ขอบคุณบทความจากบล็อค
http://altenter.exteen.com/20091218/entry-9-batman-i
http://altenter.exteen.com/category/Book
Entry 9: Batman I
posted on 18 Dec 2009 09:50 by altenter in Book
สวัสดี เสือรัตน์
ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ ความจริงแล้วการได้คุยกับคนไกลตัวบ้าง มันทำให้เราได้คิดอะไรกว้างขึ้น และที่สำคัญคือมักจะได้มุมมองที่ต่างไปจากเดิม
เสือรัตน์ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับ Superhero ไม๊? เช่นพวก Superman, Batman, Spider-Man อะไรพวกนี้ ส่วนตัวผมชอบมาก
เมื่อสองสามวันก่อนผมมีโอกาสอ่านหนังสือที่ชื่อว่า Batman and Philosophy เขียนโดยนักเขียนหลายคน
ในเล่มเขียนเกี่ยวกับความคิด และปรัชญาต่าง ๆ ที่ห้อมล้อมเรื่องราวของมนุษย์ค้างคาวไว้ ซึ่งมันทำให้ผมตาเป็นประกาย ให้เล่าหมดก็คงไม่ไหว
เอาเป็นว่าขอหยิบมาเล่าแค่บางตอนแล้วกัน
ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
(Why doesn't Batman just kill the Joker and end everyone's misery?)
บทแรกของหนังสือเริ่มด้วยคำถามข้างบน ซึ่งสำหรับผมนับว่าเป็นจั่วหัวที่โดน ประมาณว่า ทำไมเมิงไม่ฆ่ามันซะเรื่องจะได้จบ ๆ ไป
บางคนอาจจะบอกว่าถ้าฆ่า Joker แล้วจะขายอะไรต่อ เรื่องก็จบน่ะสิ ในความเป็นจริงแล้ว Batman (แทบ)ไม่เคยฆ่า Joker หรือวายร้ายตัวไหน ๆ
ที่เค้าใช้คำว่า "แทบ" เพราะในฉบับหนัง Hollywood (1989) นั้น Batman ฆ่า Joker แต่ถ้าพูดถึงต้นฉบับหนังสือการ์ตูนจริง ๆ แล้ว Batman
ไม่เคยทำแบบนั้น สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ Joker โดน Batman จับส่งเข้าคุกแล้ว Joker ก็หาทางหนีออกมาป่วนเมืองและฆ่าคนใน Gotham City ต่อไป
คำถามที่เกิดขึ้นตรงนี้คือ ทำไมไม่ฆ่า Joker ซะ แล้วจะช่วยชีวิตชาว Gotham อีกนับสิบนับร้อยชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต? ถ้าเสือรัตน์เป็น Batman
จะฆ่า Joker เลยไม๊? สำหรับประเด็นนี้จะมาเล่าต่อในตอนหน้า
Batman ต่างกับ Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
คำถามนี้ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงหนังเรื่อง Kill Bill ขอพัก บุรุษค้างคาวของเราไว้ตรงนี้ซักแป๊บ เดี๋ยวจะวนกลับมานะ
ในหนังเรื่อง Kill Bill: Volume 2 ตอนท้าย ๆ เรื่อง ก่อนจะเข้าสู่ฉากสู้ระหว่าง Bill (แสดงโดย David Carradine) กับ Kiddo
(แสดงโดย Uma Thurman)
Bill พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ Superhero ว่าเค้าชอบการ์ตูน Superhero มาก และเรื่องที่เค้าชื่นชอบมากที่สุดก็คือ Superman สิ่งที่ทำให้เค้าชอบก็คือ
แนวคิดที่ไม่เหมือนใครที่อยู่เบื้องหลังบุรุษเหล็ก ผู้นี้ เค้าให้เหตุผลว่า Superman แตกต่างจาก Superhero ตัวอื่นทั้งหมดตรงที่ Superman
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนหลังเหมือนอย่าง Spider-Man, Batman หรือ The Hulk แต่ Superman เกิดมาก็เป็นซุปเปอร์แมนเลย
ไม่เคยเป็นคนธรรมดามาก่อน ส่วน alter-ego ที่ต้องสร้างขึ้นมาตอนหลังคือ Clark Kent ซึ่งเป็นตัวตนแบบคนธรรมดาสามัญ ตรงข้ามกับ
Superhero ตัวอื่น ๆ อย่าง Bruce Wayne ที่เป็นคนปกติแต่ต้องสร้าง alter-ego Batman ที่เป็นตัวตนแบบ Superhero หรือ Peter Parker
สร้างตัวตน Spider-Man ขึ้นมา
Bill บอกว่า Batman, Spider-Man นั้นมีเครื่องแบบ (ในหนังใช้คำว่า costume คือ ชุดที่ใส่สำหรับนักแสดงเวลาแสดง) เป็นชุด Bat Suit
หรือ ชุดไอ้แมงมุม แต่ costume ของ Superman กลับเป็น ชุดสูท ชุดทำงาน ที่คนปกติใส่ ส่วนเวลาออกปฏิบัตการณ์ชุดซุปเปอร์แมนที่มีตัว "S"
บนหน้าอกนั่นเป็นชุดที่ห่อหุ้มตัว Superman ตั้งแต่เด็กน้อยตกมายังโลกนี้แล้ว นั่นจึงไม่นับเป็น costume แต่เป็น cloth (เสื้อผ้าปกติ)
Bill ถามว่าแล้วเพื่อที่จะทำตัวกลมกลืมเข้ากับสังคมมนุษย์นั้น Superman ออกแบบบุคลิก Clark Kent ยังไง?
