เค้าอยากแบ่งปันความรู้ทางภาษาอังกฤษ ซึ่งนำมาจากอาจารย์ของเค้าอีกที
สมัยนี้ภาษาอังกฤษ ถ้าใครพูดไม่ได้หรือไม่เก่ง ต้องรีบพยายามเลยยยย
เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ก็ต้องสู้ๆต่อไป
ชนิดต่าง ๆ ของประโยค
ประโยคแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ดังนี้คือ
1. Simple sentence
ประโยค simple sentence คือประโยคที่มีโครงสร้างอย่างง่าย มี clause อิสระหรือ independent clause อันเดียว เช่น
The student is working hard.
She confessed her crime to the police.
2. Compound sentence
Compound sentence คือ ประโยคที่มีตั้งแต่สอง independent clauses (ซึ่งเป็น simple sentences) ขึ้นไป และแต่ละ clause แยกออกมาเขียนเป็น simple sentence ได้ ในประโยค compound sentence ไม่มี dependent clauses คำ conjunctions ที่ใช้เชื่อม ได้แก่ and, but, or, so, for
You may discuss this report with your colleagues first, but our CEO will finally finalize it.
The bus stopped at the bus terminal and all the passengers got out of it.
3. Complex sentence
Complex sentence คือประโยคที่มีเพียงหนึ่ง independent clause เท่านั้น แต่จะมี dependent clause หนึ่ง clause หรือมากกว่าหนึ่งก็ได้มาเป็นส่วนขยาย
You didn’t tell me that you were going to set up a new business.
ส่วนที่ขีดเส้นใต้เป็น noun clause
The couple who lived in the big house at the corner used to be movie stars.
ส่วนที่ขีดเส้นใต้เป็น relative clause ทำหน้าที่เป็น adjective clause ขยายคำ noun ‘the couple’
As soon as I realized that something had gone wrong, I called the police. (as soon as ใช้นำหน้า adverb clause of time)
This is the place where his brother was killed.
(where ใช้นำหน้า adverb clause of place)
She talked to him as if she were her mother.
(as if ใช้นำหน้า adverb clause of manner)
Alisa asked her parents to let her stay in her own flat because she wanted to be independent.
(because ใช้นำหน้า adverb clause of reason)
Although he had tried hard to investigate the case, he found little useful evidence.
(although ใช้นำหน้า adverb clause ที่บอก contrast)
Realizing that the political climate in the country was unfavourable, Mr. Johnson cancelled the plan to expand his business.
(ส่วนที่ขีดเส้นใต้เรียกว่า participial phrase ลดรูปมาจาก clause เต็ม ๆ ว่า After Mr. Johnson realized that the political climate in the country was unfavourable อยู่ในรูป active voice)
Strongly criticized by her friends, she refused to join the team.
(ส่วนที่ขีดเส้นใต้ก็เป็น participial phrase ด้วย ลดรูปมาจาก clause เต็มว่า When หรือ After she was strongly criticized by her friend. อยู่ในรูป passive voice)
4. Compound – complex sentence
Compound – complex sentence คือประโยคที่มีตั้งแต่สอง independent clauses
ขึ้นไป และมี dependent clauses ตั้งแต่หนึ่ง clause ขึ้นไป กล่าวง่าย ๆ คือมีทั้งประโยค compound และ complex ปนกันอยู่ เช่น
Since that article seems to satisfy your needs, we are enclosing a copy and we hope that it will help you find a suitable solution to your problem.
การจำแนกส่วนต่าง ๆ ของประโยค ตามลักษณะหน้าที่
หากจะพิจารณาโครงสร้างของประโยคตามหน้าที่ (function) ของคำประเภทต่าง ๆ ว่าทำหน้าที่อะไรในประโยคแล้ว โครงสร้างของประโยคจะประกอบด้วยส่วนที่สำคัญที่สุด 3 ส่วนคือ ประธาน (Subject), กริยา (Verb) และส่วนเติมให้สมบูรณ์ (Complement)
ส่วนขยาย (modifiers) เช่น (adjectives, adverbs) และคำเชื่อม (connectives) เช่น prepositions, conjunctions, และอื่นๆ มีหน้าที่ช่วยเพิ่มเติมสนับสนุนที่สำคัญที่สุด โดยที่ modifiers มีหน้าที่ช่วยให้มีความหมายมากขึ้น หรือชัดเจนยิ่งขึ้น และ connectives มีหน้าที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่าง ๆ ของประโยค เพื่อให้ประโยคเหล่านั้นมีความต่อเนื่องราบรื่น
ไม่สะดุด
ขอบคุณอาจารย์สุดเลิฟของหนู <3
มารู้จักชนิดต่าง ๆ ของ sentences กันเต๊อะ :D เย่เย้ ~~
สมัยนี้ภาษาอังกฤษ ถ้าใครพูดไม่ได้หรือไม่เก่ง ต้องรีบพยายามเลยยยย
เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ก็ต้องสู้ๆต่อไป
ชนิดต่าง ๆ ของประโยค
ประโยคแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ดังนี้คือ
1. Simple sentence
ประโยค simple sentence คือประโยคที่มีโครงสร้างอย่างง่าย มี clause อิสระหรือ independent clause อันเดียว เช่น
The student is working hard.
