เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองครับ
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย 56 ที่ผ่านมาแม่ผมได้โทรศัพท์มาหา(ขณะนั้นผมกำลังทำงานอยู่)แม่บอกว่ามีจดหมายติดตามขอให้ชำระหนี้ของสินค้ามิสทีน มาส่งที่บ้านและชื่อผู้รับก็เป็นชื่อของผมเองซึ่งผมก็งงว่าไปสมัครเป็นสมาชิกหรือสั่งซื้อสินค้าของบริษัทนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะปกติเป็นคนที่ไม่ใช้เครื่องสำอางอยู่แล้ว
จึงบอกกับแม่ไปว่าผมไม่เคยสมัครหรือใช้เครื่องสำอางพวกนี้นะครับแม่แล้วจะมีจดหมายอย่างนี้ส่งมาที่ผมได้ยังไงกัน ก่อนที่แม่จะวางสายไปแม่ถามผมว่าจะกลับมาดูจดหมายฉบับนี้เองไหม
ตอนนั้นผมยังทำงานติดพันอยู่จึงไม่ได้รับปากกับแม่ว่าจะกลับบ้านไปดูเองหรือเปล่า พอวางสายโทรศัพท์ก็เริ่มคิดว่าจะเป็นแฟนหรือพี่ๆ ที่เอาชื่อ-ที่อยู่ของผมไปสมัครสมาชิกและสั่งซื้อสินค้าชองบริษัทดังกล่าวหรือเปล่า แต่โทรสอบถามดูทุกคนแล้วก็ตอบตรงกันหมดว่าไม่เคยเอาชื่อของผมไปใช้หรือสมัครอะไรเลย เลิกงานกลับมาบ้านในเย็นวันนั้นก็ไม่สบายใจกับเรื่องดังกล่าว ตอนเช้าเลยรีบกลับบ้าน(บ้านกับที่ทำงานผมไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกันห่างกัน 80 กม.)เพื่อที่จะดูจดหมายติดตามหนี้สินฉบับดังกล่าวเอง ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านดูรายละเอียดในจดหมายแจ้งว่าให้ติดต่อกลับโดยด่วนภายใน 3 วัน(ยอดที่ค้างชำระ 749.00 บาท) นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้
ผมจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปที่บุคคลที่ให้ชื่อและเบอร์ไว้ตามจดหมายในวันที่ 17 มิ.ย 56 เวลา 09.47 น. เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีน ในการติดตามการชำระหนี้สิน แจ้งกับเขาไปว่าผมไม่เคยสมัครและไม่เคยสั่งซื้อสินค้าของมิสทีนเลยทำไมจึงมีจดหมายฉบับนี้มาหาผมได้ ผมสอบถามต่อว่าสินค้าที่มีการสั่งซื้อนั้นปลายทางในการส่งคือที่ไหน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่าเขาไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้ แล้วได้ให้เบอร์โทรศัพท์ Call center ของ Mistine กับผมมาเพื่อให้ผมโทรสอบถามข้อมูลการสมัครและการสั่งซื้อสินค้าเองเพราะเขาไม่มีข้อมูลในส่วนดังกล่าวแล้วก็วางสายไป
หลังจากวางสายไปสักพัก จนท.คนเดิมได้โทรกลับมาหาผมอีกครั้งในเวลา 09.52 น. และแจ้งว่าตรวจสอบดูแล้วพบว่าสินค้าที่สั่งซื้อส่งไปที่ ที่อยู่...........ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวกับที่ผมทำงานอยู่(ไม่ใช่อำเภอเดียวกัน) ชื่อที่ส่งถึงนั้นเป็นชื่อนามสกุลของผมเองแต่ที่อยู่ดังกล่าวผมไม่รู้จักเลย
จนท.บริษัทรับติดตามหนี้สินจึงได้ถามย้ำกับผมว่า แน่ใจว่าไม่ใช่ตัวผมเองหรือญาติสมัครไว้นะ ผมจึงตอบว่าแน่ใจว่าไม่ใช่แน่นอน เขาจึงแนะนำว่าถ้างั้นก็แจ้งความได้เลยค่ะแต่ถ้าแจ้งความแล้วมาพบภายหลังว่าเป็นญาติหรือคนรู้จักจะถอนแจ้งความไม่ได้นะ(คำนี้ไม่รู้จะเรียกว่าข่มขู่หรือแนะนำดี) ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเขาว่าผมควรจะแจ้งความในเมื่อผมและญาติไม่ได้ทำจริงๆ
เวลา 10.00 น. ผมได้โทรไปที่ Call center ของ Mistine คุณ P นามสมมติ(ขอสงวนชื่อจนท.ดังกล่าวครับ)ผมได้เล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังเหมือนกับที่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทรับติดตามหนี้สินไปก่อนหน้านี้
