ตอนแรกตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้นานแล้วแต่ยังไม่มั่นใจว่าลูกจะดีขึ้นจริงไหม จะกลับมาเป็นอีกหรือเปล่า แต่นับจากที่ลูกไปรักษามาตั้งแต่ 6 ขวบ จนตอนนี้ลูกอายุ 11 แล้ว คำตอบที่ได้คือ 5 ปีแล้วที่ลูกไม่มีอาการผื่นขึ้นอีกเลย ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าลูกเราดีขึ้นแล้ว 100%
เริ่มแรกตอนนั้นลูกอายุประมาณเกือบๆ 2 ขวบเริ่มมีอาการผิวแห้งเป็นวงๆ เราก็ไปซื้อครีมทาแก้แพ้มาทาให้ ทาไปก็หายแต่ก็กลับมาเป็นอีก
นานวันเข้าจากที่เป็นขุยๆแห้งๆ กลับเริ่มมาเป็นผื่นนูนๆ ขึ้นตรงโน้นตรงนี้ทั่วร่างกาย เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพาลูกไปรักษาตามโรงพยาบาลเอกชน เน้นที่เป็นหมอเด็ก ที่เข้ารพ.เอกชนเพราะเน้นบริการรวดเร็ว ยาที่ได้มาก็แก้แพ้แก้คัน คาลาไมล์ ไปหาหมอกี่ที่ๆก็ได้ยามาแค่นี้ หมอบางคนบอกเป็นพยาธิก็มี
กินยาแก้แพ้ตลอด กินป้องกันไว้ไม่ให้มันขึ้น มันก็ขึ้น แต่ตอนที่ลูกเป็นไข้เลือดออกผื่นขึ้นไม่หยุด ขึ้นทั้งตัวกินยาก็เอาไม่อยู่ และคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องพาลูกไปทำสกินเทสได้แล้ว ลูกโตพอพูดรู้เรื่องแล้ว
จากนั้นแม่ก็หาข้อมูลหมอภูมิแพ้เก่งๆ จนมาลงตัวที่หมอวิทยาโดยคุณชัยห้องสวนลุมเป็นคนแนะนำ ต้องขอขอบคุณมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ
หลังจากที่โทรคุยกับหมอว่าจะทำสกินเทส หมอให้หยุดยา 1 เดือน โห.... คุณหมอขาไม่ไหวแล้วค่ะผื่นลูกขึ้นทุกวันโรงเรียนก็ไม่ได้ไป จะให้รออีกตั้ง 1 เดือนแม่ใจสลายแน่ๆเลยค่ะ สงสารลูกมากๆ
คุณหมอจึงแนะนำว่ามีอีกวิธีนึงคือตรวจเลือด อืม ง่ายกว่าทำสกินเทสอีกนะจึงตกลงนัดวันกับคุณหมอ และเราก็เดินทางไปเมืองกรุงกัน
วันที่เจาะเลือดลูกไม่ยอมค่ะ หลอกล่อยังไงก็ไม่ยอมจนในที่สุดต้องบอกว่าถ้าหนูไม่เจาะพ่อแม่จะทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลนะพ่อแม่จะไม่เอาหนูกลับด้วย เธอถึงยอมแต่โดยดี
หลังจากที่รอผล 7 วันหมอโทรมาบอกว่าเลือดไม่พอขออีก 1 หลอด กำเลยทีนี้ แม่จะเป็นลมลูกฉันยิ่งเจาะยากๆๆๆๆอยู่ เราจึงต้องพาลูกเข้ากรุงเทพอีกครั้งเพื่อไปเจาะเลือดแต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดีด้วยวิธีการแบบเดิม เคยอ่านเจอ คนที่เขียนเป็นหมอนี่แหละว่าทำไมไม่ทายาชาให้เด็กหรือคนที่กลัวเข็มมากๆก่อนฉีดวัคซีน ข้อนี้เห็นด้วยมากๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้มีแบบนี้หรือเปล่า ช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
หลังจากผลออกมา
ผลสรุปออกมาว่า ลูกแพ้สิ่งต่างๆเหล่านี้คือ
1.ยูคาลิปตัส
2.ส้ม
3.สับปะรด
4.ข้าวโพด
5.ผักถามหมอว่าผักอะไรหมอบอกผักรวมๆทั้งหมดนั่นแหละ
6.ผ้าฝ้าย
7.เกสร ละอองหญ้า
