เล่าประสบการณ์เพื่อนชวนไปฟัง..........

เอิ่ม เรื่องของเรื่องก็คือ มีน้องคนนึงที่รู้จักกัน จู่ๆก็ไลน์มาบอกว่า

"พี่คะ วันเสาร์นี้พี่ว่างไหม หนูมีงานสัมมนาอยากให้พี่ไป เป็นเรื่องเกี่ยวกับ AEC เป็นภาษาอังกฤษ หนูคิดว่ามันดีมากเลย แล้วก็ตรงกับที่พี่ทำงานด้านนี้อยู่ด้วย หนูมีบัตรเลยอยากชวนไป"

"อ้าวไม่มีเพื่อนเหรอ หาคนอื่นไม่ได้แล้วเหรอ เค ถ้าไม่ได้พี่ไปก็ได้ แต่วันเสาร์นี้พี่ติดสัมมนาจ้ะ"

"..... โอเค งั้นไม่เป็นไรค่ะ"

เสาร์ถัดมา

"พี่คะ หนูมีบัตรมาอีกแล้วเป็นเรื่อง AEC แต่ครั้งนี้เป็นภาษาไทย พี่อยากไปไหม?"
คิดหนึ่งที ถ้าหัวข้อนี้ก็น่าสนใจ แถมได้ไปเป็นเพื่อนน้องด้วย

"ก็ได้จ้ะ จัดที่โรงแรมอะไรล่ะ"

"บอกชื่อโรงแรมแห่งหนึ่งแถวๆบ้าน" โอ้วพอดีเลย เค อย่างนี้ไม่ลำบาก ไปก็ได้

วันเสาร์ก็เวียนมาถึง
"พี่คะ หนูไปสายหน่อยหนึ่ง พอดีมีเพื่อนอยากไปงานนี้ด้วย และมีคนข้างบ้านเขาจะไปด้วย เดี๋ยวหนูแนะนำให้รู้จักนะคะ แม่หนูก็จะไปด้วยค่ะ เดี๋ยวพี่เข้าไปในงานกับแม่หนูก่อนนะคะ เพราะหนูจะพาเพื่อนไปอาจจะสายนิดหน่อย"

(คิดในใจ เอิ่ม เขาก็มีเพื่อนแล้วนินา แล้วจะมาชวนเราอีกเหรอ ไม่ไปดีกว่า แต่ก็นัดไว้แล้ว ด้วยความที่เกรงใจ ไปหน่อยละกัน)
ก็เลยโทรศัพท์ไปนัดแนะกับคุณแม่
"อ้าว .... หรือลูก น้อง.... เขาจะมาช้าหน่อยหนึ่งนะคะ เขาเล่าให้หนูฟังหรือยังว่า ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากเลย"

ป๊าปปปปปปปปปปปปปปปป หัวก็เลยพาลไปคิดถึงวันที่เจอล่าสุด เฮ่ย มานบอกว่ามันทำธุรกิจขายตรง บริษัท ........

กดโทรศัพท์หาตัวช่วยทันที ไม่คิดว่ามันจะมามุก AEC แบบนี้ แต่ก็ไม่คิดนะว่าน้องเขาจะพามาแบบนี้ ก็ลองไปดูก่อนไม่เสียหาย ยังไม่เจอก็ยังบอกอะไรไม่ได้ AEC มันอาจจะเกี่ยวกับธุรกิจก็ได้นี่

พอวันไปถึงที่หน้างานก็มีคนยืนเก็บบัตร เหลือบไปเห็นบัตรเขียนว่า อะไรไม่รู้ กลยุทธเปิดตลาด AEC อะไรสักอย่าง แต่พอเข้าไปฟังปุ๊บ

บนเวทีไหง๋ เอาแต่พูดว่า เราทำงานไปทำไม เหนื่อย ทำธุรกิจนี้ไม่ต้องทำงาน ไม่เหนื่อย แล้วยังได้เงินด้วย ละก็บลา บลา บลา

อุเหม่ ในชีวิตนี้ มีคนเคยพาไปฟัง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าจะมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้วแต่ก็ยังไม่วาย (ครั้งนั้น พากันไปเจอ กรุ๊ปเขา ทั้งอัพลาย ดาวลาย ทริปเปิ้ลไดมอน ระดับไดมอน หุหุหุ คำศัพท์นี้ก็ได้รับรู้เพราะประสบการณ์จากที่แห่งแรกนี่ล่ะเคอะ) ครั้งนี้ก็ยังเป็นไก่ตาแหกอยู่ เพราะว่าไม่คิดว่า AEC จะกลายมาเป็น อัพไลน์ ดาวไลน์ ไปได้วุ้ยยยยย

ยังๆ น้องมานยังไม่มา (ถึงมาก็ไม่รู้จะโวยยังไง) พี่บนเวทีก็ปลุกระดมใหญ่ ต้องการแบบนี้ใช่ไหม อยากทำงานแบบ passive income ไหม บลา บลา แล้วก็มีวิดิทัศน์ประกอบ ได้ไปเที่ยวกัน ไปลาสเวกัส (โห ตอนที่ไปชมครั้งแรกกับยี่ห้อนึง ก็ไปเที่ยวเวกัสแบบนี้) ไปญีปุ่น ไปมัลดีฟท์ เดินเข้าออกร้านค้าแบรนด์เนม ซื้อของ มีถุงใบโตเดินกันออกมา ชีวิตมีรถเบนซ์ขับ มีบ้านหลังโต พร้อมคำโปรยสวยหรู ผมจบจากเภสัช รั้วมหาลัยชั้นนำ (เขาก็เอารูปรับปริญญาของจริงมาโชว์) สุดท้ายก็อยากทำงานที่ชาญฉลาด มีเวลา และมีเงิน รวมถึงไม่ต้องทำงานก็ได้เงิน! ตอนออกมาทำกับที่นี่ ครั้งแรก ได้เงินเดือนน้อยกว่าเดิม แต่ทำไป 3 ปี ได้เงินเดือน 300,000 คนก็กรี๊ดกร๊าดใหญ่โต

