"เจมส์ มาร์" ฮ็อตตาม "เจมส์ จิรายุ" ติดๆ ยันไม่รู้อัพค่าตัวขึ้นเป็นหลักแสน โบ้ยให้ไปถาม "เอ ศุภชัย" เอาเอง

"เจมส์ มาร์"  ปัดอัพค่าตัวขึ้นรับงานแข่ง "เจมส์ จิรายุ" โบ้ยให้ไปถาม "เอ ศุภชัย" เอาเอง ยันไม่รู้ค่าตัวออกงานขึ้นเป็นหลักแสนแล้ว แจงไม่รู้เรื่องที่ผู้จัดการของทั้งสองฝ่ายปั่นค่าตัวของสองหนุ่มแข่งกัน
      


        นอกจาก "เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข" จะฮ็อตแล้ว อีกหนึ่งหนุ่มที่มีกระแสฮ็อตตามมาติดๆเลย ก็คือ "เจมส์ มาร์" หรือ "คุณชายรณพีร์" ที่สาวๆหลายคนกำลังติดใจลูกอ้อนของคุณชายคนเล็ก แห่งวังจุฑาเทพ จนทำให้มีกระแสข่าวว่าค่าตัวออกงานของหนุ่มเจมส์ มาร์ พุ่งขึ้นจากหลักหมื่นเป็นหลักแสนเลยทีเดียว
      


        "ค่าตัวไปถึงหลักแสน อันนี้ก็แล้วแต่งานนะ ผมว่ามันก็แล้วแต่ว่าเขาจะตกลงกันยังไงครับ ความนานหรือความอะไรของงานแต่ละชิ้นมันก็ไม่เหมือนกันก็ที่ผ่านมาก็ยังไม่มี (หัวเราะ) แต่ผมไม่รู้ว่ามีใครตกลงอะไรอย่างไรกันไว้บ้าง แต่ที่ผ่านมาผมก็ไม่แน่ใจผมว่าไม่น่าจะถึงนะครับ"
      


         ซึ่งหนุ่ม "เจมส์ มาร์" บอกว่าไม่ทราบเรื่องค่าตัว และ การรับงานเพราะ "เอ ศุภชัย" เป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ตัวเองรู้แต่เพียงว่าวันนี้ต้องไปทำอะไรที่ไหนเท่านั้น
      

        "เรื่องค่าตัวผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับงานหรือว่าเรื่องราคาที่เขาตกลงกันไว้ เพราะฉะนั้นผมว่าเรื่องนี้ไปถามพี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) เอาเองดีกว่านะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าแต่ละงานมันก็ค่าตัวไม่เหมือนกันครับ แล้วแต่ว่าเขาจะตกลงกัน เพราะว่ายังไงมันก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ที่ว่าผู้ใหญ่ต้องคุยกับลูกค้า"
      

        "ผมให้พี่เอดูแลให้ แล้วก็ผมก็มีหน้าที่ทำงานอย่างเดียว และสิทธ์ขาดในการตั้งราคาคือพี่เอครับ คือเขาเป็นคนคุยกับทางลูกค้าด้วยครับว่าต้องประมาณไหน เขาก็จะรู้ว่างานไหนผมต้องทำอย่างไร ส่วนผมก็จะรู้แค่ว่าวันนี้จะต้องไปทำอะไรบ้าง"
      


        มีกระแสว่าทาง "เอ ศุภชัย" ผู้จัดการส่วนตัวของ "เจมส์ มาร์" ไม่ค่อยกินเส้นกับ " ปิ๊ก ชาญฉลาด ทวีทรัพย์ " ผู้จัดการส่วนตัวของ "เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข" จนทำให้ทั้งคู่ได้ทำการอัพค่าตัวดาราของตัวเองแข่งกัน
      

        "ที่มีข่าวว่าพอเริ่มดังแล้วก็เริ่มกอบโกย ผมไม่กลัวเพราะไม่ได้รู้สึกว่าเราไปทำแบบนั้นหรือว่าเราไปอัพค่าตัวที่มันสูงมาก ก็อย่างที่บอกครับว่าจะเป็นพี่เอหรือไม่ก็ผู้จัดการที่คุยกับลูกค้า"
      

        "มีคนมองว่าช่วงนี้เรากอบโกย แต่เราก็มองว่าเป็นช่วงที่น่าดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา แล้วก็เป็นช่วงโปรโมทละคร และคนเขาก็อยากพบคุณชายรณพีร์ ส่วนคิวโชว์ตัวผมว่ามันก็มีเรื่อย ๆ นะ แต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นเพราะผมต้องเรียนด้วยโปรโมทละครให้ช่องด้วย ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นครับผม"
      


