ในรัชสมัย พระเจ้าอินโจ (พ.ศ. 2138 ถึง พ.ศ. 2192)
พระเจ้าอินโจ (인조 仁祖 พ.ศ. 2138 ถึง พ.ศ. 2192) ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 16 (พ.ศ. 2166 ถึง พ.ศ. 2192) แห่งราชวงศ์โชซอน ทรงได้รับราชบัลลังก์มาจากการยึดอำนาจของฝ่ายตะวันตก (ซออิน) จากองค์ชายควางแฮในพ.ศ. 2166 และโค่นอำนาจฝ่ายเหนือใหญ่ (แทบุก) รัชสมัยของพระเจ้าอินโจเป็นเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเอเชียตะวันออก คือการล่มสลายของราชวงศ์หมิงและการผงาดของราชวงศ์ชิง ซึ่งนโยบายที่ต่อต้านพวกแมนจูของฝ่ายตะวันตกดึงโชซอนเข้าทำสงครามกับราชวงศ์ชิง ซึ่งผลคือความพ่ายแพ้และยอมจำนนในพ.ศ. 2179
องค์ชายนึงยาง เป็นพระโอรสขององค์ชายจองวอน ซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้าซอนโจ กับพระสนมคิมอินบิน ทรงเป็นองค์ชายที่ห่างไกลราชบัลลังก์ และไม่มีขุนนางฝ่ายใดสนับสนุน ในพ.ศ. 2151 องค์ชายควางแฮขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้าซอนโจพระบิดา พร้อมกับการขึ้นมามีอำนาจของฝ่ายเหนือใหญ่ ซึ่งขับเคี่ยวกับฝ่ายเหนือเล็ก และกีดกันขุนนางฝ่ายอื่นมิให้เข้ามามีตำแหน่งสูงๆ สังหารองค์ชายอิมแฮ องค์ชายยองชัง และปลดพระพันปีอินมอกเป็นสามัญชน ทำให้ไม่เป็นที่พอใจทั่วไป
ฝ่ายตะวันตกที่อนุรักษนิยมสุดขั้วที่ซุ่มเงียบมานาน นำโดยคิมรยู ลีควี และลีควาล กล่าวหาองค์ชายควางแฮว่าทรงเข่นฆ่าพี่น้องและอกตัญญูต่อพระมารดาเลี้ยง จึงทำการ "ยึดอำนาจเพื่อความถูกต้อง"ในพ.ศ. 2166 เนรเทศองค์ชายควางแฮไปเกาะคังฮวา และเชิญองค์ชายนึงยางขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าอินโจ
การรุกรานของแมนจู
อันที่จริงโชซอนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะขัดขวางการขยายอำนาจใดๆของนูรฮาร์ชีเลย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำสงครามกัน แต่ด้วยนโยบายที่เอนเอียงหาราชวงศ์หมิงของฝ่ายตะวันตก สนับสนุนเหมาเหวินหลง ขุนพลของจีนประจำ คาบสมุทรเหลียวตง และให้เหมาเหวินหลงมาตั้งทัพอยู่ในแคว้น เปียงอัน ทำให้ หวงไท่จี๋ ลูกชายของนูร์ฮาร์ชีเข้าใจว่าโชซอนให้การสนับสนุนราชวงศ์หมิง จึงสั่งให้ชาวแมนจูชื่อามิน และคังฮงนิป ขุนพลโชซอนที่พ่ายแพ้และยอมจำนนต่อแมนจูในยุทธการที่ซาร์ฮู นำทัพ 10,000 คนมาบุกโซอนใน พ.ศ. 2170 โชซอนหลังจาก สงครามกับญี่ปุ่น ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้บุกรุกติดกันขนาดนี้ ทัพแมนจูจึงบุกทลวงเข้ามาได้อย่างงายดาย ทำลายทัพของเหมาเหวินหลงที่เปียงอัน และยึดฮันซองได้ พระเจ้าอินโจทรงหลบหนีไปเกาะคังฮวา และขอเจรจาสันติภาพ
การเจรจาสงบศึกเป็นไปด้วยความพยายามของคังฮงนิป ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างโชซอนกับแมนจู โชซอนเลิกใช้นามปีเทียนฉี๋ (ปกติโชซอนจะใช้นามปีของราชวงศ์หมิง) และพวกแมนจูทั้งหมดก็ถอนทัพกลับ แต่คังฮงนิปถูกจำคุกด้วยข้อหาทรยศต่อประเทศชาติ
