และแล้วก็มีเวลามาลงรีวิวซะทีหลังจากที่ไปทำเวเซอร์ดูดไขมันหน้าท้องมาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2556 ที่จริงเรากะจำทำรีวิวตั้งแต่หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ด้วยซ้ำไปเพราะคราวนี้แผลหายและเข้าที่เร็วมาก แต่เราดันไม่มีเวลาเพราะมาติดลูกๆปิดเทอมนี่แหละค่ะ เลยวุ่นวายกะลูกๆหลายเรื่อง
          คราวนี้มาเข้าเรื่องก่อนเลยดีกว่าเนอะ คือถ้าใครยังพอจำกันได้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเราเคยมาลงรีวิวเวเซอร์ดูดไขมันต้นขาไป จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมีบางคนหลังไมค์มาถามเรื่องขาอยู่เลย ..
          หลังจากที่เราเคยดูดไขมันต้นขาไปแล้วเราก็ตั้งใจตั้งแต่นั้นเรื่อยมาว่าเราจะดูดหน้าท้องด้วย แต่ต้องใช้เวลาในการเก็บตังค์นานหน่อย อิอิ จนถึงเวลาที่เราพร้อมจาทำก็ได้หาข้อมูลไปเรื่อยๆว่าจาทำที่ไหนดี จาเปลี่ยนที่ทำใหม่หรือทำที่เดิมดี ลองดูรีวิวของคนอื่นๆ บางที่ก็ราคาถูกมากมายแต่พอทำมาแล้วหน้าท้องก็ไม่ยุบ บางคนก็บอกว่าเหมือนไม่ได้ดูดอะไรออกไปเลย บางที่ก็ดูดหน้าท้องอย่างเดียวจริงๆ แต่ตรงเอวข้างๆก็ไม่ดูดให้ เพราะคิดเป็นอีกจุดต่างหาก บางที่ก็บอกราคาหมกเม็ดเห็นราคาถูกๆพอโทรไปถามก็บอกว่าเป็นราคาต่อจุด หน้าท้องนึงหมอก็ต้องเจาะหลายจุดอยู่ละ อย่างนี้ก็แพงบรม บางคนก็ทำออกมาสวยแต่ก็ไม่บอกว่าทำที่ไหน เราหาข้อมูลไปต่างๆนานา เลยปรึกษากะคุณสามีเค้าบอกว่าถ้าทำที่ใหม่ถ้าได้หมอดีก็ดีไป ถ้าทำที่เก่าเราก็รู้จักหมอ รู้ฝีมือหมอ สุดท้ายเราก็เลยตกลงใจทำเวเซอร์ดูดไขมันหน้าท้องกะที่คลีนิกเดิมกะที่เราเคยดูดไขมันต้นขาเมื่อสามปีที่แล้ว

          คราวนี้เราลองโทรไปปรึกษาที่เดิมก็ได้คำตอบว่าตอนนี้มีการทำเวเซอร์แบบใหม่คือเป็นการดูดแบบไฮเดฟและสามารถดูดไขมันหน้าท้องให้เป็นแบบเซ็กซี่ไลน์ได้ (คือหน้าท้องแบบฝรั่งที่จะแบนราบแต่แลดูมีกล้ามเนื้อหน้าท้องแบบคนออกกำลังกาย) ส่วนผู้ชายก็สามารถดูดไขมันหน้าท้องให้เป็นซิกแพคได้  โอ้!แม่เจ้า เด๋วนี้มันมีวิวัฒนาการกันแบบนี้เลยหรอ ส่วนราคาที่เราถามมาก็แรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่เค้าคอนเฟิร์มว่าหน้าท้องแบนราบจริง ดูดออกหมดแน่  แถมไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนคราวที่แล้วเมื่อตอนดูดต้นขา .. พอฟังอย่างนี้ตอนแรกก็สองจิตสองใจเอาไงดี มันเป็นวิธีการดูดแบบใหม่ที่ยังไม่มีที่ไหนทำได้ แต่ราคาก็นะ เงินที่ตั้งใจเก็บก็เกือบไม่พอแต่คุณสามีบอกว่าถ้าตั้งใจจาทำแล้วก็ทำที่ดีๆไปเลย หมอไว้ใจได้ เด๋วเค้าช่วยออกให้ แหมพอฟังอย่างนี้แล้วค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย สรุปแล้วเราเลยตัดสินใจทำเลย

          เรานัดทำวันที่ 20 มีนาคม 2556 (แต่วันที่ 19 เค้านัดให้เราไปเจาะเลือดตรวจผลเลือดก่อน) วันที่ 20 เราได้ทำเป็นคิวแรกคือตอน 9 โมงเช้า ด้วยความตื่นเต้นเราไปถึงคลินิกตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ เพราะกลัวว่ารถจาติด แต่ดันไม่ติดซะนี่ ไปถึงก็มีพี่พนักงานชื่อพี่รุ่งเค้ามารอเปิดประตูให้แต่เช้าตรู่เลย แล้วพาเราไปยังห้องพัก แล้วให้เราล้างตัวอีกครั้งด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรอถ่ายรูปก่อนทำ และรอให้คุณหมอมาวาดตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน

          ถึงตอนนี้ขอนอกเรื่องบรรยากาศห้องพักหน่อยนะคะ ว่าดีมากกก ห้องดูดีมาก สะอาดและดูเป็นเรื่องเป็นราวแถมให้ญาตินอนเฝ้าได้ด้วย ส่วนเราด้วยความเคยชินกะการดูดไขมันคราวนี้ก็เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ คราวนี้เลยลากกระเป๋าล้อลากใบเล็กมาเลย เตรียมเอาชุดใส่กลับมาซึ่งเป็นชุดเดรสสั้นตัวหลวมๆ แล้วก็เอาหมอนเน่ามาด้วยไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ และก็ครีมทาหน้าต่างๆเอามาครบ ^^

          คราวนี้มาต่อกันเลยดีกว่า พอเราเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วพยาบาลก็พาเราไปถ่ายรูปก่อนทำ แหมมาถึงตอนนี้แหละ ด้วยความที่ข้างในเราเหลือแต่กางเกงชั้นในอยู่ตัวเดียว เค้าให้เราถอดชุดคลุมออกเพื่อถ่ายรูป อิชั้นเริ่มจาอายก็ตอนนี้หละ ต้องถอดเสื้อคลุมเพื่อถ่ายรูป แต่เค้าก็ถ่ายแต่ท้องหละนะ แต่มันก็อายนะเคอะ (อ้อก่อนทำเอวประมาณ 31 นิ้ว)

          ...พอถ่ายรูปเสร็จก็กลับมาที่ห้อง แล้วคุณหมอก็เข้ามาวาดตำแหน่งที่หน้าท้องเพื่อเตรียมตัวดูดไขมันออก คุณหมอบอกว่าคราวนี้ต้องสวยกว่าเดิมแน่ๆเพราะเป็นวิธีใหม่นอกจากหน้าท้องจาแบนแล้ว ยังมีเอวข้างๆ แถมด้านหน้าจาดูเหมือนมีกล้ามเนื้อหน้าท้องแบบคนออกกำลังกายเลยหละ เราก็บอกคุณหมอว่าขอแบบสวยๆเอาไขมันออกไปให้หมดเลยนะคะ อย่าปราณี อิอิ และแล้วก็ได้เวลาเดินไปห้องผ่าตัด

          เราขึ้นนอนบนเตียงผ่าตัดแล้วก็กางแขนออกสองข้าง แล้วเค้าก็เจาะสายน้ำเกลือให้เราที่หลังมือซ้าย แล้วคุณหมอผู้หญิงเป็นวิสัญญีแพทย์มั้งมาบอกเราว่าเด๋วจาให้เราดมยานอนหลับนะคะ เราชินแล้วหละรู้ขั้นตอนมาหมดละ กะว่าคราวนี้จาลองนับดูว่าได้เท่าไหร่ถึงจาหลับ จำได้ว่านับได้แค่ 1-3 เองมั้งแล้วก็หลับไปเลย มารู้ตัวอีกทีตอนที่ในห้องนั้นเค้ามาปลุกบอกว่าเสร็จแล้วนะคะ น่าจาประมาณเกือบเที่ยงได้มั้ง เค้าก็ชวนคุยไปเรื่อยๆให้เราตื่นแล้วเข็นเตียงเราไปยังห้องพัก .. ตื่นมาไม่เจ็บไม่ปวดไรเลย เค้าบอกว่าเด๋วก็สวยละนะ เอาออกไปเยอะเลย คุณหมอทำเก่งมาก ทำมาสวยเลยหละ ไอเราตอนนั้นก็ยังสะลืมสะลืออยู่ แต่ก็เออๆไปเรื่อย คราวนี้เราก็พักฟื้นอยู่ที่ห้องพักโดยที่ให้พี่สาวนอนเฝ้าเป็นเพื่อน เราขอนอนที่นี่ 3 วัน เพราะคุณสามีติดธุระไม่ว่างมารับ ช่วงสองวันแรก มันจาลุกนั่งลำบากมากเพราะมันยังเจ็บช่วงท้องอยู่ แม้แต่ตอนไอ เราเพิ่งจาเข้าใจว่าช่วงหน้าท้องเราต้องรับบทบาทหลายอย่างทั้งเวลาจะลุกนั่ง จะหงายตัวลงนอน จะไอ จะตะแคง ทุกอย่างต้องใช้หน้าท้องเกร็งทั้งนั้น พอเราจะทำอะไรทั้งหลายเหล่านี้จารู้สึกเลยว่าเจ็บท้องมาก

          ดูรูปก่อนเนอะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ....