ชินจิ คางาวะ – ผลผลิตจากรากฐานเจลีก


พบกับดาวเตะที่ว่ากันว่าเก่งกาจที่สุดในญี่ปุ่น เจ้าของหมายเลข 10 ทีมชาติชุดปัจจุบัน มิดฟิลด์ร่างเล็กผู้เติบโตขึ้นมาจากรากฐานเจลีก “ชินจิ คางาวะ”

คอนเฟดเดเรชั่นคัพของทีมชาติญี่ปุ่นจบลงอย่างน่าเจ็บปวด หลังต้องตกรอบแรกในกลุ่มที่มีเพื่อนร่วมสายอย่างแชมป์โลก บราซิล รองแชมป์ยูโร 2012 อิตาลี และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคทีมล่าสุดอย่าง เม็กซิโก ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดที่ฝ่าฟันไปได้

แม้ผลการแข่งขันจะไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง แต่พลพรรคซามูไรก็ได้รับเสียงเชียร์อย่างล้นหลามจากสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตลอดทั้ง 3 นัดที่ลงสนาม รวมถึงเกมที่แลกหมัดได้อย่างสูสีกับขุนพล “อัซซูรี” ซึ่งแมตช์นั้นจะอยู่ในความทรงจำวงการฟุตบอลญี่ปุ่นไปอีกนาน

ชินจิ คางาวะพังประตูที่ 2 ให้กับญี่ปุ่นในเกมนั้น และได้รับรางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์”หลังจบเกม โดยดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้รับการคาดหมายว่าจะกลายเป็นผู้เล่นที่เยี่ยมยอดของทีม

คางาวะเริ่มต้นชีวิตนักเตะอาชีพกับเซเรโซ โอซากาในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 16 ปี และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะลงเล่นในเกมระดับโลก

“ตอนเด็กผมฝันมาตลอดว่าอยากจะเป็นนักเตะอาชีพ จากใจเลยนะครับ ตอนนี้ผมมีความสุขมาก” เขากล่าวในวันที่ได้เซ็นสัญญากับ เอฟซีมิยางิ บาร์เซโลนา

“เป้าหมายของผมคือเล่นให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ก้าวขึ้นไปเล่นในสโมสรใหญ่และติดทีมชาติญี่ปุ่น และเพื่อกลายเป็นนักเตะชื่อดังในโลกของฟุตบอล” คางาวะกล่าวไว้ตอนอายุ 12 ปี

เขาใช้เวลาไม่มากนักในการสร้างชื่อของตัวเองในเจลีก หลังลงเล่นนัดแรกในเดือนเมษายน ปี 2007 คางาวะก็ตอบแทนเซเรโซด้วยผลงาน 21 ประตูจาก 2 ฤดูกาลในเจลีกดิวิชั่น 2

ปี 2009 คือฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา หลังซัดประตูอย่างไม่เกรงใจใครไปถึง 27 ประตูในฤดูกาลเดียว คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของลีกไปครอง พร้อมกับพาเซเรโซเลื่อนชั้นขึ้นสู่เจลีกดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ

ความร้อนแรงของดาวเตะจากจังหวัดเฮียวโงะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ หลังเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด คางาวะยังคงระเบิดตาข่ายคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง และซัดไปถึง 7 ประตูใน 11นัดแรก ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเข้าตาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และได้เซ็นสัญญาในที่สุด

เรื่องราวหลังจากนี้ของเขาเราคงจะทราบกันดี คางาวะพาทีมเสือเหลืองแห่งเยอรมันคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ถึง 2 สมัยซ้อน บวกกับแชมป์เยอรมันคัพอีกหนึ่งสมัย ก่อนจะเดินตามความฝันด้วยการย้ายเข้าสู่ชายคาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และเขาคือความภาคภูมิใจของผู้ที่เติบโตขึ้นมาจากรากฐานที่วางไว้ในเจลีก

ยินดีด้วยชินจิ ขอให้โชคดีในฤดูกาลหน้า และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย !

ที่มา http://www.goal.com/th/news/4265/คอลัมน์/2013/06/27/4075650/เจลีกคอลัมน์-ชินจิ-คางาวะ-ผลผลิตจากรากฐานเจลีก?ICID=HP_FT_1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่