เรื่องที่เล่าอาจจะยาวไปสักนิดนะคะ ขอเพื่อนๆลองได้อ่านดูนะคะ
เราตั้งใจเขียนเผื่อเพื่อนๆที่กำลังนำสัตว์เลี้ยงสุดที่รักไปผ่าตัดทำหมันนะคะจะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบเรา
เขียนครั้งแรกค่ะ ผิดพลาดประการใด กราบขออภัย ทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
น้องแมวของเราเพศผู้ อายุ 8 เดือนค่ะ ร่าเริงและแข็งแรงมากๆ (ทำแม่มันเจ็บทุกวัน T-T)
ต่อจากนี้จะขอเรียกเจ้าลูกชายย่อๆ ว่า "น้อง" แทนนะคะ
เราหาข้อมูลในเว็บ เห็นว่าการทำหมันช่วยให้น้องไม่ทรมานจากอาการติดสัด
และยังช่วยให้น้องแข็งแรงขึ้นในระยะยาว(ไม่เป็นมะเร็ง, ไม่ติดสาวหนีเที่ยวจนติดโรค ฯลฯ)
และเห็นว่าน้องแมวหลายตัวทำหมันออกมาปลอดภัยหายห่วงกันทุกตัว
เลยตัดสินใจพาเจ้าตัวอ้วนของเราไปทำ
โดยเลือกรพ.XXX เพราะคิดว่า มีชื่อเสียง..น่าจะไว้ใจได้..
จัดแจงตรวจเลือด งดน้ำงดอาหารเสร็จสรรพตามที่หมอสั่ง
"วันที่ 18 มิถุนายน" วันทำหมัน
เราได้คิวทำ9 โมงเช้า ซึ่งหมอนัดให้เรามารับเค้าอีกทีบ่ายโมง
ก่อนถึงเวลารับ หมอโทรมาบอกเราว่า
น้องมีเลือดไหลออกจากท่อดมยาหลังผ่า
ให้มารับตอนเย็นแทน จะรอดูอาการสักพัก และอาจนัดดูแผลเพิ่มเติมวันพรุ่งนี้
เราจึงไปรับน้องที่รพ.ตอน 4 โมงเย็นแทน
ภาพที่เราเห็นคือ หมอปล่อยให้น้องเราอุจจาระเรี่ยราดเละเทะอยู่ในตะกร้า
น้องแมวเราตัวเปื้อนอึทั้งตัว เดินกระสับกระส่ายในตะกร้า ไม่มีใครดูแล
ภาพนั้นทำให้เรารู้สึกแย่มาก
แต่ประเด็นนี้ เราพอเข้าใจ รพ.ต้องบริการหลายๆท่าน.. อาจจะไม่มีเวลามาดูแลสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ..
ก่อนกลับหมอก็บอกว่า แมวเราอาการดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องมาก็ได้
เราก็โล่งใจ… จะได้พาเจ้าเหมียวกลับที่พัก ไปล้างหน้าล้างตาให้สะอาด
หลังจากกลับถึงหอพักประมาณ 5 โมงเย็น
น้องแมวยังมีอาการซึมๆเหนื่อยๆอยู่ ซึ่งเราคิดว่า ฤทธิ์จากยาสลบอาจยังไม่หมด(ผ่า 9โมง)
แต่สิ่งที่ทำให้เราสงสัยคือ ..น้องดูเหมือนหายใจไม่ค่อยออก ต้องแลบลิ้นออกมาจากปากตลอดเวลา
เราจึงคอยดูแลน้องและเฝ้าสังเกตอาการตลอดเวลา
น้องแมวยังคง
หายใจไม่ออกมากขึ้น และไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จนกระทั่งตีสาม
เราจึงตัดสินใจพามันไปที่คลินิกซึ่งเปิด 24ชม. ทันที ไม่รงไม่รอมันละพรุ่งนี้
พยาบาลที่คลินิกจึงทำการรับฝาก และให้อ็อกซิเจนน้องแมว และจะทำการเอ็กซเรย์วันพรุ่งนี้