แต่ฝ่ายโชซอนนั้นไม่เคยคิดจะเป็นไมตรีกันพวกแมนจูจริงๆ เพราะยึดมั่นในความกตัญญูและจงรักภัคดีต่อนายตามหลักขงจื้อ และราชวงศ์หมิงเองยังช่วยโชซอนไว้มากในคราวที่ทำสงครามกับญี่ปุ่น ในพ.ศ. 2179 หวงไท่จี๋ เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็นราชวงศ์ชิง สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้ ด้วยความสนับสนุนจากเผ่งแมนจูและมองโกลต่างๆ แต่โชซอนไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประกาศราชวงศ์ใหม่ ฮวงไท่จี๋จึงส่งคณะทูตมาเรียกร้องบรรณาการ แต่คณะทูตไม่ได้พบพระเจ้าอินโจ และโชซอนก็เตรียมทัพไว้รอแล้ว คณะทูตตกใจจึงหนีกลับไปกราบทูลฮวงไท่จี๋
ฮวงไท่จี๋จึงนำทัพ 120,000 มาบุกโชซอน โดยส่งโดโดไปสกัดกั้นพระเจ้าอินโจไม่ให้ทรงหลบหนีไปเกาะคังฮวา พระเจ้าอินโจจึงทรงไปอยู่ที่ป้อมนับฮันซันแทน ประจวบเหมาะกับที่ทัพแมนจูมาล้อมป้อมไว้ ทำให้ภายในป้อมต้องเผชิญกับความอดอยากเพราะการขนส่งถูกตัดขาด อวงไท่จี๋ส่งดอร์กอนไปยึดเกาะคังฮวา จับพระราชวงศ์เป็นตัวประกัน แม้ทัพโชซอนหลายทัพจะพยายามไล่ทัพแมนจูที่ป้อมนัมฮันซันแต่ไม่เป็นผล พระเจ้าอินโจจึงต้องทรงยอมจำนนต่อแมนจู
โชซอนต้องส่งบรรณาการให้ราชวงศ์ชิง ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์หมิง และส่งองค์ชายโซฮย็อง องค์ชายพงนิม และลูกหลานขุนนางชั้นสูงไปเป็นตัวประกันที่เสิ่นหยาง และสร้างอนุสรณ์ยกย่องแมนจูที่ซัมจอนโด ฮวงไท่จี๋นัดพบพระเจ้าอินโจที่ซัมจอนโด บังคับให้พระองค์คำนับตนเองถึงเก้าครั้ง เป็นความอัปยศอย่างร้ายแรงของพระเจ้าอินโจ
ภาพพระเจ้าอินโจบังคับให้คำนับ ฮวงไท่จี๋ จากซีรี่ย์เรื่อง Cruel Palace War of the Flowers
บั้นปลายพระชนม์ชีพ
ราชวงศ์ชิงพิชิตจีนทั้งประเทศในพ.ศ. 2187 จึงส่งองค์ชายทั้งสองกลับมา องค์ชายโซฮย็องเมื่อครั้งที่ประทับอยู่ในจีนได้รับรู้อารยธรรมตะวันตกต่างๆ (ในเวลานั้นชาวตะวันตกเริ่มจะคุ้นเคยกับจีนแล้ว ผิดกับโชซอนที่ไม่เคยเห็นชาวตะวันตกเลยแม้แต่คนเดียว)
เมื่อทรงกลับมาก็นำสินค้าและแนวความคิดตะวันตกกลับมา (รวมทั้งคริสต์ศาสนา)
ภาพองค์รัชทายาทโซฮย็องสนทนากับพระมเหสีจางรยอล จากซีรี่ย์เรื่อง Cruel Palace War of the Flowers
องค์รัชทายาทโซฮย็องขอให้พระบิดาทรงปฏิรูป แต่พระเจ้าอินโจทรงอนุรักษนิยมสุดขั้ว จึงขัดแย้งกับพระโอรสอย่างแรง จนองค์ชายโซฮย็องเสียชีวิต (คาดว่าพระเจ้าอินโจน่าจะทรงพลั้งมือสังหารเอง) และพระเจ้าอินโจทรงสั่งประหารชีวิตชายาขององค์ชายโซฮย็องในข้อหาปลงพระชนม์รัชทายาท องค์ชายพงนิมจึงเป็นรัชทายาทแทน และขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าฮโยจงในพ.ศ. 2192
