ขอเรียกว่าความคิดเห็นมากกว่ารีวิวละกัน หรือจะเรียกว่าบ่นบ้างชมบ้างก็ได้
ในแง่ของความเป็นภาพยนตร์
z ไม่ใช่หนังสยองขวัญ แต่ดูเป็นation ตื่นเต้น ผจญภัย มากกว่า
z ตอบโจทก์ในแง่ของการเป็นหนังsummerฟอร์มใหญ่ได้ครบถ้วน คือเรียกว่าเป็นหนังสูตรสำเร็จที่ประสบความสำเร็จในการทำให้คนดูสนุกและลุ้นไปหนังได้ แต่อย่างว่ามันคือสูตรสำเร็จ คนที่ดูหนังsummerมาทุกปีอาจจะเจออาการเอียนและสามารถเดาเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพอเดาได้มันจะหมดความตื่นเต้นทันที ซึ่งZไม่ได้มีอะไรหักมุม เดาได้ง่ายหากดูหนังแนวๆนี้มาเยอะ ถามว่าส่วนตัวดูหนังสนุกไหมก็ถือว่ายังokอยู่100นึงที่เสียไปถือว่าไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือรู้สึกว่าหนังมันแย่มีฉากที่ทำให้ตื่นเต้นได้แต่อย่างข้างต้นบางส่วนเดาได้ง่ายมากเลยจืดไปในหลายๆช่วงของหนัง บางเหตุการณ์นี่จงใจมากทำขึ้นเพื่อให้มันเกิดสถานการณ์วุ่นวายในแบบโง่ๆกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ไม่ชอบเลย เคยเขียนไปในกระทู้ของzมาแล้วเหมือนกันว่า ไม่ชอบซอมบี้CG และพอมาดูก็ยิ่งตอกย้ำความไม่ชอบตัวเองเข้าไปอีก คือซอมบี้วิ่งเนี่ยรับได้นะมันช่วยสร้างความตื่นเต้นมากขึ้นถึงจะเป็นการลดความคลาสสิกลงไปแต่ก็หยวนๆเพราะถ้าทำดีๆอารมณ์ความน่าตื่นเต้นและความกลัวในตัวซอมบี้มันก็ยังมีอยู่เหมือนที่เคยเห็นใน28 หรือdawn ฉบับรีเมค แต่การใช้ซอมบี้CGแล้วเพิ่มสปีดให้มันอีก มันกลายเป็นว่ามันไม่รู้สึกว่ามันคือซอมบี้ ความน่ากลัวในแบบซอมบี้หายไปหมด ความน่าสะพรึงอะไรไม่มีเลย แค่เหมือนโดนตัวอะไรซักอย่างวิ่งไล่แล้วกัด ทำให้ความอินในแบบที่เคยดูในหนังซอมบี้ไม่มีเลย ในหนังมีซอมบี้ที่เป็นคนจริงแค่10%ของหนังเอง
ที่สำคัญหนังเลือกที่จะให้เห็นซอมบี้ที่มีรูปลักษณ์สมบูรณ์อย่างเดียวล้วนๆ ซอมบี้ที่เห็นได้ตามหนังซอมบี้ปรกติไม่มี ซอมบี้ทุกตัวในเรื่องก็แค่เหมือนคนคลั่งเท่านั้นเอง เลยยิ่งทำให้ไม่มีความรู้สึกว่ามันคือซอมบี้ ขนาดฉากรุมฉากกัดส่วนมากจะได้เห็นเหมือนกับแค่ว่ากัดปล่อยเชื้อแล้วก็ปล่อย นี่มันใช่ซอมบี้เหรอเนี่ย ?
