[KYO นัยน์ตายักษ์] Time Line เนื้อเรื่องเมื่อ 4 ปีก่อน

ว่างๆไม่มีอะไรทำเลยพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมาครับ
พอดีนั่งอ่านอีกรอบภาพนึกย้อนในเรื่องเคียวมันมีเยอะ แถมกระจายๆไม่ปะติดปะต่อกัน เหตุการณ์เดียวกันแต่นึกย้อนคนละเล่มก็มี
จนบางทีเวลาผมนั่งนึกเล่นๆ ผมยังสับสนเลยว่าเหตุการณ์ใดก่อนหลัง เลยลองจับมาวางต่อๆกันซะเลย
จะได้เอาไว้อ่านเองด้วยครับ (จริงๆอ่านหลายรอบมาก จนจำได้จะทุกอย่างละ 555)
ตัวเลขในกรอบ [ ] หมายถึงตอนที่ผมใช้อ้างอิงนะครับ อยากแปะภาพด้วยแต่ขี้เกียจ = =

<<< edit - แปะรูปเสร็จแล้วเด้อ+แก้ไขเพิ่มเติมบทความให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วย>>>
<<< edit รอบ2 - แก้ไขคำพูดที่กำกวม เพิ่มความสละสลวยของภาษา แก้ไขข้อความที่ขาดไปเพราะดันไปพิมพ์เกินหมื่นตัวอักษร>>>
<<< edit รอบ3 - เพิ่มประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่อง "สาเหตุความขัดแย้งของเคียวกับเคียวชิโร่" (ผมลืมพิมพ์ได้ไงอยากจะบ้าตาย) >>>


#### SPOIL ทุกอย่าง ####

-------------------------------------

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

จักรพรรดิแดงรุ่นก่อนผู้นำตระกูลมิบุที่แสนใจดีและอ่อนโยนได้รู้ถึงความลับที่แสนสำคัญของตระกูลมิบุเป็นคนแรก
ทำให้เกิดความคิดสับสนกับการมีอยู่ของตระกูลมิบุขึ้นมา
ในห้วงความคิดนั้น มีทั้งความคิดที่อยากปกป้องตระกูลมิบุและความคิดที่อยากทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไปให้หมดสิ้น
เมือรู้สึกตัวจึงได้เรียกหัวหน้าของสี่ผู้เฒ่ารุ่นแรก"ชิโฮโด อาจิกิ"สาวบ๊องแต่มากฝีมือให้เข้าเฝ้า
แล้วขอร้องว่าถ้าตนเองก้าวไปสู่หนทางแห่งความชั่วร้ายเมื่อไรขอให้กำจัดตนเองเสีย [221]

ชิโฮโดตอบรับคำขอร้องนั้นทั้งๆที่ในใจไม่อยากจะทำแม้แต่นิดเดียว
เพราะชิโฮโดวาดหวังอย่างสุดหัวใจไว้ว่าอยากให้จักรพรรดิแดงรุ่นก่อนมีความสุขตลอดไป

หลังจากนั้น ชิโฮโดจึงตัดสินใจออกจากการเป็นสี่ผู้เฒ่า
เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่สามารถอยู่เคียงข้างและทำตามความต้องการของจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนได้
ตำแหน่งหัวหน้าสี่ผู้เฒ่าที่ว่างลงจึงเปลี่ยนมาเป็นของ"มุรามาสะ"
และสี่ผู้เฒ่าอีกสามคน ณ ตอนนั้น ก็คือ ฟุบุกิ ฮิชิงิ และอิอัน

ต่อมา"ฮิโทคิ"น้องสาวของมุรามาสะและยังเป็นคนรักของฟุบุกิ ได้เกิดอาการของโรคแห่งความตายขึ้นคนแรกในตระกูลมิบุ
ซึ่งมิบุนั้นจะมีจุดอ่อนไม่ได้ ฮิโทคิจึงถูกกักบริเวณให้อยู่อย่างลับๆแต่เพียงในสวนของจักรพรรดิแดง
มุรามาสะ ฮิชิงิ และฟุบุกิ เพื่อนสนิททั้งสามต่างช่วยกันเพียรพยายามทดลองทุกวิถีทางเพื่อจะรักษาอาการป่วยของฮิโทคิ
จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่มาของ"แผนการฟื้นฟูตระกูลมิบุ" [259]


