World War Z (2013)



Genre : Action, Drama, Horror, Sci-Fi, Thriller

Director : Marc Forster
Based on the Novel by : Max Brooks
Screen story : Matthew Michael Carnahan, J. Michael Straczynski
Screenplay : Matthew Michael Carnahan, Drew Goddard, Damon Lindelof

ไปดู World War Z แบบไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะอย่างที่รู้ ๆ ว่ามันเป็นหนัง popcorn movie ดังนั้นความคาดหวังจึงขอแค่ความบันเทิงลุ้นระทึกตามสไตล์หนังซอมบี้ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง แถมยังได้กำไรแถมมาอีก!

เรื่องย่อสั้น ๆ คือ Gerry Lane (Brad Pitt) ถูกดึงตัวให้มารับภารกิจหาต้นตอของเชื้อไวรัสซอมบี้เพื่อจะหาทางหยุดการแพร่ระบาดก่อนที่มันจะสายเกินไป แกนเรื่องสั้น ๆ แค่นี้แหละครับ แต่พาเราไปชมวิกฤติและลุ้นระทึกกับกองทัพซอมบี้สมราคาสเกลหนังซอมบี้ถล่มโลกเลยครับ

ถ้าจะให้อธิบายลักษณะหนังก็คงต้องเปรียบเทียบว่ามันเป็นหนังซอมบี้ที่เดินเรื่องสถานการณ์ได้อย่างสมจริง อารมณ์เหมือน Contagion เลยครับ ตัวเอกของเราค่อย ๆ สืบหาต้นตอทีละชั้น โดยระหว่างสืบหาต้นตอ หนังก็ใส่ฉากซอมบี้ไล่ล่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันเป็นหนังทริลเลอร์ หาความจริงที่น่าเชื่อถือและยังมีแอ๊คชั่นไล่ล่าที่ลุ้นระทึกแถมอีกด้วย

เท่าที่เข้าใจคือฉบับนิยายจะเป็นหนังเสียดสีสังคมและเล่าเรื่องผ่านมุมมองผู้รอดชีวิต แต่ฉบับหนังเลือกจะดัดแปลงให้แตกต่างออกไป ให้น้ำหนักกับพวกฉากแอ๊คชั่นมากขึ้น ตรงนี้เองผมขอชื่นชมในฐานะหนัง popcorn movie ว่าทีมเขียนบทยังรักษาธีมของ World War Z ไว้ได้พอสมควรและก็เลือกจะดัดแปลงให้เอาใจตลาดมากขึ้น ยังเก็บพวกมุกตลกร้ายเข้ามานิดหน่อย ที่ชอบตลกร้ายก็เช่น อิสราเอล เกาหลีเหนือ จิกกัดมุสลิม ตำรวจและลูกเมียบนเรือ

สเกลหนังระดับซอมบี้ถล่มโลกถือว่าเยี่ยมสมกับสเกลหนังครับ ถ้าหากนึกถึงสถานการณ์ซอมบี้เป็นล้านบุกโลกจะเป็นยังไงก็ต้องโกลาหลแบบนี้แหละครับ ฉากตัวประกอบเยอะ ๆ วิ่งหนีตายอะไรพวกนี้สมราคาครับ ดูแล้วรู้สึกถึงความวิกฤติจริง ๆ ให้ผ่านครับ

บทหนังช่วง 40 นาทีสุดท้ายที่เขาว่าของเดิมมันแย่มากจนต้องดึงตัว Damon Lindelof มาแก้ไขช่วงท้ายให้ออกมาเป็นแบบที่เห็น ผมไม่รู้ว่าของเดิมก่อนถ่ายทำใหม่เป็นยังไง แต่ฉบับที่ได้ฉายถือว่าเยี่ยมแล้วครับ ยังคงรักษาธีมความสมจริงไว้ได้อย่างดีและหาทางลงให้หนังได้สวยครับ

ใครที่ว่าง ๆ อยากดูหนัง popcorn movie สนุก ๆ สักเรื่องก็รับ World War Z ไว้พิจารณาด้วยนะครับ

8/10