สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
หลักๆก็ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั่นแหละครับ
๑) จัดการงานดี หมายถึง การที่ภรรยาไม่ควรละเลยเวลาต้มข้าวต้มและหุงข้าวสวยเป็นต้น แล้วจัดการงานให้ดี ด้วยการทำความดีแก่สามีนั้นๆ อธิบายได้ว่า หน้าที่ในข้อนี้เรียกได้ว่า เป็นแม่เรือนที่ดี ดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบในบ้าน โดยสรุปคือ ดูแลชีวิตประจำวันของสามีและบุตรทั้งในยามปกติและยามเจ็บไข้
๒) สงเคราะห์คนข้างเคียงดี หมายถึง การสงเคราะห์บริชนด้วยความนับถือและด้วยการส่งข่าว เป็นต้น ชนผู้เป็นญาติของสามีและของตน ชื่อว่า บริชน อธิบายได้ว่า ญาติมิตรหรือใครก็ตามที่สามีรักใคร่นับถือ และเคยให้พึ่งพาอาศัยมาก่อน ควรอนุเคราะห์เกื้อกูลตามสภาพของบุคคล การสงเคราะห์นั้นมีอยู่ ๒ ทาง คือ ทางกำลังกาย และทางกำลังทรัพย์ ส่วนการสงเคราะห์อีกประการหนึ่งคือ??ารแสดงออกด้วยอัชฌาสัยไมตรีที่ไพเราะอ่อนหวาน และให้เกียรติ ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ให้ญาติมิตรของสามีรักใคร่เอ็นดู รวมถึงการรู้จักต้อนรับปฏิสันถารผู้มาเยือนด้วยดี ไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งน้ำคำและน้ำใจ อย่างนี้จึงเรียกว่ารู้จักสงเคราะห์คนข้างเคียงสามีด้วยดี
๓) ไม่ประพฤตินอกใจ คือ ไม่ทิ้งขว้างสามีแล้วปรารถนาชายอื่นแม้ด้วยใจ อธิบายได้ว่า ภรรยาที่ดีนั้นต้องมีธรรมหิริโอตตัปปะ จักต้องถนอมรักษาตนไม่ประพฤติลามกอนาจาร การเอาใจออกห่างไปคบชายอื่นนั้น เท่ากับกำหนดให้ตนเองและชายอื่น เป็นศัตรูกับสามีของตน ซึ่งในไม่ช้าก็จะนำพาชีวิตไปสู่ความตกต่ำ การทำตนเป็นคนกว้างขวางในหมู่ชายแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ แต่จะก่อให้เกิดการติฉินนินทาได้ ฉะนั้น ภรรยาที่ดีจึงต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสมกับชายอื่นทั้งหลาย แม้แต่คนในครอบครัว ยกเว้นแต่บุตรชายเท่านั้น
๔) รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ คือ ทรัพย์ที่สามีทำกสิกรรมและพาณิชยกรรมเป็นต้นแล้วนำมารักษาไว้ หมายถึง การดูแลรักษาทรัพย์ ซึ่งไม่ได้หมายเฉพาะการเก็บรักษาแต่อย่างเดียว แต่จะต้องรู้จักการบริหารจัดการทรัพย์นั้นด้วย คือรู้จักใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และรู้จักใช้ทรัพย์สร้างประโยชน์เพื่อให้เกิดความงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้น รู้จักเก็บทรัพย์ไว้ใช้ในยามจำเป็น และรู้จักแบ่งปันทรัพย์เพื่อใช้บำรุงรัฐ และใช้ในการสร้างบุญกุศลต่าง ๆ เป็นต้น
๕) ขยันไม่เกียจคร้านในกิจทั้งปวง คือ เป็นผู้ขยัน เป็นผู้ฉลาด มีความละเอียดลออในการจัดข้าวยาคูแลภัตร เป็นต้น หมายถึง ผู้เป็นภรรยาต้องไม่เกียจคร้าน ประพฤติตัวเหมือนหญิงที่ไม่มีครอบครัวบางพวก ที่ชอบนั่งอยู่กับที่ ยืนอยู่กับที่ แต่ภรรยาต้องเป็นผู้ที่หมั่นเอาใจใส่ในธุระ การงานของตน โดยเห็นสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ก็ตั้งความเพียรประกอบในสิ่งนั้นจนบรรลุความสำเร็จ ไม่ปล่อยให้เนินช้านานวันเพราะความเกียจคร้านด้วยเหตุประการต่าง ๆ เช่น หนาวเกินไป ร้อนเกินไป เย็นเกินไป ยังเช้าเกินไป กำลังหิวหรือยังอิ่มอยู่ เป็นต้น
