HEART"
เรียบเรียงจาก บทความภาษาอังกฤษจาก เวบ thegrandline และบทความแปลไทย ของเพจแฟนคลับ ทาคุยะ
เซพรวมกันไว้นานแล้ว เพิ่งมีเวลาเรียบเรียง เนื่องจากต้องการแปลให้เข้าใจง่ายและเหมาะกับแฟนๆวันพีชมากกว่า
จึงขออนุญาตินำเสนอในแบบมีอธิบายประกอบไปด้วย
ผิดถูกประการใดขออภัยครับ พยายามเรียบเรียงให้เข้าใจง่าย ลองอ่านดูครับ
Takuya Kimura
หนุ่มสุดหล่อแห่งวง SMAP ที่ใครก็รู้จัก เขาคือผู้ชายที่ถูกโหวตว่า 1 ใน 6 "บุคคลที่เซ็กซี่ที่สุดในญี่ปุ่น" หลายต่อหลายครั้ง
ทาคุยะ ไม่เคยอาย หรือปิดบังเกี่ยวกับความชอบของเขาที่มีต่อ One Piece .
http://25.media.tumblr.com/tumblr_m42bc1BngI1r6kceto5_250.gif
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวลาในแต่ละสัปดาห์ของเขา มักยุ่งอยู่กับการจัดรายการวิทยุ และรายการโทรทัศน์ (เป็นส่วนมาก)
เขาได้พบกับ เออิจิโระ โอดะ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2010
เป็นครั้งแรก
โดยตอนนั้นโอดะกำลังรอสัมภาษณ์ ร่วมกันในนิตยสาร Men’s NON-NO
และ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการสัมภาษ์ณพิเศษ ในครั้งนี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สัมภาษณ์พิเศษ
Takuya Kimura x Eiichiro Oda
หัวข้อ : One Heart คนใจเดียวกัน
Kimura: มีอยู่วันนึง ผมไปยังพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น
ซึ่งจัดรายการโทรทัศน์ประจำปีขององค์กรการกุศลทางโทรทัศน์’27-Hour Television’(เป็นรายการของ โทรทัศน์ Fukui television)
และพวกเราก็ได้ทำอาหารให้เค้าทานกันด้วย
มีเด็กผู้ชายมัธยมปลาย หลายคนเข้ามาหาผม และพูดคุยในสิ่งที่ตัวเองชอบ
"คุณรู้มั้ย ผมชอบ One Piece มากกว่าคุณซะอีก" เด็กเหล่านั้นบอก
ที่เขาพูดเรื่องวันพีชกับผม อาจเพราะ คนจำนวนมาก รู้ว่าผมคือ "One Piece King"
ในวงของเรา (SMAP)
ดังนั้น พวกเขาเหมือนจะมาเกทับ และบอกว่า เรื่องวันพีชน่ะ ชั้นชนะคุณแน่ !
อืม... ผมชอบนะที่พวกเขาพูดอย่างนั้น
และมันก็สนุก การที่ตัวผมได้เริ่มทบทวนทุกอย่างเกี่ยวกับ "ความคลั่งไคล้" ของการ์ตูน One Piece ที่ครอบงำจิตใจผมมาตลอด
ผมชอบ One Piece มันเป็นการ์ตูนที่ให้ "พลังใจที่แข็งแกร่งกับคนจำนวนมาก"
Oda: ว๊าววววว ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้ยิน มันเป็นความปารถนาของผมเลย ที่จะใช้การ์ตูนเชื่อมเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน
ผมมีความสุขจริงๆ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนแปลกหน้ากันสามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยวิธีนี้
Kimura: หากคุณคิดเกี่ยวกับการเชื่อมโยงบางสิ่งกับผู้คนนั้น หมายถึง One Piece มันเป็นไปไม่ได้
เหมือนกับการที่ผมเล่นละครให้กับสถานี เมื่อผมเดินทางระหว่าง Nemuro ใน Hokkaido ถึง Tokyo แบบไปๆมาๆ เป็นเวลามาแล้ว2-3 เดือน
และ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงทานในสนามบินเอาของมาให้อยู่เสมอๆ :im12: และ"อ่ะนี่ให้ค่ะ( Hokkaido Choppers)" (ยิ้ม)
และพวกเขาก็มีที่ห้อยโทรศัพท์ One Piece กัน และเธอก็ชอบมันมาก
"มันคือ เจ้าช๊อปเปอร์ ชุดลิมิเต็ด ( Hokkaido Choppers)
"
เป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวของผม ผมคิดว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของ One Piece ที่ทำให้คนตาลุกวาวเมื่อได้เห็น
Oda: จริงๆแล้วคุณรู้ไหม คิมูระ ผมขอบคุณคุณมาก เพราะตั้งแต่คุณบอกว่าคุณชอบ One Piece มันทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีอันดับที่สูงขึ้นเลยนะ
Kimura: โอ๊ะ ผมคิดว่าไม่น่าจะจริงนะ (หัวเราะ)
Oda: ไม่ๆ มันเป็นเรื่องจริง ตอนที่คุณพูดว่าคุณชอบมัน ทุกคนต่างก็พูดถึงมัน กลายเป็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะพูดว่า "เราชอบ One Piece" โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆผู้หญิง
Kimura: คุณคิดอย่างนั้นเหรอ ??? แน่ใจหรือว่าพวกผู้หญิงไม่ได้ชื่นชอบ วันพีช ด้วยตัวเอง?
Oda: จริงๆนะ พวกเธอเริ่มมาสนใจ จริงๆพวกเธอก็ชอบ One Piece แต่ไม่เปิดเผยหรอก แต่พอคุณบอกในรายการว่า "ผมทาคุยะชอบวันพีช" เด็กก็ยังให้ความสนใจเลย
"มันเป็นเรื่องดีที่เขายอมรับว่าชอบมัน" ดังนั้นต้องขอบคุณนะ เพราะว่าคุณที่ยอมรับอย่างจริงจังว่าชอบและสนุกกับมัน ทำให้ One Piece รู้จักแพร่หลายไปด้วย ผมขอบคุณคุณจริงๆ
Kimura: ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น แต่วันพีชเอง มันก็มีพลังมหาศาลในตัวมันนะ ถึงแม้ว่าบางตอนที่ผมอ่านจะไม่ได้ทำให้ผมร้องไห้ เหมือนคนอื่น แต่ One Piece ก็ทำให้ผมชอบนะ
"โอ้วววว เกิดอะไรขึ้นกับตัวผมเนี่ย " หลังจากที่ผมอ่าน One Piece จบและกลับมาสู่โลกความจริง
ผมก็คิดว่าผมนำความกล้าหาญ มิตรภาพ ความจริงใจ และอะไรต่างๆมาไว้กับผม และมันยอดเยี่ยมมาก
อย่างไรก็ตามบทพูดของตัวละครมันน่าอัศจรรย์มาก ผมแบ่งดังนี้นะ 60%ของตัวหนังสือให้ความสนุก อีก 40% คือภาพ ถ้าจะให้ผมขอคุณตรงๆได้ ผมขอเรียกคุณว่า Odacchiนะครับ
Oda: ได้เลยๆ และจะมีความสุขมากด้วย(ขำ )
Kimura: ถ้าให้คุณเขียนเหมือนลำดับเหตุการณ์ในละครหรือหนัง แน่นอนมันก็เหมือนกับเรื่องของคุณที่เป็นตอนๆไปให้ติดตาม ผมมั่นใจว่าคุณไม่ว่างพอที่จะทำแน่
(ประมาณว่ามันคงสนุกเกินไป จนคนเรียกร้อง แล้วคนเขียนจินตนาการไม่ทัน)
Oda: ไม่มีทาง ผมเป็นพวกเขียนเกินจริง แต่ผมไม่ได้มีความสามารถพิเศษนะ(ผมไม่ใช่พอมดนะ) คุณก็พูดเกินไป (ขำ )
สองปีที่ผ่านมา ผมได้เขียนบทภาพยนต์ One Piece ผมได้รู้ถึงความน่ากลัวของงานเขียนบทโดยแท้
ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีของผมคำพูดกับภาพมันอาจไม่สอดคล้องกัน ผมจะได้เห็นภาพรวมมันก็ต่อเมื่อ ผมต้องวาดรูปภาพก่อน ผมพยายามที่จะเขียนภาพกับบทไปพร้อมกันแต่มันก็ออกมาได้ไม่ดี นั่นเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้กับความเจ็บปวดโดยแท้
Kimura: โหหหหห ตั้งแต่คุณได้ตั้งลักษณะตัวละครและคุณสามารถคิดบทเพื่อให้เข้ากันได้มันก็เยี่ยมมากแล้ว
Oda: คิมูระซัง คุณอ่านวันพีชผ่านทางรูปแบบไดรฟ์ใช่มั้ย??? (น่าจะอ่านผ่านเวบ หรือช่องทางสักอย่าง)
Kimura: ใช่แล้ว ผมต้้องการที่จะอ่านแบบส่วนตัว แต่ผมก็ชอบอ่านคอมเมนท์นะ ไม่รู้สิถ้าจะพูดกันตรงๆก็พวกตัวละครมันก็เกินจริงอยู่(ขำ )
Oda: หมายความว่าคุณอ่านจริงจังมากเลยใช่มะ???