ผลที่ได้ออกมาคือคนที่มีท่าทางเซื่อง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ทึ่ม ๆ ตามคนอื่นไม่ทันและ ขี้ขลาด
แล้ว Bill ก็สรุปว่า แท้จริงแล้ว Clark Kent ก็คือบทวิพากษ์สังคมมนุษย์ในสายตาของ Superman นั่นเอง
คำพูดของ Bill เกี่ยวกับ Superman จบแค่นี้ แต่แค่นี้มันทำให้ผมเกิดอาการ "หนังจบ แต่คนไม่จบ" ขึ้นมาทันที
มันทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า เฮ่ย แล้ว Superhero เรื่องอื่น ๆ เราได้อะไรจากมันบ้าง
เอาเป็นว่า ผมจะกลับมาเล่าต่อเรื่อง ความแตกต่างระหว่าง Batman กับ Superhero ตัวอื่น ๆ ในตอนต่อไปละกันนะ ถ้าเสือรัตน์ลองเดาเล่น ๆ
ไปก่อนก็ได้ว่าต่างยังไง
นี่ก็จะ ปีใหม่แล้วยังไงก็ Merry Christmas & Happy New Year นะ
ขอบคุณภาพจาก
http://i97.photobucket.com/albums/l224/viveckvivu/427px-Batman_superman.jpg
edit @ 14 Jan 2010 12:35:53 by ss-ck
Entry 11: Batman II (End)
posted on 07 Jan 2010 09:00 by altenter in Book
"It's not who you are underneath.
It's what you do that defines you."
- Batman Begins (2005)
สวัสดีปีใหม่ เสือรัตน์
วันนี้เรากลับมาต่อกันเรื่องที่ผมค้างไว้
ในบทความ Batman I ผมทิ้งเรื่องที่จะกลับมาเขียนต่อไว้สองเรื่อง
เรื่องแรกคือ ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
เรื่องที่สองคือ Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
ตามท้องเรื่อง ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่มีคนขอร้องให้ Batman ฆ่า Joker ซะ เพื่อช่วยชีวิตชาว Gotham City อีกหลายชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต
ถ้าเป็นตามสูตรหนังแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญทั่ว ๆ ไป ผมรับรองว่า Joker คงได้ตายแล้วเกิดใหม่หลายรอบแล้วแต่ Batman ไม่เคยทำตามคำขอร้อง
เหล่านั้นเลย คำถามว่า "ทำไม" จึงเกิดขึ้น
เพื่อให้เราเข้าใจ Batman มากขึ้น ผมขอเล่าเรื่องสมมติสั้น ๆ เรื่องนึง
สมมุติว่า มีรถรางกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูง บนรถรางมีคนอยู่ห้าคน ที่นี้ที่ปลายทางของรางเป็นปากเหว และถ้าปล่อยไว้รถรางก็จะวิ่งลงเหวและผู้โดยสาร
ทั้งห้าก็จะตายหมู่ แต่ก่อนที่จะถึงเหวนั้นมันมีอีกรางนึงเป็นทางเบี่ยง ถ้ามีใครซักคนไปสับราง รถรางก็จะไม่ตกเหว แต่จะวิ่งไปตามทางเบี่ยงนั้นอย่างปลอดภัย
และผู้โดยสารทั้งห้าก็จะรอดตาย แต่ บนทางเบี่ยงนั้นเองก็มีคนยืนอยู่บนรางคนนึง ซึ่งจะต้องโดนรถรางทับตายแน่นอนถ้ามีการสับรางเกิดขึ้น
พูดแบบสรุป ทางเลือกก็คือ
1. ปล่อยเหตุการณ์นี้ดำเนินไปโดยไม่ทำอะไรก็จะมีคนตายห้าคน ซึ่งก็คือคนบนรถราง หรือ
2. สับราง แล้วคนบนรถรางทั้งห้ารอดชีวิต แต่มีคนต้องตายหนึ่งคน คน ๆ นั้นคือ คนที่ยืนอยู่บนทางเบี่ยง
เรื่องสมมติจบลงตรงที่ว่า ถ้าเสือรัตน์เป็นคนที่ยืนอยู่ตรงที่สับราง เสือรัตน์จะเลือกทำอะไร สับรางหรือไม่สับราง?