"วันที่19มิถุนายน"
เราไปเยี่ยมน้องแมวที่คลินิกช่วงบ่าย
ผลเอ็กซเรย์ออกมาว่า ช่วงที่เป็นหลอดลมของน้องดูไม่ชัดเจน
คล้ายๆกับว่ามีลมรั่วออกมา
ซึ่งหมอที่คลินิกได้บอกว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอย่างอื่นไม่ได้เลย
นอกจากการทำหมันเมื่อวาน
หมอบอกว่า เคสแบบนี้ โอกาสรอดน้อยมากๆ…
จากนั้นทางคลินิกจึงได้ประสานงานกับทางรพ.ที่เราพาน้องแมวไปทำหมัน ให้น้องแมวไปรักษาที่รพ.แห่งนี้
เนื่องจากรพ.แห่งนั้นเป็นที่เดียวที่มีเครื่องมือครบครันที่สุดในละแวกนี้
(ใจจริงอยากเปลี่ยนรพ. แต่ก็กลัวสภาพน้องไปไม่ไหว)
เมื่อไปถึงรพ.ทางกรรมการหมอก็ออกมาพูดคุย
โดยยอมรับว่านี่คืออุบัติเหตุจากการผ่าตัด และทางรพ.จะออกค่ารักษาที่รพ.ตั้งแต่ตอนนี้ให้
โดยการรักษาคือ ถ้าหลอดลมรั่วใหญ่ ต้องเปิดผ่าหารอยรั่ว ซึ่งความเสี่ยงต่อชีวิต…สูงมาก
แต่ถ้าหลอดลมรั่วน้อย น้องจะสามารถ ฮีล ตัวเองได้
โดยวันนี้ทางรพ.จะเจาะเครื่องเข้าไปช่วยดูดลมออกมา ซึ่งจะช่วยให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น
เราจึงกลับหอพัก และมาเยี่ยมน้องรอบดึกอีกครั้ง
"วันที่ 20 มิถุนายน" วันที่สองหลังจากทำหมัน
เรารีบไปเยี่ยมน้องรอบบ่าย หมอบอกว่า เครื่องดูดลมดูดลมออกมาได้น้อยแล้ว
ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่หลอดลมรั่วเล็กซึ่งน้องจะฮีลตัวเองได้
หรืออาจจะเจาะเครื่องไม่ตรง
เราโล่งใจขึ้นเล็กน้อย ขอให้น้องรักษาตัวเองได้เถอะ...
และ
น้องมีเลือดสำลักออกมาจากปาก และมีเลือดกระเด็นเข้าปอด..ซึ่งเกิดจากแผลหลอดลมรั่ว
ทำให้น้องหายใจไม่ออกมากขึ้น
วันนี้น้องต้องเพิ่มอ็อกซิเจนเป็นสองถัง
และน้องต้องทำการเอ็กซเรย์อีกครั้ง
ซึ่งวันนี้ทังวันยังไม่สามารถทำการเอ็กซเรย์ได้
เนื่องจากร่างกายน้องยังไม่พร้อมและ น้องไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย..ขู่ใส่หมอตลอด..
ทั้งที่ร่างกายน้องเองก็ไม่มีเรี่ยวแรง..
มีสายระโยงระยางทั้งตัว..
ไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาสองวันแล้ว ทั้งที่ปกติกินจุมากๆ
ตัวก็เหม็นกลิ่นอึคละคลุ้ง..
ต้องอ้าปากหายใจจนเห็นเขี้ยวล่างทั้งซี่..
น้องเหนื่อยจนแทบไม่ขยับเขยื้อนเลย.. ซึ่งปกติจะไม่ยอมให้ขังไว้แบบนี้เลย
เราเห็นแล้วสงสารลูกชายมากๆ มันไม่ยอมให้ใครจับเลยนอกจากเรา
ได้แต่ลูบหน้ามันเบาๆ และสัญญาว่าเราจะพามันออกมาให้ได้..