She confessed her crime to the police.
2. Compound sentence
Compound sentence คือ ประโยคที่มีตั้งแต่สอง independent clauses (ซึ่งเป็น simple sentences) ขึ้นไป และแต่ละ clause แยกออกมาเขียนเป็น simple sentence ได้ ในประโยค compound sentence ไม่มี dependent clauses คำ conjunctions ที่ใช้เชื่อม ได้แก่ and, but, or, so, for
You may discuss this report with your colleagues first, but our CEO will finally finalize it.
The bus stopped at the bus terminal and all the passengers got out of it.
3. Complex sentence
Complex sentence คือประโยคที่มีเพียงหนึ่ง independent clause เท่านั้น แต่จะมี dependent clause หนึ่ง clause หรือมากกว่าหนึ่งก็ได้มาเป็นส่วนขยาย
You didn’t tell me that you were going to set up a new business.
ส่วนที่ขีดเส้นใต้เป็น noun clause
The couple who lived in the big house at the corner used to be movie stars.
ส่วนที่ขีดเส้นใต้เป็น relative clause ทำหน้าที่เป็น adjective clause ขยายคำ noun ‘the couple’
As soon as I realized that something had gone wrong, I called the police. (as soon as ใช้นำหน้า adverb clause of time)
This is the place where his brother was killed.
(where ใช้นำหน้า adverb clause of place)
She talked to him as if she were her mother.
(as if ใช้นำหน้า adverb clause of manner)
Alisa asked her parents to let her stay in her own flat because she wanted to be independent.
(because ใช้นำหน้า adverb clause of reason)
Although he had tried hard to investigate the case, he found little useful evidence.
(although ใช้นำหน้า adverb clause ที่บอก contrast)
Realizing that the political climate in the country was unfavourable, Mr. Johnson cancelled the plan to expand his business.
(ส่วนที่ขีดเส้นใต้เรียกว่า participial phrase ลดรูปมาจาก clause เต็ม ๆ ว่า After Mr. Johnson realized that the political climate in the country was unfavourable อยู่ในรูป active voice)
Strongly criticized by her friends, she refused to join the team.
(ส่วนที่ขีดเส้นใต้ก็เป็น participial phrase ด้วย ลดรูปมาจาก clause เต็มว่า When หรือ After she was strongly criticized by her friend. อยู่ในรูป passive voice)
4. Compound – complex sentence
Compound – complex sentence คือประโยคที่มีตั้งแต่สอง independent clauses
ขึ้นไป และมี dependent clauses ตั้งแต่หนึ่ง clause ขึ้นไป กล่าวง่าย ๆ คือมีทั้งประโยค compound และ complex ปนกันอยู่ เช่น
Since that article seems to satisfy your needs, we are enclosing a copy and we hope that it will help you find a suitable solution to your problem.
การจำแนกส่วนต่าง ๆ ของประโยค ตามลักษณะหน้าที่
หากจะพิจารณาโครงสร้างของประโยคตามหน้าที่ (function) ของคำประเภทต่าง ๆ ว่าทำหน้าที่อะไรในประโยคแล้ว โครงสร้างของประโยคจะประกอบด้วยส่วนที่สำคัญที่สุด 3 ส่วนคือ ประธาน (Subject), กริยา (Verb) และส่วนเติมให้สมบูรณ์ (Complement)
ส่วนขยาย (modifiers) เช่น (adjectives, adverbs) และคำเชื่อม (connectives) เช่น prepositions, conjunctions, และอื่นๆ มีหน้าที่ช่วยเพิ่มเติมสนับสนุนที่สำคัญที่สุด โดยที่ modifiers มีหน้าที่ช่วยให้มีความหมายมากขึ้น หรือชัดเจนยิ่งขึ้น และ connectives มีหน้าที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่าง ๆ ของประโยค เพื่อให้ประโยคเหล่านั้นมีความต่อเนื่องราบรื่น
ไม่สะดุด
ขอบคุณอาจารย์สุดเลิฟของหนู <3