หากเราจะมองถึงผลลัพท์ คำถามคือ จะเลือกให้มีคนตายกี่คน 1 คน หรือว่า 5 คน? แน่นอนว่าคำตอบคือ การเลือกที่จะสับรางเพื่อให้มีคนรอดชีวิตมากที่สุด
แต่ หากเรามองเฉพาะการกระทำ จะเห็นว่ารถรางที่วิ่งมานั้นมันวิ่งมาเอง เราไม่ได้เป็นคนทำให้มันวิ่ง หากปล่อยให้ตกเหวไป
นั่นย่อมไม่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา เท่ากับเราไม่ได้ฆ่าใคร แต่ถ้าเราสับราง นั่นเท่ากับเราเลือกที่จะฆ่าคน 1 คน บนทางเบี่ยง
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับ Batman?
Bruce Wayne ในวัยเด็กนั้นเห็นพ่อแม่ถูกฆาตกรยิงตายต่อหน้าต่อตา จากนั้นมา เด็กน้อยจึงเกลียดชังการฆ่าและอาชญากรรม
Bruce สาบานกับตัวเองว่า เค้าจะกำจัดอาชญากรรมให้หมดไปจาก Gotham City โดยที่เค้าจะไม่เป็นเหมือนฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเค้า
นั่นก็คือเค้าจะไม่ฆ่าใคร (และไม่ใช้ปืนอีกด้วย!)
ครั้งใดที่มีคนขอร้องให้ Batman ฆ่า Joker ซะ เพื่อช่วยชีวิตชาว Gotham City อีกหลายชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต Batman ก็จะบอกว่า
ตัวเขาจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเขาอย่างดีที่สุด แต่การตายของผู้คนจากฝีมือของ Joker นั้น ย่อมต้องเป็นความรับผิดชอบของ Joker
ไม่ใช่ตัวเขาที่ต้องรับผิดชอบ และตัวเขาเองไม่ฆ่าคน
พูดอีกอย่างก็คือ Batman นั้นมีการกระทำที่ยึดติดกับ "กฎ" มากกว่า "ผลลัพท์" นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker
และให้ผมเดา จากเรื่องรถรางข้างบน หากว่าไม่มีทางเลือกอื่นเหลือจริง ๆ Batman ก็คงไม่สับรางและปล่อยให้รถรางวิ่งตกเหวไป
ความยอกย้อนอยู่ตรงที่ว่า Joker มักจะเป็นคนบีบให้ Batman ตกอยู่ในสถานการณ์ของคนสับราง แล้วเอาชีวิตผู้บริสุทธิไปไว้บนรถราง
ส่วน Joker นั้นก็จะปลอมเป็นคนที่ยืนอยู่บนทางเบี่ยงซะเอง
Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
Superhero โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพลังจากสองแบบหลักคือ ได้มาแต่กำเนิดเช่น Superman และอีกพวกคือได้พลังมาในภายหลัง
เช่น Spider-Man แต่ Batman นั้นเป็น Superhero คนเดียวที่ไม่เคยมีพลังเหนือธรรมชาติพวกนั้น ไม่ว่าจะตั้งแต่เกิดหรือในภายหลัง
สองสิ่งที่ทำให้ Bruce Wayne กลายเป็น Batman ได้ ก็คือ การฝึกฝน และอุปกรณ์ไฮเทค แต่โดยแก่นแท้แล้ว ภายใต้หน้ากากค้างคาว
เค้าก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ก็คือ ช่วงเวลาของการตัดสินใจอุทิศตนกำจัดอาชญากรรม Superhero คนอื่น ๆ นั้น
ตัดสินใจต่อสู้กับอาชญากรรมภายหลังจากที่เค้าได้รับพลังเหนือธรรมชาติมาแล้ว และอยู่ในช่วงอายุที่โตแล้ว แต่ Batman นั้น ตัดสินใจต่อสู้กับ
