มีโอกาสได้ไปดู Last Summer “ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย” รอบปฐมทัศน์มา เลยอยากมีเขียนรีวิวสั้นๆ ฝีมือไม่ถึงขั้นเขียนวิจารณ์
แต่มาเล่าให้ฟังสำหรับใครที่กำลังสนใจหนังเรื่องนี้อยู่
หนังเรื่องนี้มี 3 องค์ที่ต่อเนื่องกัน ใช้ตัวละครดำเนินเรื่องที่มีความMassและแสดงได้เข้าถึงบทสุดๆ อย่างน้องปันปัน สุทัตตา
และน้องเก้า จิรายุ (สารภาพว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้มาดูหนังเรื่องนี้ในวันเปิดตัว) แต่ทีเด็ดที่ยิ่งกว่านั้นคือ น้องอาย (ที่เป็นผี) น่ารักมากกก
ดูแล้วเพลินตาจนถอนสายตาไม่ขึ้น ตอนเป็นผีก็หลอนน่าดูเหมือนกัน
การวางโครงเรื่องเป็นแนวหนังผีที่ไม่หวือหวาแบบผีมาไร้สาเหตุ อยากจะโผล่ก็โผล่ ทุกการกระทำของตัวละครมีเหตุผลชัดเจน
ว่าทำไปเพราะอะไร ผูกปมแล้วคลายทีเดียวรวดในตอนท้าย บีบคั้นอารมณ์จนถึงจุดไคล์แม็กซ์และผ่อนอารมณ์คนดูลง
เหมือนสอนใจ ว่านี่แหละคือมนุษย์ ทำให้ต้องกลับไปขบคิดในหลายมุม ทั้งเรื่องเพื่อน ครอบครัว สังคม คนรัก
เรียกได้ว่ามีครอบทุกรูปแบบของความรักเลยทีเดียว
เด็ดตรงที่หนังเรื่องนี้ภาพสวยมาก มุมกล้อง แสง สี เสียงเอฟเฟกจัดหนักจัดเต็ม ไม่ดูเวอร์แต่ดูเป๊ะแบบไม่มีกั๊ก แถมเพลงประกอบ
ตอนสุดท้ายเพราะมากจนต้องกลับมาเปิดฟังอีกรอบ (เพลงเยียวยา)
สิ่งที่คนคาดหวังแล้วอาจผิดหวังสำหรับแฟนหนังผีที่อยากดูแต่ผีออกมาวิ่งโต้งๆ อย่างพร่ำเพื่อ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้เราตกใจทั้งเรื่องเหมือนกัน
หลายตอนที่ต้องหลับตาดู หรือเอามือปิดตาไว้(แล้วส่องลอดนิ้วมือ) กลับมาปิดไฟนอนยังหลอนอยู่
ความสนุกของหนัง ไม่ได้อยู่ที่ว่า เป็นหนังผีที่โคตรผี เป็นหนังผีที่โคตรฮา หรือเป็นหนังผีที่โคตรจะบ้า แต่สนุกตรงที่ความจริงของตัวแสดง
ความจริงในสังคมที่หนังต้องการสื่อออกมา และความจริงในเบื้องลึกของจิตใจที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่ สุดท้ายทิ้งข้อคิดก้อนใหญ่ไว้ตู้มนึง
จึงทำให้ผู้ที่ชอบหนังแนวนี้จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
หนังเรื่องนี้ ถ้ามีเพื่อนมาถามว่า ไปดูดีมั้ย จะบอกว่า ไปดูเหอะ ไม่เสียดายเงินหรอก
ส่วนคะแนนเอาไป 7.5 จ้า
[SR] Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย สะพรึงแบบไม่สปอย
มีโอกาสได้ไปดู Last Summer “ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย” รอบปฐมทัศน์มา เลยอยากมีเขียนรีวิวสั้นๆ ฝีมือไม่ถึงขั้นเขียนวิจารณ์
แต่มาเล่าให้ฟังสำหรับใครที่กำลังสนใจหนังเรื่องนี้อยู่
หนังเรื่องนี้มี 3 องค์ที่ต่อเนื่องกัน ใช้ตัวละครดำเนินเรื่องที่มีความMassและแสดงได้เข้าถึงบทสุดๆ อย่างน้องปันปัน สุทัตตา
และน้องเก้า จิรายุ (สารภาพว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้มาดูหนังเรื่องนี้ในวันเปิดตัว) แต่ทีเด็ดที่ยิ่งกว่านั้นคือ น้องอาย (ที่เป็นผี) น่ารักมากกก
ดูแล้วเพลินตาจนถอนสายตาไม่ขึ้น ตอนเป็นผีก็หลอนน่าดูเหมือนกัน
การวางโครงเรื่องเป็นแนวหนังผีที่ไม่หวือหวาแบบผีมาไร้สาเหตุ อยากจะโผล่ก็โผล่ ทุกการกระทำของตัวละครมีเหตุผลชัดเจน
ว่าทำไปเพราะอะไร ผูกปมแล้วคลายทีเดียวรวดในตอนท้าย บีบคั้นอารมณ์จนถึงจุดไคล์แม็กซ์และผ่อนอารมณ์คนดูลง
เหมือนสอนใจ ว่านี่แหละคือมนุษย์ ทำให้ต้องกลับไปขบคิดในหลายมุม ทั้งเรื่องเพื่อน ครอบครัว สังคม คนรัก
เรียกได้ว่ามีครอบทุกรูปแบบของความรักเลยทีเดียว
เด็ดตรงที่หนังเรื่องนี้ภาพสวยมาก มุมกล้อง แสง สี เสียงเอฟเฟกจัดหนักจัดเต็ม ไม่ดูเวอร์แต่ดูเป๊ะแบบไม่มีกั๊ก แถมเพลงประกอบ
ตอนสุดท้ายเพราะมากจนต้องกลับมาเปิดฟังอีกรอบ (เพลงเยียวยา)
สิ่งที่คนคาดหวังแล้วอาจผิดหวังสำหรับแฟนหนังผีที่อยากดูแต่ผีออกมาวิ่งโต้งๆ อย่างพร่ำเพื่อ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้เราตกใจทั้งเรื่องเหมือนกัน
หลายตอนที่ต้องหลับตาดู หรือเอามือปิดตาไว้(แล้วส่องลอดนิ้วมือ) กลับมาปิดไฟนอนยังหลอนอยู่
ความสนุกของหนัง ไม่ได้อยู่ที่ว่า เป็นหนังผีที่โคตรผี เป็นหนังผีที่โคตรฮา หรือเป็นหนังผีที่โคตรจะบ้า แต่สนุกตรงที่ความจริงของตัวแสดง
ความจริงในสังคมที่หนังต้องการสื่อออกมา และความจริงในเบื้องลึกของจิตใจที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่ สุดท้ายทิ้งข้อคิดก้อนใหญ่ไว้ตู้มนึง
จึงทำให้ผู้ที่ชอบหนังแนวนี้จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
หนังเรื่องนี้ ถ้ามีเพื่อนมาถามว่า ไปดูดีมั้ย จะบอกว่า ไปดูเหอะ ไม่เสียดายเงินหรอก
ส่วนคะแนนเอาไป 7.5 จ้า