ผมเชื่อว่าคนเมืองส่วนใหญ่ต้องเคยเจอกับกลุ่มนักศึกษาจากหลายๆมหาวิทยาลัยมายืนกันเป็นกลุ่มตามจุดที่คนผ่านไปมา (เช่นบันไดรถไฟฟ้า สยาม สีลม สาธร) และขอให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นช่วยกันบริจาคสำหรับค่ายอาสาและกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เช่น ค่ายอาสาพัฒนาชนบท บริจาคเพื่อช่วยเหลือสัตว์พิการ และต่างๆนาๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ดีและน่ายกย่อง(ถ้าหากได้ทำจริงๆ)

กิจกรรมดีๆแบบนี้ผมก็อยากจะสนับสนุน แต่ผมติดอย่างเดียวครับเรื่องรูปแบบการนำเสนอและการขอความช่วยเหลือด้านการบริจาค ซึ่งผมก็ได้พยายามสังเกตุพฤติกรรมของน้องๆแล้วสามารถสรุปรูปแบบที่น้องๆเค้าทำแบบนี้ครับ

แบบที่ 1 แบบโบราณ

วิธีการ เอาคนมายืน 4-6 คน ทำกล่องรับเงินเรียบง่าย เอารูปแปะฟิวเจอร์บอร์ด 10 รูป และเอาเอกสารจากมหาลัยมาแปะเอาไว้ คล้ายๆกับเอกสารอนุมัติจัดกิจกรรมของทางมหาลัย (ซึ่งอันนี้ผมยังไม่เห็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเปิดดูเลยสักคนเดียว) แล้วก็ยืนพูดกันคนละคำสองคำเช่น "ช่วยกันบริจาคเพื่อทำกิจกรรม.... " "เงินเพียงบาทสองบาทของท่านจะช่วย..."

การแต่งตัว อันนี้มีหลายแบบตั้งแต่พวกที่แต่งตัวเรียบร้อยสมเป็นนักศึกษา แต่หลายๆพวกอันนี้รับไม่ได้จริงๆ ใส่เสื้อนักศึกษาแต่ใส่กางเกงยีนส์ บางคนไม่ใส่แม้กระทั่งเสื้อนักศึกษา อันนี้ผมรับไม่ได้ครับ เพราะอะไรที่ผมจะมั่นใจได้ว่าเงินของผม(ถึงแม้ไม่มาก)จะไปใช้ในกิจกรรมจริงๆหรือจะไปถึงแค่ขวดเหล้าเท่านั้น??? ดังนั้นการแต่งตัวนั้นสำคัญกับภาพลักษณ์ของชมรมและกิจกรรมเหล่านั้นมาก ลองคิดดูนะครับถ้าคุณกำลังจะไปขอให้ความช่วยเหลือ หรือไปขอสนับสนุนเงินมาช่วยเหลือชมรมจากบริษัทหรือคนทั่วๆไป สิ่งแรกที่เค้ามองคือการแต่งตัวนะครับอย่างอื่นค่อยกว่ากัน เพราะงั้นถ้าคุณแต่งตัวไม่เหมาะสม โอกาสที่คุณจะได้รับโอกาสก็หมดไปเกินครึ่งครับ

ข้อเสนอของผมสำหรับกลุ่มนี้ ก่อนอื่นปรับปรุงเรื่องการแต่งตัวก่อนเลยครับ เอาให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าไม่งั้นก็คัดคนในชมรมที่แต่งตัวเรียบร้อยที่สุดมาเรี่ยไรเงิน เพราะจะสะท้อนภาพลักษณ์ของกิจกรรมได้อย่างดี ถัดมาเรื่องบทพูด ผมข้อเสนอว่าควรจะมีบทพูดแบบตายตัวที่ทุกคนพูดและจำได้ หรือใช้แบบตอบคำถามกันเองก็ได้ โดยให้มีคนต้นเสียง1-2คน เช่น

ต้นเสียง: สวัสดีค่ะ พวกเรามาจากไหนนะค่ะ
ที่เหลือ: พวกเรามาจากชมรมของมหาวิทยาลัย "....."
ต้นเสียง: พวกเราจะมาทำอะไรนะค่ะ
ที่เหลือ: พวกเราจะมีค่ายอาสาพัฒนาป่านชายเลนจังหวัด "..."
ต้นเสีย: จัดวันไหนค่ะ
ที่เหลือ: วันที่ "...."

เอาแค่ 4-5คำถาม แล้วซ้อมกันให้ดีๆเรื่องจังหวะ เอาให้พร้อมเพียงกัน เสียงดังฟังชัด แค่นี้ก็สามารถที่จะเรียกความสนใจของคนแถวนั้นมากขึ้นและอาจจะทำให้ยอดบริจาคเพิ่มมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน

แบบที่ 2 แบบโบราณ แต่มีเครื่องดนตรี

วิธีการ วิธีการก็ไม่ค่อยแตกต่างจากแบบแรกเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือมีเครื่องดนตรี เข้ามาเสริม โดยเครื่องดนตรีที่นิยมเอามาใช้งานก็คือกีต้าร์

