วัฒนธรรมบริการตัวเองหรือ self-service เมื่อเข้ามาในไทยก็กลายเป็นแบบไทยๆที่ยังคงต้องมีพนักงานมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วหนังที่ต้องมีคนมาช่วยกดช่วยหยอดเหรียญ หรือการจ่ายค่ามือถือผ่านตู้รับชำระเงินก็ต้องมีคนมาคอยแลกตังค์ ทอนตังค์ กดปุ่มต่างๆให้เสร็จสรรพ ชอบนะแต่บางครั้งก็รำคาญเพราะเราทำเองเร็วกว่า
ในเมกาไม่มีซะหล่ะที่จะมีคนมาคอยยืนแลกเงินทอนเงินกันแบบนี้ถ้ามีเขียนว่าเครื่องนี้ไม่ทอนตังค์คนใช้บริการก็ต้องเตรียมมาให้พร้อม ถ้าดีหน่อยคือมีเครื่องแลกเหรียญวางอยู่ใกล้ๆเวลาขึ้นรถบัสที่รับแต่เหรียญ ภาพที่เห็นได้บ่อยๆคือการตะโกนขอแลกเหรียญจะเห็นฝรั่งเกือบทั้งรถรีบกุลีกุจอควักเศษตังค์ออกมานับ (หัวอกเดียวกันนิ)
คุณเกือบหนูอย่างเราหลังจากได้ใบขับขี่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องขับรถจาก Valleyข้ามเขาไปเรียนที่West L.A. ซะแล้ว วันแรกก็ต้องแวะไปเติมน้ำมันเองซะแล้ว ชิลล์ค่ะชิลล์ สังเกตพี่ชายมานานว่าต้องทำยังไง ขับรถเข้าปั๊ม (Gas station) จอดเทียบกับตู้เติมน้ำมันจากนั้นก็ (1) เดินไปบอก cashier ว่าจะเติมเท่าไรที่ตู้น้ำมันเบอร์อะไร (2) จ่ายตังค์ที่ cashier (3) เดินกลับมาที่รถเปิดถังน้ำมัน (4) ดึงสายหัวปั๊มมาใส่ถังน้ำมันรถ (5) กดไกที่หัวปั๊มเติมน้ำมันได้เลยน้ำมันตัดอัติโนมัติตามราคาที่จ่าย...อ้อ อย่าลืมเขย่าสายน้ำมันเอาหยดๆที่มันค้างๆอยู่ในสายออกมาด้วย น้ำมันมันแพง!
ผ่านฉลุยทุกขั้นตอนตั้งแต่ 1 2 3 4 คลึ่กคลั่กๆ อืมม์ ทำไมหัวปั๊มมันไม่เข้าล็อคที่เคยเห็นมันต้องล๊อคไว้เป๊ะ เอาน่ะลองใหม่... อิ๊บอ๋าย คนเริ่มมาต่อคิว ชิ้วๆ ไปตู้อื่นไปอย่ามากดดัน วันนี้เป็นวันแรกของสาวน้อยที่ขับรถไปเรียนเองเลยนะแน่ะ ไม่ฟังกันเลย...เหงื่อแตกมากขึ้นคนมองมากขึ้น พยายามไปอีกสักไม่เกิน10 นาทีแต่เวลาในใจมันเหมือน 10 ชั่วโมง สุดท้ายแล้วก็เงยหน้า มองหน้าคนที่จ้องเราแล้วพูดแบบน่าสงสารว่าExcuse me, can you please help? I cannot put the nozzle into the tank!
