เริ่มต้นเรื่องในพรรษาปี พ.ศ. 2473 หลวงปู่ผู้เป็นสหายธรรม 3 องค์ คือ
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และ หลวงปู่ขาว อนาลโย
ได้พักจำพรรษาด้วยกันที่วัดป่าหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ทั้งสามองค์ก็แยกย้ายกันไปบำเพ็ญเพียรตาม
อัธยาศัยของแต่องค์
ทางด้านทางด้านหลวงปู่หลุย ท่านเดินธุดงค์กลับไปจังหวัดเลย บ้านเกิดของ
ท่าน เพื่อไปเยี่ยมมารดาและญาติพี่น้อง ที่ท่านได้จากไปหลายปี ไม่เคยส่ง
ข่าวคราวจนเป็นที่สงสัยกันว่า ท่านอาจมรณภาพแล้วก็ได้
หลวงปู่หลุย จันทสาโร - วัดถำ้ผาบิ้ง จ.เลย
...หลวงปู่หลุยพักอยู่ที่จังหวัดเลยระยะหนึ่ง ก็ได้ธุดงค์ต่อมาทางจังหวัด
เพชรบูรณ์ แล้วมาที่อำเภอหล่มสัก ด้วยโยมมารดาของท่านมีพื้นเพภูมิลำเนา
อยู่ที่นั่น จึงมีบ้านญาติบ้านพี่บ้านน้อง คนคุ้นเคยอยู่มาก
เมื่อมาถึงหล่มสัก ก็ทราบว่าบ้านญาติคนหนึ่งมีงานศพ นิมนต์พระไปสวดมนต์
แล้วองค์หลวงปู่หลุย ก็ได้รับนิมนต์ไปด้วย
หลวงปู่หลุยเล่าให้ศิษย์ฟังภายหลังว่า ท่านไม่เคยคิดเลยว่าการแวะเยี่ยมญาติ
และสวดมนต์ในครั้งนั้น จะทำให้ท่านถึงกับซวนเซลงแทบจะล้มลงทั้งยืน
หลวงปู่ท่านถูกศรกามเทพปักที่กลางอกเข้าอย่างจัง ทำให้ซวนเซล้มอย่าง
ไม่มีสติสตังเลยทีเดียว !
หลวงปู่หลุยเคยเล่าให้เฉพาะศิษย์ผู้ใกล้ชิดฟังว่า วันนั้นท่านกำลังสวดมนต์อยู่
ระหว่างหยุดพักการสวด เจ้าบ้านก็นำนำ้ปานะมาถวายพระแก้คอแห้ง บังเอิญ
ท่านชำเลืองมองไปในหมู่แขกที่กำลังนั่งฟังสวดมนต์อยู่ ก็ไปสบตาเข้ากับหญิง
สาวคนหนึ่ง
เพียงสบตาเท่านั้น ท่านก็รู้สึกแปล๊บเข้าไปในหัวใจ ! เหมือนสายฟ้าฟาด
แทบจะไม่สมประดี !
หลวงปู่เล่าว่า เพียงตาพบแว้บเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ท่านงุนงง
แทบจะเป็นลม... ที่แปลกยิ่ง ทางฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ก็เป็นลมไปด้วย !
โชคดีหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม พระผู้ใหญ่ ได้รับนิมนต์ไปในงานด้วย ท่าน
คงสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของหลวงปู่หลุยพระหนุ่ม หรือ ท่านอาจ
กำหนดจิตทราบเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็ได้ จึงได้เข้าไปประคองไว้ได้ทัน
ไม่เช่นนั้น หลวงปู่หลุยคงเป็นลมล้มตึงลงจริงๆ !
หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม - วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
ที่แปลกยิ่งอีกอย่างคือ " ทางฝ่ายหญิงสาวที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นลมไป
เช่นกัน ! "
หลวงปู่หลุยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า คงเป็นอำนาจความเกี่ยวข้องแต่บุพชาติที่มา
บังคับให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ท่านบอกว่า " ในหัวอกเหมือนจะมีอะไรที่เกิด
จากหนหลัง แล้วหวนกลับมาเกิดอีก "
ท่านเล่าว่า หลวงปู่สิงห์ ได้อธิบายให้ท่านฟังในภายหลังว่า การครั้งนี้เป็น
นิมิตรเนื่องจากบุพเพสันนิวาส ซึ่งตัวท่าน ( หลวงปู่หลุย ) และหญิงสาวผู้นั้น
เคยเป็นเนื้อคู่เกี่ยวข้องกันมาช้านาน เคยบำเพ็ญบารมีคู่กันมาโดยเฉพาะ
หลวงปู่หลุย ในช่วงนั้น รู้สึกว่าท่านมาถึงทางสองแพร่ง " หัวอกแทบระเบิด "
ความคิดด้านหนึ่งอยากไปหาหญิงสาว ตามหาหัวใจของตนให้พบ แต่ความ
คิดอีกด้านหนึ่ง ก็คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องบำเพ็ญเพศพรหมจรรย์ต่อไป
หลวงปู่สิงห์ ท่านคงหยั่งรู้ใจ เอาพระภิกษุหนุ่ม ที่จะกลายเป็นศิษย์ของท่าน
ในเวลาต่อมา ( ตอนนั้น หลวงปู่หลุยยังเป็นพระหนุ่มอายุ 29 ปี พรรษา 6
ขณะที่ หลวงปู่สิงห์ มีอายุ 41 ปี พรรษา 24 ) ท่านจึงรีบเข้าประคองและ
พาตัวหลวงปู่หลุย ออกจากบริเวณงาน แล้วพาตัวออกจากหล่มสักไปโดยเร็ว
ที่สุด
หลวงปู่หลุย เล่าย้อนหลังถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า " ไม่ใช่เป็นการพาตัวมา
อย่างธรรมดา แต่เป็นการควบคุมนักโทษ ผู้หนีออกจากมารที่รบกวนหัวใจ
โดยเร็ว "
หลวงปู่สิงห์ ได้พาหลวงปู่หลุย เที่ยววิเวกมาตามป่าตามเขา และเร่งทำตบะ
ความเพียรอย่างหนัก ให้ท่านพยายามอดนอน อดอาหาร เพื่อผ่อนคลาย
ความนึกคิดถึงมาตุคาม (สตรีเพศ) ให้เร่งภาวนาพุทโธ - พุทโธ อย่างถี่ยิบ
และนั่งข่มขันธ์เพื่อตัดกระแสความคิดนั้นออกจากใจให้ได้
...นับว่าโชคดีของหลวงปู่หลุย และเป็นบุญของพวกเราเหล่าศิษย์ลูก ศิษย์
หลาน ที่องค์หลวงปู่สิงห์ ได้มีญาณหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และให้
ความช่วยเหลือได้ทันการ ทำให้มีหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ให้พวกเรารุ่นหลัง
ได้กราบไหว้ และระลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้ ...
เรียบเรียงจากหนังสือ :-
" พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ ( หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ) "
Credit :
http://board.palungjit.com/f4/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-501381.html
หลวงปู่สิงห์ช่วยศิษย์ ถอนพิษศรกามเทพ...
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และ หลวงปู่ขาว อนาลโย
ได้พักจำพรรษาด้วยกันที่วัดป่าหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ทั้งสามองค์ก็แยกย้ายกันไปบำเพ็ญเพียรตาม
อัธยาศัยของแต่องค์
ทางด้านทางด้านหลวงปู่หลุย ท่านเดินธุดงค์กลับไปจังหวัดเลย บ้านเกิดของ
ท่าน เพื่อไปเยี่ยมมารดาและญาติพี่น้อง ที่ท่านได้จากไปหลายปี ไม่เคยส่ง
ข่าวคราวจนเป็นที่สงสัยกันว่า ท่านอาจมรณภาพแล้วก็ได้
หลวงปู่หลุย จันทสาโร - วัดถำ้ผาบิ้ง จ.เลย
...หลวงปู่หลุยพักอยู่ที่จังหวัดเลยระยะหนึ่ง ก็ได้ธุดงค์ต่อมาทางจังหวัด
เพชรบูรณ์ แล้วมาที่อำเภอหล่มสัก ด้วยโยมมารดาของท่านมีพื้นเพภูมิลำเนา
อยู่ที่นั่น จึงมีบ้านญาติบ้านพี่บ้านน้อง คนคุ้นเคยอยู่มาก
เมื่อมาถึงหล่มสัก ก็ทราบว่าบ้านญาติคนหนึ่งมีงานศพ นิมนต์พระไปสวดมนต์
แล้วองค์หลวงปู่หลุย ก็ได้รับนิมนต์ไปด้วย
หลวงปู่หลุยเล่าให้ศิษย์ฟังภายหลังว่า ท่านไม่เคยคิดเลยว่าการแวะเยี่ยมญาติ
และสวดมนต์ในครั้งนั้น จะทำให้ท่านถึงกับซวนเซลงแทบจะล้มลงทั้งยืน
หลวงปู่ท่านถูกศรกามเทพปักที่กลางอกเข้าอย่างจัง ทำให้ซวนเซล้มอย่าง
ไม่มีสติสตังเลยทีเดียว !