๑) จัดการงานดี หมายถึง การที่ภรรยาไม่ควรละเลยเวลาต้มข้าวต้มและหุงข้าวสวยเป็นต้น แล้วจัดการงานให้ดี ด้วยการทำความดีแก่สามีนั้นๆ อธิบายได้ว่า หน้าที่ในข้อนี้เรียกได้ว่า เป็นแม่เรือนที่ดี ดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบในบ้าน โดยสรุปคือ ดูแลชีวิตประจำวันของสามีและบุตรทั้งในยามปกติและยามเจ็บไข้
๒) สงเคราะห์คนข้างเคียงดี หมายถึง การสงเคราะห์บริชนด้วยความนับถือและด้วยการส่งข่าว เป็นต้น ชนผู้เป็นญาติของสามีและของตน ชื่อว่า บริชน อธิบายได้ว่า ญาติมิตรหรือใครก็ตามที่สามีรักใคร่นับถือ และเคยให้พึ่งพาอาศัยมาก่อน ควรอนุเคราะห์เกื้อกูลตามสภาพของบุคคล การสงเคราะห์นั้นมีอยู่ ๒ ทาง คือ ทางกำลังกาย และทางกำลังทรัพย์ ส่วนการสงเคราะห์อีกประการหนึ่งคือ??ารแสดงออกด้วยอัชฌาสัยไมตรีที่ไพเราะอ่อนหวาน และให้เกียรติ ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ให้ญาติมิตรของสามีรักใคร่เอ็นดู รวมถึงการรู้จักต้อนรับปฏิสันถารผู้มาเยือนด้วยดี ไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งน้ำคำและน้ำใจ อย่างนี้จึงเรียกว่ารู้จักสงเคราะห์คนข้างเคียงสามีด้วยดี
๓) ไม่ประพฤตินอกใจ คือ ไม่ทิ้งขว้างสามีแล้วปรารถนาชายอื่นแม้ด้วยใจ อธิบายได้ว่า ภรรยาที่ดีนั้นต้องมีธรรมหิริโอตตัปปะ จักต้องถนอมรักษาตนไม่ประพฤติลามกอนาจาร การเอาใจออกห่างไปคบชายอื่นนั้น เท่ากับกำหนดให้ตนเองและชายอื่น เป็นศัตรูกับสามีของตน ซึ่งในไม่ช้าก็จะนำพาชีวิตไปสู่ความตกต่ำ การทำตนเป็นคนกว้างขวางในหมู่ชายแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ แต่จะก่อให้เกิดการติฉินนินทาได้ ฉะนั้น ภรรยาที่ดีจึงต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสมกับชายอื่นทั้งหลาย แม้แต่คนในครอบครัว ยกเว้นแต่บุตรชายเท่านั้น
๔) รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ คือ ทรัพย์ที่สามีทำกสิกรรมและพาณิชยกรรมเป็นต้นแล้วนำมารักษาไว้ หมายถึง การดูแลรักษาทรัพย์ ซึ่งไม่ได้หมายเฉพาะการเก็บรักษาแต่อย่างเดียว แต่จะต้องรู้จักการบริหารจัดการทรัพย์นั้นด้วย คือรู้จักใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และรู้จักใช้ทรัพย์สร้างประโยชน์เพื่อให้เกิดความงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้น รู้จักเก็บทรัพย์ไว้ใช้ในยามจำเป็น และรู้จักแบ่งปันทรัพย์เพื่อใช้บำรุงรัฐ และใช้ในการสร้างบุญกุศลต่าง ๆ เป็นต้น
๕) ขยันไม่เกียจคร้านในกิจทั้งปวง คือ เป็นผู้ขยัน เป็นผู้ฉลาด มีความละเอียดลออในการจัดข้าวยาคูแลภัตร เป็นต้น หมายถึง ผู้เป็นภรรยาต้องไม่เกียจคร้าน ประพฤติตัวเหมือนหญิงที่ไม่มีครอบครัวบางพวก ที่ชอบนั่งอยู่กับที่ ยืนอยู่กับที่ แต่ภรรยาต้องเป็นผู้ที่หมั่นเอาใจใส่ในธุระ การงานของตน โดยเห็นสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ก็ตั้งความเพียรประกอบในสิ่งนั้นจนบรรลุความสำเร็จ ไม่ปล่อยให้เนินช้านานวันเพราะความเกียจคร้านด้วยเหตุประการต่าง ๆ เช่น หนาวเกินไป ร้อนเกินไป เย็นเกินไป ยังเช้าเกินไป กำลังหิวหรือยังอิ่มอยู่ เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
ถามคุณผู้ชาย คุณอยากได้ผู้หญิงแบบไหนมาเป็นแม่ของลูกคุณคะ?
ขอบคุณค่ะ