คำภีร์ยุทธสุดลึกพิลึกล้ำ
ทุกเช้าค่ำร่ำเรียนเพียรฝึกฝน
เหมันต์ผ่านกาลเคลื่อนเลื่อนเวียนวน
ยังซ่อนตนค้นคว้าวิชาเรา
เรื่องราวของข้าพเจ้าคล้ายความฝันตื่นหนึ่ง
ข้าพเจ้าดั้นด้นค้นหาอาจารย์เพื่อฝึกยุทธมาตลอดชีวิตในที่สุดข้าพเจ้าได้คัมภีร์ยุทธสุดลึกล้ำ ข้าพเจ้าเพียรฝึกฝนทั้งวันและคืน แต่ยังไม่อาจตีความเนื้อหาในคัมภีร์ได้ ด้วยใจรักในยุทธข้าพเจ้าฝึกฝนผ่านวันคืน คืนแล้วคืนเล่า ผ่านจันทร์เคลื่อนเลื่อนเลือนคล้อย ผ่านเหมันต์ตะวันรอน ฤดูแปรเปลี่ยนหมุนวนอยู่หลายรอบแต่จิตใจข้าพเจ้ายังมั่นคงอยู่ในยุทธนั้น ข้าพเจ้าได้ยินข่าวถึงการจากไปของเหล่าจอมยุทธไม่หยุดหย่อน แต่ข้าพเจ้ากลับทราบดีว่ายุทธของข้าพเจ้านั้นอ่อนด้อยกว่าท่านเหล่านั้น คล้ายโลกรอบกายข้าเปลี่ยนไปมากเมื่อข้าพเจ้าก้าวออกมาจากป่า ข้าพเจ้ามองเห็นอาคารบ้านเรือนใหญ่โต
หลังการสอบถาม คำตอบอันน่าตื่นตะลึงที่ข้าพเจ้าได้รับทำให้ข้าพเจ้าทราบว่ากาลเวลาผ่านไปเนิ่นนาน…. นานกว่าที่ข้าพเจ้าคิดไว้ เวลาจากที่ข้าพเจ้าเริ่มฝึกยุทธมาจนถึงปัจจุบันนี้นับเป็นปีได้ถึง…..
….พันปีแล้ว!
ข้าพเจ้ายังคงฝึกยุทธไม่สำเร็จแต่เวลากลับผ่านไปเร็วนัก ร่างกายข้าพเจ้ายังคงหนุ่มแน่น ข้าพเจ้ายังรักการฝึกยุทธ แต่ข้าพเจ้าแสวงหาสถานที่เหมาะแก่การฝึกยุทธในปัจจุบันได้ยากมากนัก
ในที่สุดข้าพเจ้าจึงได้พบสถานที่ที่กระตุ้นใจข้าถึงวิชายุทธอยู่ตลอดเวลาได้ สามารถศึกษาผู้คนการย่างก้าวเข้าออก สายตาที่ผู้คนมองยามเผชิญหน้าข้าพเจ้า สิ่งนี้อาจสามารถทำให้ข้าพเข้าถึงแก่นแท้ของยุทธได้ และข้าพเจ้าจึงได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้
*ไปเห็นรูปการฝึกวิชายุทธที่ด้านหลัง รปภ. ท่านนี้ทำให้ผมนึกถึงท่านยอดคนซ่อนตัวในนิยายจีนขึ้นมาทันที ได้ถ่ายรูปแกมาและอยากจะเขียนอะไรถึงแกบ้างครับ
พบพานยอดคนซ่อนตน
คำภีร์ยุทธสุดลึกพิลึกล้ำ
ทุกเช้าค่ำร่ำเรียนเพียรฝึกฝน
เหมันต์ผ่านกาลเคลื่อนเลื่อนเวียนวน
ยังซ่อนตนค้นคว้าวิชาเรา
เรื่องราวของข้าพเจ้าคล้ายความฝันตื่นหนึ่ง
ข้าพเจ้าดั้นด้นค้นหาอาจารย์เพื่อฝึกยุทธมาตลอดชีวิตในที่สุดข้าพเจ้าได้คัมภีร์ยุทธสุดลึกล้ำ ข้าพเจ้าเพียรฝึกฝนทั้งวันและคืน แต่ยังไม่อาจตีความเนื้อหาในคัมภีร์ได้ ด้วยใจรักในยุทธข้าพเจ้าฝึกฝนผ่านวันคืน คืนแล้วคืนเล่า ผ่านจันทร์เคลื่อนเลื่อนเลือนคล้อย ผ่านเหมันต์ตะวันรอน ฤดูแปรเปลี่ยนหมุนวนอยู่หลายรอบแต่จิตใจข้าพเจ้ายังมั่นคงอยู่ในยุทธนั้น ข้าพเจ้าได้ยินข่าวถึงการจากไปของเหล่าจอมยุทธไม่หยุดหย่อน แต่ข้าพเจ้ากลับทราบดีว่ายุทธของข้าพเจ้านั้นอ่อนด้อยกว่าท่านเหล่านั้น คล้ายโลกรอบกายข้าเปลี่ยนไปมากเมื่อข้าพเจ้าก้าวออกมาจากป่า ข้าพเจ้ามองเห็นอาคารบ้านเรือนใหญ่โต
หลังการสอบถาม คำตอบอันน่าตื่นตะลึงที่ข้าพเจ้าได้รับทำให้ข้าพเจ้าทราบว่ากาลเวลาผ่านไปเนิ่นนาน…. นานกว่าที่ข้าพเจ้าคิดไว้ เวลาจากที่ข้าพเจ้าเริ่มฝึกยุทธมาจนถึงปัจจุบันนี้นับเป็นปีได้ถึง…..
….พันปีแล้ว!
ข้าพเจ้ายังคงฝึกยุทธไม่สำเร็จแต่เวลากลับผ่านไปเร็วนัก ร่างกายข้าพเจ้ายังคงหนุ่มแน่น ข้าพเจ้ายังรักการฝึกยุทธ แต่ข้าพเจ้าแสวงหาสถานที่เหมาะแก่การฝึกยุทธในปัจจุบันได้ยากมากนัก
ในที่สุดข้าพเจ้าจึงได้พบสถานที่ที่กระตุ้นใจข้าถึงวิชายุทธอยู่ตลอดเวลาได้ สามารถศึกษาผู้คนการย่างก้าวเข้าออก สายตาที่ผู้คนมองยามเผชิญหน้าข้าพเจ้า สิ่งนี้อาจสามารถทำให้ข้าพเข้าถึงแก่นแท้ของยุทธได้ และข้าพเจ้าจึงได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้
*ไปเห็นรูปการฝึกวิชายุทธที่ด้านหลัง รปภ. ท่านนี้ทำให้ผมนึกถึงท่านยอดคนซ่อนตัวในนิยายจีนขึ้นมาทันที ได้ถ่ายรูปแกมาและอยากจะเขียนอะไรถึงแกบ้างครับ