สิ่งที่กลัวลูกแพ้มากที่สุดคือ แพ้ไร ขนสัตว์ ไข่ นมวัว แต่ลูกก็ไม่แพ้สิ่งที่กลัวกันเลย แต่แม่ไปบนศาลพระพรหมไว้ด้วยนะคะ ว่าอย่าแพ้ขนสัตว์เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาอยู่
หลังจากที่รู้แล้วว่าแพ้อะไรบ้าง เราก็งดอาหารที่ทำให้แพ้ เสื้อผ้าก็หาซื้อใหม่ แต่เรื่องแพ้ผ้าฝ้ายนี่แหละค่ะทำให้เราหนักใจที่สุด
ยาที่หมอให้มาก็มียาเสริมภูมิให้มากิน 1 เดือน ระหว่างที่กินยาก็ยังมีผื่นขึ้นอยู่เราโทรไปหาหมอบอกว่าหยุดกินทุกอย่างที่ทำให้แพ้แล้ว ทำไมผื่นจึงขึ้นอยู่ หมอบอกว่าอาหารหรือสิ่งกระตุ้นจะอยู่ในร่างกายราวๆ 2 เดือน หลังจากนี้จะค่อยๆดีขึ้น
คือเราก็ร้อนใจอ่ะอยากให้ลูกหายพอดีพี่สาวเอายาแผนโบราณมาให้ลองชื่อยาประดง กินสองสามวันแรกผื่นขึ้นมาเยอะเลย พี่สาวบอกว่าไม่ต้องตกใจเป็นเพราะยาขับออกมา กินหมดกล่องกะจะกินกล่องที่สองต่อ เราก็คิดว่าพอก่อนดีกว่าสงสารลูกกินยาทุกวันและลองดูซิว่าผื่นมันจะขึ้นมาอีกมั๊ย
หลังจากหยุดยาทั้งยาเสริมภูมิ ยาประดง หลังจากนี้ผื่นก็ค่อยๆหายไป นานๆขึ้นที จนมันห่างหายไปจากชีวิตของลูก นับแต่ตอนนั้นลูก 6 ขวบ จนตอนนี้ลูก 11 ขวบแล้ว น้องแข็งแรงมากค่ะ
เรื่องที่เล่ามาหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนเป็นภูมิแพ้นะคะ
หลักๆเลย
1.สังเกตอาการเป็นบ่อย เรื้อรังเกิน 1 ปี ค่อยเรียกว่าภูมิแพ้ เจอหลายคนเพิ่งเป็นเรียกภูมิแพ้ตะพึด ขนาดลูกเราเป็นมา 4 ปีตอนที่ไปหาหมอๆบอกรู้ได้ไงว่าเป็นภูมิแพ้ หมอพูดงี้เลย
2.ตรวจไม่ว่าจะทำสกินเทสหรือตรวจเลือด
3.รู้เเล้วเลี่ยงอย่างเคร่งครัด
4.รับรองดีขึ้น 100%
เล่าเรื่องของลูกเป็นภูมิแพ้ผิวหนังแต่ดีขึ้นได้ 100 %
เริ่มแรกตอนนั้นลูกอายุประมาณเกือบๆ 2 ขวบเริ่มมีอาการผิวแห้งเป็นวงๆ เราก็ไปซื้อครีมทาแก้แพ้มาทาให้ ทาไปก็หายแต่ก็กลับมาเป็นอีก
นานวันเข้าจากที่เป็นขุยๆแห้งๆ กลับเริ่มมาเป็นผื่นนูนๆ ขึ้นตรงโน้นตรงนี้ทั่วร่างกาย เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพาลูกไปรักษาตามโรงพยาบาลเอกชน เน้นที่เป็นหมอเด็ก ที่เข้ารพ.เอกชนเพราะเน้นบริการรวดเร็ว ยาที่ได้มาก็แก้แพ้แก้คัน คาลาไมล์ ไปหาหมอกี่ที่ๆก็ได้ยามาแค่นี้ หมอบางคนบอกเป็นพยาธิก็มี
กินยาแก้แพ้ตลอด กินป้องกันไว้ไม่ให้มันขึ้น มันก็ขึ้น แต่ตอนที่ลูกเป็นไข้เลือดออกผื่นขึ้นไม่หยุด ขึ้นทั้งตัวกินยาก็เอาไม่อยู่ และคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องพาลูกไปทำสกินเทสได้แล้ว ลูกโตพอพูดรู้เรื่องแล้ว
จากนั้นแม่ก็หาข้อมูลหมอภูมิแพ้เก่งๆ จนมาลงตัวที่หมอวิทยาโดยคุณชัยห้องสวนลุมเป็นคนแนะนำ ต้องขอขอบคุณมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ
หลังจากที่โทรคุยกับหมอว่าจะทำสกินเทส หมอให้หยุดยา 1 เดือน โห.... คุณหมอขาไม่ไหวแล้วค่ะผื่นลูกขึ้นทุกวันโรงเรียนก็ไม่ได้ไป จะให้รออีกตั้ง 1 เดือนแม่ใจสลายแน่ๆเลยค่ะ สงสารลูกมากๆ