เรากลับมาหอพักสวดมนต์ภาวนาให้เจ้าลูกชายรอด
จนตอนเย็น…ทางรพ.โทรมาบอกว่า ให้เรารีบไป น้องอาการแย่มาก เราอาจจะมาไม่ทันก่อนน้องเสียชีวิต
เราตกใจ ร้องไห้ วิ่งออกจากหอ รีบนั่งแท็กซี่ไปรพ.
เมื่อมาถึงน้องไม่หายใจแล้ว เราตกใจมาก ร้องไห้โฮ
หมอได้พยายามกู้ชีพอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้าย..น้องก็จากไปแล้วจริงๆ
เราร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังอย่างไม่อายใคร กอดร่างน้องที่นอนแน่นิ่ง ตัวแข็ง
ดวงตาเปิด ปากอ้า สงสารน้องจับใจ
จนเมื่อเราหายสะอื้นแล้ว หมอเจ้าของเคสได้เข้ามาคุยกับเราค่ะ
เค้าเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นขณะผ่าตัด
หมอบอกว่า น้องเรามีอาการเครียดมากก่อนผ่า ขู่ฝ่อๆไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
มันกรีดร้อง และขัดขืน อย่างมาก
เมื่อจับตัวได้จึงต้องรีบทำการดมยา
ซึ่งระหว่างนั้นเอง หลอดลมของน้องน่าจะหดตัวจากอาการเครียด เลยทำให้มันมีขนาดเล็กกว่าท่อดมยาที่สอดเข้าไป
ทำให้เกิดหลอดลมฉีกขาดจนถึงแก่ชีวิตในที่สุด
และก่อนหน้านั้น หมอได้บอกว่า มีหลายเคส ที่เครียดมาก และช็อกตายระหว่างทำไปเลย
เราก็ไม่เข้าใจนะคะ หมอทราบดีอยู่แล้ว มีหลายเคสแล้ว ที่ต้องเสียชีวิตลงด้วยความเครียดจากการผ่าตัด
ทำไมหมอจึงยังคงทำการผ่าตัดนั้นต่อ? หรือระบบของรพ.ต้องรีบทำให้เสร็จทันคิว?
เราสอบถามถึงอายุการทำงานของหมอ
ได้คำตอบแบบเลี่ยงๆมาค่ะ ว่าเรียนสัตวแพทย์จบ ก็เรียนผ่าตัดต่อ แล้วทำงานที่นี่เลย
(ไม่ได้บอกว่าทำนานไหม หรือทำกี่ปี เราเลยคิดว่าหมอใหม่แน่ค่ะ หน้าตายังไม่แก่เลย)
สักพักกรรมการหมอได้เข้ามาคุยกับเรา ได้แต่ปลอบใจเพียงว่า “เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น”
.
.
.