อาชญากรรมหลังจากที่เสียงปืนพรากพ่อและแม่ของเค้าไป ซึ่งขณะนั้นตัวเค้าเองเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้มีพละกำลังหรือความสามรถใด ๆ
เหนือกว่าคนปกติเลย เสือรัตน์ลองจินตนาการดู ก็คงจะพอเห็นได้ว่า การตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตแบบนี้ ในวัยขนาดนี้ เด็กชาย Bruce Wayne
ต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่า Superhero คนอื่นอย่างน้อยก็เท่าตัว
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงความมุมานะ ฝึกฝน เพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถแบบ Superhero
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือการ์ตูน Batman หรือดูหนัง Batman ที่พาเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นในฉากที่ Bruce Wayne
เสียพ่อและแม่ของเค้าไปโดยฝืมือของอาชญากร
ผมเชื่อว่าจุดประสงค์คงไม่ใช่เพื่อให้เราได้เห็นฉากฆาตกรรมอันโหดร้าย
แต่ มันเป็นการพาเราไปรับรู้ถึงคำสัญญายิ่งใหญ่จากเด็กชายคนหนึ่งต่างหาก
ปล.
เรื่องรถรางข้างบนมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Trolley Problem การศึกษาวิชาปรัชญาใช้ Trolley Problem เป็นตุ๊กตาอธิบายเหตุผลของการกระทำเชิงจริยธรรม
ในหนังสือ Batman and Philosophy เค้าบอกว่าหากเราจะตัดสินสิ่งดีเลวถูกผิดทั้งปวง เราต้องมีหลักคิดอะไรบางอย่างเพื่อใช้เป็นไม้บรรทัด
ในหนังสือ คนเขียนนำเสนอสองกลุ่มความคิดที่ให้เหตุผลต่างกัน อันนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ต่างกันคือ สับราง และ ปล่อยให้รถรางตกเหวไป
กลุ่ม แรกมีชื่อว่า Utilitarianism กลุ่มนี้ตัดสินผิดชอบชั่วดีจาก ผลที่จะตามมาและ ผลลัพท์ที่ได้เป็นหลัก สำหรับเราที่เกิดในยุคคนกินคน
และฝึกตีค่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตัวเลขจนเคยชิน อาจจะเข้าใจแนวคิดแบบนี้ได้ไม่ยาก นัก คนกลุ่มนี้จะสนับสนุนให้เรา "สับราง" ซะ เพราะจะมีคนรอด 5 คน
และตาย 1 คน นั่นย่อมดีกว่า การไม่ทำอะไรแล้วมีคนตาย 5 คน และรอดแค่คนเดียว
กลุ่มที่สองคือ Deontologist หลักการของแนวคิดนี้คือ การยึดถือ "กฎ" เป็นหลัก กลุ่มนี้สนับสนุนให้ไม่สับราง แล้วปล่อยให้ห้าคนบนรถรางนั้น
ตกเหวไปซะ ...เพราะอะไร? เค้าให้เหตุผลว่าการที่คน "ฆ่า" คน โดยพื้นฐานแล้วถือเป็นสิ่งที่ผิด แต่นั่นก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่น การป้องกันตัวจากคนร้าย
ในมุมมองของ Deontologist นั้น หากเราสับรางเท่ากับว่าเราตัดสินใจและทำการฆ่าคน 1 คน ซึ่งนั่นเท่ากับเราทำผิด แต่การไม่สับรางและปล่อยให้ 5 คน
ตกเหวตายไป นั่นไม่เท่ากับเราฆ่าห้าคนนั้น เพราะการวิ่งไปลงเหวไม่ได้เกิดจากการกระทำของเราตั้งแต่ต้น
edit @ 13 Aug 2010 06:47:40 by ss-ck
Why doesn't Batman just kill the Joker and end everyone's misery?