ในแง่ของคนที่เคยอ่านหนังสือแล้วไปดูหนัง หลังจากนี้จะมีการสปอยล์บางส่วนจากหนังสือด้วย ไม่อยากรู้หยุดอ่านครับ
ผิดหวังแน่นอน ใครที่ชอบหนังสือไปดูแล้วคิดว่าส่วนมากมีโอกาสผิดหวังสูง ถามว่าผมดูหนังสนุกไหม สนุกครับแต่ในใจก็ยังผิดหวังอยู่ดี
หนังเอาเรื่องจากหนังสือไปใช้ไม่ถึง10%ด้วยซ้ำ แถมเอามาแค่พูดลอยๆกับเห็นภาพนิดหน่อยซะงั้น
ในหนังสือในกระทู้หลายกระทู้เคยเชียนถึงเนื้อหาและลักษณะการเล่าเรื่องไปแล้วนะครับ หนังสือเรื่องนี้ใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านปากคำของคนที่รอดมาจากเหตุการณ์สงคราม โดยมีตั้งแต่ปากคำจากเหตุการณ์ช่วงเริ่มต้น ช่วงความวุ่นวาย ช่วงล่มสลาย ฃ่วงโต้กลับ จนถึงการประกาศชัยชนะและฟื้นฟู
ปากคำของผู้อยู่รอดทำให้เราได้ทราบถึงสิ่งที่เรียกมนุษย์ ในสภาวะเช่นนั้น คนที่อยู่ในฐานะต่างๆเอาตัวรอดกันยังไง ตัดสินใจยังไง หรือเห็นแก่ตัวกันยังไง ผู้ที่มีอำนาจทั้งหลายตัดสินใจยังไงเวลาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น หรือหลงไปกับความคิดที่ว่ามนุษย์เอาชนะได้แล้วตกลงไปสู่ความหายนะยังไง หรือเพื่อความอยู่รอดหากต้องเลือกพวกเค้าเลือกอะไร และหลังเหตุการณ์เหล่านั้นพวกเค้าใช้ชีวิตกับผลที่พวกเค้าตัดสินใจกันยังไง ในหนังไม่มีประเด็นแฝงเหล่านี้เลย
ในหนังตัดสิ่งที่เรียกว่าทางออกมืดแปดด้านออกไป ในหนังเลือกที่ตัดภาวะวิกฤติและอันตรายทางทะเลทิ้งหมด ซึ่งตรงนี้ทำให้หนังดูเหมือนสุดท้ายมนุษย์ก็ยังมีที่ให้หลบหนีบ้าง แต่ในหนังสือแม้คุณจะหนีออกทะเลหรือหนีไปบนเรือก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เรียกว่าทำให้คนที่รอดในหนังสือแทบจะเรียกว่าไร้ทางไป และไม่มีความหวัง
ในหนังสือซอมบี้เป็นแบบคลาสสิค เดินช้า แต่หนังสือเลือกทำให้เห็นว่าซอมบี้ที่เดินช้ามันก็ยังทรงพลังและน่ากลัวอยู่ดี (เหมือนที่walking deadทำ) ถึงมันจะช้าแต่หากมันมีในจำนวนมากๆในเวลาที่คุณไม่มีทางออกไม่รู้จะไปทางไหน(ในหนังสือมีช่วงที่เจอในกันในระดับหลักล้านเหมือนกัน) สิ่งที่คุณได้คือความกลัวยิ่งกว่าที่มันวิ่งใส่คุณซะอีก หนังสือยังแสดงให้เห็นถึงความประมาทของเหล่ากองทัพที่คิดว่าอาวุธของตัวเองจะเอาชนะซอมบี้ได้ แต่มนุษย์ไม่ได้คิดเลยว่าอาวุธพวกนั้นทำมาเพื่อฆ่ามนุษย์ไม่ได้เอามาฆ่าซอมบี้ (ชอบมากเป็นการกัดจิกในหนังสือที่แสบมาก กับเหตุการณ์ความสูญเสียทางทหารที่พลาดเพราะผู้บังคับบัญชา) แต่ในหนังทำให้เหมือนกับยิงรัวๆใส่ ยิงหัว จุดไฟ เล่นหัวมัน จบ
จริงหลายส่วนของหนังสือถ้าเอามาใส่ในหนังแบบเนียนๆได้มันจะทรงพลังแล้วสนุกมาก ไม่ว่าเหตุการณ์ของทางแอฟริกากับการตัดสินใจในทางเลือกที่มาจากความคิดของคนที่พวกเค้าอยากฆ่าให้ตายที่สุด เหตุการณ์เรือดำน้ำของจีน นักบินหญิงผู้หลงป่ากับผู้ช่วยเหลือลึกลับ โอตาคุผู้หนีรอดในภาวะวิกฤติ ชายตาบอดในป่าลึก การตัดสินใจของหัวหน้าครอบครัวที่พาครอบครัวไปเจอกับเรื่องแย่ๆ ทางเลือกของรัสเซียในการเพิ่มพูนประชากรหลังหมดสงคราม ฤดูหนาวกับซอมบี้ จริงๆยังมีอีกหลายเรื่องเล่าที่สนุกมากในหนังสือ