ค่ะ.. เหตุการณ์ข้างต้นไม่มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงคนไหนอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน
อย่าคิดแค่ว่า เห็นเพื่อนนำสัตว์เลี้ยงไปทำหมันแล้ว ปลอดภัยกลับมาทุกคน
แล้ว การทำหมันจะไม่มีความเสี่ยงเลยนะคะ
อยากให้ทุกคนลองสำรวจสัตว์เลี้ยงเราดูค่ะ
เค้าเครียดง่ายไหม เค้าเจอผู้คนแปลกหน้าแล้วเป็นอย่างไร
น้องแมวเรากลัวคนมาก เจอคนแปลกหน้า(เป็นเฉพาะนอกห้อง) จะจิกเราอย่างแรง ไต่หนีขึ้นไปบนหัวเลยค่ะ
ไปรพ.ทีไรก็หลบอยู่แต่ในตะกร้า มองซ้ายทีขวาที ตัวสั่นงึกๆ
เลี้ยงระบบปิด น้องกลัวการออกนอกห้องมากค่ะ
เราไม่ได้โทษแต่หมอที่ไม่มีความละเอียดรอบคอบอย่างเดียวนะคะ
เราเองด้วยค่ะ
วันนั้นเราพลาดเองค่ะ เราติดเรียน เลยทิ้งเค้าไว้ฝากให้หมอทำหมันโดยที่ไม่มีเรา เค้าอาจจะเครียดมาก
ทั้งที่ถ้าเราอยู่ เค้าอาจจะเครียดน้อยลง และคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ถ้าเราศึกษารายละเอียด และหาข้อมูลมากกว่านี้ อาจจะนำน้องไปรักษาที่ๆเหมาะกับน้องมากกว่านี้
มีรพ.บางที่ค่ะ ที่เค้าจะดูอารมณ์สัตว์เลี้ยงเราก่อนการทำหมัน
ถ้าสัตว์เลี้ยงเครียด หรือ มีอาการเสี่ยง คุณหมอจะไม่ลงมือผ่าตัดเลยค่ะ
.
.
.
หลังจากนั้นที่น้องเสีย คืนนั้นเราได้ทำน้องไปประกอบพิธีทางศาสนา
ได้แต่เก็บกระดูกน้องกลับมา ไม่สามารถพาน้องกลับมาตามที่สัญญากับเค้าได้
เสียใจมากค่ะ รักดั่งแก้วตาดวงใจ
ป.ล. การทำหมันยังไงก็มีประโยชน์มากกว่าโทษนะคะ เราตั้งกระทู้นี้เพื่อให้กรณีเราที่สัตว์เสียชีวิตซึ่งเกิดเป็นส่วนน้อยได้เป็นอุทาหรณ์ ในการศึกษาหาข้อมูล ทำความเข้าใจความเครียดของสัตว์เลี้ยง และสังเกตอาการต่างๆหลังผ่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยสัตว์เลี้ยงของเราได้ทันท่วงทีค่ะ
..ดูแลสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆให้ดีนะคะ..
[[เรื่องเล่า+เตือนใจ]] หมอทำหมันน้องแมวเสียชีวิต
เราตั้งใจเขียนเผื่อเพื่อนๆที่กำลังนำสัตว์เลี้ยงสุดที่รักไปผ่าตัดทำหมันนะคะจะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบเรา
เขียนครั้งแรกค่ะ ผิดพลาดประการใด กราบขออภัย ทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
น้องแมวของเราเพศผู้ อายุ 8 เดือนค่ะ ร่าเริงและแข็งแรงมากๆ (ทำแม่มันเจ็บทุกวัน T-T)
ต่อจากนี้จะขอเรียกเจ้าลูกชายย่อๆ ว่า "น้อง" แทนนะคะ
เราหาข้อมูลในเว็บ เห็นว่าการทำหมันช่วยให้น้องไม่ทรมานจากอาการติดสัด
และยังช่วยให้น้องแข็งแรงขึ้นในระยะยาว(ไม่เป็นมะเร็ง, ไม่ติดสาวหนีเที่ยวจนติดโรค ฯลฯ)
และเห็นว่าน้องแมวหลายตัวทำหมันออกมาปลอดภัยหายห่วงกันทุกตัว
เลยตัดสินใจพาเจ้าตัวอ้วนของเราไปทำ
โดยเลือกรพ.XXX เพราะคิดว่า มีชื่อเสียง..น่าจะไว้ใจได้..