        ปฎิเสธไม่ได้อัพค่าตัว และ รับงานเพื่อวัดกระแสความดังแข่งกับหนุ่ม "เจมส์ จิ" ไม่สนใจเรื่องแฟนคลับใครจะเยอะกว่าขอแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
      

        "เรื่องอัพค่าตัวแข่งกับ "เจมส์ จิ"  อันนี้คือไม่ทราบจริงๆ ครับเราเองก็ไม่ได้รับรู้ว่าค่าตัวของใครเป็นอย่างไร เราแค่รู้ว่าเราต้องตั้งใจทำงานให้ดีก็พอครับ"
      


        ซึ่งล่าสุด "เจมส์ จิรายุ" ได้ไปออกงานเปิดตัวเป็น พรีเซนเตอร์คนใหม่ให้กับทาง AIS ในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันเดียวกัน "เจมส์ มาร์" ก็รับงานเปิดตัว "Kisses Collagen" ที่สยามพารากอนในวันเวลาเดียวกัน จนทำให้หลายคนมองว่าอาจจะเป็นการวัดกระแสความดังของทั้งสอง
      

        "ส่วนวันที่ออกงานเหมือนกัน เหมือนเป็นการวัดกระแสวัดเรตติ้งความดังไม่หรอก แต่ก็ดีใจที่ว่าผู้ใหญ่แต่ละท่านก็จัดงานดี ๆ มาให้ ซึ่งก็ไม่เป็นอะไรเลย ผมว่างานมันก็เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันได้"
      
        "ถามว่ากลัวไหมแฟนคลับใครจะเยอะกว่ากัน ไม่กลัวครับคือเวลาผมไปงาน เราก็ไปเพื่องานนั้นมามอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนดูที่อยู่ที่นั้น ส่วนงานไหนจะอะไรอย่างไร หรือคนจะอยู่ที่ไหนมากกว่า มันก็เป็นเรื่องของคนดูที่เขาเลือกจะไปเราก็มีหน้าที่ทำงานครับ"
      

        ไม่รู้เรื่องที่ผู้จัดการของทั้งสองปั่นราคาค่าตัวแข่งกันและไม่รู้ว่าทั้งสองเกาเหลากันหรือไม่ แต่บอกทั้งสองเป็นผู้ใหญ่ที่ดีทั้งคู่
      
        "เรื่องที่ว่าผู้จัดการของทั้งสองฝ่ายต่างก็ปั่นราคาค่าตัวแข่งกัน อันนี้ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันนะว่าอะไรเป็นยังไง ผมว่าไม่นะ วัน ๆ พี่เอเขาก็ดูยุ่งมาก เขาก็มีร้านของเขา และ เขาก็ต้องรับคิวนักแสดงด้วย เพราะฉะนั้น ผมว่าพี่เอเขาคงจะไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอกครับ และ ผมเชื่อว่าพี่ปิ๊กเอง เขาก็มีบริษัทเขาก็ต้องดูแลทุกคน ก็งานเขาเองก็ค่อนข้างจะเยอะแล้ว และที่ถามว่าแข่งกับเจมส์ จิไหม ก็ไม่นะครับ เจมส์ จิ ก็คือ เจมส์ จิ ส่วน เจมส์ มาร์ ก็คือเจมส์ มาร์ เราเป็นเพื่อนกันต่างคนก็ไม่เหมือนกัน เราคนละแบบกันเลยครับ"
      
        "ส่วนพี่ปิ๊กกับพี่เอไม่ถูกกันอันนี้ผมก็ไม่ทราบจริงๆ พี่ใหญ่ทั้งสองท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดีทั้งคู่เวลาเจอพี่ปิ๊กเขาก็คุยกับเรา เราเลยไม่ได้รู้สึกว่าเขาไม่ถูกกัน "
      


        บอกถึงงานละครและงานอีเวนท์ไม่มีผลต่อการเรียนเพราะสามารถจัดแบ่งเวลาให้ลงตัวได้
      
        "อีเวนท์เยอะ แต่ไม่มีผลต่อการเรียนครับ เพราะว่าผมจัดเวลาให้การเรียนตลอด ไม่ว่างานละคร ไปเรียน หรือ รับงานอีเวนท์ ผมก็สามารถจัดแบ่งเวลาได้ครับ ไม่มีปัญหานะครับ"








          http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000076791
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่