ประวัติศาสตร์ ศาสนาคริสต์เข้าไปในโชซอน (เกาหลี)
พระเจ้าอินโจ (인조 仁祖 พ.ศ. 2138 ถึง พ.ศ. 2192) ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 16 (พ.ศ. 2166 ถึง พ.ศ. 2192) แห่งราชวงศ์โชซอน ทรงได้รับราชบัลลังก์มาจากการยึดอำนาจของฝ่ายตะวันตก (ซออิน) จากองค์ชายควางแฮในพ.ศ. 2166 และโค่นอำนาจฝ่ายเหนือใหญ่ (แทบุก) รัชสมัยของพระเจ้าอินโจเป็นเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเอเชียตะวันออก คือการล่มสลายของราชวงศ์หมิงและการผงาดของราชวงศ์ชิง ซึ่งนโยบายที่ต่อต้านพวกแมนจูของฝ่ายตะวันตกดึงโชซอนเข้าทำสงครามกับราชวงศ์ชิง ซึ่งผลคือความพ่ายแพ้และยอมจำนนในพ.ศ. 2179
องค์ชายนึงยาง เป็นพระโอรสขององค์ชายจองวอน ซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้าซอนโจ กับพระสนมคิมอินบิน ทรงเป็นองค์ชายที่ห่างไกลราชบัลลังก์ และไม่มีขุนนางฝ่ายใดสนับสนุน ในพ.ศ. 2151 องค์ชายควางแฮขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้าซอนโจพระบิดา พร้อมกับการขึ้นมามีอำนาจของฝ่ายเหนือใหญ่ ซึ่งขับเคี่ยวกับฝ่ายเหนือเล็ก และกีดกันขุนนางฝ่ายอื่นมิให้เข้ามามีตำแหน่งสูงๆ สังหารองค์ชายอิมแฮ องค์ชายยองชัง และปลดพระพันปีอินมอกเป็นสามัญชน ทำให้ไม่เป็นที่พอใจทั่วไป
ฝ่ายตะวันตกที่อนุรักษนิยมสุดขั้วที่ซุ่มเงียบมานาน นำโดยคิมรยู ลีควี และลีควาล กล่าวหาองค์ชายควางแฮว่าทรงเข่นฆ่าพี่น้องและอกตัญญูต่อพระมารดาเลี้ยง จึงทำการ "ยึดอำนาจเพื่อความถูกต้อง"ในพ.ศ. 2166 เนรเทศองค์ชายควางแฮไปเกาะคังฮวา และเชิญองค์ชายนึงยางขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าอินโจ
การรุกรานของแมนจู
อันที่จริงโชซอนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะขัดขวางการขยายอำนาจใดๆของนูรฮาร์ชีเลย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำสงครามกัน แต่ด้วยนโยบายที่เอนเอียงหาราชวงศ์หมิงของฝ่ายตะวันตก สนับสนุนเหมาเหวินหลง ขุนพลของจีนประจำ คาบสมุทรเหลียวตง และให้เหมาเหวินหลงมาตั้งทัพอยู่ในแคว้น เปียงอัน ทำให้ หวงไท่จี๋ ลูกชายของนูร์ฮาร์ชีเข้าใจว่าโชซอนให้การสนับสนุนราชวงศ์หมิง จึงสั่งให้ชาวแมนจูชื่อามิน และคังฮงนิป ขุนพลโชซอนที่พ่ายแพ้และยอมจำนนต่อแมนจูในยุทธการที่ซาร์ฮู นำทัพ 10,000 คนมาบุกโซอนใน พ.ศ. 2170 โชซอนหลังจาก สงครามกับญี่ปุ่น ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้บุกรุกติดกันขนาดนี้ ทัพแมนจูจึงบุกทลวงเข้ามาได้อย่างงายดาย ทำลายทัพของเหมาเหวินหลงที่เปียงอัน และยึดฮันซองได้ พระเจ้าอินโจทรงหลบหนีไปเกาะคังฮวา และขอเจรจาสันติภาพ
การเจรจาสงบศึกเป็นไปด้วยความพยายามของคังฮงนิป ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างโชซอนกับแมนจู โชซอนเลิกใช้นามปีเทียนฉี๋ (ปกติโชซอนจะใช้นามปีของราชวงศ์หมิง) และพวกแมนจูทั้งหมดก็ถอนทัพกลับ แต่คังฮงนิปถูกจำคุกด้วยข้อหาทรยศต่อประเทศชาติ
