ตำรวจนครปฐมรวบ 2 หนุ่มโฉด ช็อตไฟฟ้าดักอุ้มนักศึกษาสาวขึ้นรถ - พบภาพเหยื่อหลายราย!

ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เวลาประมาณ 17.30 น. วันที่  14  มิ.ย. พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ ผกก.สภ.พุทธมณฑล  พ.ต.ท.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ รองผกก.ป. สภ.พุทธมณฑล พร้อมกำลัง ร่วมกันคุมตัว นายวรชิต หรือแชมป์ ม่วงงาม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่  ถนนประดิพัทธิ เขตดุสิต กทม. กับ นายแจ๊ค อายุ 17 ปี (นามสมมติ) สองผู้ต้องหา พร้อมของกลางรถยนต์ เก๋งฮอนด้า รุ่น ฟรีดสีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กว 6455 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน วิทยุสื่อสาร  2 ตัว  อาวุธปืนสั้นปลอม 2 กระบอก แม็กกาซีน 1 อัน อาวุธปืนสั้น 1 ขนาด .357 นิ้ว 1 กระบอก กุญแจมือ 1 คู่ สเปรย์พริกไทย  เครื่องกระสุนปืน  ขนาด.357 นิ้ว 6  นัด  และหนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปืน ขนาด . 357  ไปชึ้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ร่วมกันจับกุมได้ โดยมีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาสาว และอดีตนักศึกษาสาว ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นผู้เสียหาย




คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงค่ำวันที่ 8 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และน.ส.หญิง (นามสมมุติ ) อายุ 22 ปี พนักงานบริษัท ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล ว่าถูกคนร้าย ขับรถยนต์ เก๋งฮอนด้า รุ่น ฟรีดสีขาวจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้คนขับเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมกางเกงขายาว เสื้อแจ็คเก๊ตเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้จนได้รับบาดเจ็บและพยายามจะอุ้มขึ้นรถ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมีพลเมืองดีมาช่วยไว้ได้ก่อน  จึงสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามคนร้าย




นางสาวเอ (นามสมมุติ) สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้เสียหาย ระบุว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณทุ่มเศษ ตนได้เดินเข้าไปในซอย 9 ม.บ้านศาลายาวิลล่า ม.6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อไปหอพักของเพื่อนชาย ขณะเดินอยู่โดยที่ไม่ทันระวังตัวได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น รูปร่างสูงใหญ่ สวมใส่เสื้อแจ๊คเก็ตเดินเข้ามาใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ พยายามฉุดกระชากขึ้นไปบนรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟรีด สีขาว ที่จอดติดเครื่องรออยู่บริเวณใกล้เคียง แต่ตนพยายามขัดขืน คนร้ายจึงได้ทุบที่ไหล่ของตน ก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า ช็อตที่ลำตัวน แต่ตนก็ฮึดสู้และพยายามร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยเลยทั้ง ๆ ที่มีคนเห็นตั้งหลายคน ตนก็พยายามร้อง  คนร้ายตะโกนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตที่บริเวณสีข้าง และลำตัวนับสิบครั้ง จนตัวเองทรุดลงไปข้างรถยนต์ของคนร้ายที่จอดเปิดประตูข้างอยู่ คนร้ายก็พยายามดึงตัวตนขึ้นแต่ตนสะบัด ประกอบกับเครื่องช็อตไฟฟ้าถ่านอ่อน ตนจึงมีแรงฮึดอีกครั้งหนึ่งสะบัดตัวหลุดมาด้านท้ายรถ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงได้ปล่อยตนทิ้งแล้ววิ่งไปขึ้นรถด้านหน้าคู่กับคนขับ แล้วขับหลบหนีไป จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาดู ตนจึงโทรศัพท์หาเพื่อนชายและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อนเดินทางไปรพ.เพื่อรักษาตัวก่อนเข้าแจ้งความ




นางสาว.หญิง (นามสมมุติ) พนักงานสาวบริษัทเอกชน ผู้เสียหายอีกคนเล่าว่า ก่อนเกิดเหตขับรถยนต์เข้าไปในซอย ม.บ้านศาลายาวิลล่า บริเวณหน้าร้านสลัมบาเร่ ขณะนั้นฝนกำลังตก ตนลงจากรถและกางร่มเดินไปซื้อของและเดินกลับมาที่รถ และขณะที่เปิดรถและเข้าไปนั่งในรถ ได้มีคนร้ายเป็นชายสวมใส่เสื้อแจ๊กเก็ตเข้ามากระชากประตูรถพร้อมทั้งกระชากตัว ตนลงจากรถ แต่ตนพยายามเอาร่มตีแต่สู้แรงคนร้ายไม่ไหว คนร้ายก็พยายามกระชากตนออกมานอกรถ จนร่มหลุดมือ ก่อนที่ตนจะสะบัดตัวหลุดจากคนร้ายและวิ่งเข้ามานั่งในรถแล้วปิดประตูล็อค สักครู่ก็มีชายหนุ่มอายุประมาณ 20 กว่าปีขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ฟรีดสีขาว เข้ามาจอด ด้านหลังและมีชายวัยรุ่นเดินเข้ามาเคาะกระจกทำทีแสดงความห่วงใย ตนจึงเปิดกระจกและให้หยิบร่มให้ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นและบอกว่าจะพาไปแจ้งความ แต่ตนก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ ชายคนดังกล่าวจึงเดินกลับไปที่รถ ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้ง แต่ตนก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ แล้วชายคนดังกล่าวก็พยายามชี้ให้ตนไปแจ้งความข้างหน้า ก่อนเดินกลับไปที่รถและขับออกไป หลังจากกลับบ้าน ตนก็ได้โพสต์เรื่องการโดนทำร้ายลงในเฟซบุ๊ก และพบว่าเพื่อนก็ได้โพสต์เรื่องของน้อง นศ.สาวลูกครึ่ง ลงในเฟสเช่นกันและก็ถูกคนร้ายทำพฤติกรรมคล้ายกัน อีกทั้งรถยนต์คันที่ก่อเหตุก็เป็นรถยนต์ฟรีด สีขาวเหมือนกัน จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน จึงได้ติดต่อไปยังน้องเอ  และชวนกันมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ




หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ ผกก.สภ.พุทธมณฑล   มอบให้  พ.ต.ท.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ รองผกก.ป. สภ.พุทธมณฑล จัดทีมออกติดตามคนร้าย โดย ทีมของ พ.ต.ท.ธงชัยสำรวจกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี จนพบว่ามีกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดเหตุและรูปร่างลักษณะคนร้าย ตลอดจนลักษณะการก่อเหตุและรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ประกอบกับการให้ปากคำของผู้เสียหายที่สามารถจำรูปร่างลักษณะของคนร้ายและทะเบียนรถบางตัวที่ก่อเหตุได้ จึงได้ทำการตรวจหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว จนรู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายวรชิต หรือแชมป์ จึงติดต่อให้เข้าพบตำรวจเพื่อให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ




จากการเข้าพบตำรวจ นายวรชิต หรือแชมป์รับว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดบริเวณที่เกิดเหตุจริง และเข้าไปสอบถามผู้เสียหายแสดงความห่วงใยหลังจากถูกคนร้ายเข้ามาทำร้ายร่างกายจริง พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายน.ศ.สาวแต่อย่างใด แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ที่ตำรวจได้มา ทำให้รู้ว่าคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ดู นายวรชิต หรือแชมป์ถึงกับหน้าถอดสี ก่อนจะยอมรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งชื่อแจ๊ค อายุประมาณ 17 ปี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง บ้านอยู่แถวพระราม 8 โดย ร่วมกันก่อเหตุ โดยแต่ละครั้งที่ก่อเหตุจะทำการโทรศัพท์ติดต่อกันและนัดให้ออกมาเจอที่โค้งก่อนขึ้นพระราม 8 โดยตนจะขับรถไปรับ




หลังได้ตัวและคำรับสารภาพ  ผกก.สภ.พุทธมณฑล จึงได้นายวรชิต หรือแชมป์ ติดต่อไปยังนายแจ๊ค บอกว่าให้มาพบที่เดิมก่อนจะให้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำตัวไปรอยังจุดนัดพบและรวบตัวได้ จากนั้นได้รายงานให้ พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้เดินทางมา ร่วมสอบปากคำ สภ.พุทธมณฑล พร้อมทำการสอบปากคำนายแจ๊ค หนุ่มวัย 17 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุใช้ที่ช๊อตไฟฟ้าทำร้ายร่างกายสาวลูกครึ่ง และสาวพนักงานบริษัท ต่อเนื่องในวันเดียวกัน ก่อนจะนำตัวไปชี้ทำแผนประกอบคำสารภาพ โดยมีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมสอบ โดยแจ้งข้อกล่าวหา นายวรชิต หรือแชมป์  และ นายแจ๊ค ฐานความผิด “ร่วมกันพยายามชิงทรัพย์โดใช้อาวุธ ร่วมกันฉุดหญิง ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว”




พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวว่า จากการสอบสวนนายแจ๊ค ทราบว่า เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง โดยให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยมีนายวรชิต หรือแชมป์ เป็นผู้ชักชวนว่าจ้างให้มาร่วมลงมือ โดยบอกว่าเป็นการทวงหนี้ ที่เหยื่อสาวกู้ยืมไปแล้วยังไม่ใช้คืน โดยให้ค่าจ้างวันละ 2,000 บาท ซึ่งคิดว่าเป็นการทำงานได้เงินมาง่าย ๆ และเป็นการช่วยครอบครัวไปในตัว จึงรับงาน ก่อนก่อเหตุนายวรชิต ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์ก่อนจะไปรับและชี้เป้าให้ว่าเหยื่อเป็นคนไหน จากนั้นให้ลงมือโดยใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกันขณะลงมือ และนายวรชิตจะเป็นคนกำกับทุกอย่างไม่ว่าจะลงมืออย่างไร และหลบหนีช่วงไหนเมื่องานไม่สำเร็จ ซึ่งสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้โดยจำนนด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพการก่อเหตุได้ทั้งหมด
ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวต่ออีกว่า และจากการตรวจค้นภายในบ้านของนายวรชิต หรือ แชมป์  เจ้าหน้าที่พบของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นจำนวนมากประกอบด้วยวิทยุสื่อสาร จำนวน 2 ตัว  อาวุธปืนสั้นปลอม 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก กุญแจมือ 1 อัน  สเปรย์พริกไทย  แม๊กกาซีน 1 อัน  เครื่องกระสุนปืน 6 นัด  หนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปืน ขนาด . 357 และภาพเหยื่อสาวอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป และเชื่อว่า คนร้ายแก๊งนี้น่าจะเคยลงมือก่อเหตุกับเหยื่อสาวรายอื่นอีกและอาจอับอายไม่กล้าแจ้งความ จึงอยากวอนว่า ขอให้ผู้ที่ถูกคนร้ายแก๊งนี้ก่อเหตุให้เข้าแจ้งความเพื่อเป็นผู้เสียหาย อย่ากลัว ตำรวจจะให้ความคุ้มครอง
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01USXlORFExTmc9PQ==&subcatid=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่