http://altenter.exteen.com/20091218/entry-9-batman-i
http://altenter.exteen.com/category/Book
Entry 9: Batman I
posted on 18 Dec 2009 09:50 by altenter in Book
สวัสดี เสือรัตน์
ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ ความจริงแล้วการได้คุยกับคนไกลตัวบ้าง มันทำให้เราได้คิดอะไรกว้างขึ้น และที่สำคัญคือมักจะได้มุมมองที่ต่างไปจากเดิม
เสือรัตน์ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับ Superhero ไม๊? เช่นพวก Superman, Batman, Spider-Man อะไรพวกนี้ ส่วนตัวผมชอบมาก
เมื่อสองสามวันก่อนผมมีโอกาสอ่านหนังสือที่ชื่อว่า Batman and Philosophy เขียนโดยนักเขียนหลายคน
ในเล่มเขียนเกี่ยวกับความคิด และปรัชญาต่าง ๆ ที่ห้อมล้อมเรื่องราวของมนุษย์ค้างคาวไว้ ซึ่งมันทำให้ผมตาเป็นประกาย ให้เล่าหมดก็คงไม่ไหว
เอาเป็นว่าขอหยิบมาเล่าแค่บางตอนแล้วกัน
ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
(Why doesn't Batman just kill the Joker and end everyone's misery?)
บทแรกของหนังสือเริ่มด้วยคำถามข้างบน ซึ่งสำหรับผมนับว่าเป็นจั่วหัวที่โดน ประมาณว่า ทำไมเมิงไม่ฆ่ามันซะเรื่องจะได้จบ ๆ ไป
บางคนอาจจะบอกว่าถ้าฆ่า Joker แล้วจะขายอะไรต่อ เรื่องก็จบน่ะสิ ในความเป็นจริงแล้ว Batman (แทบ)ไม่เคยฆ่า Joker หรือวายร้ายตัวไหน ๆ
ที่เค้าใช้คำว่า "แทบ" เพราะในฉบับหนัง Hollywood (1989) นั้น Batman ฆ่า Joker แต่ถ้าพูดถึงต้นฉบับหนังสือการ์ตูนจริง ๆ แล้ว Batman
ไม่เคยทำแบบนั้น สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ Joker โดน Batman จับส่งเข้าคุกแล้ว Joker ก็หาทางหนีออกมาป่วนเมืองและฆ่าคนใน Gotham City ต่อไป
คำถามที่เกิดขึ้นตรงนี้คือ ทำไมไม่ฆ่า Joker ซะ แล้วจะช่วยชีวิตชาว Gotham อีกนับสิบนับร้อยชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต? ถ้าเสือรัตน์เป็น Batman
จะฆ่า Joker เลยไม๊? สำหรับประเด็นนี้จะมาเล่าต่อในตอนหน้า
Batman ต่างกับ Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
คำถามนี้ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงหนังเรื่อง Kill Bill ขอพัก บุรุษค้างคาวของเราไว้ตรงนี้ซักแป๊บ เดี๋ยวจะวนกลับมานะ
ในหนังเรื่อง Kill Bill: Volume 2 ตอนท้าย ๆ เรื่อง ก่อนจะเข้าสู่ฉากสู้ระหว่าง Bill (แสดงโดย David Carradine) กับ Kiddo
(แสดงโดย Uma Thurman)
Bill พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ Superhero ว่าเค้าชอบการ์ตูน Superhero มาก และเรื่องที่เค้าชื่นชอบมากที่สุดก็คือ Superman สิ่งที่ทำให้เค้าชอบก็คือ
แนวคิดที่ไม่เหมือนใครที่อยู่เบื้องหลังบุรุษเหล็ก ผู้นี้ เค้าให้เหตุผลว่า Superman แตกต่างจาก Superhero ตัวอื่นทั้งหมดตรงที่ Superman
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนหลังเหมือนอย่าง Spider-Man, Batman หรือ The Hulk แต่ Superman เกิดมาก็เป็นซุปเปอร์แมนเลย
ไม่เคยเป็นคนธรรมดามาก่อน ส่วน alter-ego ที่ต้องสร้างขึ้นมาตอนหลังคือ Clark Kent ซึ่งเป็นตัวตนแบบคนธรรมดาสามัญ ตรงข้ามกับ
Superhero ตัวอื่น ๆ อย่าง Bruce Wayne ที่เป็นคนปกติแต่ต้องสร้าง alter-ego Batman ที่เป็นตัวตนแบบ Superhero หรือ Peter Parker
สร้างตัวตน Spider-Man ขึ้นมา
Bill บอกว่า Batman, Spider-Man นั้นมีเครื่องแบบ (ในหนังใช้คำว่า costume คือ ชุดที่ใส่สำหรับนักแสดงเวลาแสดง) เป็นชุด Bat Suit
หรือ ชุดไอ้แมงมุม แต่ costume ของ Superman กลับเป็น ชุดสูท ชุดทำงาน ที่คนปกติใส่ ส่วนเวลาออกปฏิบัตการณ์ชุดซุปเปอร์แมนที่มีตัว "S"
บนหน้าอกนั่นเป็นชุดที่ห่อหุ้มตัว Superman ตั้งแต่เด็กน้อยตกมายังโลกนี้แล้ว นั่นจึงไม่นับเป็น costume แต่เป็น cloth (เสื้อผ้าปกติ)
Bill ถามว่าแล้วเพื่อที่จะทำตัวกลมกลืมเข้ากับสังคมมนุษย์นั้น Superman ออกแบบบุคลิก Clark Kent ยังไง?