แต่ฝ่ายโชซอนนั้นไม่เคยคิดจะเป็นไมตรีกันพวกแมนจูจริงๆ เพราะยึดมั่นในความกตัญญูและจงรักภัคดีต่อนายตามหลักขงจื้อ และราชวงศ์หมิงเองยังช่วยโชซอนไว้มากในคราวที่ทำสงครามกับญี่ปุ่น ในพ.ศ. 2179 หวงไท่จี๋ เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็นราชวงศ์ชิง สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้ ด้วยความสนับสนุนจากเผ่งแมนจูและมองโกลต่างๆ แต่โชซอนไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประกาศราชวงศ์ใหม่ ฮวงไท่จี๋จึงส่งคณะทูตมาเรียกร้องบรรณาการ แต่คณะทูตไม่ได้พบพระเจ้าอินโจ และโชซอนก็เตรียมทัพไว้รอแล้ว คณะทูตตกใจจึงหนีกลับไปกราบทูลฮวงไท่จี๋
ฮวงไท่จี๋จึงนำทัพ 120,000 มาบุกโชซอน โดยส่งโดโดไปสกัดกั้นพระเจ้าอินโจไม่ให้ทรงหลบหนีไปเกาะคังฮวา พระเจ้าอินโจจึงทรงไปอยู่ที่ป้อมนับฮันซันแทน ประจวบเหมาะกับที่ทัพแมนจูมาล้อมป้อมไว้ ทำให้ภายในป้อมต้องเผชิญกับความอดอยากเพราะการขนส่งถูกตัดขาด อวงไท่จี๋ส่งดอร์กอนไปยึดเกาะคังฮวา จับพระราชวงศ์เป็นตัวประกัน แม้ทัพโชซอนหลายทัพจะพยายามไล่ทัพแมนจูที่ป้อมนัมฮันซันแต่ไม่เป็นผล พระเจ้าอินโจจึงต้องทรงยอมจำนนต่อแมนจู
โชซอนต้องส่งบรรณาการให้ราชวงศ์ชิง ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์หมิง และส่งองค์ชายโซฮย็อง องค์ชายพงนิม และลูกหลานขุนนางชั้นสูงไปเป็นตัวประกันที่เสิ่นหยาง และสร้างอนุสรณ์ยกย่องแมนจูที่ซัมจอนโด ฮวงไท่จี๋นัดพบพระเจ้าอินโจที่ซัมจอนโด บังคับให้พระองค์คำนับตนเองถึงเก้าครั้ง เป็นความอัปยศอย่างร้ายแรงของพระเจ้าอินโจ
ภาพพระเจ้าอินโจบังคับให้คำนับ ฮวงไท่จี๋ จากซีรี่ย์เรื่อง Cruel Palace War of the Flowers
บั้นปลายพระชนม์ชีพ
ราชวงศ์ชิงพิชิตจีนทั้งประเทศในพ.ศ. 2187 จึงส่งองค์ชายทั้งสองกลับมา องค์ชายโซฮย็องเมื่อครั้งที่ประทับอยู่ในจีนได้รับรู้อารยธรรมตะวันตกต่างๆ (ในเวลานั้นชาวตะวันตกเริ่มจะคุ้นเคยกับจีนแล้ว ผิดกับโชซอนที่ไม่เคยเห็นชาวตะวันตกเลยแม้แต่คนเดียว) เมื่อทรงกลับมาก็นำสินค้าและแนวความคิดตะวันตกกลับมา (รวมทั้งคริสต์ศาสนา)
ภาพองค์รัชทายาทโซฮย็องสนทนากับพระมเหสีจางรยอล จากซีรี่ย์เรื่อง Cruel Palace War of the Flowers
องค์รัชทายาทโซฮย็องขอให้พระบิดาทรงปฏิรูป แต่พระเจ้าอินโจทรงอนุรักษนิยมสุดขั้ว จึงขัดแย้งกับพระโอรสอย่างแรง จนองค์ชายโซฮย็องเสียชีวิต (คาดว่าพระเจ้าอินโจน่าจะทรงพลั้งมือสังหารเอง) และพระเจ้าอินโจทรงสั่งประหารชีวิตชายาขององค์ชายโซฮย็องในข้อหาปลงพระชนม์รัชทายาท องค์ชายพงนิมจึงเป็นรัชทายาทแทน และขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าฮโยจงในพ.ศ. 2192