ช่วยแนะนำทีครับ ไม่อยากอยู่แบบนี้ต่อไปแล้ว

เรื่องของผม จุดเริ่มต้นมาจากการที่ผมต้องเลิกกับแฟนเก่าไป แล้วมาคบกับแฟนคนใหม่ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องราวปกติ ที่ใคร ๆ เขาก็เจอมา แต่เรื่องราวทั้งหมด มันอาจมีจุดแตกต่างบ้าง ผมจะอธิบายให้ฟังต่อจากนี้ครับ

         เมื่อประมาณตอนกลางเดือนของปี 2011 ผมยังเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ ที่นอนตื่นสายไปมหาลัย ข้าวเช้าไม่กิน(กินไม่ทัน) ใช้ชีวิตได้เรื่อยเปื่อยมาก เล่นแต่เกมส์ แต่ผลการเรียนนี่กลับกันนะครับ ผมไม่มีปัญหากับเรื่องเรียนเลย ได้ 3 ขึ้นตลอด จะมีปัญหาก็ตรงนิสัยการดำเนินชีวิตแย่ ๆ นี่หละครับ ตามประสาคนโสด จนมาวันหนึ่ง วันที่ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลง นั่นคือวันที่ผมได้รับการทักทายจากคนปริศนาคนนึง ซึ่งไม่ได้โชว์รูปภาพของตัวเองลงในรูป MSN ซึ่งตอนนั้นผมยอมรับว่าผมเองไม่ได้ใส่ใจอะไรคน ๆ เลยเป็นพิเศษ(สนใจคนอื่นมากกว่าด้วยซ้ำเพราะเค้าเอารูปขึ้นน่ารักดี) ผมก็ถามเค้าตามมารยาทคนไทยที่ต้องถามอ่ะครับ ชื่ออะไร ? อยู่ไหนเหรอครับ ? อะไรประมาณนี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่า ชื่อxxxค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่จีน โอ้วแม่เจ้า พอได้ยินคำว่าจีนเท่านั้นแหละ ผมนี่แทบอยากจะลบเพื่อนเธอคนนี้ทิ้งไปเลย จะบ้าเหรอใครจะไปเชื่อ คนไทยแท้ ๆ ไปเรียนทำไมที่จีน จะอวดว่าบ้านรวยมากว่างั้น ยิ่งทำให้ผมไม่สนใจเธอคนนี้มากขึ้น จนเราคุยกันแบบเผลอ ๆ ไปประมาณซัก 4 ทุ่ม(ยาวแบบไม่รู้ตัว) เธอก็เอารูปของเธอขึ้นบนโปรไฟล์บ้าง แต่คราวนี้ทำให้ผมอึ้งไปเลยครับ เพราะเธอน่ารักมาก น่ารักเกินกว่าคนธรรมดา ๆ อย่างผมจะได้สนิทสนมจริง ๆ ผมรีบพิมถามยิก ๆ เลย ก็เลยได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเรียนอยู่ ม.หัวเฉียว ที่นั่นตอนปี 3 เค้าต้องไปเรียนที่จีนกัน 1 ปี อยู่แล้ว วันนั้นก่อนนอน เธอขอเบอร์โทรผมไป แล้วโทรข้ามประเทศมาหาผม ตอนให้ก็คิดในใจ เห้อ จะโทรมาเร้อ มันแพง แต่เธอก็โทรมาจริง ๆ แถมส่งข้อความมาอรุณสวสัดิ์ผมตอนเช้าด้วย แล้วทุก ๆ วันต่อจากนี้ มันก็เป็นทำนองนี้หละครับ คุยเฟสกัน เล่น MSN กัน โทรคุยกันบ้าง(เค้าโทรมา) จนผมรักเค้าหมดใจเลยตอนนั้น และสัญญากับเค้าไว้ว่าจะรักกันตลอดไป (แหวะ น้ำเน่ามากเหมือนหนังทั่ว ๆ ไปใช่ไม๊ครับ) ตอนนั้นอารมณ์มันพาไป เพื่อผมก็ทักนะว่า เห้ย มันง่ายไปป่าว ระวังเค้าจะหลอกมิงนะ ใช่ครับผมก็ยอมรับคำเตือน แต่มันมีหลาย ๆ อย่างที่พวกเค้าไม่รู้ ว่าอะไรที่ทำให้ผมเชื่อใจและรักเธอ ชีวิตของเธอ มีแต่เรียน กับผม ไม่ออกไปเที่ยวเลย ปิดเทอม ผู้หญิงปกติเค้าต้องออกไปชอปปิ้งกัน ไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แต่ไม่เลยเธอออน Skype เปิดวิดีโอเห็นหน้าคุยกับผมตลอดเวลาเหมือนไม่เคยห่างกัน จนถึงกับเราสองคนติดกันงอมแงมและพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเราทั้งคู่คงขาดกันไม่ได้หรอก ถ้าวันไหนไม่ได้คุยกัน ไม่ได้เห็นหน้ากันคงขาดใจตาย(อารมพาไปอีกแล้ว) ผมเฝ้านับวันเวลาที่เธอจะกลับมาที่ไทย และแล้วเมื่อถึงวันสิ้นปี วันที่ 31 / 12 / 2011 ผมโทรไปสวัสดีปีใหม่เธอ ซึ่งความเป็นจริงวันนั้นเราต้องอยู่หน้าคอม เค้าดาวน์ด้วยกัน แต่เธอบอกเธอติดกิจกรรมของมหาลัย ผมจึงออกมาเค้าน์ดาวน์กับเพื่อน ๆแทน น้ำเสียงเธอดูเหนื่อย ๆ แล้วผมก็วางสายและหลับไปด้วยความเพลีย
