ท้าวความถึงวันก่อนๆ ติดตามได้ที่

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร อิสตันบูล-คัปปาโดเกีย-อิสตันบูล ตอน 1  
http://ppantip.com/topic/30494431

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร ตอน 2 Canakkale-Bergama-Izmir ถ้าฟ้าจะใสขนาดนี้ก็เอาซี้
http://ppantip.com/topic/30496885

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร ตอน 3 Pamukkale - Konya ฝนจ๋า ตกลงมาทำไม
http://ppantip.com/topic/30504217

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร ตอน 4 Konya-Cappadocia
http://ppantip.com/topic/30504507

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร ตอน 5 ตลุยเมืองมนุษย์ถ้ำ Cappadocia
http://ppantip.com/topic/30508361/comment10

ขับรถเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป เส้นทาง 3000 กิโลเมตร ตอน 6 Salut Istanbul
http://ppantip.com/topic/30602231

ตั้งแต่นี้จะจัดรวดเดียวอิสตันบูล 2  วันเลยนะคะ

วันนี้เป็นวันเที่ยวเต็มวันวันแรกของเรา แต่กลับมีฝน และอากาศหนาวลงกว่าเดิม ปวดใจมาก แพลนแรกของเราไม่เลวร้ายนัก เพราะเราจะไปเข้าวังโดลบามาเช่ ที่ตกหล่นไปเมื่อวาน

เราแก้ปัญหาเรื่องตั๋วแบบเฉพาะหน้าด้วยการซื้อตั๋วรถไฟจากโรงแรม ซึ่งทั่วไปราคา 12 ลีร่า แต่ที่โรงแรมขาย 20 ลีร่า ..เราซื้อเฉพาะบัตร 1 ใบ แล้วนำมาเติมเงินที่หน้าสถานี ใช้วิธีบัตร 1 ใบ ต่อ 6 คน แตะบัตรทีละครั้ง

นั่งรถไฟ ต่อด้วยเดินเท้าพุ่งไปไม่รอช้า พุ่งเข้าไปที่วังโดลบามาเช่ที่พลาดไปเมื่อวาน..แม้จะเจ็บปวดที่ค่าเข้าราคาตั้ง 40 ลีร่าต่อคน  (รวมการเข้าฮาเร็มด้วย)

มาถึงแล้ว นี่แค่ประตู


อากาศขมุกขมัว แต่มีดอกไม้ให้ดูตลอด


วังโดลบามาเช่ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นวังใหม่ของชาวเติร์ก  มีห้องต่างๆมากมาย ซึ่งมีทั้งความใหญ่โต แกะสลัก วาดลวดลายวิจิตรมาก จนแอบคิดว่า เจ๋งกว่าของเมืองยุโรปหลายๆที่ด้วยซ้ำ




การเข้าไปเที่ยววังโดลบามาเช่ หลังจากต่อคิวซื้อบัตรแล้ว จะต้องมีการตรวจตราเหมือนขึ้นเครื่องบิน ผ่านสแกนเนอร์ คนที่มีขาตั้งกล้องจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไป จะมีห้องสำหรับฝากของไว้ พอเข้าไปถึง จะต้องมาต่อคิวเข้าไปชม คิวมีสองคิวคือคิวต่างชาติกับคิวตุรกี เข้าไปแล้วจะมีไกด์อธิบายด้านในให้รู้ว่าห้องแต่ละห้องเป็นอย่างไร ที่นี่ ห้ามถ่ายภาพนะคะ

อัน นี้ไปหาประวัติมาแปะเพื่อให้รู้จักประวัติไปด้วยค่ะ เขาบอกว่า พระราชวังโดลมาบาห์เช สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจิต ในปี ค.ศ. 1843 - 1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน เป็นพระราชวังสุดหรูหราอลังการ สะท้อนถึงความคลั่งไคล้ยุโรปของสุลต่านอับดุลเมจิต เพราะที่ปากทางเข้าที่มีหอนาฬิกาสไตล์บารอก ประตูพระราชวังชั้นนอกขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรงดงาม มีแชนเดอเลียคริสตัลแบบส่วยเฟ่อ ใหญ่เฟ่อ อยู่นับชิ้นไม่ถ้วน

การสร้างพระราชวังโดลมาบาห์เชเสร็จสิ้นเมื่อปี ค.ศ. 1856
สิ้นเปลืองทองไปหลายตัน เป็นผลให้จักรวรรดิต้องล้มละลาย และหลังสร้างเสร็จไม่นาน องค์สุลต่านอับดุลเมจีดก็สิ้นพระชนม์
ที่นี่เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.30-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์และพฤหัสบดี
ใคร มาที่นี่แล้วนึกออกว่าวังไหนในโลกที่จะสวยและเว่อร์อลังการกว่าวังนี้ ช่วยบอกหน่อยค่ะ ในชีวิตที่ไปเที่ยววังมา ดิฉันว่าที่นี่แหละที่เจ๋งสุด ความใหญ่เว่อร์ของวังนี้ เจ๋งทั้งความใหญ่ และความเว่อร์  เห็นแล้วนึกถึงเงิน และทองคำที่นำมาใช้ที่นี่คงเท่าภูเขา แอบลุ้นกันว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวแรงๆในตุรกี วังนี้จะรับน้ำหนักได้ไหม เพราะแชนเดอเลียมีขนาดใหญ่มาก อันที่ใหญ่ทีสุดหนัก 5 ตันแน่ะ  ถ้าพังไปเสียดายแย่

ต่อ จากวังหลวง เราแวะมาต่อคิวเข้าวังสนม หรือที่เขาเรียกว่า ฮาเร็ม ในนี้จริงๆเหมือนโรงแรมผู้หญิงล่ะค่ะ ซอยห้องเป็นล็อกๆๆๆๆ  ฮาเร็มสำผู้หญิงอยู่อาศัย ไม่เพียงแค่นางสนมของสุลต่าน แต่รวมถึงผู้หญิงทุกคนที่ทำงานในวัง ซึ่งมีประมาณ 300 ห้อง ห้องเล็กห้องใหญ่ ซึ่งคุณไกด์เล่าว่า ห้องพักนางหนมทั้งหลายอาจจะไม่แกรนด์เท่ากับวังหลวง แต่ว่าก็มีความละเอียดสวยงามอยู่หลายส่วน ไกด์บอกว่า ถ้ารัฐไม่ล้มละลายไปซะก่อน ที่ฮาเร็มนี้ตรงห้องพระมารดาจะเป็นทองคำทั้งหมด ดูๆไป ประวัติการสร้างก็คล้ายๆ วังแวร์ซาย กับทัชมาฮาล คือสร้างวังจนหมดตัว รัฐล่มจมเป็นแถบๆ





จบจากทัวร์วังแบบอเมซิ่งแล้ว เราพุ่งไปต่อที่สุลต่านอาเหม็ด ย่านสนามหลวงของเรา เพื่อกินข้าวเที่ยงก่อนจะไปฮาเกีย โซเฟียกันต่อ