จากมติชนออนไลน์
ยังคงเป็นเรื่องที่ทำให้นางเอกสาว "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธาอภินันท์" หายใจไม่ทั่วท้อง หลังจากหนุ่มโรคจิตยังตามเฝ้าไม่เลิกรา จนนางเอกสาวจำเป็นต้องใช้คำขู่ หากว่าหนุ่มคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจอีก ก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว
"คือจริงๆ
เขาก็มาปฏิเสธกับเชียร์ทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กว่าทำไมเรียกเขาไอ้โรคจิต ก็ไม่ได้อยากจะเรียกอะไรแบบนั้น เพียงแต่คุณเป็นคนที่คุยด้วยไม่รู้เรื่องแล้ว ในจุดนี้คือเรามีการคุยอย่างประนีประนอมเยอะมาก ล่าสุดที่มีข่าวว่ามาถึงบ้านเราก็พูดกันดีๆ แต่ตอนนี้ก็ยังมาหาอีก ก็ไม่รู้ว่าจะคิดถึงอะไรขนาดนั้น คือเขาก็ยังมาหาที่ทำงานค่ะ ตอนนั้นทำอยู่คลื่นวิทยุซึ่งเขาก็เข้ามา แต่วันนั้นเราไม่ได้เจอเพราะเรากำลังทำงาน เพียงแต่เป็นการบอกกล่าวจากพี่ๆ ทหาร ก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆ เขาที่ช่วยดูแลตรงนี้ แต่จริงๆ แล้วก็อยากจะให้คุยกันรู้เรื่อง คือเราคุยกันดีๆ แล้วก็อยากให้เข้าใจกันด้วยดี"
ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าได้ดำเนินการอะไรไว้บ้างไหมนั้น เชียร์กล่าวว่า
"ก็เห็นมีคนพูดตักเตือนแล้ว
คือเชียร์เห็นว่าเขามีไปถึงคนอื่นๆ ด้วย อย่าง น้องมะนาว (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) หรือคนอื่นๆ เชียร์ก็ไม่รู้ว่าเขามาในรูปแบบไหน แต่ของเชียร์นี่เขาก็ยังคงมาหา มาเจออยู่ค่ะ อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จริงๆ แล้วทางตำรวจเราก็เคยแจ้งไปแล้วแต่ว่าถ้าเราดำเนินการมาขั้นหนึ่งแล้วยังไม่ได้ผลก็คงต้องเด็ดขาดกว่านั้นค่ะ"
แต่เชียร์ก็กล่าวว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาแสดงกิริยาไม่เหมาะสมหรือรุนแรงใดๆ แต่มีการพูดคุยเหมือนสร้างเรื่องราวไปเอง
"แต่เขาก็ไม่ได้มาแสดงกิริยาอะไรที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม
แต่ในการพูดคุยกันเหมือนมีการสร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง ซึ่งเราก็ยืนยันไปแล้วว่าเราไม่ได้มีอะไรเพราะเราไม่ได้รู้จักกันเลย
เขาบอกเหมือนรอเคลียร์อะไรกับเชียร์มานาน 2-3 ปี ซึ่งไม่ต้องมาจิ้นกันเองก็ได้นะคะ คือพอตรงนี้ดีกว่า ถ้าเกิดการเตือนในครั้งนี้แล้วยังจะมาหาหรือมาวุ่นวายอะไรกับเราอยู่ก็คงต้องเด็ดขาดแล้วนะ"
ไม่แค่ขู่อีกต่อไป "เชียร์" จัดการขั้นเด็ดขาดกับ หนุ่มโรคจิต!?
ยังคงเป็นเรื่องที่ทำให้นางเอกสาว "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธาอภินันท์" หายใจไม่ทั่วท้อง หลังจากหนุ่มโรคจิตยังตามเฝ้าไม่เลิกรา จนนางเอกสาวจำเป็นต้องใช้คำขู่ หากว่าหนุ่มคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจอีก ก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว
"คือจริงๆ เขาก็มาปฏิเสธกับเชียร์ทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กว่าทำไมเรียกเขาไอ้โรคจิต ก็ไม่ได้อยากจะเรียกอะไรแบบนั้น เพียงแต่คุณเป็นคนที่คุยด้วยไม่รู้เรื่องแล้ว ในจุดนี้คือเรามีการคุยอย่างประนีประนอมเยอะมาก ล่าสุดที่มีข่าวว่ามาถึงบ้านเราก็พูดกันดีๆ แต่ตอนนี้ก็ยังมาหาอีก ก็ไม่รู้ว่าจะคิดถึงอะไรขนาดนั้น คือเขาก็ยังมาหาที่ทำงานค่ะ ตอนนั้นทำอยู่คลื่นวิทยุซึ่งเขาก็เข้ามา แต่วันนั้นเราไม่ได้เจอเพราะเรากำลังทำงาน เพียงแต่เป็นการบอกกล่าวจากพี่ๆ ทหาร ก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆ เขาที่ช่วยดูแลตรงนี้ แต่จริงๆ แล้วก็อยากจะให้คุยกันรู้เรื่อง คือเราคุยกันดีๆ แล้วก็อยากให้เข้าใจกันด้วยดี"
ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าได้ดำเนินการอะไรไว้บ้างไหมนั้น เชียร์กล่าวว่า
"ก็เห็นมีคนพูดตักเตือนแล้ว คือเชียร์เห็นว่าเขามีไปถึงคนอื่นๆ ด้วย อย่าง น้องมะนาว (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) หรือคนอื่นๆ เชียร์ก็ไม่รู้ว่าเขามาในรูปแบบไหน แต่ของเชียร์นี่เขาก็ยังคงมาหา มาเจออยู่ค่ะ อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จริงๆ แล้วทางตำรวจเราก็เคยแจ้งไปแล้วแต่ว่าถ้าเราดำเนินการมาขั้นหนึ่งแล้วยังไม่ได้ผลก็คงต้องเด็ดขาดกว่านั้นค่ะ"
แต่เชียร์ก็กล่าวว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาแสดงกิริยาไม่เหมาะสมหรือรุนแรงใดๆ แต่มีการพูดคุยเหมือนสร้างเรื่องราวไปเอง
"แต่เขาก็ไม่ได้มาแสดงกิริยาอะไรที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม แต่ในการพูดคุยกันเหมือนมีการสร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง ซึ่งเราก็ยืนยันไปแล้วว่าเราไม่ได้มีอะไรเพราะเราไม่ได้รู้จักกันเลย เขาบอกเหมือนรอเคลียร์อะไรกับเชียร์มานาน 2-3 ปี ซึ่งไม่ต้องมาจิ้นกันเองก็ได้นะคะ คือพอตรงนี้ดีกว่า ถ้าเกิดการเตือนในครั้งนี้แล้วยังจะมาหาหรือมาวุ่นวายอะไรกับเราอยู่ก็คงต้องเด็ดขาดแล้วนะ"