           สิ้นเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้า ผมตื่นขึ้นมาโทรไปอรุณสวัสดิ์เธอตามปกติ แต่คราวนี้โทรไม่ติด เปิดเฟสดู สถานะเธอก็เปลี่ยนไปจากคบกัน ไปเป็นหย่างร้าง และเธอก็ไม่ยอมรับสายผมอีก
          ผมเสียใจแทบเป็นบ้า เพราะเรากำลังจะได้เจอกันอีกเพียงแค่อึดใจเท่านั้น จะได้กอดเธอ ได้ทำอะไรอีกมากมายที่เราสองคนเคยพูดกันไว้ ผมเสียใจมาก จนลบเฟสนั้นทิ้งไป แล้วสร้างเฟสใหม่ขึ้นมาแทน เพราะเธอบอกให้เรา "จบกัน"
          ผมเสียใจมากจนบรรยายไม่ถูก พร่ำเพ้อกับตัวเองตลอดเวลา ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ นี่มันความรักครังแรกของผมนะ ทำไมมันชั่งเลวร้ายแบบนี้ และความเสียใจอันมหาศาลนี้ คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้พบเจอกับแฟนคนใหม่
          เธอคนนี้นี้เป็นรุ่นน้องผม  ผมเรียนปี 4 เค้าพึ่งอยู่ ปี 1 แต่เค้าเป็นเด็กที่น่ารัก(ทั้งนิสัยและหน้าตา) ฉลาดในการปลอบใจคนมาก เพราะที่บ้านเค้ายากจน เป็นเด็กที่ได้ทุนราชประชาฯ มาเรียนที่กรุงเทพ เค้าต่างจากแฟนเก่าที่อยู่จีนของผมมาก แบบคนละขั้วเลย ทั้งความคิด และอุปนิสัย ผมได้รู้จักเธอด้วยความบังเอิญเพราะคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของเพื่อน (เห็นนามสกุลเดียวกัน) แต่ความจริงแล้วไม่รู้จักกันเลย แป่วสิ .. แต่ก็ หลังจากรู้จักกันแล้ว ผมก็เล่าเรื่องแฟนเก่าผมให้เธอคนนี้ฟังทุกวัน ร้องไห้ให้เค้าเห็นทุกที เค้าเป็นคนที่รู้เรื่องผมกับแฟนเก่าดีที่สุด ก็ใครจะไปคิดละว่าเธอคนนี้จะมาเป็นแฟนใหม่เรา ปลอบใจกับไปปลอบใจกันมา ผมก็รู้สึกว่าเวลาที่อยู่กับเธอคนนี้แล้ว ผมไม่คิดถึงแฟนเก่าเลย เสหน่ห์และรอยยิ้มในตัวเค้ามันทำให้ผมลืมความเจ็บปวดที่ถูกทิ้งมาจนหมด ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี และแล้วก็มาถึงวันที่แฟนเก่าผมกลับมาไทย ....
         เสียงโทรศัพท์ปริศนาดังขึ้นเวลา 10.00 น. ของวันอาทิตย์(จำได้แม่น) น้ำเสียงนี่ มันคือเค้านี่ ใจความบอกให้มาหาที่เดอะมอลล์ บางกะปิหน่อย ก็เลยตื่นไปหาแบบ งง ๆ แล้วนั่งคิดไปตลอดทางว่า จะวางตัวยังไงดี พอเจอกับเธอ(ตัวจริง) เธอช่างสวยเหลือเกิน สวยมากกว่าที่เห็นในรูปอีก เธอหิ้วของอะไรไม่รู้มาฝากจากจีนเต็มไปหมด และผมก็พาเธอมาที่ห้องผมเพราะตอนเป็นแฟนกัน ผมสัญญาว่าจะพาเธอมา เพราะผมจัดห้องไว้รอเธอ (เห้ย ลืมเฉยเลยว่าเลิกกันแล้วอ่ะ) พอปิดประตูห้อง บรรยากาศตอนแรก คือต่างคนต่างทำอะไรกันไม่ถูก เพราะตอนนี้สถานะคือ เลิกกันแล้ว แต่มันก็เป็นบรรยากาศอีกแหละพาไป แค่ได้จับมือเท่านั้น ทุกอย่างก็เลยเถิดไปจนถึง เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ไม่ควรจินตนาการถึงเลยทีเดียว แล้วเธอก็กลับบ้านไป และไม่รับสายผมเหมือนเดิม(อีกและ) ผมจึงโมโหมาก และบอกเธอไปว่า ทำไมทำอะไรไม่เคยจริงจังเลย เห็นเราเป็นของเล่นเหรอ เล่นสนุกกับใจคนมันมีความสุขนักเหรอ ฯลฯ แล้วก็ผมทั้งเสียใจ ทั้งโกรธเธอ และไม่โทรหาเธออีกเลยหลังจากนั้น
        แฟนใหม่ของผมก็เลยสงสัย ว่าก่อนหน้านี้พี่ดีขึ้นแล้วนี่คะ แล้วทำไมวันนี้ไหงมาร้องไห้อีกเหมือนเดิม ผมกลัวเค้าเสียใจผมก็เลยบอกไปว่า พี่ขอโทษนะที่อาจจะทำอะไรผิดพลั้งไปบ้าง แต่ต่อจากนี้พี่จะลืมเค้า และไม่สนใจผู้หญิงใจร้ายคนนี้อีกต่อไป
      
       เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ ..... สิ่งที่ผมได้รู้ ความจริงที่ผมได้รู้ มันคือเหตุผลที่ผมต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ในนี้อย่างแท้จริงครับ

       ความจริงของแฟนเก่าผม เธอเป็นคนมีฐานะ เกิดในตระกูลของคนจีน ถูกเลี้ยงดูมาแบบเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ และพ่อแม่ของเค้า ก็ได้จัดเตรียมการคลุมถุงชนเอาไว้ให้กับเค้าแล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม เธอกลัวผมเสียใจ เธอไม่อยากให้ผมต้องมาเป็นห่วงเป็นใยเธออีก เธออยากทิ้งผม ให้ผมไปเจอผู้หญิงที่พร้อมที่จะเคียงข้างผมได้ ซึ่งเธอทำไม่ได้ การที่เธอมาหาผมวันแรกทันทีที่เธอมาถึงประเทศไทย เพราะเธอรัก และอยากให้ผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ตามที่สัญญากัน เธอแค่อยากจะบอกว่าเธอรักผมมากแค่ไหน เธอไม่เคยสนใจว่าผมจะมี หรือจะจน เพราะเธอบอกว่าผมเป็นคนดี แต่เธอบอกผมทั้งน้ำตาว่า "ร่างกายนี้เค้าเป็นคนสร้างมา ข้าวเค้าเป็นคนป้อน เงินเป็นคนส่งเสียให้เรียน จะให้เราเป็นคนอักตัญญูเหรอ " หนำซ้ำยังไม่พอ วันที่เธอมาเป็นของผมในวันแรกนั้น เธอตั้งใจจะไม่ป้องกันอะไรเลยซักอย่าง โดยเธอโกหกผมว่าเธอกินยาคุมมา (ขอโทษนะครับไม่สุภาพไปนิด) เพื่อที่เธอจะได้ตั้งท้องกับผม แล้วล้มเลิกงานหมั้นกับคนที่พ่อแม่จัดหาไว้ให้(แต่ก็สรุปว่าไม่ได้ตั้งท้องนะครับ) พอรู้แบบนี้ผมถึงกับน้ำตาไหลอีกครั้ง คน ๆ หนึ่งที่รักกัน แต่ไม่มีทางที่จะรักกันได้ ถ้าเค้าทิ้งผมไปมีแฟนใหม่ ผมยังทำใจได้ง่ายกว่านี้ แต่นี่ เค้าก็ยังรักผม แต่ต้องจำใจไปแต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ได้รัก ทำให้ผมยังลืมเค้าไม่ได้ซักที ทุกวันนี้สงสารแฟนใหม่ผมมาก เพราะเธอช่างแสนดีกับผมเหลือเกิน ผมยังลืมเธอไม่ได้ และยังรู้สึกรักและอาวรณ์เธอ อยู่จริง ๆ และทุกวันนี้แฟนเก่าของผมก็ยังคงเจ็บปวด และรักผมอยู่เสมอมา

ผมต้องมีแนวคิดยังไง หรือต้องคิดแบบไหน เพื่อน ๆ มีคำดี ๆ หรือประสบการณ์ดี ๆ  ที่จะทำให้ปัญหาคาใจนี้มันจบลง ผมไม่อยากอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้วครับ ขอรบกวนผู้มีประสบการณ์ หรือเคยผ่านจุด ๆ นี้มา มาช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่