จัดแจงตรวจเลือด งดน้ำงดอาหารเสร็จสรรพตามที่หมอสั่ง
"วันที่ 18 มิถุนายน" วันทำหมัน
เราได้คิวทำ9 โมงเช้า ซึ่งหมอนัดให้เรามารับเค้าอีกทีบ่ายโมง
ก่อนถึงเวลารับ หมอโทรมาบอกเราว่าน้องมีเลือดไหลออกจากท่อดมยาหลังผ่า
ให้มารับตอนเย็นแทน จะรอดูอาการสักพัก และอาจนัดดูแผลเพิ่มเติมวันพรุ่งนี้
เราจึงไปรับน้องที่รพ.ตอน 4 โมงเย็นแทน
ภาพที่เราเห็นคือ หมอปล่อยให้น้องเราอุจจาระเรี่ยราดเละเทะอยู่ในตะกร้า
น้องแมวเราตัวเปื้อนอึทั้งตัว เดินกระสับกระส่ายในตะกร้า ไม่มีใครดูแล
ภาพนั้นทำให้เรารู้สึกแย่มาก
แต่ประเด็นนี้ เราพอเข้าใจ รพ.ต้องบริการหลายๆท่าน.. อาจจะไม่มีเวลามาดูแลสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ..
ก่อนกลับหมอก็บอกว่า แมวเราอาการดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องมาก็ได้
เราก็โล่งใจ… จะได้พาเจ้าเหมียวกลับที่พัก ไปล้างหน้าล้างตาให้สะอาด
หลังจากกลับถึงหอพักประมาณ 5 โมงเย็น
น้องแมวยังมีอาการซึมๆเหนื่อยๆอยู่ ซึ่งเราคิดว่า ฤทธิ์จากยาสลบอาจยังไม่หมด(ผ่า 9โมง)
แต่สิ่งที่ทำให้เราสงสัยคือ ..น้องดูเหมือนหายใจไม่ค่อยออก ต้องแลบลิ้นออกมาจากปากตลอดเวลา
เราจึงคอยดูแลน้องและเฝ้าสังเกตอาการตลอดเวลา
น้องแมวยังคงหายใจไม่ออกมากขึ้น และไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จนกระทั่งตีสาม
เราจึงตัดสินใจพามันไปที่คลินิกซึ่งเปิด 24ชม. ทันที ไม่รงไม่รอมันละพรุ่งนี้
พยาบาลที่คลินิกจึงทำการรับฝาก และให้อ็อกซิเจนน้องแมว และจะทำการเอ็กซเรย์วันพรุ่งนี้
"วันที่19มิถุนายน"
เราไปเยี่ยมน้องแมวที่คลินิกช่วงบ่าย
ผลเอ็กซเรย์ออกมาว่า ช่วงที่เป็นหลอดลมของน้องดูไม่ชัดเจน
คล้ายๆกับว่ามีลมรั่วออกมา
ซึ่งหมอที่คลินิกได้บอกว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากการทำหมันเมื่อวาน
หมอบอกว่า เคสแบบนี้ โอกาสรอดน้อยมากๆ…
จากนั้นทางคลินิกจึงได้ประสานงานกับทางรพ.ที่เราพาน้องแมวไปทำหมัน ให้น้องแมวไปรักษาที่รพ.แห่งนี้
เนื่องจากรพ.แห่งนั้นเป็นที่เดียวที่มีเครื่องมือครบครันที่สุดในละแวกนี้
(ใจจริงอยากเปลี่ยนรพ. แต่ก็กลัวสภาพน้องไปไม่ไหว)
เมื่อไปถึงรพ.ทางกรรมการหมอก็ออกมาพูดคุย
โดยยอมรับว่านี่คืออุบัติเหตุจากการผ่าตัด และทางรพ.จะออกค่ารักษาที่รพ.ตั้งแต่ตอนนี้ให้
โดยการรักษาคือ ถ้าหลอดลมรั่วใหญ่ ต้องเปิดผ่าหารอยรั่ว ซึ่งความเสี่ยงต่อชีวิต…สูงมาก
แต่ถ้าหลอดลมรั่วน้อย น้องจะสามารถ ฮีล ตัวเองได้
โดยวันนี้ทางรพ.จะเจาะเครื่องเข้าไปช่วยดูดลมออกมา ซึ่งจะช่วยให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น
เราจึงกลับหอพัก และมาเยี่ยมน้องรอบดึกอีกครั้ง
"วันที่ 20 มิถุนายน" วันที่สองหลังจากทำหมัน
เรารีบไปเยี่ยมน้องรอบบ่าย หมอบอกว่า เครื่องดูดลมดูดลมออกมาได้น้อยแล้ว
ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่หลอดลมรั่วเล็กซึ่งน้องจะฮีลตัวเองได้
หรืออาจจะเจาะเครื่องไม่ตรง
เราโล่งใจขึ้นเล็กน้อย ขอให้น้องรักษาตัวเองได้เถอะ...