กระทาชายที่โดนจ้องหน้าแบบว่ากรูสินะที่ต้องตอบเมิงก็พูดเสียงเรียบๆว่าI think your car use that kind of gas. This is diesel. พูดพร้อมผายมือไปทางตู้น้ำมันเบนซิน.....ฮ่าๆๆหน้าแตกหมอศัลยกรรมเกาหลีไม่รับเย็บ หลังๆเพิ่มดีกรีด้วยการเช็ดกระจก เติมลมยางรถ แม่ทำหมด! อยู่เมืองไทยหม้อน้ำรถแห้งแล้วแห้งอีกมันยังไม่สน 555
ในเมืองไทยเห็นปั๊มบางจาก และปตท.ที่มีปั๊มบริการตัวเองในบางที่ราคาปั๊มที่ต้องทำเองอะไรเองน้ำมันถูกกว่า .30 - .40 สตางค์ ใครที่มีแผนไปเรียนต่างประเทศควรเริ่มฝึกเติมน้ำมันเองไว้ก่อนตามปั๊มดังกล่าว
ประเทศที่แรงงานคนล้นประเทศแบบอินเดียวัฒนธรรมบริการตัวเองคงไม่ค่อยนิยมนักเพราะต้องการกระจายรายได้ให้ทั่วๆ เพื่อนเคยไปพักวังเก่าในแคว้นราชสถานยามบ่าย ขณะที่มันกำลังนั่งดื่มชาเพลิดเพลินกับวิวและความโอ่โถงหรูหราสวยงามของอดีตวังที่กลายตัวเป็นโรงแรมก็พลันไปเห็นชายหนุ่มหลายคนใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นแบบตั้งใจมากๆด้วยความทนไม่ได้เพื่อนเลยไปถามหนุ่มถูพื้นเหล่านั้นว่าที่นี่ไม่มีเครื่องทำความสะอาดที่ใช้ไฟฟ้ารึไงใช้คนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่ามากเลย หนุ่มถูพื้นยิ้มเก๋ส่ายหัวง่อกแง่กแบบอินเดียตอบว่าวี๊ แฮพ โน แมนป๊าวเว่อร์ โปร๊บแบล่ม อิน อิ๊นเดี่ย we have no manpowerproblem in India! จบนะ
คิดว่าวัฒนธรรม self service ในเมืองไทยคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะอัตราประชากรช่วงเบบี๋ลดลงเรื่อยๆ(แค่เพื่อนในกลุ่มก็สาวโสดนับสิบ J)กลายเป็นสังคมคนสูงอายุ บวกกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นตลอดเทคโนโลยีจึงมีบทบาทมากขึ้นเป็นลำดับถ้าแรงงานประเทศเพื่อนบ้านแพงขึ้นๆแล้วไซร้ต่อไปเราคงต้องบริการตัวเองมาดขึ้นสินะ แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าคนไทยมีน้ำใจไม่ปล่อยให้คนแก่ยืนงงงกๆเงิ้นๆที่หน้าตู้หรือเคาท์เตอร์บริการตัวเองเป็นแน่แท้จริงไม๊? ;D
Heart 'n Soul...หัวใจไทยฯ: วัฒนธรรมบริการตัวเอง
ในเมกาไม่มีซะหล่ะที่จะมีคนมาคอยยืนแลกเงินทอนเงินกันแบบนี้ถ้ามีเขียนว่าเครื่องนี้ไม่ทอนตังค์คนใช้บริการก็ต้องเตรียมมาให้พร้อม ถ้าดีหน่อยคือมีเครื่องแลกเหรียญวางอยู่ใกล้ๆเวลาขึ้นรถบัสที่รับแต่เหรียญ ภาพที่เห็นได้บ่อยๆคือการตะโกนขอแลกเหรียญจะเห็นฝรั่งเกือบทั้งรถรีบกุลีกุจอควักเศษตังค์ออกมานับ (หัวอกเดียวกันนิ)
คุณเกือบหนูอย่างเราหลังจากได้ใบขับขี่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องขับรถจาก Valleyข้ามเขาไปเรียนที่West L.A. ซะแล้ว วันแรกก็ต้องแวะไปเติมน้ำมันเองซะแล้ว ชิลล์ค่ะชิลล์ สังเกตพี่ชายมานานว่าต้องทำยังไง ขับรถเข้าปั๊ม (Gas station) จอดเทียบกับตู้เติมน้ำมันจากนั้นก็ (1) เดินไปบอก cashier ว่าจะเติมเท่าไรที่ตู้น้ำมันเบอร์อะไร (2) จ่ายตังค์ที่ cashier (3) เดินกลับมาที่รถเปิดถังน้ำมัน (4) ดึงสายหัวปั๊มมาใส่ถังน้ำมันรถ (5) กดไกที่หัวปั๊มเติมน้ำมันได้เลยน้ำมันตัดอัติโนมัติตามราคาที่จ่าย...อ้อ อย่าลืมเขย่าสายน้ำมันเอาหยดๆที่มันค้างๆอยู่ในสายออกมาด้วย น้ำมันมันแพง!