อิฉันก็ยังงงเป็นไก่ตาแหกอยู่ เพราะถึงแม้ว่าเงินจะบันดาลข้าวของ เครื่องใช้ สวยงามรอบกาย ก็ไม่ได้อยากทำอาชีพขายตรง ไม่ได้อยากแนะนำสินค้า บอกต่อว่ามันเป็นสิ่งดีดี เพราะราคาสินค้าค่อนข้างสูง และมีหมด ตั้งแต่เส้นผม ยันอุปกรณ์ล้างห้องน้ำ ครัว รถยนต์ เรียกว่าดูแลชีวิตคุณทุกส่วน ก็ไม่รู้ว่า คนที่ไม่ทำงานจะได้เงินได้อย่างไร เห็นเขาพูดว่า เราจะได้ 60% และให้เราบอกต่อ ให้คนที่มาสมัคร แนะนำว่ามาจากเลขที่สมาชิกเขา

เราก็บอกว่า ไม่อยากสมัคร ถ้าของดีจริง จะฝากเงินซื้อ (ใช้สมาชิกเขาละกัน) เขาบอกว่าไม่ดี ถ้าเราสมัครเองเราก็จะได้ account เราด้วย และเราก็ไปชวนเพื่อนมาสมัครได้อีก (ตอนมาเล่าให้เพื่อนฟังว่า โดนเพื่อนทำเนียน คุณหลอกดาว) เพื่อนก็บอกว่า เขาไม่ได้ต้องการให้แกไปซื้อสินค้าผ่านเขา เขาต้องการให้แกไปเป็นสมาชิก เม่าตกใจ

เงิบกันไปเลย เลยเพิ่งจะถึงบางอ้อ ตอนได้ยินเสียงคุณแม่แว่วๆ ในวันนั้นว่า
"สมัครสมาชิกสิคะ เสียแค่ 300 บาท มีอายุถึง 1 ปี และหนูยังสามารถแนะนะเพื่อนต่างชาติโดยบอกเบอร์สมาชิกหนูได้ แล้วเงินจะเข้าทุกวันที่ 15" เม่าตกใจ

ยัง ยังไม่พอแค่นั้น ก่อนที่ดิฉันจะลากลับกลางคัน เอ่อ "น้าขอค่าบัตรมาทีนี้ได้ไหม ราคา 150 บาท" (จริงๆมัน 200 แต่สงสัยราคาสมาชิก) (แต่ได้ข่าวว่าตอนเรียกมาฟังไม่ได้บอกนี่ว่ามีการเสียเงินด้วย) เม่าตกใจ

ก็ให้เงินไป เกรงใจเขาที่เขาต้องมาเสียเงินให้เรา แต่เงิบไปเล็กน้อย พอเดินออกมา เขาบอกว่าเขาอยากให้เราอยู่ฟังต่อ เราก็บอกว่าเราติดธุระจริงๆ แถมบอกอีกว่า มันเป็นธุรกิจที่ดี

เราก็เลยไม่รู้ว่ามันดียังไง รู้แต่ว่า แค่ไปนั่งฟัง ความร่ำรวย กับชีวิตที่ง่ายดายของคนอื่นก็เสียไป 200 บาทแล้ว (เราเสีย 150 บาทแต่ซื้อ catalog มาด้วยนะ 50 บาท เหอๆๆ มันมีเบื้องหลัง แต่มันดีเทล เอาแค่นี้ก่อนค่ะ)

เราขอยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงแล้วกัน เราก็มีหลักในชีวิตที่เรายึดถือ เราไม่คิดว่าการมีเงินเยอะๆจะเป็นคำตอบให้กับชีวิต เราต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี เราอยากให้สังคม เป็นสังคมที่เอื้ออาทร ต่อกัน ไม่ใช่อะไรๆ ก็หวังว่าจะร่ำ จะรวยกันโดยไม่ทำงานท่าเดียว

ที่มาเขียน เพื่อจะเล่าว่า เดี๋ยวนี้มีชวนไปแบบ AEC ด้วยนะ ใครมาแนวๆนี้ก็ระวังเอาไว้นะจ้ะ แล้วก็จะบอกว่า เขาก็เอาเงินเรา 200 ค่าบัตร 300 ค่าสมัคร เอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะตั้งแยะ แม้แต่ไปเที่ยว ตปท สำหรับคนทำยอดนะคะ มันเงินต่อเงินอย่างไรไม่รู้ มันไม่ใช่แนวเราเอาเสียเลย

แล้วเขาได้เงินมาได้อย่างไร? งง ใครช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย ทำไม ไม่ทำแล้วได้เงิน แล้วมันดีหรือไม่ดี

เราว่ามันจะดีมาก ถ้ามันเป็นการทำให้คนที่ไม่มีงานทำ คนที่ไม่มีโอกาสจะไปทำงานแบบปกติได้ทำธุรกิจขายตรง แต่การทำขายตรงแบบเครือข่ายแบบนี้ มันเข้าข่ายแปลกๆ ยังไงไม่รู้

ได้ยินแล้วหลอน "อันนี้เราไม่ได้ขายของนะคะ แต่เราแนะนำสิ่งดีดี"  

เงิบกันไปเลยทีเดียว  #_#
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่