กลับมาอีกครั้งกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายดีซี หลังจากที่ปล่อยให้ค่ายมาร์เวลชิงตลาดไปนักต่อนักแล้ว และการมาครั้งนี้เป็นถึงซุปเปอร์ฮีโร่ระดับต้น ๆของโลก นั่นก็คือซุปเปอร์แมน ซึ่งในภาคนี้ต้องการจับมาปัดฝุ่นใหม่โดยการเริ่มต้นตั้งแต่รากเหง้าของเรื่องให้มีเนื้อหาคล้าย ๆกับจุดเริ่มต้นในเรื่อง batman begin ของ Christopher Nolan ซึ่งรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับซุปเปอร์แมนภาคนี้ด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าย่อมต้องสร้างความคาดหวังให้กับผู้ชมได้อย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งผมจะขอรีวิวเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของเนื้อเรื่อง และในส่วนของฉากแอคชั่นและ CG ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เรียกว่าจัดเต็มกันมาเลยทีเดียวไม่เสียชื่อของผู้กำกับอย่าง Zack Snyder ที่มีจุดเด่นในเรื่องภาพและแง่ของ visual effect และ CG ใหญ่ ๆอย่าง 300
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มีการเล่าเรื่องแบบ flashback คือตัดสลับเหตุการณ์และเล่าเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง แต่ทว่ากลับนำวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้มาทำได้ไม่สุดทาง คือหนังดำเนินไป 1 2 3 ยังไม่ถึง 10 ถึงแค่ 6 7 ก็ตัดไปอีกฉากหนึ่ง ทำให้อารมณ์ที่เรากำลังอินกับมันต้องสะดุดไป และ score ที่นำมาประกอบหนังเพื่อตัดไปยังฉากถัดไปเรียกว่าดูจะฝืน ๆและตัดอารมณ์ผู้ชมกันไปเลย ซึ่งหนังบางเรื่องที่ฉากที่ตัดไม่สอดคล้องกัน สามารถใช้ score มาทดแทนได้ จึงทำให้ฉากที่กะจะเรียกน้ำตา หรือดื่มด่ำกับความสามารถของคล๊ากก็สะดุดไป ส่วนตัวบทตามความเห็นผมคิดว่ายังมีช่องโหว่อยู่มากเลยทีเดียว บางฉากไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็พอผ่านไปได้
รีวิวเนื้อเรื่องแบบสปอยด์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. ฉากที่ดาวคริปตัน ในเมื่อดาวจะแตกอยู่แล้ว ทำไมไม่อพยพตามที่นายพลซ๊อดแนะนำ แต่กลับยอมตาย แถมไม่พอแทนที่อุตส่าห์จับนายพลซ๊อดและพรรคพวกได้ แต่กลับปล่อยตัวไปซะอย่างนั้น กลายเป็นว่านายพลซ๊อดและพรรคพวกรอด แต่คนทั้งดาวตายแทน
2. ดูท่าโจเอลจะแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโลกมาก จนยอมให้ตัวเอง เมียและชาวดาวคลิปตันตายได้ แต่กลับส่งลูกไปที่โลกเพื่อไปเป็นเทพผู้ปกปักรักษาบนโลกมนุษย์
3. ฉากที่คล๊ากได้รับชุด ดูเหมือนโจเอลจะจงใจเกินไปหรือเปล่า ทำให้การจะมาสวมบทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ดูแล้วขาดน้ำหนักไปพอสมควร นี่ยังไม่รวมถึงพอได้ชุดปุ๊ป หนวดเคราหายหมด แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่เข้าใจย้อนกลับไปอ่านข้อ 2
4. ฉากที่โจเอลปรากฎตัวแว๊ป ๆบนโลก ดูแล้วมันช่างน่าตลกมากกว่า แทนที่จะทำเป็นวิดีโอล๊อกก็พอมั้ง แค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
5. ฉากที่คล๊ากถูกนายพลซ๊อดเรียกไปขึ้นยาน ซึ่งอยู่ระหว่างที่คล๊ากกำลังสับสนว่าจะไปหรือไม่ไปดี ทำไมต้องไปถามความเห็นจากบาทหลวง แทนที่จะไปถามความเห็นจากแม่ของเค้า ผู้ซึ่งเลี้ยงดูปูเสื่อเค้ามาพร้อมกับพ่อของเค้าที่ยอมอุทิศชีวิตในการปกป้องลูกของเค้าเอง น่าจะมีข้อคิดที่ซึ้ง ๆมากกว่านี้ก่อนที่ถึงฉากเปิดตัว จะดูอลังการมากกว่านะ เช่น
คล๊าก : “ผมควรจะทำยังไงดีครับ”
แม่ : “การที่พ่อพยายามปกป้องลูกให้ดำเนินชีวิตแบบคนปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงภยันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากมนุษย์ดัวยกันเอง แต่ครานี้อาจจะถึงเวลาแล้วที่ลูกจะต้องก้าวออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยใช้พลังวิเศษที่พระเจ้าได้ประทานมาให้ เพื่อปกป้องเหล่ามวลมนุษยชาติอันจะนำความสงบสุขบังเกิดแก่โลกของเราอีกครั้ง”
6. คล๊ากให้ความช่วยเหลือมนุษย์มาแล้วตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ฐานขุดเจาะน้ำมัน หรือตั้งแต่วัยเด็กที่เค้าช่วยเหลือเพื่อน ๆ จากรถบัสตกน้ำ แต่ไม่ยักกะเป็นข่าว ต้องรอให้ลูอิส มาเจอกับตัวเองถึงเป็นข่าว แน่ละเค้าเป็นนักข่าวนี่ แต่เรื่องเหนือมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องถึงนักข่าวก็ได้ (แต่ถ้าไม่ให้ลูอิสบอกแล้วลูอิสจะมีบทบาทยังไงล่ะ เอ่อเนอะ) แถมไม่พอฉากที่พ่อบุญธรรมเค้าตาย ในเมื่อเคยช่วยมนุษย์มาตั้งเยอะแล้ว ช่วยพ่ออีกซักคนจะเป็นไรไป แต่ยอมรับว่าฉากนี้ซึ้งครับ
7. ฉากที่คล๊ากยอมถูกจับโดยทหาร แล้วทำไมให้ลูอิสที่เป็นนักข่าวเข้าไปคุยได้ ทำไมไว้ใจลูอิสขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วพวกทหาร นักวิทยาศาสตร์ พนักงานสอบสวน หรือพวกนายใหญ่นายโต ไปไหนหมด นี่มันวาระระดับโลกนะครับ
8. พอคล๊ากยินยอมไปกับนายพลซ๊อดแล้ว ทำไมนายพลซ๊อดต้องให้พาลูอิสไปด้วย ไม่เข้าใจ เรียกไปแล้วก็ไม่เห็นจะให้ทำไร แต่ถ้าลูอิสไม่ไปคล๊ากอาจจะตายไปแล้วก็ได้ คนเขียนบทคงกะให้ลูอิสไปช่วยคล๊ากออกมากระมัง
9. ฉากหัดบินหลังจากได้ชุดแล้ว พูดตรง ๆว่าดูตลกมาก (ประชด) เหมือนกับ John Carter ยังไงยังงั้น
10. นายพลซ๊อดเมื่อได้รับสัญญาณที่คล๊ากเปิด จึงเดินทางมายังโลก พร้อมด้วยความแค้น 33 ปีที่เฝ้ารอ คนบ้าไรจะแค้นขนาดนั้น ไม่ไปทำอะไรอย่างอื่นดีกว่าไหม อุดมการ์ณสุดยอดจริง ๆ แต่ติดใจนิดนึงคือ 33 ปีนี่เวลาโลกนะ แกรู้ได้ยังไงว่าโลกใช้หน่วยเป็นปี แถมไม่พอยังบอกให้คล๊ากมามอบตัวกับเค้าภายใน 24 ชั่วโมง โหสุดยอดมาก รู้สึกจะแอบมีความผูกพันกับโลกคล้าย ๆกับโจเอลหรือเปล่า หรือว่าสองคนนี้จะเป็นคู่จิ้นกัน โอ้ไม่ ๆๆๆ
11. ฉากวางแผนเพื่อทำลายเครื่องจักรสร้างเมือง พวกทหารกระทรวง คิดกันไม่เป็นหรือยังไง พอคล๊ากพูดจบปุ๊ปโอเคเซเยสทันที อารมณ์ประมาณว่าแล้วแต่เถอะ ยังไงกูก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
12. ฉากตึกถล่มทลายแทบจะทั้งเมืองแล้วมั้ง แต่ตอนท้ายคล๊ากยังสมัครมาทำงานที่เดลิแพลเนตได้ อ้าวตึกถล่มไปแล้วไม่ใช่เหรอ สร้างไวจัง เอ๊ หรือว่าซุปเปอร์แมนเป็นคนสร้างเพราะสำนึกผิดจึงคิดจะไถ่บาปของตัวเอง ว่าแต่คนตายไปไม่รู้กี่คนแล้วละนั่น คล๊ากจะรู้หรือเปล่า จะมีการสอบสวนทีหลังไหม หรือว่าแค่เสียใจตอนที่นายพลซ๊อดตายแค่นั้น ไม่เข้าใจว่าตอนซ๊อดตายแกจะตะโกนทำไม
13. ตัวละคร หลาย ๆตัว ไม่ค่อยมีมิติ เหมือนแค่ตัวประกอบเท่านั้น เหมือนแค่ให้เรารู้ว่ามีตัวละครนี้อยู่นะ ในใจก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะยังเป็นภาคแรกอยู่ เรื่องราวส่วนใหญ่จึงอยู่กับตัวพระเอกหมดเลย ก็อย่างว่าครับ การจะทำให้ตัวละครหลักที่มีพลังเหนือมนุษย์และแทบจะเหนือกว่ายอดมนุษย์ด้วยกันเอง ให้มาอาศัยอยู่ในโลกปัจจุบัน โลกแห่งความเป็นจริง การเขียนบทคงยากน่าดู ก็มาลุ้นต่อภาคหน้าหรือ JTL น่าจะดีกว่านี้นะครับ
(คะแนนส่วนเนื้อเรื่อง 5/10)