ผลที่ได้ออกมาคือคนที่มีท่าทางเซื่อง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ทึ่ม ๆ ตามคนอื่นไม่ทันและ ขี้ขลาด
แล้ว Bill ก็สรุปว่า แท้จริงแล้ว Clark Kent ก็คือบทวิพากษ์สังคมมนุษย์ในสายตาของ Superman นั่นเอง
คำพูดของ Bill เกี่ยวกับ Superman จบแค่นี้ แต่แค่นี้มันทำให้ผมเกิดอาการ "หนังจบ แต่คนไม่จบ" ขึ้นมาทันที
มันทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า เฮ่ย แล้ว Superhero เรื่องอื่น ๆ เราได้อะไรจากมันบ้าง
เอาเป็นว่า ผมจะกลับมาเล่าต่อเรื่อง ความแตกต่างระหว่าง Batman กับ Superhero ตัวอื่น ๆ ในตอนต่อไปละกันนะ ถ้าเสือรัตน์ลองเดาเล่น ๆ
ไปก่อนก็ได้ว่าต่างยังไง
นี่ก็จะ ปีใหม่แล้วยังไงก็ Merry Christmas & Happy New Year นะ
ขอบคุณภาพจาก http://i97.photobucket.com/albums/l224/viveckvivu/427px-Batman_superman.jpg
edit @ 14 Jan 2010 12:35:53 by ss-ck
Entry 11: Batman II (End)
posted on 07 Jan 2010 09:00 by altenter in Book
"It's not who you are underneath.
It's what you do that defines you."
- Batman Begins (2005)
สวัสดีปีใหม่ เสือรัตน์
วันนี้เรากลับมาต่อกันเรื่องที่ผมค้างไว้
ในบทความ Batman I ผมทิ้งเรื่องที่จะกลับมาเขียนต่อไว้สองเรื่อง
เรื่องแรกคือ ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
เรื่องที่สองคือ Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
ทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker ซะ? เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จะได้จบลง
ตามท้องเรื่อง ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่มีคนขอร้องให้ Batman ฆ่า Joker ซะ เพื่อช่วยชีวิตชาว Gotham City อีกหลายชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต
ถ้าเป็นตามสูตรหนังแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญทั่ว ๆ ไป ผมรับรองว่า Joker คงได้ตายแล้วเกิดใหม่หลายรอบแล้วแต่ Batman ไม่เคยทำตามคำขอร้อง
เหล่านั้นเลย คำถามว่า "ทำไม" จึงเกิดขึ้น
เพื่อให้เราเข้าใจ Batman มากขึ้น ผมขอเล่าเรื่องสมมติสั้น ๆ เรื่องนึง
สมมุติว่า มีรถรางกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูง บนรถรางมีคนอยู่ห้าคน ที่นี้ที่ปลายทางของรางเป็นปากเหว และถ้าปล่อยไว้รถรางก็จะวิ่งลงเหวและผู้โดยสาร
ทั้งห้าก็จะตายหมู่ แต่ก่อนที่จะถึงเหวนั้นมันมีอีกรางนึงเป็นทางเบี่ยง ถ้ามีใครซักคนไปสับราง รถรางก็จะไม่ตกเหว แต่จะวิ่งไปตามทางเบี่ยงนั้นอย่างปลอดภัย
และผู้โดยสารทั้งห้าก็จะรอดตาย แต่ บนทางเบี่ยงนั้นเองก็มีคนยืนอยู่บนรางคนนึง ซึ่งจะต้องโดนรถรางทับตายแน่นอนถ้ามีการสับรางเกิดขึ้น
พูดแบบสรุป ทางเลือกก็คือ
1. ปล่อยเหตุการณ์นี้ดำเนินไปโดยไม่ทำอะไรก็จะมีคนตายห้าคน ซึ่งก็คือคนบนรถราง หรือ
2. สับราง แล้วคนบนรถรางทั้งห้ารอดชีวิต แต่มีคนต้องตายหนึ่งคน คน ๆ นั้นคือ คนที่ยืนอยู่บนทางเบี่ยง
เรื่องสมมติจบลงตรงที่ว่า ถ้าเสือรัตน์เป็นคนที่ยืนอยู่ตรงที่สับราง เสือรัตน์จะเลือกทำอะไร สับรางหรือไม่สับราง?
