(ที่มา:มติชนรายวัน 19 มิ.ย.2556)
สงสัยว่าประโยคอมตะของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ว่า"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
จะมาเสียความหมายที่แท้จริงเพราะการเมืองไทย เหมือนที่หลายๆ คำเคยเสียผู้เสียคนมาก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะถ้า "ล้อมปราบ" กลายเป็นกระชับพื้นที่ หรือขอคืนพื้นที่ไปได้
หรือ "รัฐประหาร" กลายเป็นแค่การแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพไปได้
จินตนาการก็อาจกลายเป็น "จินตนาเกิน" ไปได้ง่ายๆ เช่นกัน
ตัวอย่างล่าสุดคือคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร
ความที่ใช้ชีวิตอยู่ตรงมุมตึก สว่างครึ่งมีเงาบังตัวอยู่ครึ่ง รวมกับประวัติที่ "โชกโชน" ในการทำให้คนอื่น
โชกเลือดมาตลอด การจับจ้องสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอกยุทธด้วยความสนใจนั้นเป็นเรื่องปกติ
แต่ปกติของมนุษย์ธรรมดาสามัญทั่วไป ก็คือเมื่อสงสัยแล้วก็ต้องเริ่มหาข้อมูล-หลักฐาน
มาตอบคำถามหรือข้อสงสัย
ถ้าสงสัยแล้วไปเรื่อยเจื้อย ไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง
ภาษาชาวบ้านเขาเรียก "เพ้อ"
เพราะฉะนั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียนเชิญท่านผู้รู้ในคดีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรณ์ จาติกวณิช แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมไปถึงทนายความสุวัตร อภัยภักดิ์
ไปให้การ-ให้ข้อมูลนั้นถูกต้องแล้ว
ด้านหนึ่ง จะได้อาศัย "ข้อมูล" ของท่านเหล่านี้ในการช่วยคลี่คลายคดีให้กระจ่างยิ่งขึ้น
ด้านหนึ่ง ก็เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของท่านทั้งหลาย ไม่ให้ใครไปตั้งฉายาลับหลังว่า "ดีแต่พูด"
และจริงๆ ถ้าจะให้ดี น่าจะต้องเชิญอีกอย่างน้อยสองท่านมาให้การหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
ท่านแรกคือคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ขยับข้ามจากเรื่องข้าวมาเรื่องฆาตกรรมชนิดที่ผู้เชี่ยวชาญยังอาย
อีกท่านคือแกนนำม็อบใหญ่รายหนึ่ง ที่เดี๋ยวนี้สงสัยว่าจะผันตัวมาเอาดีทางเป็นหมอดู
เพราะอาศัยแค่ไพ่ทาโรต์ 4 ใบก็วิเคราะห์วิจารณ์คดีฆาตกรรมสะท้านเมืองครั้งนี้ได้เป็นตุเป็นตะ เอ๊ย-เป็นฉากๆ
นี่ถ้าท่านเหล่านี้มาให้การกันพร้อมหน้า คดีก็น่าจะครึกครื้นขึ้นอีกไม่น้อย (ฮา)
แต่ไปโทษท่านเหล่านี้หรือชาวบ้านฝ่ายเดียว ว่าหมู่นี้ชักจินตนาเกินหนักไปหน่อยก็คงไม่ได้
เพราะรัฐบาลเองนั่นแหละตัวดีเลยที่สนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยใช้จินตนาการมากกว่าความรู้
กรณี "จำนำข้าว" นั่นยังไง
เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลแท้ๆ ข้อมูลหลักฐานมีอยู่กับมือแท้ๆ แต่ไม่เคยพูดไม่เคยจาทำความเข้าใจ
จนคนจินตนาการถึงตัวเลขไปไหนต่อไหนแล้วนั่นแหละถึงเพิ่งตื่นขึ้นมา ทำโน่นทำนี่ฉับฉับฉับ
แต่ทำแล้วจะดึงคนกลับมาสู่โลกของความจริงได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ทำเหมือนไม่เคยได้ยินภาษิตฝรั่งที่ว่า
"ในการเมือง สิ่งที่รับรู้คือข้อเท็จจริง" ไปได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371642444&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ขึ้นต้นเป็น "เอกยุทธ" ลงท้ายด้วย "จำนำข้าว" ประเด็นร้อน วันนี้ รัฐบาลจะอยู่หรือไป ก็อาจจะ
อยู่ที่เรื่องนี้แหละค่ะ ..... วราเทพ รัตนากร มาออกรายการ " Wake up Thailand" เช้าวันนี้
หวานใจ นั่งข้างๆ พึมพำแต่ว่า ทำไม ความรู้สึกช้าจัง .... สมัยก่อน เขาต้องบอก ช้าไป ...ต๋อย
จะรอดไหมเนี่ยะ .... "มีอาการน่าเป็นห่วง" ....
