คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ลองขับรถให้ช้าลงไหมครับ 90 - 110 กม./ช.ม. ครับ
กับคนที่ขับรถเร็วมาก่อน ... แรกๆ จะอึดอัดฝืนใจ ง่วง มากมาย แต่พอชินแล้ว คุณจะพบว่า ความเครียดในการขับรถ ลดลงอย่างมากมายครับ
วิ่งซ้ายไป (ถ้าถนนดี) ใครอยากแซงก็หลบให้ ... ส่วนพวกรถตัดหน้า อันนี้ฝึกอ่านใจล่วงหน้าสักนิด บีบแตรเตือนก่อนสักหน่อย แล้วก็ยกคันเร่ง เตรียมเบรค (ถ้าไม่มั่นใจ) แค่นั้นเองครับ
จากคนที่ ขึ้นรถที 140 - 160 กม./ช.ม. มาร่วม 10 ปี ปัจจุบัน เหลือแค่ 100 - 110 กม./ช.ม. เท่านั้นเองครับ แต่ผลจากการขับรถเร็วมาก่อน มันก็ทำให้ผมเป็นคนตัดสินใจเร็ว อ่านใจล่วงหน้า หลบหลีกเหตุการณ์ฉุกเฉินได้เร็ว ล่ะครับ
กับคนที่ขับรถเร็วมาก่อน ... แรกๆ จะอึดอัดฝืนใจ ง่วง มากมาย แต่พอชินแล้ว คุณจะพบว่า ความเครียดในการขับรถ ลดลงอย่างมากมายครับ
วิ่งซ้ายไป (ถ้าถนนดี) ใครอยากแซงก็หลบให้ ... ส่วนพวกรถตัดหน้า อันนี้ฝึกอ่านใจล่วงหน้าสักนิด บีบแตรเตือนก่อนสักหน่อย แล้วก็ยกคันเร่ง เตรียมเบรค (ถ้าไม่มั่นใจ) แค่นั้นเองครับ
จากคนที่ ขึ้นรถที 140 - 160 กม./ช.ม. มาร่วม 10 ปี ปัจจุบัน เหลือแค่ 100 - 110 กม./ช.ม. เท่านั้นเองครับ แต่ผลจากการขับรถเร็วมาก่อน มันก็ทำให้ผมเป็นคนตัดสินใจเร็ว อ่านใจล่วงหน้า หลบหลีกเหตุการณ์ฉุกเฉินได้เร็ว ล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
เครียด...จะทำอย่างไร เมื่อไม่อยากขับรถ
ถูกสอนมาเสมอว่าให้ระวังเรื่องขับรถ อย่าประมาทและอย่าขับเร็ว แต่พอลงถนนไปแล้ว ความใจร้อนมาจากไหน ?
แล้วจะหัวเสียทุกครั้งที่เจอรถยนต์หรืออะไรก็ตามโผล่มาจากซอย แยก ไหล่ทาง โดยที่ไม่ขอทาง ไม่บอกไม่กล่าว โผล่พรวดเข้ามา
และรถที่โผล่มาพวกนั้น ไม่แอบข้างทางให้ ก็เบรกกันหัวทิ่ม เจอบ่อยมากทุกวัน
แล้วยิ่งเจอพวกจะเลี้ยวไปซ้ายแต่ไม่ชิดซ้าย มันยิ่งอารมณ์เสีย ขับตามหลังมาก็ต้องเบรกหัวทิ่ม หรือ หลบ ก็เนื่องมาจากขับรถเร็ว แฮะ ๆ
ทุกวันนี้ เกิดอาการ เครียดกับการขับรถ ยิ่งเป็นทางไกลประมาณ 100 กิโลเมตร ขึ้นไป ยิ่งขับก็ยิ่งเหนื่อย
ขณะขับบางวันก็พูดกับตัวเองไปว่า อย่ารีบ จะรีบไปไหน เห็นใจเพื่อนร่วมทางบ้าง (ตลกตัวเองชะมัด)
สมาชิกท่านใดพอจะแนะนำวิธีขับรถให้ใจเย็นลง ได้บ้างไหมคะ ?
กรุณาให้คำแนะนำหน่อยเถอะนะคะ เครียดมาก จนไม่อยากขับรถแล้วเพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