ผมเป็นนักลงทุน (เจ้าของเงิน) ไม่ใช่หมูในอวยให้กับตลาดหลักทรัพย์ หรือ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ
ผมเป็นลูกค้า มีสิทธิ์ที่จะเลือกตัดสินใจและชั่งใจว่าอะไรเป็นธรรม หรืออะไรไม่เป็นธรรมกับการลงทุนของผมเอง
สำหรับ tfex ผมเทรดเฉลี่ยอยู่ที่เดือนล่ะ 3,000 - 4,000 สัญญาต่อเดือน (เทรดหลายโบรกฯ) ได้หรือเสีย ผมรับได้ เพราะเราทำตัวเราเอง
แต่ในวันนี้เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องอัตราการวางหลักประกันของ tfex ที่จะต้องเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากเดิม 55,100 บาท ไปเป็น 76,000 บาท ผมได้ตระหนักเป็นอย่างดีแล้วว่า ผมขอหยุดเทรด(ไปก่อน) จนกว่าตลาดหลักทรัพย์ หรือ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ จะปรับลดอัตราการวางหลักประกันนี้เสียใหม่ให้กลับมาที่ 55,100 บาท หรือ 47,100 บาท หรือ 34,000 บาท (เหมือนเดิม)
ทำไมผมจึงรู้สึกไม่เป็นธรรมกับอัตราการวางหลักประกันใหม่นี้ ก่อนหน้านี้สัก 4-5 เดือนก่อนโดยประมาณ อัตราการวางหลักประกันอยู่ที่ 47,100 บาท โดยดัชนีค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นมาเรื่อย และมีการเพิ่มอัตราการวางหลักประกันของ tfex ไปเป็น 55,100 บาท โดยตอนนั้นดัชนีไทยอยู่บริเวณที่ 1,500 - 1,650 จุด การเพิ่มอัตราการวางหลักประกันของ tfex ไปเป็น 55,100 บาทนี้นั้นๆ ผมรู้สึกว่ามีเหตุผล(เป็นธรรม) เพราะดัชนีอยู่ในระดับสูงจึงต้องมีการเรียกเก็บอัตราการวางหลักประกันเพิ่ม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้า(Tfex) ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ รวมทั้งวันนี้ด้วย ดัชนีไทยลดระดับลงมาจากไฮน์เดิมมากกว่า 200 จุด โดยดัชนีอยู่ที่ 1,427.42 จุด แทนที่ตลาดหลักทรัพย์ หรือ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ จะปรับลดอัตราการวางหลักประกัน tfex ให้กับลูกค้าด้วยความเป็นธรรม แต่กลับเพิ่มอัตราการวางหลักประกันมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมมีความรู้สึกว่า ตรงจุดนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับผมที่เป็นนักลงทุน tfex
ปัจจุบัน พอร์ต tfex ของผม ได้ทำการสเปรด(ทั้ง 2 ฝั่ง) ไว้เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเทรด tfex ใดๆ ทั้งสิ้น ดัชนีจะขึ้นหรือลงก็ไม่เกี่ยวกับผลกำไรหรือขาดทุนของพอร์ต ผมจะกลับมาเทรดใหม่เมื่อท้องฟ้า "สว่าง-สดใส" ปัจจุบันนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลกับตลาดหลักทรัพย์บ้านเราในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปอบ ซึ่งมองเห็นไพ่ของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นไพ่ของต่างชาติ ไพ่ของกองทุน หรือไพ่ในมือรายย่อย และปอบก็เข้ามาร่วมเล่นไพ่กับเราด้วยทั้งที่มองเห็นไพ่ของเราหมดทุกใบ การกระทำเช่นนี้ ผมคิดว่ามีส่วนทำให้ตลาดหุ้นมีความผิดปกติเป็นอย่างมาก
ผมคิดว่า เมื่อเรารู้สึกไม่ชอบใจ ไม่พึงพอใจในกติกาของเขา เราก็กู๊ดบาย ไม่จำเป็นจะต้องฝืนใจตัวเองที่จะต้องเข้าไปร่วมเล่นในกติกาของเขา เขาก็ไม่ได้บังคับใจเราสักหน่อย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองที่จะมองหาความเหมาะสมในการลงทุน
Tfex ก็ไม่ต่างอะไรจากมูลค่าของหุ้น หากเรารู้สึกว่า pe สูงมากเกิน เราก็หยุดซื้อหยุดเทรดซะ ก็แค่นั้น ผมคงจะใช้เวลาที่มีไปลงทุนด้านอื่นๆ แทน ที่ไม่ใช่ Tfex
เป็นแค่ 1 ความคิดเห็นนะครับ ไม่การันตีว่าจะผิดหรือถูกต้อง ผมแค่มาแสดงความคิดเห็นต่อภาพรวมของ tfex
