คน เพียง ไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำครอบครองสินทรัพย์ 80%
ในขณะที่คนมากถึง 80 กว่า% ใด้ส่วนแบ่งแค่ 20
มันคือระบบทุนนิยมใช่หรือไม่ หรือมันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น
มาร์กซ์ทำนายว่าทุนนิยมจะล่มสลาย เหล่าชนชั้นกรรมมาชีพจะทนการดขี่ไม่ได้และลุกฮือขึ้นพร้อมๆกันเพื่อต่อต้านนายทุน และการปฏิวัติก็จะเกิดขึ้นเหมือนโดมิโน่จนครอบคลุมไปทั่วโลกครับ คล้ายๆกับที่ระบอบศักดินาไม่สามารถต้านกระแสทุนนิยมได้ และล่มสลายไปนั้นแล
สำหรับผม มาร์กซ์ทายไม่ผิดครับ เพียงแต่เวลานั้นมันยังไม่มาถึง
เนื่องจากพวกนายทุนพออ่านหลักการทางเศรษฐกิจของมาร์กซ์และการทำนายการล่มสลายของทุนนิยมแล้ว พวกเขาก็กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น เลยต้องทำการปรับปรุงเรื่องสิทธิและความเป็นอยู่ของพวกชนชั้นกรรมมาชีพเพื่อชะลอการลุกฮือออกไปครับ
แน่นอนว่าพวกเขาทำได้ระดับหนึ่ง พวกเขาแปรสภาพชนชั้นกรรมชีพที่ยากจนในยุโรปหรือประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ให้กลายเป็นแรงงานมีคุณภาพและกลายเป็นชนชั้่นกลาง แต่ถ้าทุกคนกลายเป็นชนชั้นกลางหมด จะเอาแรงงานคุณภาพต่ำ ค่าแรงถูกๆมาจากไหนเพื่อผลิตอุตสาหกรรมขั้นปฐมภูมิเท่า
คำตอบก็คือ การย้ายแหล่งการผลิตและทุน ออกไปยังดินแดนที่ล้าหลังกว่า ยากจนกว่า มีแรงงานราคาถูกเยอะๆครับ หรือพูดง่ายๆก็คือ พวกเขาย้ายการกดขี่ไปยังดินแดนอื่นๆ หาชนชั้นกรรมชีพใหม่มาทำการกดขี่ และแบ่งปันผลประโยชน์ระดับเศษเสี้ยวแก่ชนชั้่นกลางในประเทศ พร้อมๆกับขายความฝันว่า หากพวกท่านทำงานอย่างแข็งขันและซื่อตรงแล้วไซ้ร้ ซักวันก็จะมีกินมีใช้เหมือนชนชั้นกลางในเมืองแม่ของพวกเขาครับ
แต่ในความเป็นจริง ทุนนิยมมันทำให้ทุกคนมีกินมีใช้ไม่ได้ แค่แย่งชิงปัจจัยในการบริโภคและดำรงชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง ไปบำเรอแก่อีกคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และโชคร้ายที่คนที่ถูกแย่งชิงเป็นประชากรส่วนใหญ่ของโลก ต้องทำงานหน้าสู้ฟ้าหลังสู้ดินเพื่อมอบผลประโยชน์ที่พวกเขาลงทุนลงแรงให้แก่ชนกลุ่มที่กดขี่ซึ่งมีประชากรแค่หยิบมือเดียว
ว่าด้วยเรื่องกฎ 80/20 ของคนส่วนน้อยถือครองทรัพย์ส่วนใหญ่
ในขณะที่คนมากถึง 80 กว่า% ใด้ส่วนแบ่งแค่ 20
มันคือระบบทุนนิยมใช่หรือไม่ หรือมันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น
มาร์กซ์ทำนายว่าทุนนิยมจะล่มสลาย เหล่าชนชั้นกรรมมาชีพจะทนการดขี่ไม่ได้และลุกฮือขึ้นพร้อมๆกันเพื่อต่อต้านนายทุน และการปฏิวัติก็จะเกิดขึ้นเหมือนโดมิโน่จนครอบคลุมไปทั่วโลกครับ คล้ายๆกับที่ระบอบศักดินาไม่สามารถต้านกระแสทุนนิยมได้ และล่มสลายไปนั้นแล
สำหรับผม มาร์กซ์ทายไม่ผิดครับ เพียงแต่เวลานั้นมันยังไม่มาถึง
เนื่องจากพวกนายทุนพออ่านหลักการทางเศรษฐกิจของมาร์กซ์และการทำนายการล่มสลายของทุนนิยมแล้ว พวกเขาก็กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น เลยต้องทำการปรับปรุงเรื่องสิทธิและความเป็นอยู่ของพวกชนชั้นกรรมมาชีพเพื่อชะลอการลุกฮือออกไปครับ
แน่นอนว่าพวกเขาทำได้ระดับหนึ่ง พวกเขาแปรสภาพชนชั้นกรรมชีพที่ยากจนในยุโรปหรือประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ให้กลายเป็นแรงงานมีคุณภาพและกลายเป็นชนชั้่นกลาง แต่ถ้าทุกคนกลายเป็นชนชั้นกลางหมด จะเอาแรงงานคุณภาพต่ำ ค่าแรงถูกๆมาจากไหนเพื่อผลิตอุตสาหกรรมขั้นปฐมภูมิเท่า
คำตอบก็คือ การย้ายแหล่งการผลิตและทุน ออกไปยังดินแดนที่ล้าหลังกว่า ยากจนกว่า มีแรงงานราคาถูกเยอะๆครับ หรือพูดง่ายๆก็คือ พวกเขาย้ายการกดขี่ไปยังดินแดนอื่นๆ หาชนชั้นกรรมชีพใหม่มาทำการกดขี่ และแบ่งปันผลประโยชน์ระดับเศษเสี้ยวแก่ชนชั้่นกลางในประเทศ พร้อมๆกับขายความฝันว่า หากพวกท่านทำงานอย่างแข็งขันและซื่อตรงแล้วไซ้ร้ ซักวันก็จะมีกินมีใช้เหมือนชนชั้นกลางในเมืองแม่ของพวกเขาครับ
แต่ในความเป็นจริง ทุนนิยมมันทำให้ทุกคนมีกินมีใช้ไม่ได้ แค่แย่งชิงปัจจัยในการบริโภคและดำรงชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง ไปบำเรอแก่อีกคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และโชคร้ายที่คนที่ถูกแย่งชิงเป็นประชากรส่วนใหญ่ของโลก ต้องทำงานหน้าสู้ฟ้าหลังสู้ดินเพื่อมอบผลประโยชน์ที่พวกเขาลงทุนลงแรงให้แก่ชนกลุ่มที่กดขี่ซึ่งมีประชากรแค่หยิบมือเดียว