ผ่านฉลุยทุกขั้นตอนตั้งแต่ 1 2 3 4 คลึ่กคลั่กๆ อืมม์ ทำไมหัวปั๊มมันไม่เข้าล็อคที่เคยเห็นมันต้องล๊อคไว้เป๊ะ เอาน่ะลองใหม่... อิ๊บอ๋าย คนเริ่มมาต่อคิว ชิ้วๆ ไปตู้อื่นไปอย่ามากดดัน วันนี้เป็นวันแรกของสาวน้อยที่ขับรถไปเรียนเองเลยนะแน่ะ ไม่ฟังกันเลย...เหงื่อแตกมากขึ้นคนมองมากขึ้น พยายามไปอีกสักไม่เกิน10 นาทีแต่เวลาในใจมันเหมือน 10 ชั่วโมง สุดท้ายแล้วก็เงยหน้า มองหน้าคนที่จ้องเราแล้วพูดแบบน่าสงสารว่าExcuse me, can you please help? I cannot put the nozzle into the tank!
กระทาชายที่โดนจ้องหน้าแบบว่ากรูสินะที่ต้องตอบเมิงก็พูดเสียงเรียบๆว่าI think your car use that kind of gas. This is diesel. พูดพร้อมผายมือไปทางตู้น้ำมันเบนซิน.....ฮ่าๆๆหน้าแตกหมอศัลยกรรมเกาหลีไม่รับเย็บ หลังๆเพิ่มดีกรีด้วยการเช็ดกระจก เติมลมยางรถ แม่ทำหมด! อยู่เมืองไทยหม้อน้ำรถแห้งแล้วแห้งอีกมันยังไม่สน 555
ในเมืองไทยเห็นปั๊มบางจาก และปตท.ที่มีปั๊มบริการตัวเองในบางที่ราคาปั๊มที่ต้องทำเองอะไรเองน้ำมันถูกกว่า .30 - .40 สตางค์ ใครที่มีแผนไปเรียนต่างประเทศควรเริ่มฝึกเติมน้ำมันเองไว้ก่อนตามปั๊มดังกล่าว
ประเทศที่แรงงานคนล้นประเทศแบบอินเดียวัฒนธรรมบริการตัวเองคงไม่ค่อยนิยมนักเพราะต้องการกระจายรายได้ให้ทั่วๆ เพื่อนเคยไปพักวังเก่าในแคว้นราชสถานยามบ่าย ขณะที่มันกำลังนั่งดื่มชาเพลิดเพลินกับวิวและความโอ่โถงหรูหราสวยงามของอดีตวังที่กลายตัวเป็นโรงแรมก็พลันไปเห็นชายหนุ่มหลายคนใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นแบบตั้งใจมากๆด้วยความทนไม่ได้เพื่อนเลยไปถามหนุ่มถูพื้นเหล่านั้นว่าที่นี่ไม่มีเครื่องทำความสะอาดที่ใช้ไฟฟ้ารึไงใช้คนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่ามากเลย หนุ่มถูพื้นยิ้มเก๋ส่ายหัวง่อกแง่กแบบอินเดียตอบว่าวี๊ แฮพ โน แมนป๊าวเว่อร์ โปร๊บแบล่ม อิน อิ๊นเดี่ย we have no manpowerproblem in India! จบนะ
คิดว่าวัฒนธรรม self service ในเมืองไทยคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะอัตราประชากรช่วงเบบี๋ลดลงเรื่อยๆ(แค่เพื่อนในกลุ่มก็สาวโสดนับสิบ J)กลายเป็นสังคมคนสูงอายุ บวกกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นตลอดเทคโนโลยีจึงมีบทบาทมากขึ้นเป็นลำดับถ้าแรงงานประเทศเพื่อนบ้านแพงขึ้นๆแล้วไซร้ต่อไปเราคงต้องบริการตัวเองมาดขึ้นสินะ แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าคนไทยมีน้ำใจไม่ปล่อยให้คนแก่ยืนงงงกๆเงิ้นๆที่หน้าตู้หรือเคาท์เตอร์บริการตัวเองเป็นแน่แท้จริงไม๊? ;D