จินตนาเกิน โดย ฐากูร บุนปาน ...... คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 ..... มติชนออนไลน์
สงสัยว่าประโยคอมตะของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ว่า"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
จะมาเสียความหมายที่แท้จริงเพราะการเมืองไทย เหมือนที่หลายๆ คำเคยเสียผู้เสียคนมาก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะถ้า "ล้อมปราบ" กลายเป็นกระชับพื้นที่ หรือขอคืนพื้นที่ไปได้
หรือ "รัฐประหาร" กลายเป็นแค่การแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพไปได้
จินตนาการก็อาจกลายเป็น "จินตนาเกิน" ไปได้ง่ายๆ เช่นกัน
ตัวอย่างล่าสุดคือคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร
ความที่ใช้ชีวิตอยู่ตรงมุมตึก สว่างครึ่งมีเงาบังตัวอยู่ครึ่ง รวมกับประวัติที่ "โชกโชน" ในการทำให้คนอื่น
โชกเลือดมาตลอด การจับจ้องสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอกยุทธด้วยความสนใจนั้นเป็นเรื่องปกติ
แต่ปกติของมนุษย์ธรรมดาสามัญทั่วไป ก็คือเมื่อสงสัยแล้วก็ต้องเริ่มหาข้อมูล-หลักฐาน
มาตอบคำถามหรือข้อสงสัย
ถ้าสงสัยแล้วไปเรื่อยเจื้อย ไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง
ภาษาชาวบ้านเขาเรียก "เพ้อ"
เพราะฉะนั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียนเชิญท่านผู้รู้ในคดีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรณ์ จาติกวณิช แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมไปถึงทนายความสุวัตร อภัยภักดิ์
ไปให้การ-ให้ข้อมูลนั้นถูกต้องแล้ว
ด้านหนึ่ง จะได้อาศัย "ข้อมูล" ของท่านเหล่านี้ในการช่วยคลี่คลายคดีให้กระจ่างยิ่งขึ้น
ด้านหนึ่ง ก็เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของท่านทั้งหลาย ไม่ให้ใครไปตั้งฉายาลับหลังว่า "ดีแต่พูด"
และจริงๆ ถ้าจะให้ดี น่าจะต้องเชิญอีกอย่างน้อยสองท่านมาให้การหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
ท่านแรกคือคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ขยับข้ามจากเรื่องข้าวมาเรื่องฆาตกรรมชนิดที่ผู้เชี่ยวชาญยังอาย
อีกท่านคือแกนนำม็อบใหญ่รายหนึ่ง ที่เดี๋ยวนี้สงสัยว่าจะผันตัวมาเอาดีทางเป็นหมอดู
เพราะอาศัยแค่ไพ่ทาโรต์ 4 ใบก็วิเคราะห์วิจารณ์คดีฆาตกรรมสะท้านเมืองครั้งนี้ได้เป็นตุเป็นตะ เอ๊ย-เป็นฉากๆ
นี่ถ้าท่านเหล่านี้มาให้การกันพร้อมหน้า คดีก็น่าจะครึกครื้นขึ้นอีกไม่น้อย (ฮา)
แต่ไปโทษท่านเหล่านี้หรือชาวบ้านฝ่ายเดียว ว่าหมู่นี้ชักจินตนาเกินหนักไปหน่อยก็คงไม่ได้
เพราะรัฐบาลเองนั่นแหละตัวดีเลยที่สนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยใช้จินตนาการมากกว่าความรู้
กรณี "จำนำข้าว" นั่นยังไง
เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลแท้ๆ ข้อมูลหลักฐานมีอยู่กับมือแท้ๆ แต่ไม่เคยพูดไม่เคยจาทำความเข้าใจ
จนคนจินตนาการถึงตัวเลขไปไหนต่อไหนแล้วนั่นแหละถึงเพิ่งตื่นขึ้นมา ทำโน่นทำนี่ฉับฉับฉับ
แต่ทำแล้วจะดึงคนกลับมาสู่โลกของความจริงได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ทำเหมือนไม่เคยได้ยินภาษิตฝรั่งที่ว่า
"ในการเมือง สิ่งที่รับรู้คือข้อเท็จจริง" ไปได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371642444&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ขึ้นต้นเป็น "เอกยุทธ" ลงท้ายด้วย "จำนำข้าว" ประเด็นร้อน วันนี้ รัฐบาลจะอยู่หรือไป ก็อาจจะ
อยู่ที่เรื่องนี้แหละค่ะ ..... วราเทพ รัตนากร มาออกรายการ " Wake up Thailand" เช้าวันนี้
หวานใจ นั่งข้างๆ พึมพำแต่ว่า ทำไม ความรู้สึกช้าจัง .... สมัยก่อน เขาต้องบอก ช้าไป ...ต๋อย
จะรอดไหมเนี่ยะ .... "มีอาการน่าเป็นห่วง" ....