TFEX สัญญาล่ะ 76,000 บาท ผมจะหยุดเทรด (ปกติผมเทรดอยู่เดือนล่ะ 3-4 พันสัญญา/เดือน)
ผมเป็นลูกค้า มีสิทธิ์ที่จะเลือกตัดสินใจและชั่งใจว่าอะไรเป็นธรรม หรืออะไรไม่เป็นธรรมกับการลงทุนของผมเอง
สำหรับ tfex ผมเทรดเฉลี่ยอยู่ที่เดือนล่ะ 3,000 - 4,000 สัญญาต่อเดือน (เทรดหลายโบรกฯ) ได้หรือเสีย ผมรับได้ เพราะเราทำตัวเราเอง
แต่ในวันนี้เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องอัตราการวางหลักประกันของ tfex ที่จะต้องเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากเดิม 55,100 บาท ไปเป็น 76,000 บาท ผมได้ตระหนักเป็นอย่างดีแล้วว่า ผมขอหยุดเทรด(ไปก่อน) จนกว่าตลาดหลักทรัพย์ หรือ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ จะปรับลดอัตราการวางหลักประกันนี้เสียใหม่ให้กลับมาที่ 55,100 บาท หรือ 47,100 บาท หรือ 34,000 บาท (เหมือนเดิม)
ทำไมผมจึงรู้สึกไม่เป็นธรรมกับอัตราการวางหลักประกันใหม่นี้ ก่อนหน้านี้สัก 4-5 เดือนก่อนโดยประมาณ อัตราการวางหลักประกันอยู่ที่ 47,100 บาท โดยดัชนีค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นมาเรื่อย และมีการเพิ่มอัตราการวางหลักประกันของ tfex ไปเป็น 55,100 บาท โดยตอนนั้นดัชนีไทยอยู่บริเวณที่ 1,500 - 1,650 จุด การเพิ่มอัตราการวางหลักประกันของ tfex ไปเป็น 55,100 บาทนี้นั้นๆ ผมรู้สึกว่ามีเหตุผล(เป็นธรรม) เพราะดัชนีอยู่ในระดับสูงจึงต้องมีการเรียกเก็บอัตราการวางหลักประกันเพิ่ม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้า(Tfex) ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ รวมทั้งวันนี้ด้วย ดัชนีไทยลดระดับลงมาจากไฮน์เดิมมากกว่า 200 จุด โดยดัชนีอยู่ที่ 1,427.42 จุด แทนที่ตลาดหลักทรัพย์ หรือ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ จะปรับลดอัตราการวางหลักประกัน tfex ให้กับลูกค้าด้วยความเป็นธรรม แต่กลับเพิ่มอัตราการวางหลักประกันมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมมีความรู้สึกว่า ตรงจุดนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับผมที่เป็นนักลงทุน tfex
ปัจจุบัน พอร์ต tfex ของผม ได้ทำการสเปรด(ทั้ง 2 ฝั่ง) ไว้เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเทรด tfex ใดๆ ทั้งสิ้น ดัชนีจะขึ้นหรือลงก็ไม่เกี่ยวกับผลกำไรหรือขาดทุนของพอร์ต ผมจะกลับมาเทรดใหม่เมื่อท้องฟ้า "สว่าง-สดใส" ปัจจุบันนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลกับตลาดหลักทรัพย์บ้านเราในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปอบ ซึ่งมองเห็นไพ่ของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นไพ่ของต่างชาติ ไพ่ของกองทุน หรือไพ่ในมือรายย่อย และปอบก็เข้ามาร่วมเล่นไพ่กับเราด้วยทั้งที่มองเห็นไพ่ของเราหมดทุกใบ การกระทำเช่นนี้ ผมคิดว่ามีส่วนทำให้ตลาดหุ้นมีความผิดปกติเป็นอย่างมาก
ผมคิดว่า เมื่อเรารู้สึกไม่ชอบใจ ไม่พึงพอใจในกติกาของเขา เราก็กู๊ดบาย ไม่จำเป็นจะต้องฝืนใจตัวเองที่จะต้องเข้าไปร่วมเล่นในกติกาของเขา เขาก็ไม่ได้บังคับใจเราสักหน่อย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองที่จะมองหาความเหมาะสมในการลงทุน
Tfex ก็ไม่ต่างอะไรจากมูลค่าของหุ้น หากเรารู้สึกว่า pe สูงมากเกิน เราก็หยุดซื้อหยุดเทรดซะ ก็แค่นั้น ผมคงจะใช้เวลาที่มีไปลงทุนด้านอื่นๆ แทน ที่ไม่ใช่ Tfex
เป็นแค่ 1 ความคิดเห็นนะครับ ไม่การันตีว่าจะผิดหรือถูกต้อง ผมแค่มาแสดงความคิดเห็นต่อภาพรวมของ tfex