อยากเล่า มุมมองของคนที่ถูกสามีสวมเขาโดยไม่รู้ตัว

กระทู้สนทนา
ไม่เคยตั้งกระทู้แบบนี้เลย ผิดพลาดประการใดขออภัย

  เริ่มเลยคือ เราเจอสามีทางอินเตอร์เนต นานมากแล้ว สมัย icq เพิ่งบูม พอรู้จักกันได้สองปี สามีนั้งรถไฟจากมาเลเซีย มาหาที่ กรุงเทพเลย เรายังเรียนอยู่ ก็คบแบบเค้ามาหาเรา้บาง เราไปหาเขาบ้าง จนแต่งงานกันในปีที่เจ็ดหลังจากคบกัน สามีโอเคมาตลอดค่ะ โอเคคือ ดูแล เสมอต้นเสมอปลาย พาไปเที่ยว หาของกิน ครอบครัวเราและเขาไม่มีปัญหา แม่สามีเราดีมาก ที่สุด แล้วจะเล่าให้ฟังในตอนหลัง

   พอปี 2010 เรามีลูก เลยชวนสามีมาอยู่ด้วยกันที่ กทม เค้าก็มาประมาณ ปีกว่า สองปี ช่วยกันทำงาน เราเปิดบริษัทค่ะ แต่ช่วงนี้ต้องบอกเราไม่ได้ดูแลสามีเท่าที่ควร ผิดที่เรา คือคลอดลูก ดูแลแต่ลูก ตกดึกนอน หลังชนกัน แต่ยังคุยกันดีไม่มีทะเลาะนะคะ พอปลายปี 2012 เค้าบอกว่าเพื่อนชวนไปทำงานที่ปีนัง ถามว่าเราโอเคไหม อะไรจะได้ดีขึ้น หมายถึงเรื่องการเงินค่ะ เราก็โอเค เพื่ออนาคต เค้าไปหลังวันเกิดลูกชาย

  พอต้นปี 2013 ตรุษจีน เราบินมาหาเค้า เริ่มรู้สึกว่าเค้าแปลกๆ แต่ใจยังคิดว่า เพราะเหนื่อยกับงาน แต่คุยน้อยลง ไม่เล่นกับลูก ทั้งๆที่ไม่ได้เจอลูกกว่าสามเดือน ที่สำคัญคือ หวงมือถือ มาก ตรงนี้ต้องบอกเลยนะคะ ร้อยทั้งร้อย ถ้าเริ่มหวงมือถือ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคย ให้จับเข่า คุยทันที แต่ห้าม! โวยวาย ตีโพยตีพายไปก่อนเด็ดขาด

   จนเมื่อสามอาทิตย์ที่แล้ว เรามาเยี่ยมเค้าอีกที เค้าพาไปเที่ยวกับครอบครัว คราวนี้ทำเราปรี๊ดค่ะ เพราะคลำแต่โทรศัพท์ เกือบชนคันข้างหน้า พอกลับมาเราถามเลย มีใครใช่ไหม เค้าตอบว่าใช่ เค้าตกหลุมรักคนใหม่ อารมณ์นั้นงงๆค่ะ เพราะเก้าปี ไม่เคยมีประวัติมาก่อน แล้วเรามาสืบทีหลังว่าผู้หญิงมีสามี มีลูกชายอายุเท่าเรา? หน้าคล้ายเรา คืนนั้นตบโทรศัพท์ สามี ตบหน้าสามีหนึ่งฉาดแล้วแยกย้ายกันไปนอนค่ะ

   พอเรากลับมา กทม คุยกับสามี เค้าบอกจะเคลียร์ทางนั้นให้จบ แล้วเริ่มกันใหม่ เราบอกแน่นะ อย่าหักหลังกันอีก เค้าสัญญา สรุปค่ะ ไปอยู่กับทางโน้นมาสองคืน แม่เจ้า คนจะเลวนี่มันเลวจริงๆ พอเค้ากลับมาที่บ้านเค้า แม่สามี และทุกคนในครับครัว ขอใช้คำว่า รุมด่าค่ะ ว่าทำไมทำกับเราแบบนี้ และ เหมือนเคย เค้าหนีไปอยู่กับทางนั้นอีกครั้งหนึ่ง (อีกทีนะคะ คนจะโง่นี่มันโง่จริงๆๆ)

    ตัดตอนค่ะ พอเค้ากลับมาอีกครั้ง ซมซานค่ะ ขอให้เรากลับมา และเหมือนเดิม จะตัดกับทางโน้น พอเราบินมาหาเขา สภาพดูไม่จืดค่ะ เหมือนผีตายซาก สงสารก็สงสาร สมเพชก็สมเพช คนในครอบครัวก็ไม่คุยกับเค้า แต่! ไม่จบค่ะ วันนึงหลังเรากลับมาแค่ 2-3 วัน จับได้ว่ายังคุยกัน คราวนี้องค์เราลงค่ะ บอกว่า ไม่ทนแล้ว ไปหย่ากัน ณ บัด นี้ เค้าไม่ยอมค่ะ เค้าบอกคิดถึงลูกบ้างสิ (ถ้าไม่คิดฉันฆ่าแกทั้งสองโยนลงแม่น้ำไปนานแล้ว) เราเลยบอกได้ จริงๆแล้วเราก็มีคนอื่น งั้นเราคบกันแบบนี้ เธอทำงานหาเงินให้ฉัน ในขณะที่ เธอมีเขา เขามีเธอ ฉันมีเขา เขามีฉัน สนุกดี วินวินทั้งสี่คน สนุกตรงนี้ค่ะ สามีไม่ยอม บอกว่าทำได้ยังไง คราวนี้ลืมคนๆนั้น คือยังคุยนะคะ แต่เมสเสจกัน แต่เอาเวลาส่วนใหญ่มาจับผิดเรา เราคุยกับใครไหม มีเสียงเรียกเข้านั่งมองตาเขียว จริงๆคือเราไม่มีใครนะคะ แต่เตี๊ยมกับน้องสามีว่าช่วยหน่อย นี่คือ my last bet แล้ว

   ณ จุดนี้ เราสบายใจขึ้นมากค่ะ สามีกลับมาเหมือนเดิม แม้จะยังมีเทกซ์หากันบ้าง แต่เราใช้วิธีนิ่งและยั่วค่ะ หยอดยาพิษใส่สามีเรื่องผู้หญิงทีละน้อยๆ แต่สะใจค่ะ เวลาแค่สามอาทิตย์ อะไรเปลี่ยนไปเยอะ แต่เราไม่เสียใจค่ะ จะเสียใจมากกว่านี้ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะสุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดคือ เรา ลูก และสามีค่ะ สำหรับคนที่ตอนนีี้สงสัยในตัวคนที่คุณรัก ลองวิธีเรานะคะ เอาดีเข้าสู้ก่อนค่ะ อย่าถาม เอาใจสามี แล้วเขาจะรู้เองว่า เพชรแท้ กับ เพชรเทียม มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เวลาสัมผัส จะได้รู้เองค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่