วิธีการแต่งตัว : ก็มีหลายแบบเช่นเดียวกับแบบแรกไม่ค่อยต่างกัน

ข้อเสนอแนะสำหรับกลุ่มนี้ ก่อนอื่นเรื่องการแต่งตัวผมเสนอแบบเดียวกับแบบแรก แต่ข้อด้อยของกลุ่มนี้ที่เอาเครื่องดนตรีมาประกอบก็คือเสียงกีต้าร์จะเบามากจนถึงขั้นไม่ได้ยิน (เพราะสถานที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่แจ้ง และคนเดินไปมาเยอะแยะ) เพราะงั้นเราเอาข้อด้อยมาปรับเป็นข้อดีได้ โดยให้เอาสมาชิกร้องเพลงประสานเป็นเสียงเดียวกันให้เสียงดังๆ (แต่ไม่ใช่แหกปากนะ -*-) โดยเพลงก็ควรจะเป็นแบบสนุกสนามร่าเริงหรือจะเป็นเพลงที่ธีมใกล้เคียงกับค่ายเช่นเพลงนี้ครับ ร้องเฉพาะท่อนฮุกก็ได้

ส่วนคนที่เหลือก็ให้ยืนถือป้ายเพื่อขอบริจาคเงินเพื่อทำกิจกรรม หรือจะยืนร้องเพลงและถือกล่องรับบิจาคก็ได้เช่นเดียวกัน

แบบที่ 3 แบบสร้างสรรค์

วิธีการ กลุ่มนี้จะใช้คนต้นเสียงคนเดียว แล้วที่เหลือจะพูดสคริปตามที่ท่องจำกันไว้ เช่น

ต้นเสียง: สวัสดีค่ะ
ทุกคน: พวกเรามาจากชมรม"...." ขอให้ช่วยกินบริจาคด้วยนะค่ะ

วิธีการแบบนี้ค่อนข้างสร้างสรรค์และดึงจุดสนใจจากคนรอบข้างได้ และเท่าที่ผมสังเกตุเห็นกลุ่มนี้เค้าจะได้รับเงิบบริจาคค่อนข้างบ่อยกว่า 2 กลุ่มแรก และจุดเด่นของวิธีการกลุ่มนี้คือตัวคนจะค่อนข้างสดใสร่าเริงกว่า 2 กลุ่มแรกอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการแต่งตัว การแต่งตัวของกลุ่มนี้จะค่อนข้างเรียบร้อย ตามแบบฉบับนักศึกษา แต่ถ้าให้เลิศกว่านี้น่าจะมีอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม เช่นหมวก ผ้าพันคอ ที่ทำให้เป็นจุดเด่นขึ้นมา ก็จะดูน่ารักไปอีกแบบครับทั้งหญิงและชาย

ข้อเสนอแนะสำหรับกลุ่มนี้ ผมว่าเรื่องวิธีการของกลุ่มนี้เรียกลูกค้าได้อย่างดีอยู่แล้ว แต่อยากจะให้เพิ่มเติมในส่วนของการอัพเดตกิจกรรมนิดหนึ่งครับเช่น

การเปิดหน้า Fanpage, IG  ให้คนที่บริจาคเค้าเข้าไปติดตามความคืนหน้าเช่นหลังจากจัดค่ายแล้วเอารูปมาลงอัพเดตกันให้เห็นว่าไปทำอะไรกันมา มีผลงานอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง และที่สำคัญถ้าเป็นไปได้อยากให้ช่วยสรุปเป็นบัญชีรายรับรายจ่ายออกมาเพื่อให้คนที่เค้าบริจาคได้มีส่วนร่วมและยืนยันว่าเงินทุกบาทที่ได้บริจาคไปนั้นได้ใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมจริงๆ ไม่ใช่ได้ไปแบบเลื่อนลอยไม่มีอะไรยืนยัน

สุดท้ายนี้ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าผมสนับสนุนอย่างยิ่งในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะเด็กมหาลัยที่มีทั้งพลังกาย พลังใจ และเวลาในการทุ่มเทและเป็นแบบอย่างแก่สังคมได้ แต่ก็แค่อยากจะแนะนำให้น้องๆช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขอบริจาคเงินจากคนอื่นๆให้มันสร้างสรรค์และสร้างความเชื่อมั่นหน่อยว่าเงินที่บริจาคนั้นจะไปใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่แค่ไปถึงแค่ขวดเหล้าเท่านั้น

และถ้าหากท่านได้มีข้อเสนอแนะสามารถเสนอมาเพิ่มเติมได้นะครับ เพราะผมคิดว่าข้อเสนอแนะของผมนั้นมันยังไม่ดีที่สุด แล้วถ้าความเห็นไหนได้รับการโหวตสูงๆ ผมจะรวบรวมเอาไว้แล้วจัดทำในรูปแบบของเอกสารรูปเล่ม และพิมพ์ออกมา เมื่อใดที่ผมเห็นน้องๆนักศึกษาที่ยังยึดติดกับรูปแบบเดิมๆอยู่ผมก็ได้นำเอกสารนี้ไปให้น้องเค้าเพื่อเป็นแนวทางใช้ในปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับชมรมน้องๆเค้าต่อไปครับ

ปล:ช่วยกันโหวดขึ้นเป็นกระทุ้แนะนำด้วยก็ดีนะครับเพื่อจะได้มีหลากหลายความคิดเห็นมากยิ่งขึ้นครับ และหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