หากเราจะมองถึงผลลัพท์ คำถามคือ จะเลือกให้มีคนตายกี่คน 1 คน หรือว่า 5 คน? แน่นอนว่าคำตอบคือ การเลือกที่จะสับรางเพื่อให้มีคนรอดชีวิตมากที่สุด
แต่ หากเรามองเฉพาะการกระทำ จะเห็นว่ารถรางที่วิ่งมานั้นมันวิ่งมาเอง เราไม่ได้เป็นคนทำให้มันวิ่ง หากปล่อยให้ตกเหวไป
นั่นย่อมไม่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา เท่ากับเราไม่ได้ฆ่าใคร แต่ถ้าเราสับราง นั่นเท่ากับเราเลือกที่จะฆ่าคน 1 คน บนทางเบี่ยง
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับ Batman?
Bruce Wayne ในวัยเด็กนั้นเห็นพ่อแม่ถูกฆาตกรยิงตายต่อหน้าต่อตา จากนั้นมา เด็กน้อยจึงเกลียดชังการฆ่าและอาชญากรรม
Bruce สาบานกับตัวเองว่า เค้าจะกำจัดอาชญากรรมให้หมดไปจาก Gotham City โดยที่เค้าจะไม่เป็นเหมือนฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเค้า
นั่นก็คือเค้าจะไม่ฆ่าใคร (และไม่ใช้ปืนอีกด้วย!)
ครั้งใดที่มีคนขอร้องให้ Batman ฆ่า Joker ซะ เพื่อช่วยชีวิตชาว Gotham City อีกหลายชีวิตที่ Joker จะฆ่าในอนาคต Batman ก็จะบอกว่า
ตัวเขาจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเขาอย่างดีที่สุด แต่การตายของผู้คนจากฝีมือของ Joker นั้น ย่อมต้องเป็นความรับผิดชอบของ Joker
ไม่ใช่ตัวเขาที่ต้องรับผิดชอบ และตัวเขาเองไม่ฆ่าคน
พูดอีกอย่างก็คือ Batman นั้นมีการกระทำที่ยึดติดกับ "กฎ" มากกว่า "ผลลัพท์" นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Batman ไม่ฆ่า Joker
และให้ผมเดา จากเรื่องรถรางข้างบน หากว่าไม่มีทางเลือกอื่นเหลือจริง ๆ Batman ก็คงไม่สับรางและปล่อยให้รถรางวิ่งตกเหวไป
ความยอกย้อนอยู่ตรงที่ว่า Joker มักจะเป็นคนบีบให้ Batman ตกอยู่ในสถานการณ์ของคนสับราง แล้วเอาชีวิตผู้บริสุทธิไปไว้บนรถราง
ส่วน Joker นั้นก็จะปลอมเป็นคนที่ยืนอยู่บนทางเบี่ยงซะเอง
Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ยังไง?