และน้องมีเลือดสำลักออกมาจากปาก และมีเลือดกระเด็นเข้าปอด..ซึ่งเกิดจากแผลหลอดลมรั่ว
ทำให้น้องหายใจไม่ออกมากขึ้น
วันนี้น้องต้องเพิ่มอ็อกซิเจนเป็นสองถัง
และน้องต้องทำการเอ็กซเรย์อีกครั้ง
ซึ่งวันนี้ทังวันยังไม่สามารถทำการเอ็กซเรย์ได้
เนื่องจากร่างกายน้องยังไม่พร้อมและ น้องไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย..ขู่ใส่หมอตลอด..
ทั้งที่ร่างกายน้องเองก็ไม่มีเรี่ยวแรง..
มีสายระโยงระยางทั้งตัว..
ไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาสองวันแล้ว ทั้งที่ปกติกินจุมากๆ
ตัวก็เหม็นกลิ่นอึคละคลุ้ง..
ต้องอ้าปากหายใจจนเห็นเขี้ยวล่างทั้งซี่..
น้องเหนื่อยจนแทบไม่ขยับเขยื้อนเลย.. ซึ่งปกติจะไม่ยอมให้ขังไว้แบบนี้เลย
เราเห็นแล้วสงสารลูกชายมากๆ มันไม่ยอมให้ใครจับเลยนอกจากเรา
ได้แต่ลูบหน้ามันเบาๆ และสัญญาว่าเราจะพามันออกมาให้ได้..
เรากลับมาหอพักสวดมนต์ภาวนาให้เจ้าลูกชายรอด
จนตอนเย็น…ทางรพ.โทรมาบอกว่า ให้เรารีบไป น้องอาการแย่มาก เราอาจจะมาไม่ทันก่อนน้องเสียชีวิต
เราตกใจ ร้องไห้ วิ่งออกจากหอ รีบนั่งแท็กซี่ไปรพ.
เมื่อมาถึงน้องไม่หายใจแล้ว เราตกใจมาก ร้องไห้โฮ
หมอได้พยายามกู้ชีพอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้าย..น้องก็จากไปแล้วจริงๆ
เราร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังอย่างไม่อายใคร กอดร่างน้องที่นอนแน่นิ่ง ตัวแข็ง
ดวงตาเปิด ปากอ้า สงสารน้องจับใจ
จนเมื่อเราหายสะอื้นแล้ว หมอเจ้าของเคสได้เข้ามาคุยกับเราค่ะ
เค้าเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นขณะผ่าตัด
หมอบอกว่า น้องเรามีอาการเครียดมากก่อนผ่า ขู่ฝ่อๆไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
มันกรีดร้อง และขัดขืน อย่างมาก
เมื่อจับตัวได้จึงต้องรีบทำการดมยา
ซึ่งระหว่างนั้นเอง หลอดลมของน้องน่าจะหดตัวจากอาการเครียด เลยทำให้มันมีขนาดเล็กกว่าท่อดมยาที่สอดเข้าไป
ทำให้เกิดหลอดลมฉีกขาดจนถึงแก่ชีวิตในที่สุด
และก่อนหน้านั้น หมอได้บอกว่า มีหลายเคส ที่เครียดมาก และช็อกตายระหว่างทำไปเลย
เราก็ไม่เข้าใจนะคะ หมอทราบดีอยู่แล้ว มีหลายเคสแล้ว ที่ต้องเสียชีวิตลงด้วยความเครียดจากการผ่าตัด
ทำไมหมอจึงยังคงทำการผ่าตัดนั้นต่อ? หรือระบบของรพ.ต้องรีบทำให้เสร็จทันคิว?