ชิโฮโดที่หนีจากความอ่อนแอของจิตใจตนเอง
เลือกจะมาเป็นหัวหน้าของเขาวงกตใต้ดินชั้นล่างสุดของตำหนักอนเมียวที่ไม่มีผู้ใดอยากย่างกรายเข้ามา
ณ สถานที่แห่งนั้น ทำให้ชิโฮโดรู้ถึงความสกปรกทั้งหลายทั้งมวลที่ตระกูลมิบุได้ปกปิดเอาไว้
รวมถึงเบื้องหลังซากศพนับไม่ถ้วนที่เกิดจาก"แผนการฟื้นฟูตระกูลมิบุของฟุบุกิ"
แต่ถึงกระนั้น ชิโฮโดทำได้แค่เพียงเฝ้าดูความเป็นไปของจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนและตระกูลมิบุอย่างเงียบๆ โดยไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย

------------------

วัยเด็กของเคียว

เคียวในวัยเด็กเติบโตท่ามกลางความอันตรายของทะเลป่ามาสักระยะ จึงออกจากทะเลป่าไปเผชิญโลกภายนอก
และได้พบเจอกับ"โอดะ โนบุนากะ"ที่วัดฮนโนจิ
ทั้งคู่ได้ปะดาบกันทันที สุดท้ายเคียวตัวน้อยก็สามารถเอาชนะยอดฝีมืออย่างโนบุนากะได้
ก่อนโนบุนากะจะสิ้นลม เขาบอกเคียวถึงจุดประสงค์ของตนเองที่ว่า"ต้องการเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุด"
และสอนเคียวให้รู้จัก"ความหมายที่แท้จริงของการต่อสู้"

คำสอนเหล่านั้นฝังรากลึกกลายเป็นวิถีชีวิตอันน่าหลงใหลของเคียวนัยน์ตายักษ์ในตอนนั้นนั่นเอง [231][233]

ฝ่ายตระกูลมิบุ"มุรามาสะ"ได้ทำการจับกุมเคียว ณ วัดฮนโนจิ โดยทันที [110]
เพราะการกระทำของเคียวเป็นการทำลายเส้นทางประวัติศาสตร์ที่เทพเจ้าอย่างตระกูลมิบุกำหนดไว้จากเงามืดเบื้องหลัง
ทำให้เคียวถูกตราหน้าว่าเป็น "ลูกยักษ์ที่ชั่วร้าย"

และยังถูกเรียกว่าเป็น"เด็กคนสุดท้ายของตระกูลมิบุ"
สาเหตุนั้นเพราะหลังจากเคียวกำเนิดขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไป ตระกูลมิบุก็ไม่มีเด็กทารกกำเนิดมาอีกเลย

เคียวตัวน้อยถูกคุมขังอยู่ในคุกใต้ดินของตระกูลมิบุและได้พบกับชินเรในวัยเด็กผู้เป็นศิษย์ของฟุบุกิที่นั้น
ชินเรเป็นคนแรกในตระกูลมิบุที่เข้ามาพูดคุยกับเคียวโดยไม่คิดร้ายอะไรเลย และที่นั้นเองชินเรได้ถูกเคียวช่วยชีวิตไว้

(ในเนื้อเรื่องไม่มีระบุว่าคนที่ทำร้ายชินเรเป็นใครและมีจุดประสงค์ใด แต่จากการสังเกตุน่าจะเป็นนักโทษแหกคุกธรรมดา)[167]
ชินเรประทับใจในดวงตาสีแดง และคิดว่าลูกยักษ์ไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายอย่างที่ใครๆในมิบุบอกกล่าว
ชินเรได้นำความคิดนั้นไปบอกแก่บิดาตนอย่างใสซื่อ จากนั้นชินเรจึงถูกบิดาตำหนิถึงขั้นโดนตบหน้าอย่างรุนแรง
เป็นเหตุทำให้ชินเรฝังใจไม่กล้าคิดอะไรแตกต่างหรือสงสัยความคิดของตระกูลมิบุอีกเลย [174]


ทางด้านเคียวที่ยังถูกขังอยู่ มุรามาสะได้ยื่นข้อเสนอแก่เคียวว่าจะสอนวิชาดาบให้ แต่แลกกับการที่ต้องเป็นศัตรูกับตระกูลมิบุ

ทั้งนี้เพราะมุรามาสะไม่อาจเชื่อใจจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนได้ ทั้งยังไม่เห็นด้วยกับแผนการณ์ฟื้นฟูตระกูลมิบุที่แลกมาด้วยคาวเลือดของฟุบุกิ
มุรามาสะเห็นถึงแสงแห่ง"ความหวัง"ที่จะเปลี่ยนแปลงตระกูลมิบุจากแววตาของเคียว
เคียวจึงได้รับอิสรภาพคืนมาพร้อมกับการเป็นลูกศิษย์ของมุรามาสะ [110]