Superhero โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพลังจากสองแบบหลักคือ ได้มาแต่กำเนิดเช่น Superman และอีกพวกคือได้พลังมาในภายหลัง
เช่น Spider-Man แต่ Batman นั้นเป็น Superhero คนเดียวที่ไม่เคยมีพลังเหนือธรรมชาติพวกนั้น ไม่ว่าจะตั้งแต่เกิดหรือในภายหลัง
สองสิ่งที่ทำให้ Bruce Wayne กลายเป็น Batman ได้ ก็คือ การฝึกฝน และอุปกรณ์ไฮเทค แต่โดยแก่นแท้แล้ว ภายใต้หน้ากากค้างคาว
เค้าก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Batman ต่างจาก Superhero คนอื่น ๆ ก็คือ ช่วงเวลาของการตัดสินใจอุทิศตนกำจัดอาชญากรรม Superhero คนอื่น ๆ นั้น
ตัดสินใจต่อสู้กับอาชญากรรมภายหลังจากที่เค้าได้รับพลังเหนือธรรมชาติมาแล้ว และอยู่ในช่วงอายุที่โตแล้ว แต่ Batman นั้น ตัดสินใจต่อสู้กับ
อาชญากรรมหลังจากที่เสียงปืนพรากพ่อและแม่ของเค้าไป ซึ่งขณะนั้นตัวเค้าเองเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้มีพละกำลังหรือความสามรถใด ๆ
เหนือกว่าคนปกติเลย เสือรัตน์ลองจินตนาการดู ก็คงจะพอเห็นได้ว่า การตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตแบบนี้ ในวัยขนาดนี้ เด็กชาย Bruce Wayne
ต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่า Superhero คนอื่นอย่างน้อยก็เท่าตัว
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงความมุมานะ ฝึกฝน เพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถแบบ Superhero
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือการ์ตูน Batman หรือดูหนัง Batman ที่พาเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นในฉากที่ Bruce Wayne
เสียพ่อและแม่ของเค้าไปโดยฝืมือของอาชญากร
ผมเชื่อว่าจุดประสงค์คงไม่ใช่เพื่อให้เราได้เห็นฉากฆาตกรรมอันโหดร้าย
แต่ มันเป็นการพาเราไปรับรู้ถึงคำสัญญายิ่งใหญ่จากเด็กชายคนหนึ่งต่างหาก
ปล.
เรื่องรถรางข้างบนมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Trolley Problem การศึกษาวิชาปรัชญาใช้ Trolley Problem เป็นตุ๊กตาอธิบายเหตุผลของการกระทำเชิงจริยธรรม
ในหนังสือ Batman and Philosophy เค้าบอกว่าหากเราจะตัดสินสิ่งดีเลวถูกผิดทั้งปวง เราต้องมีหลักคิดอะไรบางอย่างเพื่อใช้เป็นไม้บรรทัด
ในหนังสือ คนเขียนนำเสนอสองกลุ่มความคิดที่ให้เหตุผลต่างกัน อันนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ต่างกันคือ สับราง และ ปล่อยให้รถรางตกเหวไป
กลุ่ม แรกมีชื่อว่า Utilitarianism กลุ่มนี้ตัดสินผิดชอบชั่วดีจาก ผลที่จะตามมาและ ผลลัพท์ที่ได้เป็นหลัก สำหรับเราที่เกิดในยุคคนกินคน
และฝึกตีค่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตัวเลขจนเคยชิน อาจจะเข้าใจแนวคิดแบบนี้ได้ไม่ยาก นัก คนกลุ่มนี้จะสนับสนุนให้เรา "สับราง" ซะ เพราะจะมีคนรอด 5 คน
และตาย 1 คน นั่นย่อมดีกว่า การไม่ทำอะไรแล้วมีคนตาย 5 คน และรอดแค่คนเดียว
กลุ่มที่สองคือ Deontologist หลักการของแนวคิดนี้คือ การยึดถือ "กฎ" เป็นหลัก กลุ่มนี้สนับสนุนให้ไม่สับราง แล้วปล่อยให้ห้าคนบนรถรางนั้น
ตกเหวไปซะ ...เพราะอะไร? เค้าให้เหตุผลว่าการที่คน "ฆ่า" คน โดยพื้นฐานแล้วถือเป็นสิ่งที่ผิด แต่นั่นก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่น การป้องกันตัวจากคนร้าย
ในมุมมองของ Deontologist นั้น หากเราสับรางเท่ากับว่าเราตัดสินใจและทำการฆ่าคน 1 คน ซึ่งนั่นเท่ากับเราทำผิด แต่การไม่สับรางและปล่อยให้ 5 คน
ตกเหวตายไป นั่นไม่เท่ากับเราฆ่าห้าคนนั้น เพราะการวิ่งไปลงเหวไม่ได้เกิดจากการกระทำของเราตั้งแต่ต้น
edit @ 13 Aug 2010 06:47:40 by ss-ck