การเล่าเรื่องโดยภาพและการจัดแสงในเรื่องไปในโทนTragedyมากกว่าDrama เข้าใจว่าต้องการให้ละครออกมาเป็นโทนCinematic และเจตนาของผู้กำกับก็ต้องการให้ผู้ชมเข้าดูเข้าไปในห้วงหนักหน่วงความรู้สึกอินเนอร์ของตัวละคร แต่เรากลับรู้สึกอึนมากกว่าอิน
สี่เรื่องที่ผ่านมาเป็นเหมือนSweet-Sugarที่เดินขนานกับเส้นดราม่า ดูแล้วมีความเป็นRomanceสอดไส้กับMelodramaได้อย่างละลายลิ้น แต่โทนเรื่องรณพีร์นั้นเคลือบด้วยดราม่าหนามากจนความกลมกล่อมหายไป เหมือนลูกอมชนิดหนึ่งสมัยก่อน ที่อาจจะต้องอมความเปรี้ยวนานหน่อยจนกว่าจะเจอหวานในซึ่งมีอยู่นิดเดียว
ในลักษณะของเนื้องานด้านมุมมองภาพครั้งนี้ คุณนกทำออกมาดีมาก เหมือนกำลังนั่งดูหนังเรื่อง ปาดังเบซาร์ หรือรักน้อยนิดมหาศาล นี่คือโฉมหน้าใหม่ของการถ่ายแบบภาพยนตร์ละครโทรทัศน์ ซึ่งเคยชอบมากตอน"รากบุญ "
ลายเซ็นโทนละครรณพีร์มาแบบในฉบับเมตตามหานิยมที่เราเห็นใน"ตะวันเดือด" หรือ"เหนือเมฆ" แต่ด้วยเนื้อเรื่องของละครคุณชายรณพีร์มันไม่ถึงขนาดโทนนี้ จริงอยู่ว่ามันคือบทสรุปและความกดดันของของข้อสัญญาระหว่างสองตระกูล จนทำให้วิไลรัมภาต้องทำอะไรในแบบนั้นที่ทุกคนก็รู้ดี ซึ่งสีแสงกับการเล่าเรื่องของภาพ มันเหมือนกำลังดูละคร TragedyหรือHorrorมากกว่า โทนแบบนี้เหมาะมากกับละครเรื่อง"ล่า" "ปราสาทมืด" "นวลฉวี"
สุดท้ายนี้จะรอดูภาพและแสงแบบนี้อีกในละครเรื่องต่อไปของเมตตามหานิยม อยากจะเสนอให้คุณนกฉัตรให้คุณนกสินทำเรื่อง"ล่า" หรือ"เจ้ากรรมนายเวร" รับรองการลำดับภาพและเทคนิคภาพกินขาดละครเรื่องอีกแน่นอน
ปล.นี่คือความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ขึ้นอยู่กับจริตคนดู แต่ชอบบุคลิกรณพีร์ในตอนคุณชายทั้งอื่นมากกว่า
'วังจุฑาเทพ' หรือ 'ปราสาทมืด'
สี่เรื่องที่ผ่านมาเป็นเหมือนSweet-Sugarที่เดินขนานกับเส้นดราม่า ดูแล้วมีความเป็นRomanceสอดไส้กับMelodramaได้อย่างละลายลิ้น แต่โทนเรื่องรณพีร์นั้นเคลือบด้วยดราม่าหนามากจนความกลมกล่อมหายไป เหมือนลูกอมชนิดหนึ่งสมัยก่อน ที่อาจจะต้องอมความเปรี้ยวนานหน่อยจนกว่าจะเจอหวานในซึ่งมีอยู่นิดเดียว
ในลักษณะของเนื้องานด้านมุมมองภาพครั้งนี้ คุณนกทำออกมาดีมาก เหมือนกำลังนั่งดูหนังเรื่อง ปาดังเบซาร์ หรือรักน้อยนิดมหาศาล นี่คือโฉมหน้าใหม่ของการถ่ายแบบภาพยนตร์ละครโทรทัศน์ ซึ่งเคยชอบมากตอน"รากบุญ "
ลายเซ็นโทนละครรณพีร์มาแบบในฉบับเมตตามหานิยมที่เราเห็นใน"ตะวันเดือด" หรือ"เหนือเมฆ" แต่ด้วยเนื้อเรื่องของละครคุณชายรณพีร์มันไม่ถึงขนาดโทนนี้ จริงอยู่ว่ามันคือบทสรุปและความกดดันของของข้อสัญญาระหว่างสองตระกูล จนทำให้วิไลรัมภาต้องทำอะไรในแบบนั้นที่ทุกคนก็รู้ดี ซึ่งสีแสงกับการเล่าเรื่องของภาพ มันเหมือนกำลังดูละคร TragedyหรือHorrorมากกว่า โทนแบบนี้เหมาะมากกับละครเรื่อง"ล่า" "ปราสาทมืด" "นวลฉวี"
สุดท้ายนี้จะรอดูภาพและแสงแบบนี้อีกในละครเรื่องต่อไปของเมตตามหานิยม อยากจะเสนอให้คุณนกฉัตรให้คุณนกสินทำเรื่อง"ล่า" หรือ"เจ้ากรรมนายเวร" รับรองการลำดับภาพและเทคนิคภาพกินขาดละครเรื่องอีกแน่นอน
ปล.นี่คือความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ขึ้นอยู่กับจริตคนดู แต่ชอบบุคลิกรณพีร์ในตอนคุณชายทั้งอื่นมากกว่า