หลวงปู่หลุยเคยเล่าให้เฉพาะศิษย์ผู้ใกล้ชิดฟังว่า วันนั้นท่านกำลังสวดมนต์อยู่
ระหว่างหยุดพักการสวด เจ้าบ้านก็นำนำ้ปานะมาถวายพระแก้คอแห้ง บังเอิญ
ท่านชำเลืองมองไปในหมู่แขกที่กำลังนั่งฟังสวดมนต์อยู่ ก็ไปสบตาเข้ากับหญิง
สาวคนหนึ่ง
เพียงสบตาเท่านั้น ท่านก็รู้สึกแปล๊บเข้าไปในหัวใจ ! เหมือนสายฟ้าฟาด
แทบจะไม่สมประดี !
หลวงปู่เล่าว่า เพียงตาพบแว้บเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ท่านงุนงง
แทบจะเป็นลม... ที่แปลกยิ่ง ทางฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ก็เป็นลมไปด้วย !
โชคดีหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม พระผู้ใหญ่ ได้รับนิมนต์ไปในงานด้วย ท่าน
คงสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของหลวงปู่หลุยพระหนุ่ม หรือ ท่านอาจ
กำหนดจิตทราบเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็ได้ จึงได้เข้าไปประคองไว้ได้ทัน
ไม่เช่นนั้น หลวงปู่หลุยคงเป็นลมล้มตึงลงจริงๆ !
หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม - วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
ที่แปลกยิ่งอีกอย่างคือ " ทางฝ่ายหญิงสาวที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นลมไป
เช่นกัน ! "
หลวงปู่หลุยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า คงเป็นอำนาจความเกี่ยวข้องแต่บุพชาติที่มา
บังคับให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ท่านบอกว่า " ในหัวอกเหมือนจะมีอะไรที่เกิด
จากหนหลัง แล้วหวนกลับมาเกิดอีก "
ท่านเล่าว่า หลวงปู่สิงห์ ได้อธิบายให้ท่านฟังในภายหลังว่า การครั้งนี้เป็น
นิมิตรเนื่องจากบุพเพสันนิวาส ซึ่งตัวท่าน ( หลวงปู่หลุย ) และหญิงสาวผู้นั้น
เคยเป็นเนื้อคู่เกี่ยวข้องกันมาช้านาน เคยบำเพ็ญบารมีคู่กันมาโดยเฉพาะ
หลวงปู่หลุย ในช่วงนั้น รู้สึกว่าท่านมาถึงทางสองแพร่ง " หัวอกแทบระเบิด "
ความคิดด้านหนึ่งอยากไปหาหญิงสาว ตามหาหัวใจของตนให้พบ แต่ความ
คิดอีกด้านหนึ่ง ก็คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องบำเพ็ญเพศพรหมจรรย์ต่อไป
หลวงปู่สิงห์ ท่านคงหยั่งรู้ใจ เอาพระภิกษุหนุ่ม ที่จะกลายเป็นศิษย์ของท่าน
ในเวลาต่อมา ( ตอนนั้น หลวงปู่หลุยยังเป็นพระหนุ่มอายุ 29 ปี พรรษา 6
ขณะที่ หลวงปู่สิงห์ มีอายุ 41 ปี พรรษา 24 ) ท่านจึงรีบเข้าประคองและ
พาตัวหลวงปู่หลุย ออกจากบริเวณงาน แล้วพาตัวออกจากหล่มสักไปโดยเร็ว
ที่สุด
หลวงปู่หลุย เล่าย้อนหลังถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า " ไม่ใช่เป็นการพาตัวมา
อย่างธรรมดา แต่เป็นการควบคุมนักโทษ ผู้หนีออกจากมารที่รบกวนหัวใจ
โดยเร็ว "
หลวงปู่สิงห์ ได้พาหลวงปู่หลุย เที่ยววิเวกมาตามป่าตามเขา และเร่งทำตบะ
ความเพียรอย่างหนัก ให้ท่านพยายามอดนอน อดอาหาร เพื่อผ่อนคลาย
ความนึกคิดถึงมาตุคาม (สตรีเพศ) ให้เร่งภาวนาพุทโธ - พุทโธ อย่างถี่ยิบ
และนั่งข่มขันธ์เพื่อตัดกระแสความคิดนั้นออกจากใจให้ได้
...นับว่าโชคดีของหลวงปู่หลุย และเป็นบุญของพวกเราเหล่าศิษย์ลูก ศิษย์
หลาน ที่องค์หลวงปู่สิงห์ ได้มีญาณหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และให้
ความช่วยเหลือได้ทันการ ทำให้มีหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ให้พวกเรารุ่นหลัง
ได้กราบไหว้ และระลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้ ...
เรียบเรียงจากหนังสือ :-
" พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ ( หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ) "
Credit : http://board.palungjit.com/f4/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-501381.html