Kimura: มันเป็นส่วนที่สำคัญนะ ถ้าคุณจะอ่านการ์ตูนคนพวกนั้นต้องเริ่มเรียกคุณว่า‘Oda-sensei’(อาจาร์ยโอดะ) แต่เมื่อคุณเขียนอะไรที่มันเกินไปหรืองี่เง่า จะเหมือนกับว่าพวกนั้นอยู่ข้างๆคุณ
เข้าใจคุณมากกว่าความเป็น Odacchi และมันก็เจ๋งมากที่สามารถแสดงความเป็นเด็กของคุณและอะไรที่คุณคิด พวกเราสามารถที่จะสนุกสุดๆกับถ้อยคำเพียงสองสามบรรทัดได้
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมชอบ SBS ท้ายตอน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้สื่อสารทางเดียว
Oda: นั่นสิ มันเป็นการล้อเล่นของผมเอง(ขำ ) เมื่อกี้เป็นไงบ้างความไฮเปอร์ของผม???? คุณรู้ใช่มะ???
Kimura: ครับ เยี่ยมเลย(ขำ )
Oda: แต่ว่าผมก็ไม่เคยคิดนะว่าใครจะมาสนใจในส่วนเหล่านี้ แม้ว่ามันจะเป็นผลดีกับผมที่จะทำมัน (หมายถึง ทำ SBS ตอบคำถามข้อสงสัยแฟนๆ ท้ายตอน)
Kimura: แต่ยังไง ความไฮเปอร์ปนเซ่อซ่า มันก็เจ๋งดีนะ
Oda: แต่ที่คุณพูดก็จริงนะ อย่างน้อยคนที่ทำงานใกล้ๆผม ไม่มีใครที่จะเรียกผมว่า‘Oda-sensei’เลย (ไม่ให้เรียกว่า อาจาร์ย) เพราะว่าการที่จะคิดงานจะเกิดกำแพงกั้นผมจึงหยุดมันซะ มันก็คงเป็นความรู้สึกด้านใน ต้องการเข้าใกล้กับผู้อ่านด้วยวิธีเซ่อๆของผมนี่หล่ะ นั่นคือทำไมผู้อ่านจึงสนุกไปกับผม(ขำ )
อ้อ.......เมื่อผมแต่งงานทุกคนต่างก็พูดหลากหลายเช่น
"เอ๋ อาจาร์ยแต่งงานแล้วเหรอออออ" เอ๋ ออออออออออออออออออออออออ
Kimura: อ๊ะ..... ในตอนที่คุณเขียนเกี่ยวกับภรรยา(ฉบับที่ 52 ประจำสัปดาห์ JUMP 2004) ที่เธอหน้าคล้ายๆกับ Namiแต่ไม่ใช่ (ขำ ) คิดในแง่ของคนอ่าน คือ "โชคดีนะที่ได้แต่งงานกับคนที่คล้ายๆ Nami!?”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Oda: ดีเลย ผมไม่ต้องการใครที่แค่เขียนส่งมา แต่ผมต้องการคำถามหลากหลายแบบ บางคำถามผมไม่สามารถที่จะตอบได้และหลายคำถามที่เป็นคำถามที่ดีแต่ผมก็ตอบไม่ได้(ขำ )
Kimura: ก็จริงนะ ผมหมายถึง การที่ผมมาพบ Odacchi ผู้อ่านอาจจะต้องการให้ผมตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่อง One Piece มากๆ แต่ผมก็จะไม่ทำตามกติกาหรอก
มันเป็นเส้นทางของ One Piece โอดัจจิ ถ้าผมพูดคุยกับเพื่อนมันก็โอเคนะ แต่การถามแนวที่มันเครียดไปมันจะเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่มองดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ นั่นก็จะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ มันจะไม่ใช่จินตนาการอีกต่อไป
Oda: โอ้ววววววว ขอบคุณจริงๆ ที่คุณบอกกับผมในวันนี้ มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากเมื่อได้ฟัง (ขำ ) เออนี่...แล้ว Kimura-san คุณมักจะถูกถามเรื่องตัวละครที่คุณชอบใช่มั้ย???
Kimura: ตลอดเวลาเลยหล่ะ เคยมีคำถามถึงบรรทัดที่ชอบด้วยนะ
Oda: บรรทัดไหนล่ะ?????
Kimura: ผมชอบรวมๆนะ แต่ว่า ที่กระตุ้นความรู้สึกผมเป็นพิเศษคือ “See, it’s unbreakable.” (Vol. 17 Ch. 148) เหมือนว่าเขาทำให้ผมตื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Oda: คำพวกนั้นพูดถึง ลูฟี่ ในลักษณะที่ตรงไปตรงมาน่ะ
-ต่อด้านล่าง-