ในส่วนของฉากแอคชั่นและ CG ขอบอกว่าตั้งแต่ดูภาพยนตร์แนวนี้มาพึ่งจะเคยเห็นงานแอคชั่น CG อลังการถล่มทลายมาก ๆและมาแบบจัดเต็ม เต็มอิ่ม ตื่นตา ตื่นใจมาก แม้ว่าหลาย ๆฉากจะทำให้เราระลึกถึงหนังเก่า ๆหลาย ๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น avatar, star war, avenger, transformer, the matrix, dragon ball Z (อ่ะ จริง ๆ) หรือแม้แต่เรื่อง 300 ของผู้กำกับเอง แต่ก็ดูจัดหนักเต็มพิกัดมาก เรียกว่ามีอะไรก็ใส่เข้ามาเต็มอิ่ม คุ้มค่าสุด ๆ
(คะแนนส่วนฉากแอคชั่นและ CG 10/10)
โดยรวมแล้วให้ 7.5/10
ปล. ชอบ original score ของ hans zimmer ตอนท้ายมากซึ่งนำไปใช้ใน trailer ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะเป็น theme ของ superman เลยหรือเปล่า
รีวิว Man of Steel (Spoil) แบบจับผิด
กลับมาอีกครั้งกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายดีซี หลังจากที่ปล่อยให้ค่ายมาร์เวลชิงตลาดไปนักต่อนักแล้ว และการมาครั้งนี้เป็นถึงซุปเปอร์ฮีโร่ระดับต้น ๆของโลก นั่นก็คือซุปเปอร์แมน ซึ่งในภาคนี้ต้องการจับมาปัดฝุ่นใหม่โดยการเริ่มต้นตั้งแต่รากเหง้าของเรื่องให้มีเนื้อหาคล้าย ๆกับจุดเริ่มต้นในเรื่อง batman begin ของ Christopher Nolan ซึ่งรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับซุปเปอร์แมนภาคนี้ด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าย่อมต้องสร้างความคาดหวังให้กับผู้ชมได้อย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งผมจะขอรีวิวเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของเนื้อเรื่อง และในส่วนของฉากแอคชั่นและ CG ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เรียกว่าจัดเต็มกันมาเลยทีเดียวไม่เสียชื่อของผู้กำกับอย่าง Zack Snyder ที่มีจุดเด่นในเรื่องภาพและแง่ของ visual effect และ CG ใหญ่ ๆอย่าง 300
ในส่วนของเนื้อเรื่อง มีการเล่าเรื่องแบบ flashback คือตัดสลับเหตุการณ์และเล่าเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง แต่ทว่ากลับนำวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้มาทำได้ไม่สุดทาง คือหนังดำเนินไป 1 2 3 ยังไม่ถึง 10 ถึงแค่ 6 7 ก็ตัดไปอีกฉากหนึ่ง ทำให้อารมณ์ที่เรากำลังอินกับมันต้องสะดุดไป และ score ที่นำมาประกอบหนังเพื่อตัดไปยังฉากถัดไปเรียกว่าดูจะฝืน ๆและตัดอารมณ์ผู้ชมกันไปเลย ซึ่งหนังบางเรื่องที่ฉากที่ตัดไม่สอดคล้องกัน สามารถใช้ score มาทดแทนได้ จึงทำให้ฉากที่กะจะเรียกน้ำตา หรือดื่มด่ำกับความสามารถของคล๊ากก็สะดุดไป ส่วนตัวบทตามความเห็นผมคิดว่ายังมีช่องโหว่อยู่มากเลยทีเดียว บางฉากไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็พอผ่านไปได้
รีวิวเนื้อเรื่องแบบสปอยด์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(คะแนนส่วนเนื้อเรื่อง 5/10)
ในส่วนของฉากแอคชั่นและ CG ขอบอกว่าตั้งแต่ดูภาพยนตร์แนวนี้มาพึ่งจะเคยเห็นงานแอคชั่น CG อลังการถล่มทลายมาก ๆและมาแบบจัดเต็ม เต็มอิ่ม ตื่นตา ตื่นใจมาก แม้ว่าหลาย ๆฉากจะทำให้เราระลึกถึงหนังเก่า ๆหลาย ๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น avatar, star war, avenger, transformer, the matrix, dragon ball Z (อ่ะ จริง ๆ) หรือแม้แต่เรื่อง 300 ของผู้กำกับเอง แต่ก็ดูจัดหนักเต็มพิกัดมาก เรียกว่ามีอะไรก็ใส่เข้ามาเต็มอิ่ม คุ้มค่าสุด ๆ
(คะแนนส่วนฉากแอคชั่นและ CG 10/10)
โดยรวมแล้วให้ 7.5/10
ปล. ชอบ original score ของ hans zimmer ตอนท้ายมากซึ่งนำไปใช้ใน trailer ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะเป็น theme ของ superman เลยหรือเปล่า