บางคนอาจจะบอกว่าหนังสือเรื่องนี้ทำออกมาเป็นหนังยาก ครับยอมรับว่ายาก แต่มันรู้สึกเสียดายครับ เพราะเคยมีหนังที่เราเรื่องจากคนหลายคนหลายมุมแล้วมาบรรจบกันที่ปลายทางออกมาแล้วดี อย่าง Contagion เป็นต้น
สรุป ยอมรับว่าสนุกกับหนัง แต่ก็เสียดายหนังสือที่ทำออกมาเป็นหนังได้แค่นี้
ไม่ให้คะแนนอะไรทั้งนั้นเพราะเดี๋ยวนี้ห้องเฉลิมไทยน่ากลัวกว่าซอมบี้อีก
ดูมาแล้ว Woeld War Z บ่นและชมจากคนที่อ่านหนังสือจบก่อนไปดู มีสปอยล์นะ
ในแง่ของความเป็นภาพยนตร์
z ไม่ใช่หนังสยองขวัญ แต่ดูเป็นation ตื่นเต้น ผจญภัย มากกว่า
z ตอบโจทก์ในแง่ของการเป็นหนังsummerฟอร์มใหญ่ได้ครบถ้วน คือเรียกว่าเป็นหนังสูตรสำเร็จที่ประสบความสำเร็จในการทำให้คนดูสนุกและลุ้นไปหนังได้ แต่อย่างว่ามันคือสูตรสำเร็จ คนที่ดูหนังsummerมาทุกปีอาจจะเจออาการเอียนและสามารถเดาเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพอเดาได้มันจะหมดความตื่นเต้นทันที ซึ่งZไม่ได้มีอะไรหักมุม เดาได้ง่ายหากดูหนังแนวๆนี้มาเยอะ ถามว่าส่วนตัวดูหนังสนุกไหมก็ถือว่ายังokอยู่100นึงที่เสียไปถือว่าไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือรู้สึกว่าหนังมันแย่มีฉากที่ทำให้ตื่นเต้นได้แต่อย่างข้างต้นบางส่วนเดาได้ง่ายมากเลยจืดไปในหลายๆช่วงของหนัง บางเหตุการณ์นี่จงใจมากทำขึ้นเพื่อให้มันเกิดสถานการณ์วุ่นวายในแบบโง่ๆกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ไม่ชอบเลย เคยเขียนไปในกระทู้ของzมาแล้วเหมือนกันว่า ไม่ชอบซอมบี้CG และพอมาดูก็ยิ่งตอกย้ำความไม่ชอบตัวเองเข้าไปอีก คือซอมบี้วิ่งเนี่ยรับได้นะมันช่วยสร้างความตื่นเต้นมากขึ้นถึงจะเป็นการลดความคลาสสิกลงไปแต่ก็หยวนๆเพราะถ้าทำดีๆอารมณ์ความน่าตื่นเต้นและความกลัวในตัวซอมบี้มันก็ยังมีอยู่เหมือนที่เคยเห็นใน28 หรือdawn ฉบับรีเมค แต่การใช้ซอมบี้CGแล้วเพิ่มสปีดให้มันอีก มันกลายเป็นว่ามันไม่รู้สึกว่ามันคือซอมบี้ ความน่ากลัวในแบบซอมบี้หายไปหมด ความน่าสะพรึงอะไรไม่มีเลย แค่เหมือนโดนตัวอะไรซักอย่างวิ่งไล่แล้วกัด ทำให้ความอินในแบบที่เคยดูในหนังซอมบี้ไม่มีเลย ในหนังมีซอมบี้ที่เป็นคนจริงแค่10%ของหนังเอง
ที่สำคัญหนังเลือกที่จะให้เห็นซอมบี้ที่มีรูปลักษณ์สมบูรณ์อย่างเดียวล้วนๆ ซอมบี้ที่เห็นได้ตามหนังซอมบี้ปรกติไม่มี ซอมบี้ทุกตัวในเรื่องก็แค่เหมือนคนคลั่งเท่านั้นเอง เลยยิ่งทำให้ไม่มีความรู้สึกว่ามันคือซอมบี้ ขนาดฉากรุมฉากกัดส่วนมากจะได้เห็นเหมือนกับแค่ว่ากัดปล่อยเชื้อแล้วก็ปล่อย นี่มันใช่ซอมบี้เหรอเนี่ย ?