คุณ P ได้สอบถามถึงรหัสสมาชิกเพื่อที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นให้ซึ่งในจดหมายติดตามหนี้ที่ส่งมาให้กับผมดังกล่าวมี รหัสสมาชิกนี้อยู่ ผมจึงแจ้งหมายเลข ดังกล่าวไป
คุณ P ได้ใช้เวลาตรวจสอบสักพักแล้วแจ้งกลับมาว่า
คุณ P - รหัสสมาชิกนี้มีเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน .............ค่ะ
ผม - แย้งไปว่าไม่ใช่ครับของผมเป็นหมายเลข..............ครับ(แสดงว่าการสมัครสมาชิกของบริษัทนี้ไม่ได้ใช้สำเนาบัตรประชาชนในการสมัคร)
คุณ P - และเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการสมัครก็จะเป็นเบอร์ 08........... ค่ะ
ผมจึงแย้งไปอีกว่านี่ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์ผมครับและผมไม่รู้จักเบอร์นี้มาก่อนเลย
ผมจึงสอบถามต่อถึงชื่อบุคคลที่ทำการรับสมัคให้กับสมาชิกหมายเลขนี้ เพราะคนๆนี้น่าจะรู้ว่าใครที่กรอกใบสมัครกับเขา(ถ้ามองในแง่ร้ายคนนี้อาจจะเป็นคนที่เอาชื่อ-ที่อยู่ของผมไปทำการสมัครและสั้งซื้อสินค้าเองก็ได้)
คุณ P แจ้งกลับมาว่าบุคคลที่รับสมัครให้กับรหัสสมาชิกหมายเลขนี้จะเป็นหัวหน้าสายของพื้นที่ค่ะ
แต่ตอนนี้คนนี้ได้ลาออกไปแล้วค่ะและคนที่ดูแลพื้นที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าสายคนใหม่ที่เข้ามาทำงานแทนค่ะ
ทางเราไม่สามารถให้ข้อมูลชื่อ-สกุล ของบุคคลนี้กับคุณได้ค่ะ
จากนั้นคุณ P แจ้งให้ผมทำหนังสือชี้แจงส่งไปยังบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีนเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับที่ผมเล่าให้คุณ P ฟังทางบริษัทจึงจะให้ข้อมูลกับผมได้ว่าพนักงานที่ได้ลาออกไปแล้วนั้นชื่ออะไร
ผมจึงสอบถามว่าถ้างั้นผมส่งเป็นเมล์ชี้แจงไปได้ไหม
คุณ P แจ้งว่า ทางบริษัทเราจะรับเรื่องจากการส่งหนังสือเป็นจดหมายหรือแฟกซ์ค่ะ(ผมนั่งคิดงงๆว่าเราเป็นผู้เสียหายนะทำไมเราต้องส่งเรื่องเองเสียค่าใช้จ่ายเองเนี่ย)
ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเร็วๆจึงได้ขอเบอร์แฟกซ์กับคุณ P (เอาวะส่งแฟกช์ก็ได้)
สาเหตุ ที่ผมต้องการทราบชื่อบุคคลที่ทำการรับสมัคให้กับสมาชิกหมายเลขนี้ เพราะสงสัยว่าอาจจะเป็นคนในที่ทำงานของผมเองหรือเปล่าที่เอาชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ของผมไปสมัครสมาชิกผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่จังหวัดนี้ผมไม่เคยใช้ชื่อ-ที่อยู่ไปสมัครบัตรเครดิตหรือทำธุรกรรมใดๆทั้งสิ้น
เวลา 15.30 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 56 ผมได้เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจใกล้ๆกับที่บ้านในเรื่องดังกล่าวว่าโดนแอบอ้างชื่อ-ที่อยู่ ไปสมัครสมาชิกและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้แล้วไม่ชำระค่าใช้จ่าย จนมาทราบเรื่องก็ตอนที่มีหนังสือติดตามให้ชำระหนี้มาส่งที่บ้าน
วันที่ 18 มิถุนายน 56 เวลา 16.50 ผมจึงได้แฟกซ์เอกสารการแจ้งความและหนังสือชี้แจงไปยังบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีน
เวลา 15.00 ผมโทรไปที่เบอร์ Call Center ของ Mistineเพื่อสอบถามว่าเอกสารที่ผมแฟกซ์ไปได้รับหรือไม่เจ้าหน้าที่ ที่รับสายเป็นอีกคนไม่ใช่คุณ P ได้ตรวจสอบสักพักก็แจ้งผมกลับมาว่าได้รับเอกสารที่ผมส่งแฟกซ์ไปให้แล้ว ผมจึงสอบถามต่อว่าเรื่องนี้ผมจะติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านใดฝ่ายไหนหรือเบอร์อะไรได้โดยตรงไหม เพื่อจะได้ติดตามความคืบหน้าได้เร็วขึ้นเงียบไปสีกพักจึงแจ้งว่าให้โทรมาสอบถามได้ที่ call center ค่ะเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องของคุณไว้ชื่อคุณ M (นามสมมติ)
จากเหตุการทั้งหมดนี้ถ้าเป็นท่านจะทำอย่างไรครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้ในด้านกฏหมาย แต่ไม่อยากให้คนที่ทำผิดเอาชื่อ-ที่อยู่คนอื่นไปทำเรื่องทุจริตลอยนวล ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องไปทำกับคนอื่นๆได้อีก
และขอสอบถามถึงผู้บริหารของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีนดังนี้
1. ท่านจะแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะผมเองไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทและสินค้าของท่านเลยแต่กลับต้องมาเสีย
เวลาเสียค่าใช้จ่ายกับการเดินทางในเรื่องนี้
2. กระบวนการทำงานของบริษัทท่านมีความหล่ะหลวมหรือไม่ที่ทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ถ้ามีระบบการรับสมัครสมาชิกที่มีประสิธิภาพกว่านี้เรื่องราว
แบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
- จากเหตุการณ์นี้ถ้าไม่สามารถหาคนที่ทำผิดได้บริษัทของท่านก็ต้องสูญเสียผลประโยชน์และกำไรจากกระบวนการการทำงานที่ผิดพลาดถ้าท่านไม่รีบปิดช่องโหว่นี้เสียเรื่องแบบนี้คงจะไม่ใช่ตรั้งสุดท้ายที่จะเกิด ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการนี้เหมือนกับผมอีก
มิสทีน : ไม่เคยสมัครสามาชิกไม่เคยสั่งซื้อสินค้า แต่มีจดหมายส่งมาให้ชำระหนี้
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย 56 ที่ผ่านมาแม่ผมได้โทรศัพท์มาหา(ขณะนั้นผมกำลังทำงานอยู่)แม่บอกว่ามีจดหมายติดตามขอให้ชำระหนี้ของสินค้ามิสทีน มาส่งที่บ้านและชื่อผู้รับก็เป็นชื่อของผมเองซึ่งผมก็งงว่าไปสมัครเป็นสมาชิกหรือสั่งซื้อสินค้าของบริษัทนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะปกติเป็นคนที่ไม่ใช้เครื่องสำอางอยู่แล้ว
จึงบอกกับแม่ไปว่าผมไม่เคยสมัครหรือใช้เครื่องสำอางพวกนี้นะครับแม่แล้วจะมีจดหมายอย่างนี้ส่งมาที่ผมได้ยังไงกัน ก่อนที่แม่จะวางสายไปแม่ถามผมว่าจะกลับมาดูจดหมายฉบับนี้เองไหม
ตอนนั้นผมยังทำงานติดพันอยู่จึงไม่ได้รับปากกับแม่ว่าจะกลับบ้านไปดูเองหรือเปล่า พอวางสายโทรศัพท์ก็เริ่มคิดว่าจะเป็นแฟนหรือพี่ๆ ที่เอาชื่อ-ที่อยู่ของผมไปสมัครสมาชิกและสั่งซื้อสินค้าชองบริษัทดังกล่าวหรือเปล่า แต่โทรสอบถามดูทุกคนแล้วก็ตอบตรงกันหมดว่าไม่เคยเอาชื่อของผมไปใช้หรือสมัครอะไรเลย เลิกงานกลับมาบ้านในเย็นวันนั้นก็ไม่สบายใจกับเรื่องดังกล่าว ตอนเช้าเลยรีบกลับบ้าน(บ้านกับที่ทำงานผมไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกันห่างกัน 80 กม.)เพื่อที่จะดูจดหมายติดตามหนี้สินฉบับดังกล่าวเอง ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านดูรายละเอียดในจดหมายแจ้งว่าให้ติดต่อกลับโดยด่วนภายใน 3 วัน(ยอดที่ค้างชำระ 749.00 บาท) นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้
ผมจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปที่บุคคลที่ให้ชื่อและเบอร์ไว้ตามจดหมายในวันที่ 17 มิ.ย 56 เวลา 09.47 น. เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีน ในการติดตามการชำระหนี้สิน แจ้งกับเขาไปว่าผมไม่เคยสมัครและไม่เคยสั่งซื้อสินค้าของมิสทีนเลยทำไมจึงมีจดหมายฉบับนี้มาหาผมได้ ผมสอบถามต่อว่าสินค้าที่มีการสั่งซื้อนั้นปลายทางในการส่งคือที่ไหน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่าเขาไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้ แล้วได้ให้เบอร์โทรศัพท์ Call center ของ Mistine กับผมมาเพื่อให้ผมโทรสอบถามข้อมูลการสมัครและการสั่งซื้อสินค้าเองเพราะเขาไม่มีข้อมูลในส่วนดังกล่าวแล้วก็วางสายไป
หลังจากวางสายไปสักพัก จนท.คนเดิมได้โทรกลับมาหาผมอีกครั้งในเวลา 09.52 น. และแจ้งว่าตรวจสอบดูแล้วพบว่าสินค้าที่สั่งซื้อส่งไปที่ ที่อยู่...........ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวกับที่ผมทำงานอยู่(ไม่ใช่อำเภอเดียวกัน) ชื่อที่ส่งถึงนั้นเป็นชื่อนามสกุลของผมเองแต่ที่อยู่ดังกล่าวผมไม่รู้จักเลย
จนท.บริษัทรับติดตามหนี้สินจึงได้ถามย้ำกับผมว่า แน่ใจว่าไม่ใช่ตัวผมเองหรือญาติสมัครไว้นะ ผมจึงตอบว่าแน่ใจว่าไม่ใช่แน่นอน เขาจึงแนะนำว่าถ้างั้นก็แจ้งความได้เลยค่ะแต่ถ้าแจ้งความแล้วมาพบภายหลังว่าเป็นญาติหรือคนรู้จักจะถอนแจ้งความไม่ได้นะ(คำนี้ไม่รู้จะเรียกว่าข่มขู่หรือแนะนำดี) ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเขาว่าผมควรจะแจ้งความในเมื่อผมและญาติไม่ได้ทำจริงๆ
เวลา 10.00 น. ผมได้โทรไปที่ Call center ของ Mistine คุณ P นามสมมติ(ขอสงวนชื่อจนท.ดังกล่าวครับ)ผมได้เล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังเหมือนกับที่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทรับติดตามหนี้สินไปก่อนหน้านี้
คุณ P ได้สอบถามถึงรหัสสมาชิกเพื่อที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นให้ซึ่งในจดหมายติดตามหนี้ที่ส่งมาให้กับผมดังกล่าวมี รหัสสมาชิกนี้อยู่ ผมจึงแจ้งหมายเลข ดังกล่าวไป
คุณ P ได้ใช้เวลาตรวจสอบสักพักแล้วแจ้งกลับมาว่า
คุณ P - รหัสสมาชิกนี้มีเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน .............ค่ะ
ผม - แย้งไปว่าไม่ใช่ครับของผมเป็นหมายเลข..............ครับ(แสดงว่าการสมัครสมาชิกของบริษัทนี้ไม่ได้ใช้สำเนาบัตรประชาชนในการสมัคร)
คุณ P - และเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการสมัครก็จะเป็นเบอร์ 08........... ค่ะ
ผมจึงแย้งไปอีกว่านี่ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์ผมครับและผมไม่รู้จักเบอร์นี้มาก่อนเลย
ผมจึงสอบถามต่อถึงชื่อบุคคลที่ทำการรับสมัคให้กับสมาชิกหมายเลขนี้ เพราะคนๆนี้น่าจะรู้ว่าใครที่กรอกใบสมัครกับเขา(ถ้ามองในแง่ร้ายคนนี้อาจจะเป็นคนที่เอาชื่อ-ที่อยู่ของผมไปทำการสมัครและสั้งซื้อสินค้าเองก็ได้)
คุณ P แจ้งกลับมาว่าบุคคลที่รับสมัครให้กับรหัสสมาชิกหมายเลขนี้จะเป็นหัวหน้าสายของพื้นที่ค่ะ
แต่ตอนนี้คนนี้ได้ลาออกไปแล้วค่ะและคนที่ดูแลพื้นที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าสายคนใหม่ที่เข้ามาทำงานแทนค่ะ
ทางเราไม่สามารถให้ข้อมูลชื่อ-สกุล ของบุคคลนี้กับคุณได้ค่ะ
จากนั้นคุณ P แจ้งให้ผมทำหนังสือชี้แจงส่งไปยังบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีนเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับที่ผมเล่าให้คุณ P ฟังทางบริษัทจึงจะให้ข้อมูลกับผมได้ว่าพนักงานที่ได้ลาออกไปแล้วนั้นชื่ออะไร