เคียวตัวน้อยได้พบเจอกับจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนในขณะที่อาศัยอยู่ในตระกูลมิบุหลายต่อหลายครั้ง
ซึ่งจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างจากเคียวเช่นกัน
จึงมาพูดคุยและเล่าเรื่องราวของตนเองรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลมิบุให้เคียวฟังเป็นประจำ [220]

รวมทั้งการทำสัญญาลับๆระหว่างจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนกับเคียวข้อนึง
สัญญาที่ให้เคียวเลือกเองว่าจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันหรือจะสู้กัน หากถึงวันที่ตัวจักรพรรดิแดงรุ่นก่อนนั้นอยากจะทำลายล้างโลกนี้ขึ้นมา [305]

ไม่นานนัก "ฮิโทคิ"หญิงสาวผู้เป็นโรคแห่งความตายคนแรกในตระกูลก็ได้จากไป
ทั้งๆที่มุรามาสะ ฮิชิงิ และฟุบุกิ ต่างพยายามช่วยกันหาทางรักษาฮิโทคิ แต่ก็ไม่สำเร็จ
ฟุบุกิผู้เป็นคนรักของฮิโทคิ สุดยอดเนโครแมนเซอร์ของตระกูลมิบุ ได้สำเร็จวิชาเวทคืนชีพเพื่อจะชุบชีวิตฮิโทคิ
แต่มุรามาสะผู้เป็นพี่ชายไม่เห็นด้วยกับการเรียกคนตายกลับมา ฟุบุกิจึงแอบใช้เวทคืนชีพอย่างลับๆ ถึงอย่างนั้นฮิโทคิก็ไม่กลับคืนมา
มุรามาสะที่รู้เรื่องนี้เข้าจึงเกิดช่องว่างภายในใจที่ไม่มีวันถมเต็มกับฟุบุกิขึ้น  [259]


จนในวันนึงมุรามาสะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะออกจากตระกูลมิบุไปเพื่ออยากให้เคียวได้รู้จักและเติบโต ณ โลกภายนอก
ถึงกระนั้น มุรามาสะก็ได้มาร่ำลาเพื่อนที่แสนสำคัญอย่างฟุบุกิและฮิชิงิก่อนจะจากไป ฟุบุกิไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ขัดขวางอะไร [277]


มุรามาสะเลือกใช้เส้นทางของเขาวงกตใต้ดินในการพาเคียวหลบหนี และทำให้เคียวเจอกับชิโฮโดเป็นครั้งแรก
ชิโฮโดขอให้มุรามาสะตัดหัวตนเองเสียแล้วเธอจะปล่อยเคียวไป แต่เคียวกลับไม่ยอมและพุ่งเข้าใส่ชิโฮโดอย่างไม่เกรงกลัว

สี่ผู้เฒ่ารุ่นแรกชิโฮโดรู้สึกถึง"ความหวัง"และอยากเดิมพันดู เลยยอมปล่อยทั้งสองไป
ทั้งยังถือว่าเคียวติดหนี้ตนไว้และต้องกลับมาชดใช้คืนในภายหลัง [219]
และเนื่องจากเหตุการณ์นั้น ทำให้ชิโฮโดถูกลงโทษอย่างหนักจนปางตายอีกด้วย

ในที่สุดมุรามาสะกับเคียวจึงได้ใช้ชีวิตในโลกภายนอกตามความต้องการ
"อังริลูกชายคนโตของอิอัน" บรุษผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ของมุรามาสะ ก็ได้หนีตามทั้งสองคนออกมาเช่นกัน
ภายหลังได้แยกตัวไปใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเขาคุรามะ เมื่อเวลาผ่านเนินนานไป อังริถูกมนุษย์ขนามนามว่า"เทพเทนงู" [201]

ไม่นานนัก ผู้ที่ป่วยเป็นโรคแห่งความตายก็ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่สี่ผู้เฒ่าฮิชิงิ
ฮิชิงิทำการทดลองฝังดวงตาเมดูซ่าใส่ร่างกายของตนเพื่อหยุดยั้งการเสื่อมสลายของร่างกายที่เกิดจากโรคแห่งความตาย
ในตอนนั้นเอง ฮิชิงิคิดว่าชีวิตตัวเองไม่มีค่าอะไรอีกต่อไปแล้ว
ฟุบุกิที่ได้ยินดังนั้นจึงขอเป็นเจ้าของชีวิตเพื่อนรักด้วยการยืมมือฮิชิงิมาเปรอะเปื้อนคาวเลือดเพื่อตระกูลมิบุด้วยกัน

ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออยากให้ฮิชิงิมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ว่าฮิชิงิจะเป็นแบบไหนหรือคิดยังไง
ในวันนั้น ฮิชิงิจึงตัดสินใจสาบานที่จะสู้เคียงข้างฟุบุกิถึงแม้จะเป็นก้นบึ้งของขุมนรกก็ตามที [278]

"ยุอัน" ลูกชายคนรองของอิอันได้เกิดอาการที่นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นสีแดงที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์หวนกลับกรรมพันธ์ของบรรพบุรุษ"
ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามของตระกูลมิบุ ทำให้อิอันผู้เป็นแม่ใช้ผ้าผูกตาปิดบังนัยน์ตาสีแดงของยุอันเอาไว้ และแอบสืบเรื่องนี้อย่างลับๆ

จนค้นพบความจริงว่าตระกูลมิบุกำลังจะล่มสลาย
และพบว่ามีความลับของตระกูลมิบุอันแสนสำคัญอยู่หลังบานประตูที่มีเพียงจักรพรรดิแดงสามารถเปิดได้เท่านั้น
อิอันจึงถูกฆ่าปิดปากข้อหาเป็นผู้ก่อกบฏ โดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของฮิชิงิ นอกจากฟุบุกิ
และทำให้ยุอันลูกชายต้องถูกบีบบังคับให้กลายมาเป็นสี่ผู้เฒ่า เพื่อรักษาชีวิตครอบครัวผู้ทรยศไม่ให้ถูกลงโทษเอาไว้ [250]

การตายของฮิโทคิและการหลบหนีของมุรามาสะยังเป็นเหตุให้ "โทคิโตะ"บุตรสาวของฟุบุกิกับฮิโทคิ ถูกล้างความทรงจำอีกด้วย
ชิโฮโดไปพบตัวโทคิโตะที่ความทรงจำหายไปในเขาวงกตใต้ดินโดยบังเอิญ ก่อนที่ฮิชิงิจะตามมาเอาตัวโทคิโตะกลับไป[259]

โทคิโตะถูกเปลี่ยนความทรงจำใหม่เข้าไปแทนที่ ให้คิดว่าตนเองเป็นบุตรสาวของมุรามาสะผู้ทรยศ และมอบ"ดาบปิศาจเจ็ดดาวเหนือ"ให้
เพื่อยืนยันถึงสายเลือดมุรามาสะที่อยู่ในตัวของโทคิโตะ ตามแผนที่ฟุบุกิผู้เป็นบิดาวางไว้
โทคิโตะจึงกลายเป็นสี่ผู้เฒ่าที่เข้ามาแทนมุรามาสะ ส่วนตัวตนของฮิโทคิผู้เป็นแม่ถูกลบออกไปจากตระกูลและเก็บเป็นความลับไม่ให้ใครล่วงรู้
ความจริงแล้ว ฟุบุกิคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วว่าแผนการณ์ตนเองอาจจะไม่สำเร็จ .... เมื่อถึงเวลานั้น
จึงอยากให้โทคิโตะจดจำว่าตนเองเป็นบุตรสาวของนักบุญมุรามาสะ มากกว่าที่จะเป็นบุตรสาวของฟุบุกิผู้เลวร้ายที่มือเต็มไปด้วยเลือด


"มิตะไร โทคิจิโร่" เด็กน้อยชาแมนเดินทางมายังตระกูลมิบุเพื่อเข้าร่วมแผนการณ์ฟื้นฟูตะกูลมิบุด้วยตัวเอง และถูกฮิชิงิเรียกว่า "No.13"
พอโทคิจิโร่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฮิชิงิจึงมอบตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์ให้ พร้อมกับบังคับฝืนใจฝังนัยน์ตาเมดูซ่าไว้หลังฝ่ามืออีกด้วย
"อาชูร่า"เป็นอีกชื่อเรียกที่ฮิชิงิตั้งให้โทคิจิโร่แทน No.13 [270]


ฮิชิงิยังทำการรักษาอันจุ(อันเทระ)ตามคำขอของผู้เป็นพ่อ(คุบิระ) โดยใช้การย้อนสภาพร่างกายกลับก่อนจะป่วย
ซึ่งต้องแลกเปลี่ยนกับการลบความทรงจำทั้งหมดของอันจุแล้วให้ทำงานให้ตระกูลมิบุ(เป็น12ขุนพลเทพ)
ส่วนตัวคุบิระเองต้องตัดความสัมพันธ์กับลูกสาวตนแล้วกลายเป็นนักรบผู้บ้าคลั่งเพื่อตอบแทนการรักษาโรคแห่งความตายนั้น [198]
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่