ในแง่ของคนที่เคยอ่านหนังสือแล้วไปดูหนัง หลังจากนี้จะมีการสปอยล์บางส่วนจากหนังสือด้วย ไม่อยากรู้หยุดอ่านครับ
ผิดหวังแน่นอน ใครที่ชอบหนังสือไปดูแล้วคิดว่าส่วนมากมีโอกาสผิดหวังสูง ถามว่าผมดูหนังสนุกไหม สนุกครับแต่ในใจก็ยังผิดหวังอยู่ดี
หนังเอาเรื่องจากหนังสือไปใช้ไม่ถึง10%ด้วยซ้ำ แถมเอามาแค่พูดลอยๆกับเห็นภาพนิดหน่อยซะงั้น
ในหนังสือในกระทู้หลายกระทู้เคยเชียนถึงเนื้อหาและลักษณะการเล่าเรื่องไปแล้วนะครับ หนังสือเรื่องนี้ใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านปากคำของคนที่รอดมาจากเหตุการณ์สงคราม โดยมีตั้งแต่ปากคำจากเหตุการณ์ช่วงเริ่มต้น ช่วงความวุ่นวาย ช่วงล่มสลาย ฃ่วงโต้กลับ จนถึงการประกาศชัยชนะและฟื้นฟู
ปากคำของผู้อยู่รอดทำให้เราได้ทราบถึงสิ่งที่เรียกมนุษย์ ในสภาวะเช่นนั้น คนที่อยู่ในฐานะต่างๆเอาตัวรอดกันยังไง ตัดสินใจยังไง หรือเห็นแก่ตัวกันยังไง ผู้ที่มีอำนาจทั้งหลายตัดสินใจยังไงเวลาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น หรือหลงไปกับความคิดที่ว่ามนุษย์เอาชนะได้แล้วตกลงไปสู่ความหายนะยังไง หรือเพื่อความอยู่รอดหากต้องเลือกพวกเค้าเลือกอะไร และหลังเหตุการณ์เหล่านั้นพวกเค้าใช้ชีวิตกับผลที่พวกเค้าตัดสินใจกันยังไง ในหนังไม่มีประเด็นแฝงเหล่านี้เลย
ในหนังตัดสิ่งที่เรียกว่าทางออกมืดแปดด้านออกไป ในหนังเลือกที่ตัดภาวะวิกฤติและอันตรายทางทะเลทิ้งหมด ซึ่งตรงนี้ทำให้หนังดูเหมือนสุดท้ายมนุษย์ก็ยังมีที่ให้หลบหนีบ้าง แต่ในหนังสือแม้คุณจะหนีออกทะเลหรือหนีไปบนเรือก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เรียกว่าทำให้คนที่รอดในหนังสือแทบจะเรียกว่าไร้ทางไป และไม่มีความหวัง
ในหนังสือซอมบี้เป็นแบบคลาสสิค เดินช้า แต่หนังสือเลือกทำให้เห็นว่าซอมบี้ที่เดินช้ามันก็ยังทรงพลังและน่ากลัวอยู่ดี (เหมือนที่walking deadทำ) ถึงมันจะช้าแต่หากมันมีในจำนวนมากๆในเวลาที่คุณไม่มีทางออกไม่รู้จะไปทางไหน(ในหนังสือมีช่วงที่เจอในกันในระดับหลักล้านเหมือนกัน) สิ่งที่คุณได้คือความกลัวยิ่งกว่าที่มันวิ่งใส่คุณซะอีก หนังสือยังแสดงให้เห็นถึงความประมาทของเหล่ากองทัพที่คิดว่าอาวุธของตัวเองจะเอาชนะซอมบี้ได้ แต่มนุษย์ไม่ได้คิดเลยว่าอาวุธพวกนั้นทำมาเพื่อฆ่ามนุษย์ไม่ได้เอามาฆ่าซอมบี้ (ชอบมากเป็นการกัดจิกในหนังสือที่แสบมาก กับเหตุการณ์ความสูญเสียทางทหารที่พลาดเพราะผู้บังคับบัญชา) แต่ในหนังทำให้เหมือนกับยิงรัวๆใส่ ยิงหัว จุดไฟ เล่นหัวมัน จบ
จริงหลายส่วนของหนังสือถ้าเอามาใส่ในหนังแบบเนียนๆได้มันจะทรงพลังแล้วสนุกมาก ไม่ว่าเหตุการณ์ของทางแอฟริกากับการตัดสินใจในทางเลือกที่มาจากความคิดของคนที่พวกเค้าอยากฆ่าให้ตายที่สุด เหตุการณ์เรือดำน้ำของจีน นักบินหญิงผู้หลงป่ากับผู้ช่วยเหลือลึกลับ โอตาคุผู้หนีรอดในภาวะวิกฤติ ชายตาบอดในป่าลึก การตัดสินใจของหัวหน้าครอบครัวที่พาครอบครัวไปเจอกับเรื่องแย่ๆ ทางเลือกของรัสเซียในการเพิ่มพูนประชากรหลังหมดสงคราม ฤดูหนาวกับซอมบี้ จริงๆยังมีอีกหลายเรื่องเล่าที่สนุกมากในหนังสือ
บางคนอาจจะบอกว่าหนังสือเรื่องนี้ทำออกมาเป็นหนังยาก ครับยอมรับว่ายาก แต่มันรู้สึกเสียดายครับ เพราะเคยมีหนังที่เราเรื่องจากคนหลายคนหลายมุมแล้วมาบรรจบกันที่ปลายทางออกมาแล้วดี อย่าง Contagion เป็นต้น
สรุป ยอมรับว่าสนุกกับหนัง แต่ก็เสียดายหนังสือที่ทำออกมาเป็นหนังได้แค่นี้
ไม่ให้คะแนนอะไรทั้งนั้นเพราะเดี๋ยวนี้ห้องเฉลิมไทยน่ากลัวกว่าซอมบี้อีก