เราสอบถามถึงอายุการทำงานของหมอ
ได้คำตอบแบบเลี่ยงๆมาค่ะ ว่าเรียนสัตวแพทย์จบ ก็เรียนผ่าตัดต่อ แล้วทำงานที่นี่เลย
(ไม่ได้บอกว่าทำนานไหม หรือทำกี่ปี เราเลยคิดว่าหมอใหม่แน่ค่ะ หน้าตายังไม่แก่เลย)
สักพักกรรมการหมอได้เข้ามาคุยกับเรา ได้แต่ปลอบใจเพียงว่า “เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น”
.
.
.
ค่ะ.. เหตุการณ์ข้างต้นไม่มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงคนไหนอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน
อย่าคิดแค่ว่า เห็นเพื่อนนำสัตว์เลี้ยงไปทำหมันแล้ว ปลอดภัยกลับมาทุกคน
แล้ว การทำหมันจะไม่มีความเสี่ยงเลยนะคะ
อยากให้ทุกคนลองสำรวจสัตว์เลี้ยงเราดูค่ะ
เค้าเครียดง่ายไหม เค้าเจอผู้คนแปลกหน้าแล้วเป็นอย่างไร
น้องแมวเรากลัวคนมาก เจอคนแปลกหน้า(เป็นเฉพาะนอกห้อง) จะจิกเราอย่างแรง ไต่หนีขึ้นไปบนหัวเลยค่ะ
ไปรพ.ทีไรก็หลบอยู่แต่ในตะกร้า มองซ้ายทีขวาที ตัวสั่นงึกๆ
เลี้ยงระบบปิด น้องกลัวการออกนอกห้องมากค่ะ
เราไม่ได้โทษแต่หมอที่ไม่มีความละเอียดรอบคอบอย่างเดียวนะคะ
เราเองด้วยค่ะ
วันนั้นเราพลาดเองค่ะ เราติดเรียน เลยทิ้งเค้าไว้ฝากให้หมอทำหมันโดยที่ไม่มีเรา เค้าอาจจะเครียดมาก
ทั้งที่ถ้าเราอยู่ เค้าอาจจะเครียดน้อยลง และคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ถ้าเราศึกษารายละเอียด และหาข้อมูลมากกว่านี้ อาจจะนำน้องไปรักษาที่ๆเหมาะกับน้องมากกว่านี้
มีรพ.บางที่ค่ะ ที่เค้าจะดูอารมณ์สัตว์เลี้ยงเราก่อนการทำหมัน
ถ้าสัตว์เลี้ยงเครียด หรือ มีอาการเสี่ยง คุณหมอจะไม่ลงมือผ่าตัดเลยค่ะ
.
.
.
หลังจากนั้นที่น้องเสีย คืนนั้นเราได้ทำน้องไปประกอบพิธีทางศาสนา
ได้แต่เก็บกระดูกน้องกลับมา ไม่สามารถพาน้องกลับมาตามที่สัญญากับเค้าได้
เสียใจมากค่ะ รักดั่งแก้วตาดวงใจ
ป.ล. การทำหมันยังไงก็มีประโยชน์มากกว่าโทษนะคะ เราตั้งกระทู้นี้เพื่อให้กรณีเราที่สัตว์เสียชีวิตซึ่งเกิดเป็นส่วนน้อยได้เป็นอุทาหรณ์ ในการศึกษาหาข้อมูล ทำความเข้าใจความเครียดของสัตว์เลี้ยง และสังเกตอาการต่างๆหลังผ่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยสัตว์เลี้ยงของเราได้ทันท่วงทีค่ะ
..ดูแลสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆให้ดีนะคะ..