คุณหมอจึงแนะนำว่ามีอีกวิธีนึงคือตรวจเลือด อืม ง่ายกว่าทำสกินเทสอีกนะจึงตกลงนัดวันกับคุณหมอ และเราก็เดินทางไปเมืองกรุงกัน
วันที่เจาะเลือดลูกไม่ยอมค่ะ หลอกล่อยังไงก็ไม่ยอมจนในที่สุดต้องบอกว่าถ้าหนูไม่เจาะพ่อแม่จะทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลนะพ่อแม่จะไม่เอาหนูกลับด้วย เธอถึงยอมแต่โดยดี
หลังจากที่รอผล 7 วันหมอโทรมาบอกว่าเลือดไม่พอขออีก 1 หลอด กำเลยทีนี้ แม่จะเป็นลมลูกฉันยิ่งเจาะยากๆๆๆๆอยู่ เราจึงต้องพาลูกเข้ากรุงเทพอีกครั้งเพื่อไปเจาะเลือดแต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดีด้วยวิธีการแบบเดิม เคยอ่านเจอ คนที่เขียนเป็นหมอนี่แหละว่าทำไมไม่ทายาชาให้เด็กหรือคนที่กลัวเข็มมากๆก่อนฉีดวัคซีน ข้อนี้เห็นด้วยมากๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้มีแบบนี้หรือเปล่า ช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
หลังจากผลออกมา
ผลสรุปออกมาว่า ลูกแพ้สิ่งต่างๆเหล่านี้คือ
1.ยูคาลิปตัส
2.ส้ม
3.สับปะรด
4.ข้าวโพด
5.ผักถามหมอว่าผักอะไรหมอบอกผักรวมๆทั้งหมดนั่นแหละ
6.ผ้าฝ้าย
7.เกสร ละอองหญ้า
สิ่งที่กลัวลูกแพ้มากที่สุดคือ แพ้ไร ขนสัตว์ ไข่ นมวัว แต่ลูกก็ไม่แพ้สิ่งที่กลัวกันเลย แต่แม่ไปบนศาลพระพรหมไว้ด้วยนะคะ ว่าอย่าแพ้ขนสัตว์เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาอยู่
หลังจากที่รู้แล้วว่าแพ้อะไรบ้าง เราก็งดอาหารที่ทำให้แพ้ เสื้อผ้าก็หาซื้อใหม่ แต่เรื่องแพ้ผ้าฝ้ายนี่แหละค่ะทำให้เราหนักใจที่สุด
ยาที่หมอให้มาก็มียาเสริมภูมิให้มากิน 1 เดือน ระหว่างที่กินยาก็ยังมีผื่นขึ้นอยู่เราโทรไปหาหมอบอกว่าหยุดกินทุกอย่างที่ทำให้แพ้แล้ว ทำไมผื่นจึงขึ้นอยู่ หมอบอกว่าอาหารหรือสิ่งกระตุ้นจะอยู่ในร่างกายราวๆ 2 เดือน หลังจากนี้จะค่อยๆดีขึ้น
คือเราก็ร้อนใจอ่ะอยากให้ลูกหายพอดีพี่สาวเอายาแผนโบราณมาให้ลองชื่อยาประดง กินสองสามวันแรกผื่นขึ้นมาเยอะเลย พี่สาวบอกว่าไม่ต้องตกใจเป็นเพราะยาขับออกมา กินหมดกล่องกะจะกินกล่องที่สองต่อ เราก็คิดว่าพอก่อนดีกว่าสงสารลูกกินยาทุกวันและลองดูซิว่าผื่นมันจะขึ้นมาอีกมั๊ย
หลังจากหยุดยาทั้งยาเสริมภูมิ ยาประดง หลังจากนี้ผื่นก็ค่อยๆหายไป นานๆขึ้นที จนมันห่างหายไปจากชีวิตของลูก นับแต่ตอนนั้นลูก 6 ขวบ จนตอนนี้ลูก 11 ขวบแล้ว น้องแข็งแรงมากค่ะ
เรื่องที่เล่ามาหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนเป็นภูมิแพ้นะคะ
หลักๆเลย
1.สังเกตอาการเป็นบ่อย เรื้อรังเกิน 1 ปี ค่อยเรียกว่าภูมิแพ้ เจอหลายคนเพิ่งเป็นเรียกภูมิแพ้ตะพึด ขนาดลูกเราเป็นมา 4 ปีตอนที่ไปหาหมอๆบอกรู้ได้ไงว่าเป็นภูมิแพ้ หมอพูดงี้เลย
2.ตรวจไม่ว่าจะทำสกินเทสหรือตรวจเลือด
3.รู้เเล้วเลี่ยงอย่างเคร่งครัด
4.รับรองดีขึ้น 100%