ผมจึงสอบถามว่าถ้างั้นผมส่งเป็นเมล์ชี้แจงไปได้ไหม
คุณ P แจ้งว่า ทางบริษัทเราจะรับเรื่องจากการส่งหนังสือเป็นจดหมายหรือแฟกซ์ค่ะ(ผมนั่งคิดงงๆว่าเราเป็นผู้เสียหายนะทำไมเราต้องส่งเรื่องเองเสียค่าใช้จ่ายเองเนี่ย)
ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเร็วๆจึงได้ขอเบอร์แฟกซ์กับคุณ P (เอาวะส่งแฟกช์ก็ได้)
สาเหตุ ที่ผมต้องการทราบชื่อบุคคลที่ทำการรับสมัคให้กับสมาชิกหมายเลขนี้ เพราะสงสัยว่าอาจจะเป็นคนในที่ทำงานของผมเองหรือเปล่าที่เอาชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ของผมไปสมัครสมาชิกผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่จังหวัดนี้ผมไม่เคยใช้ชื่อ-ที่อยู่ไปสมัครบัตรเครดิตหรือทำธุรกรรมใดๆทั้งสิ้น
เวลา 15.30 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 56 ผมได้เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจใกล้ๆกับที่บ้านในเรื่องดังกล่าวว่าโดนแอบอ้างชื่อ-ที่อยู่ ไปสมัครสมาชิกและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้แล้วไม่ชำระค่าใช้จ่าย จนมาทราบเรื่องก็ตอนที่มีหนังสือติดตามให้ชำระหนี้มาส่งที่บ้าน
วันที่ 18 มิถุนายน 56 เวลา 16.50 ผมจึงได้แฟกซ์เอกสารการแจ้งความและหนังสือชี้แจงไปยังบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีน
เวลา 15.00 ผมโทรไปที่เบอร์ Call Center ของ Mistineเพื่อสอบถามว่าเอกสารที่ผมแฟกซ์ไปได้รับหรือไม่เจ้าหน้าที่ ที่รับสายเป็นอีกคนไม่ใช่คุณ P ได้ตรวจสอบสักพักก็แจ้งผมกลับมาว่าได้รับเอกสารที่ผมส่งแฟกซ์ไปให้แล้ว ผมจึงสอบถามต่อว่าเรื่องนี้ผมจะติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านใดฝ่ายไหนหรือเบอร์อะไรได้โดยตรงไหม เพื่อจะได้ติดตามความคืบหน้าได้เร็วขึ้นเงียบไปสีกพักจึงแจ้งว่าให้โทรมาสอบถามได้ที่ call center ค่ะเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องของคุณไว้ชื่อคุณ M (นามสมมติ)
จากเหตุการทั้งหมดนี้ถ้าเป็นท่านจะทำอย่างไรครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้ในด้านกฏหมาย แต่ไม่อยากให้คนที่ทำผิดเอาชื่อ-ที่อยู่คนอื่นไปทำเรื่องทุจริตลอยนวล ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องไปทำกับคนอื่นๆได้อีก
และขอสอบถามถึงผู้บริหารของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์มิสทีนดังนี้
1. ท่านจะแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะผมเองไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทและสินค้าของท่านเลยแต่กลับต้องมาเสีย
เวลาเสียค่าใช้จ่ายกับการเดินทางในเรื่องนี้
2. กระบวนการทำงานของบริษัทท่านมีความหล่ะหลวมหรือไม่ที่ทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ถ้ามีระบบการรับสมัครสมาชิกที่มีประสิธิภาพกว่านี้เรื่องราว
แบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
- จากเหตุการณ์นี้ถ้าไม่สามารถหาคนที่ทำผิดได้บริษัทของท่านก็ต้องสูญเสียผลประโยชน์และกำไรจากกระบวนการการทำงานที่ผิดพลาดถ้าท่านไม่รีบปิดช่องโหว่นี้เสียเรื่องแบบนี้คงจะไม่ใช่ตรั้งสุดท้ายที่จะเกิด ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการนี้เหมือนกับผมอีก